หน้าแรก > Castle of Black Iron
Chapter 301: ความคิดในการทำเงิน

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

Chapter 301: ความคิดในการทำเงิน

ตอนเย็นลมได้พัดผ่านพร้อมกับคลื่นที่ปะทุขึ้นมา คลื่นทะเลใกล้ๆกับพื้นที่ไข่มุกนั้นสูงกว่า 3 ม.

ด้วยการที่อยู่ในทะเลมาทั้งวัน จางเทีย ได้โผล่หัวออกมาและเคลื่อนที่ไปตามคลื่น  เมื่อโผล่ขึ้นมาแล้ว จางเทีย ได้ตระหนักว่าอากาศในวันนี้นั้นผิดปกติเล็กน้อยเพราะคลื่นทะเลนี้เหมือนกับกำแพงไปทั่วทุกทิศทางและบังมุมมองเขา หลังจากว่ายไปตามคลื่นอยู่สองรอบ  จางเทีย ก็ได้มาถึงยอดคลื่นและในที่สุดก็สามารถเห็นปราสาทได้จากไกลๆ

ไฟด้านบนปราสาทนั้นถูกจุดขึ้นมา

หลังจากที่เห็นไฟนั่นแล้ว จางเทีย ก็ว่ายลงไปในคลื่นและค่อยๆว่ายไปที่ปราสาท

แม้ว่าใต้น้ำ 30 ม.นั้นมันไม่ได้สงบแต่มันก็พออธิบายได้ว่ามันสงบเมื่อเทียบกับด้านบน

หลังจากที่เพิ่มประสาทสัมผัสมา 9 เท่า จางเทีย ก็อึ้งกับทักษะใต้น้ำนี้ซึ่งช่วยเขาให้รู้สึกถึงทิศทางของน้ำรอบๆทะเลได้ง่าย อีกอย่างแล้วหลังจากที่เข้ามาที่กระแสน้ำ เขาก็สามารถใช้แรงของแสน้ำในการดันตัวได้ด้วย

หลังจากที่เข้ามาที่กระแสน้ำแล้ว จางเทีย รู้สึกได้ถึงความเย็น มันราวกับว่าเขาบินอยู่บนฟ้าราวกับนก

ด้วยทักษะนี้ จางเทีย สามารถที่จะไปถึงขีดสุดของโลกได้

มีกระแสน้ำมากมายในทะเลซึ่งมีต้นกำเนิดมากมายอย่างอุณหภูมิ, ความชื้นและความหนาแน่ในทะเล, คลื่น, ฤดูกาล,อากาศเหนือทะเล, การเคลื่อนที่ของภูมิประเทศ ,การหมุนตัวของดวงจันทร์

พวกนี้ล้วนแต่ส่งผลต่อกระแสน้ำในทะเล คลื่นที่ใหญ่ซึ่งสามารถก่อตัวได้จากกระแสน้ำอาจสูงได้ถึงหลายร้อยเมตร มีกระแสน้ำมากมาย บางอันนั้นใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ บางอันไม่นานก็หายไป

พวกกระแสน้ำที่แตกต่างกันนี้มีหลายระดับซึ่งบ่งบอกได้ถึงความลึกลับของโลกใต้น้ำ

จางเทีย รู้สึกว่ากระแสน้ำนี้เหมือนกับลม มันเหมือนกับวิ่งในลม หลังจากที่อยู่ในทะเลมา จางเทีย ที่ซึ่งว่ายไปตามกระแสน้ำนั้นก็รู้สึกว่าเขาเหมือนหมาป่าที่วิ่งอยู่ในทุ่งหญ้าพระจันทร์เสี้ยว

หลังจากที่ถูกส่งไปที่ไม่ไกลจากปราสาท จางเทีย ก็ว่ายออกมาและดำลงไปที่ทางเข้าของปราสาท

หลังจากที่โผล่หัวออกมาแล้ว จางเทีย ก็ได้กระโดดขึ้นจากบ่อ

ในตอนที่เขาขึ้นไป เขาพบว่า รุ่นพี่เฉิน, ซูเวงเจียงและเพื่อนคนอื่นต่างก็อยู่ที่นั่น พวกเขาต่างก็ใส่เสื้อผ้า เมื่อเห็น จางเทีย  พวกเขาก็มองมาที่เขาด้วยตาที่เป็นประกาย

