spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 332: ของขวัญจากอาจารย์
แน่นอนว่ามันมีหลายอย่างมากมายที่เกินกว่าที่ จางเทีย คาดเอาไว้ อย่างพวก Castle of Black Iron, ชายป่าไผ่และชายชราคนนี้ที่เดินบนลาวาร้อน 500-600 องศาเซลเซียสได้...
จางเทีย มักจะมีจิตใจที่เปิดกว้าง เพราะเขาไม่เข้าใจมัน เขาจึงหยุดคิดมันไปก่อน สิ่งที่เขาคาดหวังตอนนี้คือ จางเทีย ได้พบพันธมิตรที่แข็งแกร่งซึ่ง จางเทีย ฝันมาตลอด
“ อาจารย์ แม้ว่าเราจะรู้จักกันมานาน ข้ายังไม่รู้จักชื่อท่านเลย “ - ในตอนที่พวกเขาเดินผ่านถ้ำใต้ดินมา จางเทีย ก็ถามออกมาด้วยความสงสัย ตอนนี้เขาได้กลายเป็นลูกศิษย์ชายชราแล้ว มันคงไม่เหมาะที่ไม่รู้ชื่อจริงของอาจารย์
“ ครอบครัวข้ามีแซ่ว่าเซ่า ชื่อที่ข้าได้คือ หยวน ! “- ชายชราเดินพร้อมกับอธิบาย หลังจากที่บอก จางเทีย ไป เขาก็ได้ถอนหายใจออกมา – “ ข้าจำไม่ได้ว่ากี่ปีแล้วที่ข้าใช้ชื่อนั้นครั้งสุดท้าย เพราะพวกเขาเรียกข้าว่าลอร์ดแห่งนักเล่นแร่แปรธาตุ มีไม่กี่คนที่รู้จักชื่อของข้า ... “
เมื่อได้ยินแบบนั้น จางเทีย ก็สลดลงเล็กน้อย เมื่อดูไปที่ชื่อเสียงที่แย่ๆและผมยุ่งๆของอีกฝ่าย จางเทีย ก็จำได้ว่าชายชรามีความเป็นอยู่ยังไงตอนที่อยู่บนเกาะก่อนหน้านี้ เขาไม่รู้ว่าทำไมแต่เขารู้สึกสงสารชายชรา
แม้ว่าจะเดินอยู่ในความมืดและ จางเทีย ไม่ได้พูดอะไรแต่ เซ่าหยวน ดูเหมือนจะรู้ว่า จางเทีย คิดอะไร ดังนั้นเขาจึงหันกลับมามองที่ จางเทีย – “ อาจารย์คนนี้มักจะใช้ชีวิตแบบเท่ๆและง่ายๆ อำนาจและความรวยน่ะเป็นแค่เปลือกนอก คนอื่นอาจจะกลัวข้ารึล้อเลียนข้าแต่เจ้าเป็นคนแรกที่คิดว่าข้าน่าสงสาร ฮี่ฮี่... “
จางเทีย ยิ้มออกมาอย่างอายๆและจำบางอย่างได้ – “ อาจารย์ นี่ท่านมาจากแมนชั่นเซ่าของเมืองมังกรขาวจริงๆเหรอ ?”
เพราะ จางเทีย จำได้ว่าอาจารย์ของเขาโดนโยนออกมาที่ถนนโดยพวกพนักงานที่นั่น เขาเลยถามออกมาเพื่อยืนยัน ดูจากความสามารถและอำนาจของชายคนนี้แล้ว เขาไม่น่าจะโดนโยนออกมาได้ ดังนั้น จางเทีย จึงรู้สึกแปลกๆในเรื่องนี้
“ แม้ว่าครอบครัวของข้าจะแซ่เซ่าแต่ข้าไม่ได้มาจากแมนชั่นเซ่าของเมืองมังกรขาว... “ - ไหล่ของชายชราทรุดลงเล็กน้อย ตาดูหม่นลง – “ ข้าก็เพ้อไปบ้างและเอาบ้านคนอื่นมาเป็นของตัวเอง ก่อนหน้านี้บ้านข้าอยู่ที่ทวีปตะวันออกเองก็เรียกว่าแมนชั่นเซ่าแต่ตอนนี้ข้าไม่มีบ้านอีกแล้ว... “
จางเทีย เงียบ จากคำพูดของอีกฝ่าย เขารู้สึกได้ถึงความเศร้าหลายๆอย่าง แม้ว่า จางเทีย ต้องการถามแต่เมื่อเห็นรอยย่นบนหน้าชายชราในตอนที่พูดถึงแมนชั่นเซ่าและครอบครัว จางเทีย ก็กลืนน้ำลายลงไป
คำพูดของชายชราทำให้ จางเทีย คิดว่าชายชราไม่ได้ทำเพื่อทดสอบเขา ชายชราบ้าจริงๆตอนนั้น ด้วยวิธีนี้ จางเทีย ได้กลายมาเป็นลูกศิษย์ของชายชรา แม้ว่าชายชราจะเกือบเหมือนบ้าในตอนที่เพ้อแต่เมื่อได้สติ เขาดูเหมือนจะจำทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเขาได้ ชายชราได้แสดงอารมณ์ต่างๆมากมายอออกมา
