หน้าแรก > Castle of Black Iron
Chapter 321: หนึ่งการเคลื่อนที่หนึ่งฉาก

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

Chapter 321: หนึ่งการเคลื่อนที่หนึ่งฉาก

ไม่รู้เลยว่าเขาทำการฝึกอยู่นานแค่ไหนบนเสา หลังจากที่จมไปกับความคิด จางเทีย รู้สึกพอใจอย่างมากพร้อมกับเปิดตาขึ้น จากนั้นเขาก็เพิ่งรู้ว่ามีคนจำนวมากในห้องฝึกที่กำลังมองเขาอยู่

ในบรรดาพวกนั้น นอกจากรุ่นพี่ที่แนะนำเขาแล้วก็ยังมีกลุ่มคนที่เขาไม่รู้จักอยู่ด้วย ตอนนั้นเองเขาก็เห็น หลานหยุนซี

ในตอนที่เขาเห็นเธอ จางเทีย ดูเหมือนจะจำภาพของเธอได้ ในเสี้ยววินาทีพื้นที่ในความจำที่ว่างเปล่าก็ถูกเติมเต็มอีกครั้ง แค่เพียงวันเดียวหลังจากที่เขาไม่เห็นเธอ ภาพของเธอนั้นได้มัวไปในความคิดของเขาอีกครั้ง ดังนั้น จางเทีย จึงรู้สึกเหมือนว่าเขาไม่เห็นเธอมาหลายปี

สายตาหลายคู่จ้องมาที่ จางเทีย  ไม่มีใครพูดอะไรออกมา โดยเฉพาะพวกรุ่นพี่ที่สอน จางเทีย   พวกเธอนั้นทำราวกับเห็นผี  แม้แต่ตาของ หลานหยุนซี เองก็ดูแปลกใจเล็กน้อย

“ ช่างเป็นหมัดเหล็กโลหิตที่แข็งแกร่ง .. “ – หนึ่งในคนแปลกหน้าถอนหายใจออกมายาวๆและได้ยิ้มออกมา

‘ แข็งแกร่ง ? ‘ เมื่อมองไปที่เสาซึ่งถูกทำลายไปเพราะแรงลมอันรุนแรง จางเทีย ก็ช็อก ครั้งล่าสุดในตอนที่เขาจมอยู่กับความคิดตะกี้  จางเทีย ถึงกับรู้สึกว่าใต้เท้าของเขานั้นเป็นส่วนเกิน  พวกมันเหมือนกับเศษหินตามถนน เขาแค่เตะมันทิ้งและทำลายมันเป็นชิ้นๆ ในตอนที่เขาตื่นขึ้นมา เขาก็พบว่าเขากลับมายืนที่พื้นแล้ว

เสาแต่ละต้นนั้นถูกต่อด้วยอุปกรณ์ที่แข็งแกร่งในห้องโดยมีน้ำหนักหลายตัน แม้ว่าพวกมันจะไม่แข็งซะทีเดียวแต่พวกมันก็ยังคงมั่นคงราวกับต้นไม้อยู่  เสาเหล็กพวกนี้บิดเบี้ยวและกองกันอยู่ที่พื้นรอบตัว จางเทีย ทำให้เกิดฉากแปลกๆขึ้นมา ผลก็คือน้ำมันในเสาเหล่านั้นค่อยๆไหลลงมาที่พื้น

จางเทีย ก้มหน้าลงและพบว่ามีของเหลวบางอย่างเกือบไหลมาที่เท้าของเขา เขาจึงรีบกระโดดหลบทันที

“ จางเทีย เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าตะกี้ ? ไคดี บอกว่าเจ้าได้ความกระจ่าง เจ้าได้อะไรมา ? “ - หม่าไอหยุน เป็นคนตรงๆ เมื่อเห็น จางเทีย เดินมาที่นั่น เธอจึงเปิดปากถามออกมาเป็นคนแรก

“ ข้าเองก็ไม่รู้... “ - จางเทีย พูดพร้อมกับเกาหัว  จางเทีย อายขึ้นมานิดหน่อย ตะกี้เขาตระหนักได้ถึงบางอย่างจริงแต่มันเป็นประสบการณ์ที่ไม่อาจที่จะอธิบายได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงไม่อาจที่จะตระหนักได้ง่าย