“ โอ้ พวกเจ้ายังไม่กลับ ! “ - จางเทีย ถอดเสื้อผ้าออกและเดินไปยังท่อน้ำเพื่อล้างตัว

เพราะน้ำทะเลนี้มีเกลืออยู่มาก ถ้าเขาไม่ล้างตัว เกลือนี้จะติดตามตัวเขา อีกอย่างแล้วน้ำทะเลใกล้ๆกับก้นบ่อมันก็คาว ดังนั้นแล้วพวกเขาต้องอาบน้ำก่อนจะกลับทุกวัน

จนกระทั่ง จางเทีย อาบน้ำ,ซักเสื้อผ้าเสร็จ เขาถึงตระหนักได้ว่าสายตาของคนอื่นๆนั้นแปลกๆ  รุ่นพี่เฉิน เอามือถูหนวดตัวเองโดยไม่กระพริบตา

แม้ว่าเขาจะโป๊ให้พวกนี้เห็นหลายครั้งแต่เมื่อเห็นสีหน้าแปลกๆแล้ว จางเทีย ก็ยังคงรู้สึกว่าก้นเขาบีบตัวมากกว่าเดิมและเขาถึงกับขนลุก

จางเทีย ใส่เสื้อผ้าให้เร็วที่สุดและพูดขึ้นมา –“  อ๊าก ทำไมพวกเจ้ายังไม่กลับอีก ? งั้นข้ากลับละ ! “

“ รอเดี๋ยว ! “ - รุ่นพี่เฉิน เริ่มพูดขึ้นมา

“ มีอะไร ? “

“ พรุ่งนี้เจ้าเอาน้ำนั่นมาอีกได้มั้ย ? “ – รุ่นพี่เฉิน พูดขึ้น

“ ยิ่งเยอะยิ่งดี ! “ – หยางหยวนคัง พูดต่อ

จางเทีย รีบคิดก่อนจะตอบกลับ – “ เพราะมันมีเหลือน้อย ถ้าพวกเจ้าต้องการ ข้าทำเพิ่มอีกก็ได้แต่มันจะใช้เวลานานหน่อย พวกเจ้ารอได้มั้ยล่ะ ?”

“ นั่นแหละ ! “ - รุ่นพี่เฉิน พูดพร้อมกับเอามือถูเข่าและพูดออกมาด้วยท่าทีอายๆ – “ ข้าไม่รู้ว่าทำไมแต่หลังจากที่ดื่มน้ำนั่นเข้าไปเมื่อเช้า อาการไขข้อข้ากลับดีขึ้นเยอะเลย ไม่นานหลังจากที่ดื่มมัน การปวดเข่าหายไป ข้ารู้สึกสบายทั้งวัน ! ดังนั้นแล้วข้าหวังว่าเจ้าจะเอามาอีกพรุ่งนี้.. “

“ เราเองก็รู้สึกแปลกๆด้วย  หลังจากที่ดื่มน้ำนั่นเข้าไป เราน่ะมีพลังงานมากกว่าเดิมและไม่รู้สึกหิวมากเท่าไหร่ แม้แต่ตอนนี้ก็ด้วย ! “ - จางหลิน พูดต่อด้วยท่าทีอึ้ง

“ ข้าคิดว่ามีแค่ข้าที่รู้สึกแบบนั้นแต่ข้าไม่คิดว่าทุกคนจะมีสภาพดีกว่าแต่ก่อนเยอะ ! “ - ซูเวงเจียง พูดขึ้น

หยานหยวนคัง พยักหน้า

จางเทีย ช็อกในใจ เพราะเขาได้พัฒนาอย่างรวดเร็วในหลายวันมานี้และเคยกิน Wild Wolf Seven-Strength Fruits มาก่อน เขาจึงมีแรงเสมอ ดังนั้นแม้ว่าเขาจะรู้สึกดีในช่วงหลายวันมานี้แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก มันเกินกว่าที่เขาคาดไปจริงๆที่ รุ่นพี่เฉิน, หยางหยวนคังและคนอื่นๆรู้สึกดีหลังจากที่กินน้ำหมักเข้าไปครั้งแรก