“ อาจารย์ ทำไม..ทำไมท่านต้องรับข้าเป็นศิษย์ด้วย ?ไม่ใช่ว่าท่านได้คิดมาก่อนแล้วเหรอ ? “
“ ฮาฮา...ถ้าข้าอยากทำอะไร ข้าจะทำเลย ถ้าข้าอยากได้เจ้ามาเป็นศิษย์จริง ข้าคงไม่รอจนถึงตอนนี้หรอก ! มันจะไม่มีปัญหาด้วยซ้ำถ้าข้าจะทำลายเมืองรึประเทศ ! “ - ชายชรายิ้ม – “ ไอ้หนู ข้าเห็นว่าเจ้าฉลาดและใสซื่อและมีแววที่จะมีพรสวรรค์ อีกอย่างข้าเองก็ติดหนี้เจ้าสำหรับหลายวันที่ผ่านมา ดังนั้นข้าเลยอยากรับเจ้าเป็นศิษย์เพื่อเป็นค่าตอบแทน ..”
“ ท่านหมายถึง ท่านไม่ได้รอเพื่อมาช่วยข้าที่นี่ ? “ - จางเทีย ตาเบิกกว้าง
“ รอช่วยเจ้า ?”
“ ข้าคิดว่าท่านรู้ล่วงหน้า เหมือนกับคนที่อยู่บนทวีปตะวันออกและรู้ว่าศิษย์กำลังตกอยู่ในปัญหา ดังนั้นท่านเลยมาที่นี่เพื่อช่วยข้า ! “ - จางเทีย แสยะยิ้ม
“ ถ้าข้ารู้ล่วงหน้าได้และอยากจะช่วยเจ้า ข้าคงไปหาคนที่ต้องการจะทำร้ายเจ้าแล้วฆ่าพวกนั้นกับกำจัดองค์กรพวกนั้นทิ้งแล้ว ทำไมข้าต้องรอมาที่นี่เพื่อให้พวกนั้นฆ่าเจ้าด้วย ! “ - ชายชรา มองอย่างดูถูกมาที่ จางเทีย – “ ตอนเจ้ามาถึงระดับข้าเมื่อไหร่ สักวันเจ้าจะรู้ว่าวิธีที่ตรงที่สุดและง่ายที่สุดนั้นมีประสิทธิภาพมากที่สุด ทุกอย่างที่เกี่ยวกับสถานการณ์เป็นตายและคำตอบของเจ้านั้นไม่จำเป็นต้องไปสนใจสิ่งใด ! “
“ ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์เป็นตายและความคิดงั้นเหรอ ? “ - จางเทีย อึ้งกับคำตอบนี้เล็กน้อย
“ เพราะสถานการณ์เสี่ยงตายคือเรื่องใหญ่ในโลก เจ้าจะต้องสนใจพวกมัน เพราะความคิดคนนั้นอิสระ ในตอนที่เจ้าเมินเฉยต่อสถานการณ์นั้น เจ้าควรที่จะถามความคิดของตัวเองแทนที่จะเชื่อทุกอย่าง " - ชายชราตอบ
“ อาจารย์ ความเห็นของท่านนี่ดีจริงๆ ! “ - จางเทีย ชมแล้วหัวเราะออกมา เขารู้สึกว่ามันเท่มาก
“ ถ้าเจ้าต้องการที่จะคิดแบบนั้น เจ้าก็ต้องแข็งแกร่ง !” - ชายชรามองมาที่ จางเทีย – “ ถ้าเจ้ารักเมียของจักรพรรดิและต้องการเธอมาเป็นเมีย เจ้าต้องเป็นศัตรูกับประเทศและเอาชนะจักรพรรดิให้ได้ ไม่งั้นแล้วเจ้าคงโดนตัดหัวแทนตั้งแต่ที่เจ้าไปตะโกนว่าเจ้ารักเมียของเขาแล้ว “
“ อาจารย์ ท่านหมายความว่าข้าต้องพัฒนาทักษะต่อสู้ตัวเองงั้นเหรอ ? “
“ ในบรรดานักสู้ แม้ว่าเจ้าจะเพิ่งระดับ 7 แต่ก็ถือว่าเยี่ยมยอดแต่ในสายตาของคนแข็งแกร่งที่แท้จริงแล้ว นักสู้น่ะอ่อนแอเหมือนกับมด แม้ว่าเจ้าจะเป็นมดที่แข็งแกร่งแต่เจ้าก็ยังคงเป็นมด ถ้าคนที่แข็งแกร่งจริงๆต้องการฆ่าเจ้า มันจะง่ายแค่กระทืบเจ้าจนตาย เอาครั้งนี้เป็นตัวอย่าง คู่ต่อสู้ที่ได้รับงานมาน่ะเป็นทหารมดที่แข็งแกร่งกว่าเจ้า ผลก็คือพวกเขาเกือบฆ่าเจ้า ! เจ้าตกอยู่ในอันตรายตอนไหนก็ได้ นั่นเป็นเหตุผลที่เจ้าต้องพัฒนาตัวเอง “ – หลังจากที่พูดจบชายชราได้มองมาที่ จางเทีย
“ อาจารย์ ใครกันที่มีสิทธิที่ถือว่าเป็นผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง ? ท่านรู้จักพวกที่อยู่สูงกว่าระดับ 15 มั้ย ?”
