หน้าแรก > Castle of Black Iron
Chapter 338: ข่าวเกี่ยวกับแพนโดร่า

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

Chapter 338: ข่าวเกี่ยวกับแพนโดร่า

“ หลังจากที่ออกจากจินหยุนแล้ว เราได้ไปที่เมืองสตาร์วิว  การค้าขายทาสที่นั่นรุ่งเรืองมาก หลังจากที่ซื้อทาสมา  โดยเฉพาะทาสผู้หญิง คนรวยบางคนก็จะมีความต้องการพิเศษอย่างพวก อยากได้สถานะแปลกๆจากทาสสาวๆ สถานทูตของเราน่ะทำความต้องการแบบนั้นไม่ได้ เงินที่ได้จากพวกเขาทำให้เราอยู่ได้แค่ไม่กี่วัน ! “ - ฟิลิป ถอนหายใจออกมาแสดงถึงความต้องการที่ไม่สิ้นสุดในช่วงนั้น

“ สถานะแปลกๆ ? สถานะแบบไหนที่พวกเขาให้กับทาส ?” - จางเทีย ถามออกมาด้วยความสงสัยย

“ ตราบใดที่พวกเขามีเงิน  พวกเขาสามารถให้ทาสสาวๆเป็นพลเมืองของอาณาจักรเราได้ พวกเขาสามารถซื้อตำแหน่งตระกูลจักรพรรดิให้กับทาส ตำแหน่งนี้ไม่ได้มีค่าอะไรแต่มันก็ยังส่งผลถึงด้านอื่นๆด้วย ! “ - ฟิลิป ตอบกลับ – “ในบรรดาตำแหน่งพวกนั้น ตำแหน่งที่นิยมที่สุดคือตำแหน่งเทพธิดาของโรงเรียนโชคชะตาซึ่งราชาก่อตั้งขึ้นมาเอง ! “

‘ เหี้ย ! ‘ จางเทีย เข้าใจขึ้นมาทันที สำหรับพวกผู้ชาย แน่นอนว่าพวกเขาจะซื้อทาสสวยๆมาเอา สำหรับบางพวกการเอากับทาสสวยๆน่ะรู้สึกแตกต่างไปเมื่อเอากับทาสสวยๆที่มีฐานะทางสังคม พวกเขาอยากรับประสบการณ์ที่ต่างจากเดิม

“ พวกเจ้าหาเงินจากเรื่องแบบนี้งั้นเหรอ ? “

“นั่นแหละ นี่เป็นวิธีเดียวที่เราทำเงินได้  เราจะขายอะไรได้อีกนอกจากสถานะพลเมืองกับตำแหน่งทางการ ?  หลังจากที่ขายตำแหน่งเลขาการต่างประเทศแล้ว  ราชาของเรายังขายตำแหน่งตัวแทนอาณาจักรไปด้วย ! “  - นิโคไร ขมวดคิ้ว – “ ข้าใช้เงิน 100,000 ทองเพื่อซื้อตำแหน่งนี้มาที่ซึ่งมีงานแค่เป็นทูตให้อาณาจักรในประเทศอื่นๆเพื่อเผยแพร่ทฤษฎีเกี่ยวกับแสงสว่างและความรัก ใครก็ตามก็เป็นพลเมืองของเราก็ได้ตราบใดที่หัวใจมีแสงสว่างและความรัก ! “

จางเทีย อึ้งจนหมดคำพูด มีอาณาเขตแบบนี้อยู่ในโลกที่ซึ่งผูกมัดตัวเองกับทฤษฎี, คุณค่ารึมาตรฐานอยู่ อย่างเช่นยิวส์ที่ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีไหนหมู่คนจีนว่าเป็นนักธุรกิจที่เก่ง มีคำพูดของคนยิวส์บอกไว้ว่า ‘ ถ้าใครเลิกบูชาไอดอลของตังเองได้นั้นก็คือคนยิวส์ ‘  มีอีกตัวอย่างอย่างพุทธศาสนาซึ่งเป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของโลกก่อนเกิดภัยพิบัติ พระพุทธเจ้าได้ประกาศความเชื่อสี่อย่างออกมา

