spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 320: ความกระจ่าง
จางเทีย ไม่รู้ว่าผู้จัดการของกลุ่มการค้าลองวินนั้นตั้งใจที่จะมาหาเขา ดังนั้นแล้วในวันที่สอง จางเทีย ก็ยังคงทำตัวเช่นเดิม ในตอนเช้าๆ หลังจากกินมื้อเช้าเสร็จ จางเทีย ก็ได้ไปสนามฝึกและเริมฝึกท่าการเคลื่อนที่พื้นฐาน
จางเทีย สามารถเดินไปตามเสาได้อย่างมั่นคงราวกับเดินอยู่ที่พื้น เขาเริ่มคุ้นกับการเคลื่อนที่พื้นฐานแล้ว แม้ว่าจะแข่งกับรุ่นพี่ในเรื่องความคล่องตัวและความเร็วแต่ จางเทีย ก็สามารถยืนอยู่ได้หลายนาที
หลังจากที่สามารถใช้ท่าเคลื่อนที่พื้นฐานทั้งห้าได้ออกมาอย่างกับลูกธนู,การก้าวไปด้านข้าง, การชน, การสลับก้าวสั้นๆของหมัดเหล็กโลหิตบนเสาได้ จางเทีย ก็รู้สึกว่าเขาเริ่มได้รับความกระจ่างใหม่ในเรื่องหมัดเหล็กโลหิต
ท่าทั้งห้าบน 30 ตำแหน่งของเสาทั้งห้านั้นสามารถทำให้ จางเทีย เคลื่อนที่ได้ 150 แบบ ด้วยท่ามือทั้ง 36 แบบ จางเทีย สามารถใช้การเคลื่อนที่ได้ 5400 แบบ นี่ทำให้ จางเทีย เท่และรู้สึกไร้ขีดจำกัดเหมือนนกบนท้องฟ้า
การฝึกประจำวันนั้นไม่ได้พัฒนาแค่พื้นฐานการเคลื่อนที่แต่ยังพัฒนาหมัดเหล็กโลหิตไปด้วย แต่ละการเคลื่อนที่ของหมัดเหล็กโลหิตนั้นถูกดูดซับโดย จางเทีย และจัดเรียงใหม่ไปมาตามความต้องการของเขา แม้ว่ามันจะบ่มเพาะยากแต่ จางเทีย ก็รู้สึกว่ามันอิสระ
นี่คือประสบการณ์การบ่มเพาะที่ไม่อาจอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ จนเขารู้สึกว่าหมัดเหล็กโลหิตนั้นได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายรวมกันกับเลือด, เนื้อ, เส้นเลือดและกระดูกของเขา
ในการบ่มเพาะโดยเฉพาะวันนี้ จางเทีย ไม่พบเจอกับความยากอีกต่อไปแต่เขาพบอิสระ เขาสามารถรับประสบการณ์ที่มากมาย, ความอิสระบนเสาแคบๆเหล่านั้น
มันราวกับนกบินอยู่บนท้องฟ้า จางเทีย ตื่นเต้นอย่างมากจนอยากอุทานออกม มันเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกอิสระแบบนี้ในการฝึกหมัดเหล็กโลหิต
จากนั้น จางเทีย ก็ได้ไปถึงระดับใหม่ ท่ามือแต่ละท่ารึการเคลื่อนที่ของเท้านั้นจะเกิดฉากขึ้นมาในหัว มันรู้สึกเหมือนกับสนุกไปกับการเคลื่อนที่แต่ละท่วงท่า
ฉากนั้นที่โผล่มานั้นจะล้างความเหนื่อยล้าของเขาและสามารถทำให้เขากระปรี้กระเปร่าเพราะเขารู้ว่ามันมักจะมีฉากแบบนี้รอเขาอยู่เสมอ
เช้านี้ จางเทีย ได้มาถึงพร้อมกับรุ่นพี่ หลังจากที่ ‘ แนะนำ ‘ จางเทีย มาสองชั่วโมง สาวๆต่างก็ยืนอยู่ด้านล่างเสาและมอง จางเทีย ฝึกหมัดเหล็กโลหิตบนเสาต่อ
ตอนแรก จางเทีย เคลื่อนที่แบบเรียบง่ายและช้า จากนั้นเขาก็เพิ่มความเร็วขึ้นไปเรื่อยๆ ในที่สุดเขาก็เคลื่อนที่เร็วซะจนในเสี้ยวพริบตา เขาได้ใช้ท่าออกมา 6 ท่า แต่ละก้าวนั้นจะมีท่าที่แตกต่างกันไปของหมัดเหล็กโลหิต เสาทั้งหกต้นนั้นก็เหมือนกับ จางเทีย 6 คน แต่ละคนต่างก็แสดงท่าทางที่แตกต่างกันออกมา
