spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

บทที่ 388: การตัดผ่านระดับของหลงยู่ซื่อ

หลิวเวิงไคซื่อสัตย์และภักดี ในขณะที่เทียนฮงเป็นคนดีและซื่อสัตย์ เมื่อสองคนที่ซื่อสัตย์อยู่ด้วยกันมันทำให้เห็นภาพที่ค่อนข้างน่าสนใจ พวกเขาเข้ากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ

หลังจากดื่มไปสองสามสามแก้ว เทียนฮงก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่างและตบต้นขาของตัวเอง "ลูกพี่ ข้าเกือบลืม. ข้ามาเพื่อเตือนให้ท่านรีบย้าย ถ้าท่านพลาดเวลาย้ายออกและคนอื่นย้ายเข้ามาในเวลาที่ท่านยังอยู่ ถ้าเขานำเรื่องท่านไปฟ้องท่านอาจโดนหักคะแนนได้"

เจี้ยงเฉินยิ้ม "ไม่ต้องกังวล เขาไม่ฟ้องเราแน่"

"ท่านจะรู้ได้อย่างไร? ท่านยังไม่เคยเจอพวกเขา " เทียนฮงระแวง

"ฮ่า ๆ ใครบอกว่าข้ายังไม่เคยเจอ? สิ่งที่ดูเหมือนว่าไกลออกไปบางทีมันก็อยู่ใกล้ ๆ หลิวเวิงไคคือผู้ชนะเลิศของพื้นที่ส่วนปฐพีและได้รับมอบหมายให้อยู่บ้านเลขที่ 91 เวิงไค เจ้าจะไปรายงานเรื่องของข้าหรือไม่? "

หลิวเวิงไคเริ่มหัวเราะ

เทียนฮงหยุดชั่วคราวและตระหนักว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นที่นี่ เขาหัวเราะอย่างโง่งมและเกาผมตัวเอง "สมองของข้าเพิ่งใช้การได้ ฮ่าฮ่า ลูกพี่ ท่านมาที่นี่ในฐานะผู้ชนะเลิศของพื้นที่ส่วนปฐพี และตอนนี้เวิงไคก็เป็นผู้ชนะเลิศคนใหม่ของพื้นที่ส่วนปฐพี นี่เป็นมรดกของการแข่งขันชิงแชมป์ ! "

ทุกคนระเบิดหัวเราะออกมา

"เวิงไคแข็งแกร่งจริง ๆ เทียนฮง เจ้าควรจะซ้อมต่อสู้กับเขาทุกวันถ้าเจ้ามีโอกาส " เจี้ยงเฉินคำนวณแล้วมองไปยังเทียนฮง

เป็นการจ้องมองทำให้เทียนฮงขนลุก "ลูกพี่ ข้าไม่ใช่ลูกไก่ ท่านกำลังตรวจสอบข้าเพื่ออะไร?"

เจี้ยงเฉินไม่ให้ความสนใจกับเขาและเพิ่งตรวจสอบเขาเป็นเวลานานและพยักหน้า "เทียนฮง ร่างของเจ้าสูงและกำยำ จริง ๆ แล้วเจ้าควรมีมรดกสายเลือดที่น่าสนใจอยู่เช่นกัน น่าเสียดายที่เจ้าไม่ได้รับทรัพยากรที่ดีที่สุดจากนิกายพฤกษาสวรรค์ เวิงไค จำเลือดสัตว์ที่ข้าให้เจ้าครั้งก่อนได้มั้ย? "

เสียงของหลิวเวิงไคเปลี่ยนไปเป็นเสียงเคร่งขรึมเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขาพูดว่า "ศิษย์พี่ภูผา เลือดจากสัตว์ร้ายนั้นทำให้ข้าเกิดใหม่ ข้าจะลืมได้อย่างไร? "

“อืม เทียนฮงก็เป็นพี่น้องของข้าและข้าต้องทำดีกับเขาให้มาก ข้าตั้งใจว่าจะให้เลือดเขาสักขวด แต่เขาไม่ได้มีวิธีการของนิกายของเจ้าและมีแนวโน้มที่จะขาดความรู้บางอย่างในการปรับแต่งเลือดของสัตว์วิญญาณ ข้าอยากให้เจ้าให้คำแนะนำแก่เขาและช่วยให้เขาปรับแต่งเลือด "

เทียนฮงอ้ำอึ้ง "ลูกพี่ เลือดสัตว์อะไรกันรึ?"

เจี้ยงเฉินจ้องเงียบ ๆ แสงกระพริบผ่านสายตาของเขาขณะที่พูดด้วยเสียงต่ำว่า "ไม่มีคนอื่นยู่ที่นี่ ข้าจะไม่มีความลับกับพวกเจ้า เลือดนั้นเป็นเลือดของสัตว์วิญญาณระดับเซียน "

"อะไรกัน?!" หลิวเวิงไคตัวสั่น สายตาของเขาเต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจ

เขาเดาไปว่าสัตว์ตัวนี้น่าจะอยู่ที่จุดสูงสุดของอาณาจักรปราณจิตวิญญาณ เขาไม่เคยคิดเลยว่านี่จะเป็นเลือดของสัตว์ระดับเซียน ! "

เทียนฮงรู้สึกมึนงง มันเป็นความคิดไม่สามารถอธิบายได้ อย่างไรก็ตามเขารู้ดีว่าสัตว์วิญญาณระดับเซียนหมายถึงอะไร

"ไม่จำเป็นต้องตกอกตกใจไป" เจี้ยงเฉินโบกมือให้กับปฏิกิริยาที่เกินจริงของพวกเขา "เวิงไค เจ้าคิดว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือ?"