จางเทีย เรียนรู้ข้อมูลพวกนี้จากวิชาประวัติศาสตร์ตอนอยู่ที่วังมังกรลับ พวกนี้คือตัวอย่างในด้านของคุณค่า และมาตรฐานก่อนเกิดภัยพิบัติแต่ จางเทีย ไม่คิดว่าในโลกวุ่นวายแบบตอนนี้จะยังมีคนต้องการรวมคนด้วยคำพูดอย่างแสงสว่างและความรักอยู่ด้วย

ราชาที่สร้างประเทศแปลกๆด้วยความคิดแปลกๆ

นี่คือสิ่งที่ จางเทีย รู้สึกในตอนนี้

“ ถ้าเจ้าสามารถไปอยู่ที่เมืองสตาร์วิวได้ ทำไมเจ้าต้องมีสภาพแบบนี้ได้ ? “

“ ในตอนที่ราชารู้ว่าสถานทูตได้ช่วยให้ทาสได้สถานะพลเมืองและตำแหน่งต่างๆเพื่อให้พอใจกับความต้องการที่แปลกประหลาดของกลุ่มอื่น  เขาก็ได้ส่งคำสั่งห้ามให้สถานทูตให้สถานะกับทาสอีก  ราชาบอกว่าทาสไม่ควรมีอยู่ในประเทศที่เต็มไปด้วยแสงสว่างและความรัก ! “ - นิโคไร อธิบายออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหล – “ พระเจ้าแต่ข้าเพิ่งได้เงินที่ลงทุนไปกลับคืนมาแค่ครึ่งเดียวเอง ! “

จางเทีย ถอนหายใจออกมา  ไฮเกอร์ที่เจ็ด นี่หลงกับนิยายตัวเองจริงๆ  แต่  จางเทีย ไม่คิดจะหาข้อมูลอะไรเกี่ยวกับราชาคนนี้อีก

“ ข้าจะเข้าอาณาจักรเจ้า ข้าต้องใช้เอกสารได้บ้าง ? เร็วเข้า !  “

ในตอนที่พวกนั้นได้ยินคำพูดของ จางเทีย   นิโคไร และ ฟิลิป ก็ได้มองหน้ากันแล้วรีบไปทำงานทันที

“ ฟิลิป เรียก เพียสเตอร์  มา ให้เขาเตรียมถ่ายรูปให้เขาได้กับเก็บรายนิ้วมือ เพราะเขาไม่ได้มีเวลามาก ข้าจะเตรียมเอกสารยืนยันให้เอง  ! “

“ ได้ครับท่านทูต ! “ - ฟิลิป รีบวิ่งออกไปจากห้องและตะโกนออกมาดังๆ  - “ เพียสเตอร์ ไอ้ขี้เกียจ ลุกขึ้นมาไปเตรียมเครื่องได้แล้ว เรามีแขก ! “

...

จางเทีย คิดว่าเอกสารยืนยันมันจะยุ่งยากแต่เขาไม่คิดว่ามันจะง่ายเหมือนเป็นเรื่องตลกแบบนี้

นิโคไร ได้เอาหนังสือออกมาจากโต๊ะแล้วบอกให้ จางเทีย วางมือลงไป หลังจากนั้น นิโคไร ก็ถามออกมาด้วยท่าทีเคร่งขรึม – “ เจ้าเชื่อในแสงสว่างและความรักจากใจรึเปล่า ?”