แต่ละท่าที่ จางเทีย ใช้ออกมานั้นเหมือนกับมีเสียงต่างๆอย่างเสียงคำรามของเสือ, เสียงฝ่าอากาศของขวาน, เสียงดาบฟันลงมา ในที่สุดเสียงนั้นก็รวมเป็นหนึ่งและเริ่มสั่นพ้องราวกับเสียงของสายฟ้า
สาวๆต่างก็อึ้งจนหน้าซีด ตอนนั้น จางเทีย ได้เข้าสู่สถานะแปลกๆ เขายืนอยู่บนเสาราวกับดอกไม้ที่เบ่งลาน เงาทั้งหกบนเสานั้นเหมือนกับดอกไม้ที่เบ่งบานเต็มที่ มันสวยงามและน่าทึ่ง
เสาที่ไร้ชีวิตชีวานั้นกลับมาสดใสเพราะ จางเทีย
สาวๆนั้นไม่เคยได้ยินถึงเรื่องนี้มาก่อน แทบไม่ต้องพูดเรื่องการเคยเห็น แม้ว่าหลายคนจะทำการบ่มเพาะท่าการเคลื่อนที่บนเสามาก่อนแต่ก็ไม่มีใครเคยได้ยินเรื่องฉากแปลกๆนี้ในตอนที่ฝึก
สาวๆรู้รึได้ยินมาว่ารุ่นพี่ที่อยู่ในรายชื่อความแข็งแกร่งนั้นดูแปลกๆในตอนที่บ่มเพาะบนเสานี้ พวกเขาจะเคลื่อนที่ได้อย่างกับสายฟ้ารึ มั่นคงอย่างกับภูเขา พวกเขายังได้ยินมาอีกว่าในตอนที่รุ่นพี่อยู่นิ่งตอนที่อยู่บนเสา เทียบกับเสาแล้วเท้าของเขาเหมือนกับเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระซึ่งทำให้เกิดภาพติดตาขึ้นมา
แต่ท่ามือและเท้าของ จางเทีย บนเสานี่ทำให้มันดูมีชีวิตชีวา จางเทีย เหมือนกับดอกไม้ที่เบ่งบานซึ่งเปลี่ยนรูปร่างไปตลอด แต่ละวินาทีนั้นก็มีฉากใหม่เกิดออกมาให้เห็น เพื่อให้แสดงผลนี้ออกมา จางเทีย ต้องเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว,คงที่และตระหนักถึงแก่นของท่าเคลื่อนที่และท่ามือ
“ ข้าจะลองดู ! “ – เมื่อเห็นความสามารถของ จางเทีย แล้ว หนึ่งในรุ่นพี่ก็อยากระโดดขึ้นไปบนเสา
แต่ในตอนที่เธออยู่ห่างจากเสา 1 ม. ลมและพลังฉีจากท่าการเคลื่อนที่ของ จางเทีย ก็ทำให้เธอตกลงมาที่พื้น เธอถึงกับถอยหลังกลับไปอีกสองก้าว
หลังจากที่มองหน้ากันแล้ว สาวๆคนอื่นก็อยากจะลองพลังต่อสู้ของ จางเทีย แต่มันก็เหมือนกับมี จางเทีย 6 คนอยู่บนเสา สาวๆแต่ละคนต้องโดนผลักกลับมาโดยลมและพลังฉีจากหมัดของ จางเทีย
หนึ่งในนั้นอิจฉาเขา ในตอนที่เธอถูกลมและพลังฉีของหมัด จางเทีย ต่อยเอา เธอรู้สึกได้ทันทีถึงพลังของคู่ต่อสู้ที่มากขึ้น 10 เท่า ผลก็คือเธอกระเด็นออกไปไกลถึง 3 ม.และต้องอุทานออกมา
เด็กสาวที่กระเด็นไปนั้นคือ กูไคดี ด้วยการที่ไม่สามารถใช้แรงออกมากลางอากาศได้ เธอปลิวออกแล้วม้วนตัวอยู่ในอากาส เมื่อแตะไปที่กำแพงเล็กน้อย เธอก็ตกลงมาที่พื้นได้อย่างมั่นคง
แม้ว่าเธอจะยืนอย่างมั่นคงแต่หน้าของเธอนั้นซีดสนิท ตอนนี้ด้วยการปะทะตะกี้ พลังฉีและเลือดของ กูไคดี เริ่มหดหาย จนกระทั่งต้องหอบหายใจเพื่อรวบรวมสติอยู่นานถึงจะกลับมาเป็นปกติ