เมื่อไม่มีการตอบรับ รุ่นพี่เฉิน คิดว่า  จางเทีย อาจจะคิดเงิน

“ จางเทีย ข้าไม่รู้หรอกนะว่ามันแพงรึเปล่า ถ้ามันไม่มากเกินไปสำหรับเจ้า ข้าซื้อเจ้าหนึ่งขวดก็ได้ ! “ - หลังจากที่ดื่มมันเข้าไป รุ่นพี่เฉิน รู้สึกได้ถึงความสบายจากรสหวาน เขาประทับใจกับมันมาก มันรู้สึกดีกว่าการกินยาอีก ดังนั้นแล้ว รุ่นพี่เฉิน จึงอยากซื้อมันเพิ่ม

รุ่นพี่เฉิน ได้พยายามอย่างมากในการรักษาโรคไขข้อของเขามานานหลายปี

“ ฮ่ะ รุ่นพี่เฉิน เจ้าพูดอะไร ข้าจะเอาเงินเจ้าได้ไง ! เอาไปเลยหนึ่งขวด ข้าจะเอามาให้เจ้าเอง  !” - จางเทีย โบกมือและพูดอย่างใจกว้าง

รุ่นพี่เฉิน ยิ้มออกมาและรอยย่นที่หน้าก็หายไป – “ ดี ข้าจะเอาขวดหนึ่ง ! “

หลังจากที่พูดจบ  รุ่นพี่เฉิน ก็ขึ้นไปชั้นบนเพื่อเอาขวด

“ จางเทีย เครื่องดื่มนี่มันอะไรกัน ?” – ซูเวงเจียง ถามออกมาด้วยความสงสัย

“ พวกมันหมักด้วยผลไม้หลายอย่างด้วยวิธีที่เป็นความลับ ! “

จางเทีย รู้ว่านี่คือผลของยีสต์พลังงาน การหมักนั้นไม่ได้ใช้เงินมากเท่าไหร่ ใครก็ตามก็สามารถเชี่ยวชาญมันได้ถ้าบอกไปรอบหนึ่ง

แต่ถ้า จางเทีย บอก ซูเวงเจียง ว่านี่คือผลของยีสต์ พวกนี้อาจจะลองหมักด้วยตัวเอง ถ้าพวกเขาไม่ได้ผลที่เหมือนกัน พวกนั้นต้องโทษเขาที่โกหกพวกนั้นแน่

ดังนั้นแล้วเขาคิดว่าจะดีกว่าถ้าบอกว่าเป็นความรู้ลึกลับเพื่อให้พวกนั้นรู้ว่ามันทำได้ง่าย มันจะช่วยแก้ปัญหาหลายอย่างให้เขาในอนาคต ไม่ว่ายังไงก็ตามยีสต์พลังน่ะก็เกือบเหมือนความรู้ลึกลับ  จางเทีย ไม่คิดที่จะแบ่งมันกับใครด้วย

เมื่อได้ยินคำพูดของ จางเทีย  ซูเวงเจียง ไม่ได้แสดงสีหน้าแปลกๆออกมา  พวกเขาต่างเหมือนกับว่าคิดเอาไว้แล้วเพราะมันคือความรู้ลึกลับ คนอื่นคงรู้สึกอายถ้าจะถามเรื่องวิธีการหมัก

ในตอนที่พวกเขาขึ้นไปชั้นบน รุ่นพี่เฉิน ก็ได้ส่งขวดสีเงินซึ่งจุดได้กว่า 300 มล.มาให้

หลังจากที่รับขวดมา จางเทีย ก็ออกจากปราสาทนั่น

ก็อย่างเช่นเคย หลังจากที่ออกจากที่นั่นมาแล้ว จางเทีย ได้ไปที่ตลาดปลาใกล้ๆกับท่าเรือและใช้เงิน 10 เงินในการซื้อปลาเกล็ดทรายและปล่อยพวกมัน