ด้วยการที่ได้ยินมาแล้ว จางเทีย เลยตอบกลับ – “ ใช่ ข้าเชื่อ ! “- จากนั้นการยืนยันก็เสร็จสิ้น  จางเทีย อึ้งกับเรื่องนี้จริงๆ

หลังจากนั้น จางเทีย ก็ไปถ่ายรูปและปั๊มลายนิ้วมือเอาไว้  เพียสเตอร์ นั้นเป็นเลขาทูตแต่งานของเขาไม่ต่างจากคนงานเลย

จากนั้น จางเทีย ได้เขียนชื่อของเขาลงไป เฟยหยู

หลังจากที่รับเงิน 12 ทองมาจาก จางเทีย  นิโคไร ก็ได้บอกว่าต้องใช้เวลาแค่ 10 นาทีเพื่อทำบัตร

ระหว่างช่วงนี้ ฟิลิป ได้เอาเมนูบริการมาให้ จางเทีย ดูพร้อมกับ นิโคไร แล้วได้เริ่มอธิบายถึงบริการต่างๆที่สถานทูตจะให้ได้

ตอนนั้น  เฟยหยู  เป็นแค่ประชาชนธรรมดาแต่ตราบใดที่ จางเทีย อยากได้สิทธิเจ้าหน้าที่ เขาก็จะได้มันทันที แม้ว่า จางเทีย อยากเป็นเจ้าหน้าที่กองทัพ  เขาก็เลือกมันได้ตามความต้องการ

ฐานะที่ถูกที่สุดใช้เงินแค่ 10 ทอง ตราบใดที่ จางเทีย จ่ายเงิน 10 ทอง เขาก็จะได้รับบัตรยืนยันว่าเป็นเจ้าหน้าที่กองทัพได้แต่นั่นต้องใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์

“ ราคาจอมพลกองทัพเรืออยู่ที่ 300,000 ทอง ด้วยตำแหน่งนี้นอกจากบัตรยืนยันและที่พักแล้ว เจ้าจะยังได้เงินและยังมีโอกาสที่จะได้ไปทานข้าวเที่ยงกับ ไฮเกอร์ที่เจ็ด  ในอาณาจักรเรา  แล้วด้วยฐานะนี้เจ้าสามารถเข้าไปได้หลายที่ซึ่งจำกัดแต่พวกชนชั้นสูง  อีกอย่างแล้วหน่วยกองทัพของอาณาจักรและถือว่าเจ้าได้อยู่ตำแหน่งนี้ไปตลอดชีวิต...เอาสั้นๆเจ้าจะได้ผลประโยชน์มากมายจากตำแหน่งนี้ ! “

ฟิลิป ยังคงพูดถึงผลดีของตำแหน่งเจ้าหน้าที่  ส่วน  จางเทีย ก็เริ่มสับสนขึ้นมา – “ ไม่ใช่ว่าเป็นประเทศไม่มีแม่น้ำล้อมรอบรึไง ? ทำไมต้องมีหน่วยกองเรือด้วย ? “

“ มันไม่ได้มีกฎหวงห้ามอะไร ไม่ว่ายังไงหน่วยกองทัพเรือก็เป็นหน่วยย่อยของกองทัพ  ยกเว้นเงินเดือน,ลูกเรือและกองเรือรบแล้ว พวกเขาจะได้รับการดูแลแบบเจ้าหน้าที่จริงๆ !  “- ฟิลิป อธิบายด้วยท่าทีที่ฉลาด

จางเทีย เข้าใจขึ้นมาทันที เพราะไม่มีกองทัพเรือในอาณาจักรนี้ พวกเขาเลยตั้งมันขึ้นมาเพื่อขายตำแหน่ง  ด้วยวิธีนี้แล้วพวกที่ซื้อตำแหน่งก็ไม่ต้องมารับผิดชอบอะไร บางทีอาจมีพวกรวยที่อยากเป็นเจ้าหน้าที่และคนใหญ่โตบ้างก็ได้