“ เจ้าไม่รู้งั้นเหรอ ? “ – หม่าไอหยุน ตาโต – “ เป็นแบบนั้นได้ไง? “

“ ข้าไม่รู้ว่าจริงๆว่าจะอธิบายมันยังไง  ข้ารู้สึกแค่ว่ามีบางอย่างไหลออกมาจากใจข้า นี่ทำให้ข้าเจอกับประสบการณ์แปลกๆ ข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะบอกมันออกมายังไง ! “

“ ประสบการณ์อะไร ? “ - กูไคดี ถามออกมาด้วยความสงสัย  สาวๆที่สอน จางเทีย บางคนไม่เคยได้รับประสบการณ์รึความกระจ่างแบบนั้น ดังนั้นพวกเธอจึงต่างก็พากันสงสัยว่า จางเทีย พบกับอะไร

ไม่ใช่แค่พวกเธอเท่านั้น แม้แต่พวกที่อยู่ข้างๆเขาก็มอง จางเทีย ด้วยท่าทีสงสัยรวมไปถึง หลานหยุนซี ด้วย การแบ่งปันเรื่องแบบนี้นั้นจะส่งผลดีต่อการบ่มเพาะกับทุกคน แม้ว่าพวกเขาจะไม่อาจที่จะรับรู้มันได้อย่าง จางเทีย แต่อย่างน้อยพวกเขาก็สามารถเข้าใจว่าความกระจ่างนั้นได้เปลี่ยนคนและให้ประสบการณ์ที่มีประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับการบ่มเพาะ

“ จะบอกยังไงดี... “ - จางเทีย พยายามคิดถึงความรู้สึกนั้น เมื่อเห็นว่าแม้แต่ หลานหยุนซี ก็สนใจเรื่องนี้  จางเทีย ก็คิดสักพักก่อนจะพยายามที่จะจำให้มันชัดเจนกว่าเดิม

“ ไม่จำเป็นต้องเพ่งไปเรื่องเดียวหรอก บอกพวกเธอเกี่ยวกับความรู้สึกที่แท้จริงไป ! “ – ชายคนที่เพิ่งพูดตะกี้ได้พึมพำออกมาอีกครั้ง

จางเทีย มองไปที่ชายคนนั้นและพบว่าเขาเหมือนกับ หลานหยุนซี นิดๆ  เขาคิดถึงฐานะของชายคนนั้นทันที ชายคนนี้น่าจะเป็นญาติไม่ก็ลุงของเธอ ไม่น่าจะใช่พ่อของเธอ

จางไท่สวน ---- เคาท์ลองวิน  พ่อของ หลานหยุนซี เป็นหัวหน้าตระกูลจาง เขาแข็งแกร่งและยุ่งอยู่ทุกวัน ชายคนนั้นคงไม่มัวมาเสียเวลามาคุยกับเขาแบบนี้ แม้ว่าเขาจะต้องการแต่งงานกับลูกสาวอีกฝ่ายแต่เขาก็ไม่ต้องรีบแบบนั้น  แม้ว่าชายคนนี้จะไม่ใช่ จางไท่สวน แต่ชายคนนี้น่ะดูแข็งแกร่งและใจดีซึ่งทำให้ จางเทีย คิดว่าชายคนนี้คงไม่ใช่คนธรรมดา

‘ อย่าไร้สาระ พ่อกับแม่ของเธอน่ะเป็นคนใหญ่โตและมีภูมิหลังที่มีอำนาจ ญาติเธอจะเป็นคนธรรมดาได้ไง ‘  จางเทีย ด่าตัวเองในใจ  เมื่อเห็นชายคนนั้นปฏิบัติต่อเขาอย่างใจดี  จางเทีย ก็ได้พยักหน้าให้และยิ้มออกมาอย่างเป็นมิตร

คำพูดของชายคนนี้ทำให้ จางเทีย คิดว่าภาษาและคำศัพท์นั้นไม่สำคัญ สิ่งที่ความสำคัญคือความกระจ่างและความรู้สึก หลังจากที่คิดสักพัก  จางเทีย ก็เข้าใจความรู้สึกนั้น