ในหลายเดือนที่ผ่านมา จางเทีย มาที่นี่เกือบทุกวัน พ่อค้าต่างก็คุ้นเคยกับเขา  อีกอย่างแล้วเพราะ จางเทีย น่ะใจกว้างไม่ต่อราคา พ่อค้าหลายคนจึงเก็บปลาให้กับ จางเทีย ทุกวัน

ในตอนที่ จางเทีย ปล่อยปลาถังสุดท้ายและมองพวกมันว่ายออกไป  จางเทีย ก็รู้สึกถึงความพอใจที่ไม่อาจอธิบายได้ก่อตัวขึ้นมา ก่อนหน้านี้เขาได้ปล่อยปลาเพื่อที่จะกินผลไม้แต่ตอนนี้มันกลับเป็นความยินดีขึ้นมาแทน

นี่คือความสุขที่ไม่อาจหาอะไรมาเทียบได้

แต่ละครั้ง จางเทีย รู้สึกได้ถึงความดีใจของปลาเหล่านั้น ความพอใจที่ได้กลับไปเกิดใหม่ใช้ชีวิตในทะเล ด้วยการได้รับผลจากความรู้สึกเหล่านั้น จางเทีย รู้สึกว่าแต่ละครั้งที่เขาปล่อยปลา เขาน่ะเหมือนกับปลดปล่อยความรู้สึกแปลกๆที่ตัวเองมีออกมา

ปลาบางตัวไม่ได้ว่ายหนีไป มันกลับว่ายวนไปวนมาราวกับแสดงความขอบคุณให้กับ จางเทีย ซึ่งทำให้เขาทึ่ง

“ หือ ? ข้าไม่คิดเลยว่าสิ่งมีชีวิตเล็กๆจะว่ายวนแบบนี้ ! “

เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากข้างๆ จางเทีย หันกลับไปและพบกับชายชรานั่งยองๆอยู่ข้างๆเขา

ชายชรานี้ดูเหมือนขอทาน ผมเผ้ารกรุงรังและมีหนวดที่ใบหน้าสกปรกจากที่มองไปแล้ว จางเทีย ไม่อาจจะบอกอายุจริงๆของอีกฝ่ายได้

“ ไอ้หนู ทำไมปลามันถึงว่ายวน ?”  - ชายชรามองมาที่ จางเทีย และถามออกมา

เมื่อได้ยินคำถามนั้น จางเทีย ก็อึ้งเพราะเขาไม่รู้ว่าจะตอบยังไง หลังจากที่คิดสักพักแล้ว จางเทีย ก็ได้ตอบกลับ – “ พวกมันอาจจะมีความสุขกับการได้กลับบ้าน ! “

“ กลับบ้าน ? “ – เมื่อได้ยินคำอธิบายของ จางเทีย  ชายชราก็ตาเป็นประกายขึ้นมา

“ กลับบ้าน...กลับบ้าน...บ้านข้าอยู่ไหนกัน ? อ๊าก ทำไมข้าถึงไม่มีบ้าน...ปลายังมีบ้านแต่ทำไมข้าถึงไม่มีบ้าน ? ข้าน่ะเทียบมันไม่ได้ได้ยังไง ...บ้านข้าอยู่ไหน ? ข้าจำบ้านข้าไม่ได้ อ๊ากก.. “ - ชายชราเริ่มร้องออกมาและเอามือกุมหัว หลังจากนั้นเขาได้ยืนขึ้นและหันกลับก่อนจะวิ่งหนีไปอย่างกับคนบ้า

‘ ต้องมีอะไรผิดปกติกับสมองเขาแน่ น่าสงสารจริงๆเลย ! ‘ จางเทีย ส่ายหน้า  เขาได้กลับไปที่ตลาดเพื่อเอาถังไม้ไปคืน

หลังจากที่ออกจากท่าเรือแล้ว จางเทีย ไม่ได้กลับไปที่วังมังกรลับ เขากลับเดินไปยังเมืองมังกรขาวแทน