หลังจากนั้น ฟิลป ได้อธิบายฉายาจำนวนมากให้ จางเทีย ฟัง เมื่อเห็นว่า จางเทีย ไม่สนใจกับฐานะปลอมๆนี้   ฟิลิป ก็รีบเปิดไปหน้าสองทันที

“ อันนี้เป็นไง ? ใช้แค่ 600 ทองต่อปีเพื่อให้มีสิทธิได้เข็มกลัดของตระกูลจักรพรรดิและดื่มด่ำกับชื่อเสียงและสิทธิต่างๆ มีแบบที่ได้ผลดีด้วย เอานี่เป็นตัวอย่าง หลังจากที่ได้รับมันแล้ว กลุ่มธุรกิจนี้หลีกเลี่ยงการปล้นไปได้เยอะเลย... “

“ อีกอย่างหลังจากที่ซื้อตำแหน่งนี้มา กลุ่มการค้านี้เพิ่มยอดขายได้เป็นเท่าตัว... “
จางเทีย ส่ายหน้า เขาคิดว่าการใช้ฐานะพวกนี้มีประโยชน์แค่นิดหน่อยแต่เขายังไม่ต้องการมันในตอนนี้ ถ้าในเมืองแบล็คฮ็อต พวกนคนรวยโง่ๆในเมืองแน่นอนว่าต้องคลั่งกับมัน

หลังจากนั้น ฟิลิป ก็ได้แนะนำของบางอย่างที่ราคาแค่ 1 ทองซึ่งเป็นที่ดินในที่ห่างไกลซึ่งครอบคลุมกว่าหลายตารางเมตร, สิทธิในการสำรวจและยึดมันแต่ จางเทีย ก็ยังคงส่ายหน้า

“ โทษทีนะ ถ้าเจ้าทำบัตรข้าเสร็จก็เอามาให้ข้า ข้าไม่สนของอย่างอื่น  ไม่ต้องขายอะไรแล้ว ! “ - จางเทีย พูดออกมาอย่างใจเย็น

“ อีกอัน อีกอัน ข้าว่าเจ้าต้องสนใจแน่ ! “ – ดูเหมือนว่าจะไม่รู้สึกว่า จางเทีย จะออกจากที่นี่ได้ด้วยเงินแค่ 10 ทอง  ฟิลิป ได้พูดขึ้นมา -  “ ตราบใดที่เจ้าเป็นผู้ชาย เจ้าต้องสนใจนี่  ถ้าเจ้าจ่ายเงิน 200 ทอง เจ้าจะมีสิทธิที่จะเข้าร่วมงานเลี้ยงในออลิสในปีหน้าได้  เจ้าอาจมีโอกาสที่เจ้าหญิงแพนโดร่าจะชอบและเป็นสามีของเธอได้ ! “

“ อะไรนะ ? เจ้าหญิงชื่ออะไร ? “-   จางเทีย อึ้งเพราะชื่อ แพนโดร่า นี้ทำให้เขาคิดถึงความทรงจำที่แสนอบอุ่น   จางเทีย คิดว่าคงเป็นคนละคนที่มีชื่อเดียวกัน

“ เจ้าหญิงชื่อ แพนโดร่า เธออายุแค่ 16 ปีในปีนี้  ว่ากันว่าเธอไปเรียนด้านนอกตั้งแต่ยังเด็ก  เธอกลับมาที่ออลิสปีที่แล้ว  เจ้าหญิงน่ะเป็นลูกสาวคนเดียวของ ไฮเกอร์ที่เจ็ด และยังเป็นคนแรกที่จะได้สืบทอดบัลลังก์  ในตอนที่เธอเป็นราชินี มันจะมีเจ้าชายต้องมาสืบต่อ “

16 ปี เรียนรู้อยู่ด้านนอกตอนยังเด็ก กลับมาที่ออลิสปีที่แล้ว  ข้อความพวกนี้ทำให้ จางเทีย ใจเต้นรั้ว

“ เจ้ามีรูปเจ้าหญิงมั้ย ?”