“ ตอนแรกข้ารู้สึกว่ามีบางอย่างออกมาจากหัวใจ มันดูเหมือนว่าเป็นแรงที่คอยไหลออกมา ใช่ มันเหมือนกับน้ำพุ ข้ารู้สึกว่าข้ากลายเป็นน้ำพุ น้ำพุที่เปลี่ยนเป็นบ่อน้ำ น้ำพุที่ไหลออกมาจากบ่อและเริ่มที่จะไหลไปตามภูเขา มันเปลี่ยนเป็นแม่น้ำซึ่งรู้สึกยิ่งใหญ่และสวยงาม ไม่ใช่แค่นั้นข้ายังรู้สึกอิสระ ข้าสนุกกับฉากมากมายที่ผ่านไป ฉากนั้นเปลี่ยนไปเรื่อยๆซึ่งมันน่าประทับใจอย่างมาก ! “

“ เจ้าบอกว่า  เจ้ากลายเป็นน้ำพุและแม่น้ำในตอนที่เจ้าฝึกบนเสานั้นเหรอ ? เจ้ารู้สึกวิเศษเหมือนกับไหลมาจากภูเขาและสนุกกับฉากตามทางงั้นเหรอ ? นี่มันบ้าอะไร ?” – สาวๆพวกนั้นไม่เข้าใจความกระจ่างนี้ซึ่งทำให้พวกเธอชื่นชม

แม้ว่าสาวๆจะไม่เข้าใจแต่ชายวัย 50 ปีข้าง หลานหยุนซี นั้นรู้ เขาได้แสดงท่าทีทึ่งออกมา – “ ถ้ามันจริง มันต้องเป็น’ ระดับหนึ่งการเคลื่อนที่ หนึ่งฉาก’ แน่ ! “

หนึ่งการเคลื่อนที่หนึ่งฉาก ?  จางเทีย คิดย้อนไปและพบว่ามันคล้ายกับสิ่งที่เขาเจอ สุดท้ายแล้วเขาก็สนุกกับแต่ละฉากในแต่ละท่าที่เขาใช้ออกไป

“ รุ่นพี่ซี ท่านช่วยแนะนำ... “ - จางเทีย มองไปยัง หลานหยุนซี แล้วพูดออกมา

ในตอนที่ จางเทีย หันไปหาเธอ ใจของเธอได้เต้นรัว จากบุคลิกของ จางเทีย แล้ว ถ้าเขาเรียกเธอว่า หยุนซี อย่างหน้าไม่อาย  เธอจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะอธิบายเรื่องนี้ต่อลุงสี่ยังไง เมื่อเธอเห็นว่า จางเทีย ทำตัวสุภาพ เธอก็ด่าเขาในใจ เธอถึงกับรู้สึกว่า จางเทีย น่ะทำให้เธออารมณ์เสีย

“ นี่คือลุงสี่ของข้า เขามาหาเจ้าวันนี้ ! “ – หลังจากที่รวบรวมสติเล็กน้อย หลานหยุนซี ก็แนะนำออกมาสั้นๆ

“ ไปคุยข้างนอกกัน ที่นี่กลิ่นมันไม่ดีเท่าไหร่ ! “ - จางเทีย มองไปที่ชายคนนั้น กลิ่นของน้ำมันเริ่มคลุ้งออกมาซึ่งทำให้คนอึดอัด

จากนั้นพวกเขาก็ออกจากห้องไปด้วยกัน

เมื่อรู้ว่า จางเทีย จะออกไปแล้ว หม่าไอหยุน และสาวๆคนอื่นก็ทำได้แค่ลา จางเทีย

“ รุ่นพี่ เดี๋ยวก่อนสิ ขอบคุณที่แนะนำข้าหลายวันมานี้ ข้ารู้สึกว่าข้าจะผ่านการทดสอบได้  รับคำขอบคุณไว้ด้วย ! “ - จางเทีย ยิ้มออกมา

“ เจ้าจะเข้าร่วมการทดสอบตอนนี้เลยเหรอ  ? “- ในตอนที่ กูไคดี ถาม สาวๆคนอื่นที่เดินออกมาจากห้องต่างก็หยุด

จางเทีย ตรงไปยังทางเดินทดสอบโดยไม่พูดอะไร เขาโดดขึ้นไปบนเสาหินที่ซึ่งสั่นไปมาและเริ่มโดดไปมาอย่างรวดเร็ว

ตอนนั้นยังมีคนมากมายที่พยายามจะผ่านการทดสอบกับเสาหินที่เปลี่ยนไปมานี้ ในทุกวินาทีจะมีคนตกลงมาจากเสาพวกนี้