“ ไคดี เธอโอเครึเปล่า ? “ – สาวๆบางคนได้เข้ามาล้อมเธอ
“ ข้าโอเค ! “ – กูไคดี ส่ายหน้าเล็กน้อย
“จางเทีย เจ้าเกินไปแล้ว เจ้าทำแบบนั้นได้ไง ? “
กูไคดี เริ่มงงและมองไปที่ จางเทีย ที่อยู่บนเสา – “ เขาไม่ได้ตั้งใจ ตอนนั้นข้าเห็นว่าเขาหลับตาอยู่ เขาตอบโต้ข้าในด้านพลังฉี ข้ารู้สึกว่า จางเทีย ...กำลังจมอยู่ในสถานพิเศษ...ดูเหมือนว่าเขาจะ...จะเข้าถึงความกระจ่าง “
“ อะไรนะ ? “ – สาวๆคนอื่นอึ้ง การเข้าถึงความกระจ่างนี้ไม่อาจจะเจอได้ง่ายๆ บางคนอาจเจอมันหนึ่งรึสองครั้งในชีวิต ส่วนบางคนอาจจะไม่ได้เจอมันเลย
ความกระจ่างนี้หมายถึงการยกระดับทางจิตใจหลังจากที่ตระหนักบางอย่างในทักษะต่อสู้และพลังฉีต่อสู้ได้ ถ้าเทียบผลของระดับที่สูงและการบ่มเพาะประจำวันในทักษะระดับสูงและพลังฉีต่อสู้ที่เปลี่ยนแปลงกับความกระจ่างที่คุณภาพเปลี่ยนไป อย่างแรกนั้นคล้ายๆกับการปีนบันไดบนกำแพงรึหลุมบนกำแพงเพื่อยืมแสงจากเพื่อนบ้าน ส่วนอันหลังนั้นเหมือนกับการเปิดประตูและผ่านทางห้องโถงเข้าไปในห้องหลัก
“ เธอพูดถูก เด็กนั่นได้รับความกระจ่าง ! “ – ไม่มีใครรู้ว่าชายวัย 50 ปียืนอยู่ในหมู่พวกเธอ
แม้ว่า กูไคดี และสาวๆคนอื่นจะไม่รู้ว่าเขาเป็นใครแต่พวกเธอนั้นคุ้นกับเด็กสาวที่อยู่ข้างๆเขา เธอคือไอดอลของสาวๆทุกคนในวังมังกรลับ หลานหยุนซี ที่ซึ่งอยู่อันดับหนึ่งของรายชื่อความแข็งแกร่งและคะแนนตระกูล
“ อ๊าก รุ่นพี่ซี ! “ - เมื่อเห็น หลานหยุนซี สาวๆคนอื่นต่างก็รีบโค้งให้
“ ตามสบายเถอะ รุ่นน้อง “ – หลานหยุนซี ทักทายพวกเธอด้วยรอยยิ้มและได้มองไปยังไอ้บ้าที่ได้รับความกระจ่างบนเสา
เมื่อคิดถึงสิ่งที่เขาทำกับเธอเมื่อคืนนี้ หลานหยุนซี ก็กัดฟันและเริ่มหงุดหงิดขึ้นมา
“ หาทางลัดไปหัวใจเธอ “ – ในที่สุด หลานหยุนซี ก็รู้ต้นกำเนิดของคำพูดนี้ มันคือนักปราชญ์สาวก่อนภัยพิบัติซึ่งหมายความว่า ‘ ทางลัดในการได้หัวใจสาวคือความบริสุทธิ์ของเธอ ‘ เธอไม่คิดว่าไอ้บ้านี่จะมาใช้คำพูดนี้กับเธอ ในตอนที่ หลานหยุนซี คิดเรื่องนี้ เธอก็รู้สึกร้อนขึ้นมาที่หน้าและกัดฟันด้วยความหงุดหงิด
หลานหยุนซี คิดถึงฉากต่างๆมากมายในตอนที่เธอพบกับ จางเทีย เป็นครั้งที่สามแต่เธอไม่คิดว่ามันจะกลับมาเป็นแบบนี้ เธอไม่คิดว่าลุงสี่ของเธอจะมายังวังมังกรลับแบบเร่งด่วนแบบนี้ หลังจากที่พบลุงสี่ของเธอและคุยกับเขาสักพัก ลุงสี่ก็ได้บอกให้เธอพาไปหา จางเทีย ดังนั้นแล้วเธอจึงต้องพาลุงเธอมาที่นี่
เพราะเธอต้องทำตัวสุภาพกับลุงสี่และไม่ต้องการเผยเรื่องพิเศษที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับ จางเทีย หลานหยุนซี เลยกัดฟันแน่นและพาลุงเธอมา
ไม่คาดคิดเลยว่าไอ้บ้านี่กำลังได้รับความกระจ่างอยู่ในตอนนี้….