ในตอนที่เขาไปถึง มันก็มืดสนิทแล้ว

เทียบกับเมืองอื่นรอบๆถ้ำมังกร  เมืองนี้ดูคึกคักกว่าเพราะคนกว่าครึ่งของเกาะนั้นอยู่ที่นี่

จางเทีย ไม่คิดว่าน้ำหมักของเขาคนอื่นจะรู้ถึงผลของมัน เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วเขาก็ต้องหาทางรับมือกับมัน

เพราะเขาพักอยู่ที่ศาลาซองเตาในแผนกทำลายสวรรค์ เขาคงซ่อนของมากมายในห้องไม่ได้ ถ้าพวกนั้นไปหาน้ำหมักในห้องของเขา เขาคงแก้ตัวกับพวกนั้นได้ไม่ง่าย ถ้าเป็นแบบนั้นความลับของ Castle of Black Iron คงจะถูกเปิดเผยในไม่ช้า

เพราะเขาเป็นคนคิดรอบด้าน แน่นอนว่า จางเทีย จะรู้ถึงช่องโหว่ ตอนนี้เขาได้หมักน้ำหมักนั่นด้วยตัวเอง อย่างน้อยเขาก็ควรที่จะทำไว้บ้าง  ไม่ว่ายังไงก็ตามเขาก็จะอยู่ที่วังมังกรลับอีกนาน ไม่มีใครรู้ว่าเขาจะหมักมันเมื่อไหร่

หลังจากที่วนรอบเมืองแล้ว จางเทีย ก็มีแผน

เขาไปที่ร้านไม้และถังไม้ราคา 2 เงินก่อนจะซื้อสารละลายบรรจุได้ 20-30 กก.ด้วยเงิน 10 ทองแดง จากนั้นเขาก็ได้ไปที่ห่างไกลคนและได้เอาสารละลายใส่ในถังไม้ก่อนจะกลับไปที่วังมังกรลับพร้อมกับถังไม้นั่น

มันดูเหมือนง่ายกว่าเขาที่จะเอาสารละลายนี้เข้าไปใน Castle of Black Iron แต่ จางเทีย ไม่ต้องการที่จะเปิดเผยมันออกมา ดังนั้นแล้วเขาก็ต้องสนใจในทุกรายละเอียด

ถ้ามีคนเห็นเขาทำสารละลายหายไปล่ะ ?

เพราะรายละเอียดพวกนี้มันส่งผลต่อผลลัพธ์ มันไม่ได้แย่ที่จะระวังขึ้นอีกนิด มันมีเหตุผลที่เขาจะเอามันใส่ลงไปในถังไม้ แม้ว่าคนอื่นจะเห็นแต่พวกนั้นก็ไม่สามารถที่จะมองทะลุถังไม้ได้

ในตอนที่ จางเทีย ออกจากเมือง อยู่ๆประตูตรงถนนก็ได้เปิดออกและมีคนที่ถูกโยนออกมา

“ ไอ้ขอทานนี่ นี่คือแมนชั่นเจาในเมืองมังกรขาว มันไม่ใช่บ้านของแก อย่ามาหาญาติที่นี่อีก ข้าเห็นคนโกหกมาหลายครั้งแล้ว  พวกเราไม่มีญาติแบบแกหรอก  ออกไปจากที่นี่ซะ ! “

บริกรชี้ไปยังชายที่โดนโยนออกมาและด่าเขา หลังจากนั้นบริกรก็ได้มองไปที่พนักงานคนอื่น – “ พวกเจ้าทำอะไรอยู่ ? ตาบอดรึไง ? พวกเจ้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าขอทานนี่เข้ามาตอนไหน  ไอ้บ้านี่บอกว่าแมนชั่นเจาน่ะคือบ้านของมันและแอบไปที่ห้องนอนทิศตะวันตกก่อนที่พนักงานผู้หญิงจะเห็นมันเข้า พวกเจ้าโดนหักเงินครึ่งเดือน ! “

พนักงานพากันสลดอย่ามาก หลังจากที่บริกรได้กลับเข้าไป พนักงานสองคนหงุดหงิดและวิ่งไปที่ขอทานที่ซึ่งนอนอยู่กับพื้นเพื่อต้องการที่จะอัดก่อนที่จะถูกพนักงานอีกสองคนห้ามเอาไว้