ในตอนที่ จางเทีย ขึ้นไปยืน แรงดันน้ำก็ได้ยิงเข้ามาใส่เขา จางเทีย ยิ้มออกมาแล้วเดินไปข้างๆหนึ่งก้าวเพื่อหลบมันได้อย่างง่ายดาย

ในตอนที่ จางเทีย เห็นการทดสอบนี้ตอนแรก  จางเทีย รู้สึกว่าการทดสอบนี้มันยากเกินไปแต่ตอนนี้ทางเดินนี่เหมือนกับถนนราบเรียบสำหรับเขา แต่ละจุดบนยอดเสานั้นเหมือนกับที่ราบซึ่งขยายออกไปไม่สิ้นสุด

จุดคือการเคลื่อนที่แบบศูนย์มิติ การเคลื่อนที่เป็นเส้นตรงเป็นการเคลื่อนที่แบบมิติเดียว  การเคลื่อนย้ายเส้นทางใดๆจะเป็นการเคลื่อนที่สองมิติ การเปลี่ยนพื้นที่จะส่งผลต่อร่างกายซึ่งเป็นสามมิติ การขยับร่างกายจะสร้างจักรวาลเวลาสี่มิติ จักรวาลและโลก

ในตอนที่เคลื่อนที่นั้น ของแข็งทุกอย่างสามารถขยายออกมาได้ ของที่มีอยู่นั้นประกอบด้วยองค์ประกอบหลายอย่าง ในตอนที่คุณได้ใช้กฎมิติและเวลา สำหรับการวิเคราะห์สุดท้ายแล้ว ทุกอย่างจะสามารถแบ่งออกเป็นจุดซึ่งยากที่จะเข้าใจ มันถือว่าเป็นศูนย์ มันว่างเปล่า  มันอาจถือว่าเป็นรากของทุกสิ่งในจักรวาล

แม้ว่าทางเดินพวกนี้จะเป็นอันเดิมแต่ จางเทีย ได้เปลี่ยนไปแล้ว ดังนั้นทางเดินนี้จึงเปลี่ยนไปในสายตา จางเทีย  เพราะใจที่เปลี่ยนแปลงไป มุมมองที่เขามีต่อโลกนี้ก็เปลี่ยนไปด้วย มันขึ้นไปอยู่อีกระดับ

‘ หนึ่งการเคลื่อนที่หนึ่งฉาก ‘ เป็นของระดับสูงเหมือนกับเห็นถนนที่ราบเรียบทอดยาวออกไปซึ่งไม่อาจที่จะอธิบายออกมาได้

ถนนนี้อยู่ใต้เท้าของเขา มีถนนจำนวนมากซึ่งต่อกันทีละเส้นๆ ไม่ว่าพวกมันจะไปที่ไหน พวกมันจะมีที่สำหรับให้ จางเทีย เหยียบ  เขาถึงกับสร้างทางขึ้นมาเองได้ ทุกอย่างที่เขาเห็นบนเส้นทางนั้นเป็นเพียงแค่ทิวทัศน์ข้างถนน

ในเสี้ยววินาทีแรงดันอันรุนแรงก็ได้เริ่มกลายเป็นไอ

รุ่นพี่คนอื่นๆรวมถึง หลานหยุนซี ต่างก็ตาเป็นประกายขึ้นมา

ตอนนั้น จางเทีย เหมือนกับนักกวี ด้วยชุดขาวที่ใส่  จางเทีย ได้เดินไปตามหุบเขา เขาได้ถือล่มและดูฌหมือนว่าจะต้องการเข้าไปหาสาวงามในหุบเขา ...

คนอื่นๆต่างก็กัดฟันอดทนเพื่อผ่านการทดสอบ เทียบกับ จางเทีย แล้วนั้นเขาเหมือนเจ้าชาย คนอื่นๆน่ะเป็นเพียงแค่ขอทาน

หลังจากที่อ่านเส้นทางไปจนจบ  จางเทีย ก็ได้ยักคิ้วแล้วได้ยิ้มกวนๆออกมา

ภาพลักษณ์ที่งดงามของ จางเทีย ในจิตใจสาวๆได้พังทลายไปทันที

‘ เหอะ โจรยังไงก็เป็นโจร ! ‘ หลานหยุนซี ด่าเขาในใจ....

 

 

 

 

 

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.