นิโคไร เปิดสมุดภาพและได้เอารูปออกมาให้กับ จางเทีย  - “ ตามคำสั่งของหน่วยต่างประเทศของอาณาจักร  1 เดือนหลังจากนี้ตอนเจ้าหญิงอายุ 17 ปี เราจะลงโฆษณาในจินหยุนเพื่อหาสามีให้กับเธอในงานเลี้ยง ! “

ในรูปนั้น ผมและนัยน์ตาของเธอนิ่ง มันแตกต่างจากแต่ก่อน เธอสวมชุดสวยงามและมีมงกุฎ  มือของเธอไขว้กันตรงหน้าท้อง นอกจากนี้เธอยังมีไม้เท้าสีทองสวยสง่าอีกด้วย

เทียบกับลักษณะกับตอนที่อยู่เมืองแบล็คฮ็อตแล้ว แพนโดร่า ในรูปนั้นดูสวย,สง่ากว่าเดิมอีกเยอะ

เมื่อเห็นรูปนั้น ทุกคนต่างก็คิดว่าเธอเป็นเจ้าหญิง

จางเทีย จ้องไปที่นิ้วนางที่มือขวาของเธอซึ่งถือไม้เท้าและเห็นแหวนสีดำที่ใส่ไว้อยู่

เมื่อคิดถึงตอนที่เขาใส่แหวนให้กับเธอที่สถานีตอนเขาออกจากแบล็คฮ็อตมา  จางเทีย ก็เริ่มน้ำตาไหลทันที...

เมื่อเห็น จางเทีย น้ำตาไหลออกมาตอนที่ดูรูป  นิโคไร และ ฟิลิป ก็อึ้ง

“ ขอโทษนะ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเห็นเจ้าหญิงที่สวยแบบนี้ ! “ - จางเทีย คืนรูปให้กับ นิโคไร – “ เจ้าบอกว่า แพนโดร่า จะเลือกสามีในปีหน้าเหรอ ?”

“ ใช่ ตอนเธออายุ 18 ! ชายคนไหนที่สามารถจ่ายเงิน 200 ทองก็จะไปลองได้ ! “

“ นับข้าเข้าไปด้วยเลย ! “ - จางเทีย ล้วงเข้าไปในเสือและหยิบถุงเงินโยนไปที่โต๊ะของ นิโคไร

...

กว่าสิบนาทีต่อมาบัตรที่ชื่อ เฟยหยู ก็เสร็จ  จางเทีย ได้ออกจากที่นั่น ด้านนอกประตูเขาได้เรียกแท็กซี่และไม่นานก็หายไปจากถนนนั้น

ทุก 3 เดือนสถานทูตจะต้องได้รูป, ชื่อและรายนิ้วมือของคนที่เพิ่งเข้าร่วมอาณาจักรในเขตนี้แต่ จางเทีย ไม่ได้กลัวเรื่องนั้นเพราะเขาใส่หน้ากาก ไม่มีใครที่รู้หน้าที่แท้จริงของเขาได้ยกเว้นแค่ ดอนเดอร์

ครึ่งชั่วโมงต่อมา จางเทีย ก็ได้ไปที่โรงแรมระดับกลางแห่งหนึ่งที่ทางแยกของเขตชุมชนในเมืองจินไห่

ค่าเช่าที่นี่อยู่ที่ 6 เงินต่อวัน มีคลับด้านล่าง ส่วนด้านบนโรงแรมเป็นบ่อนซึ่งมีคนเต็มอยู่ตลอด

20 นาทีหลังจากที่เข้ามาในโรงแรม  จางเทีย ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าและได้ถอดหน้ากากก่อนจะออกจากโรงแรมไป