“ เจ้ารู้จักนักสู้มั้ย ? “
จางเทีย เกาหัวแบบอายๆ – “ ก่อนหน้านี้ข้าไม่รู้และคิดว่านักสู้ระดับ 9 ก็แข็งแกร่งแล้ว ในตอนที่มาที่เกาะนี้ ข้ารู้ว่ายังมีทางอีกยาวไกลและมีโลกใหม่หลังจากระดับ 15 ! “
“ นั่นจริง พวกที่แข็งแกร่งจริงๆน่ะเกี่ยวข้องกัน ในสายตาคนธรรมดา นักสู้ระดับ 9 อาจจะถือว่าแข็งแกร่งแต่ในสายตาของนักสู้ระดับ 9 นักสู้ระดับเชี่ยวชาญและนักสู้ระดับเชี่ยวชาญขั้นสูงน่ะถือว่าเป็นพวกที่แข็งแกร่ง สิทธิในการเป็นผู้แข็งแกร่งที่แท้จริงน่ะต่างกันในสายตาของแต่ละคน มันจะไม่เป็นไรถ้าเจ้าจะเอาอัศวินมาเป็นตัววัดความแข็งแกร่ง แต่ในความเห็นของข้าแล้ว มีแค่พวกที่เชี่ยวชาญพลัง 3 ใน 1 ถึงจะมีสิทธิถูกเรียกว่าเป็นผู้แข็งแกร่ง !” – ชายชราตอบด้วยท่าทีหยิ่งทะนง
“ พลัง 3 ใน 1 ? “ – เมื่อได้ยินแบบนั้น จางเทีย ก็สงสัยอีกครั้ง – “ พลังนั้นมันอะไร ? มันทรงพลังขนาดไหน ? “
“ พลัง 3 ใน 1 เกิดมาจากการรวมกันของแหล่งกำเนิดสิ่งมีชีวิตและแหล่งกำเนิดจักรวาล อัศวินบางคนชำนาญพลังนี้แต่ไม่ใช่อัศวินทุกคนที่ชำนาญมัน พลังนี้คือสิ่งลึกลับที่สุดและเหนือกว่าขอบเขต โอ้ เจ้าต้องจำไว้ว่าไม่ควรเปิดเผยข้อความที่เจ้าเป็นศิษย์ข้าให้ใครรู้ก่อนที่เจ้าจะได้เป็นอัศวิน ! “ – ชายชราเตือนด้วยท่าทีเคร่งขรึม
“ ทำไม อาจารย์ ?”