“ ใจเย็น ขอทานนี่ผอมอยู่แล้ว ถ้าเจ้าอัดเขาจนตายนอกประตู มันจะมีปัญหาอีกเยอะ ! “

“บ้าเอ้ย เราอยู่ที่นี่มาทั้งวันแต่เรากลับไม่เห็นว่าเขาเข้ามายังไง ! “ – พนักงานคนหนึ่งด่าออกมาและหยุดจะวิ่งเข้าไปตีขอทาน

“ ข้าบอกเจ้าแล้วว่าประตูหมาตรงนั้นมันใหญ่เกินไป เราต้องทำให้มันเล็กลงกว่านี้ ! “

พนักงานเดินไปที่ประตูก่อนที่จะปิดมัน

เมื่อขอทานโดนโยนออกมาข้างถนน เขาดูเสียใจอย่างมาก เขาดึงผมตัวเองและพึมพำ – “ บ้านข้าอยู่ไหน ...แมนชั่นนี้ไม่ใช่บ้านข้าเหรอ ? ครอบครัวข้าหายไปได้ไง...อ๊าก ! “

จางเทีย เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เขาไม่คิดว่าจะได้เจอกับขอทานที่นี่อีก

เมื่อเห็นขอทานนั่งอยู่ข้างถนนคนเดียวโดยที่ไม่รู้ว่าบ้านตัวเองอยู่ไหน  จางเทีย ก็อยากจะร้องไห้ เขาเดินไปหาอีกฝ่ายและดึงกระเป๋าเงินออกมาให้กับชายชรา  ในนั้นมีเงิน 2 ทองและอีกหลายสิบเงินและกว่า 10 ทองแดง

ตอนแรก จางเทีย ต้องการจะเก็บเงินไว้บ้างแต่เมื่อเห็นท่าทีของอีกฝ่าย  จางเทีย ก็ไปนั่งยองๆตรงหน้าและเอากระเป๋าตังใส่มือชายชราไว้

แม้ว่าชายชราจะถือกระเป๋าตังอยู่แต่เขาก็ยังคงพึมพำแบบไม่ได้สติ  เมื่อเห็นแบบนั้น จางเทีย ก็ได้เทเงินลงไปในมืออีกฝ่ายโดยตรง

หลังจากที่ทำแบบนั้น จางเทีย ก็ลุกขึ้นแล้วแอบถอนหายใจออกมา เขามองไปที่อีกฝ่ายสองครั้งก่อนจะกลับไปยังวังมังกรลับ

หลังจากที่กลับห้องตัวเองแล้ว จางเทีย ก็เปิดถังไม้และเอาสารละลายออก เขาล้างถังด้วยน้ำก่อนที่จะขนมันไปที่ห้องบ่มเพาะ ในตอนที่ทำสมาธิอยู่  ไม่นาน จางเทีย ก็เติมถังด้วยน้ำ 2 ใน 3 ส่วนในเวลากว่า 10 วินาที

กลิ่นหอมของสารละลายใหม่คลุ้งออกมา  จางเทีย ตบมือและปิดถัง ตอนนนี้เขาอธิบายได้แล้วว่านี่คือสิ่งที่เขาหมักตั้งแต่ที่เข้ามาในวังมังกรลับ เขากินไป 1/3 และเหลือ 2/3 ข้างใน

หลังจากที่เติมขวดของ รุ่นพี่เฉิน และขวดของตัวเองแล้ว จางเทีย ก็มองไปยังของเหลวก่อนจะมีความคิดหนึ่งขึ้นมา ‘ ข้าทำเงินจากมันได้มั้ย ? ถ้าข้าทำเงินจากมันได้ ข้าก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการอยู่ที่วังมังกรลับอีกต่อไป ! บางที...ข้าอาจจะลองดูได้ ..บังเอิญว่า รุ่นพี่เฉิน และคนอื่นๆได้ลองผลของมันแล้วด้วย .. ‘

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.