ไม่มีใคสนว่า จางเทีย เข้ามายังไง ตอนเขาออกก็เช่นกัน

หลังจากที่ออกจากโรงแรมแล้ว จางเทีย ได้วนรอบๆสองรอบ จากนั้นเขาก็ได้เดินเข้าไปในเขตธุรกิจแล้วเรียกแท็กซี่ก่อนจะขับออกไปยังหมู่บ้านคนรวยของเมือง

ที่นั่นคือที่ที่ครอบครัวของเขาอยู่

จางเทีย กดกระดิ่งที่บ้านเลขที่ 76 ของลองแมนอเวนิว  หลังจากนั้นสักพักก็มีเงาของชายวัย 40 ปีโผล่มาที่หน้าต่าง เมื่อเห็น จางเทีย ชายคนนั้นก็คิ้วขมวดเล็กน้อย

“ เจ้ามาหาใคร ? “

จางเทีย ไม่รู้จักเขา  แต่เขาเดาได้ถึงฐานะของชายคนนี้ได้จากการที่พี่ชายเขาโดนโจมตี

“ ข้า จางเทีย  ข้าอยู่ที่นี่   จางหยาง เป็นพี่ชายข้า ! “ - จางเทีย ตอบอย่างใจเย็น

เมื่อได้ยินแบบนั้น ชายคนนั้นช็อกไปเลย เขามองมาที่ จางเทีย และพูดด้วยท่าทีสุภาพ – “ โปรดรอสักครู่....”

ไม่ถึง 30 วินาทีก็ได้มีเสียงเท้าอันเร่งรีบเดินมาที่ประตูก่อนจะเปิดออก ตอนนั้นเองใบหน้าของแม่ก็ปรากฏออกมา

“ แม่ ! “

“ กูกู นั่นลูกเหรอ ? “ – แม่ตื่นเต้นซะจนรีบไปกอด จางเทีย ทันที – “ ไม่ใช่ว่าลูกควรจะอยู่ที่เกาะเหรอ  ?  ลูกกลับมาได้ยังไง ? ลุงน่ะกังวลเรื่องลูกมากเลย พี่ชายลูก... “ – เมื่อพูดถึงพี่ชาย ตาของแม่ก็เริ่มมีน้ำตาไหลออกมา

“ แม่ ไม่เป็นไร ข้าปลอดภัย ข้ารู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่ ค่อยคุยเรื่องนี้ทีหลัง  !” - จางเทีย ปลอบแม่ก่อนจะพาเธอไปที่สวน

ที่นั่นมีบ้านไม้และของเล่นที่สนามหญ้า เมื่อเห็นมัน จางเทีย ได้สูดลมหายใจเช้าลึกๆ

แม้ว่าจะดูใจเย็นแต่ในใจนั้นกลับมีรังสีอาฆาตและหงุดหงิดที่เพิ่มพูนขึ้นมา

ในวันเดียวกับที่ จางเทีย โดนโจมตี  จางหยาง ก็โดนโจมตีด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องฉุกเฉินที่ทำให้พวกนั้นยกเลิกแผน  จางหยาง อาจตายไปแล้วแต่ถึงอย่างนั้น จางหยาง ก็ยังได้รับบาดเจ็บอยู่

พวกคนที่โจมตี จางหยาง นั้นเป็นคนกลุ่มเดียวกันที่ต้องการฆ่า จางเทีย  ในตอนที่แผนพวกมันล้มเหลว  จางเทีย ก็ได้ยินมาว่าพวกมันฆ่าตัวตายโดยยาพิษที่อยู่ฟันก่อนจะละลายหายไป

ไม่ว่าภูมิหลังของตระกูลเฉินจะยิ่งใหญ่แค่ไหนและลูกเล่นที่มีจะเป็นแบบไหนแต่ จางเทีย คิดที่จะกวาดล้างพวกมันให้หมด

จางเทีย ตระหนักได้ถึงข้อได้เปรียบที่ดีที่สุดจากตระกูลเฉินเพราะพวกนั้นไม่รู้ว่าเขารู้ความลับของพวกนั้นแล้ว

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.