“ เพราะข้าปกป้องเจ้าตลอดเวลาไม่ได้ ตราบใดที่คนอื่นรู้ว่าเจ้าเป็นศิษย์ข้า ในไม่กี่วันเจ้าจะโดนฆ่าแม้ว่าวังไฮหยวนจะปกป้องเจ้าก็ตาม... “ – สายตาอันน่าขนลุกจับจ้องมาที่ จางเทีย ชายชราอธิบายต่อ – “ ถ้าศัตรูรู้ว่าข้ามีศิษย์ พวกนั้นจะให้คนระดับอย่างน้อย 15 มาฆ่าเจ้า ! “
‘ อัศวินระดับ 15 ที่ถูกส่งออกมาเพื่อฆ่าข้างั้นเหรอ ? ‘ จางเทีย รู้สึกราวกับเขาโดนฟ้าผ่า นักสู้ระดับ 10 ก็เกือบจะบังคับให้เขาใช้ไพ่ตายออกมา Castle of Black Iron ถ้านักสู้ระดับ 15 มาจริง จางเทีย คงต้องกังวลว่าเขาคงไม่อาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำในตอนที่โดนฆ่า
“ อาจารย์ ใครที่เป็นศัตรูกับท่าน ?” -* จางเทีย ฝืนกลืนน้ำลาย คำพูดที่ว่าศัตรูนี้มันทำให้ จางเทีย ช็อก เขาคิดในใจว่าคนที่มีสิทธิเป็นศัตรูของชายชราได้แน่นอนว่าต้องไม่ใช่คนธรรมดา
“ นอกจากพวกคนธรรมดาที่ข้าจำไม่ได้แล้ว.... “- ชายชราส่ายหน้า – “มี 2 รึ 3 คนนี่แหละที่คุกคามข้าไม่ได้ แต่กลับกันพวกนั้นก็จะหาแผนมาหาเรื่องข้า ตอนนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้หรอกว่าพวกนั้นเป็นใครเพราะมันอาจเพิ่มความเครียดให้เจ้าได้ถ้าเจ้ารู้ว่าพวกนั้นเป็นใคร ถ้าเป็นแบบนั้นการบ่มเพาะและจิตใจของเจ้าจะได้รับผล ข้าควรที่จะบอกเจ้าว่าถ้าพวกนั้นรู้ถึงความสัมพันธ์ของเราแล้ว พวกนั้นคงไม่ปล่อยให้เจ้ามีชีวิตต่อ ! “
หลังจากที่คิดไปสักพัก จางเทีย ก็ได้ถามออกมา – “ อาจารย์ เพราะเหตุการณ์ในวันนี้รวมถึงการทรยศ ตอนข้ากลับไป แน่นอนว่าข้าต้องอธิบายรายละเอียดเรื่องนี้ให้วังมังกรลับและกลุ่มการค้า พวกนั้นต้องส่งคนมาที่นี่เพื่อทำการตรวจสอบ แต่ข้าคงอธิบายไม่ได้ว่าชายคนนั้นโดนฆ่ายังไงและลูกน้องที่ตายไปเพราะระเบิดนั่นอีก แล้วถ้าพวกเขาถามถึงมันล่ะ ?”
“ มันไม่สำคัญ นอกจากเรื่องที่ข้ารับเจ้าเป็นศิษย์ เจ้าก็แค่อธิบายรายละเอียดที่เหลือไป ข้าแค่เดินออกมาจากลาวาและไม่ชอบพวกนั้นเลยฆ่าพวกมันทิ้ง ! “
“ แต่ถ้าข้าบอกไปแบบนั้น ท่านก็ต้องมาเกี่ยวข้องด้วยสิ ! “
“ ไม่มีปัญหา ข้าจะออกจากเกาะในไม่ช้า เพราะระดับของเจ้ายังต่ำเกินไป ข้าคงสอนทักษะต่อสู้ของข้าให้เจ้าไม่ได้ ข้าจะกลับมาตอนที่เจ้าไปถึงระดับ 9 ! “ – เมื่อพูดจบ ชายก็ได้ดึงหินสีแดงรูปร่างเหมือนเพชรออกมาและส่งมันให้กับ จางเทีย – “ นี่คือคริสตัลวิญญาณ มันมีออร่าของข้านิดหน่อย ถ้าเจ้าพกมันไว้กับตัว ข้าจะรู้ตำแหน่งเจ้าว่าเจ้าอยู่ไหน ! “
จางเทีย เก็บมันใส่กระเป๋าอย่างดี
“ เจ้าได้ใช้ยามองกลางคืนมั้ย ? “
“ ใช่ ถ้าไม่งั้นข้าก็คงไม่เห็นอะไร ! “ - จางเทีย ตอบตามความจริง
“ เพราะข้าอยู่ในถ้ำนี้มาหลายวัน ข้าเจอนี่มา ดูหมือนว่าจะเป็นบางอย่างที่พระเจ้าให้ไว้ เพราะข้าไม่มีเงิน ข้าจะให้นี่เป็นของขวัญแทนแล้วกัน ! “
ชายชราหยิบเอาถุงผ้าไหมขนาดพอๆกับกระเป๋าตังออกมาโยนให้กับ จางเทีย
ในตอนที่ จางเทีย รับมัน เขาก็รู้สึกเย็น วัสดุที่อยู่ข้างในนั้นพิเศษเล็กน้อย จางเทีย สงสัย – “ อาจารย์ ข้างในนี้มันอะไร ? “
“ มันคือเมล็ดดอกบัวไฟแดงที่ข้าเก็บมาจากลาวา... “
“ ดอกบัวไฟแดง ? มันฟังดูสุดยอดเลยแหะ “ - จางเทีย พึมพำ