หลิวเวิงไคกล่าวด้วยความเฉลียวฉลาดว่า "พวกเราเป็นพี่น้องกันที่นี่ เรื่องเล็กน้อยเหล่านี้จะไปสร้างปัญหาอะไรได้? ไม่ต้องพูดถึงว่าการปรับแต่งเลือดสัตว์ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับความลับของนิกาย"

เทียนฮงเกาศีรษะของเขา " ลูกพี่ ... "

"เทียนฮง เพื่อวาดภาพที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เจ้าควรจะสร้างร่างใหม่อย่างสมบูรณ์แบบเช่นเดียวกับเวิงไค ผลลัพธ์ที่น้อยที่สุดของมันก็จะเพียงพอที่จะเปลี่ยนศักยภาพของเจ้าและขจัดสิ่งสกปรกภายในร่างกายของเจ้าซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในเต๋าศิลปะการต่อสู้ของเจ้าได้ นี่คือสิ่งที่ไม่มีโอสถชนิดไหนของนิกายพฤกษาสวรรค์ซึ่งสามารถทำได้ "

เทียนฮงพยักหน้าแข็งทื่อดูเหมือนจะเข้าใจคำพูดของเจี้ยงเฉิน เขารู้ดีว่าเจี้ยงเฉินพูดถึงเรื่องใหญ่แต่เขาไม่ค่อยเข้าใจ

เจี้ยงเฉินทำให้เข้าใจปัญหาได้ชัดเจนมากขึ้น "ข้าจะอธิบายให้ฟัง ข้าได้พบกับหลิวเวิงไคในพื้นที่ส่วนลึกลับและกลายเป็นเพื่อนกับเขาในพื้นที่ส่วนปฐพี ในพื้นที่ส่วนปฐพี เขากังวลว่าการบ่มเพาะของเขาไม่เพียงพอ และมันจะส่งผลต่อเขา แต่ตอนนี้เขามาถึงพื้นที่ส่วนนภาด้วยแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่ ความคืบหน้าทั้งหมดเกิดขึ้นภายในสามเดือน เทียนฮง บอกข้ามาว่าเจ้าคิดว่าความแข็งแกร่งระดับเวิงไคจะถูกจัดอยู่ในอันดับที่เท่าไหร่ในพื้นที่ส่วนนภา"

เทียนฮงคิดอยู่ครู่หนึ่ง "เวิงไคยังแข็งแกร่งไม่เท่าข้าก็จริง แต่ข้าคิดว่าเขาน่าจะอยู่ในสามสิบอันดับต้น ๆ "

เจี้ยงเฉินยิ้ม "ข้าจะเดิมพันว่าเขาจะเข้ารอบ 16 คนภายในสามเดือน และจะก้าวหน้าสูงกว่านั้นอีก !"

"แข็งแกร่งขนาดนั้นเลยหรือ?" เทียนฮงไม่อยากจะเชื่อในขณะที่เขาเอียงศีรษะและจ้องมองหลิวเวิงไคด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยข้อสงสัย

"เทียนฮง เจ้าต้องเชื่อว่าทุกคนมีทางของตัวเอง เวิงไคค้นพบเส้นทางของเขาแล้ว และข้าหวังว่าเจ้าจะพบเส้นทางของเจ้าเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ "

เจี้ยงเฉินปลุกระดมเขา "พลังของเจ้าตอนนี้แข็งแกร่งกว่าเวิงไค แต่ศักยภาพของเวิงไคสูงกว่าคนรุ่นเดียวกันมาก เขาสามารถยืนอยู่ท่ามกลางอัจฉริยะที่โดดเด่นได้อย่างมั่นใจ ศักยภาพของเจ้าก็ค่อนข้างดี แต่ข้ารู้สึกว่าเจ้าเป็นสมบัติที่ถูกฝังที่ยังไม่สามารถขุดขึ้นมาได้อย่างสมบูรณ์ "

เจี้ยงเฉินหยิบขวดเลือดกิ้งก่าเพลิงออกมา

"เจ้าต้องปรับแต่งเลือดสัตว์ระดับเซียน เจ้าควรปรึกษาเวิงไคว่าวิธีใดที่ดีที่สุดในการดูดซับมัน เขาเป็นสาวกของนิกายจิตมหัศจรรย์ เขามีความรู้กว้างขวางเกี่ยวกับด้านนี้ "

เขารู้ว่านี่เป็นเหตุการณ์ที่เป็นโชคลาภอย่างมหาศาลในขณะที่เขารับเลือดสัตว์วิญญาณ เขาพูดกับหลิวเวิงไค "เวิงไค ไม่ใช่ว่าข้าไม่ไว้วางใจในพลังของเจ้า แต่ข้าอยากดูว่าเลือดจากสัตว์วิญญาณยี้ร้ายแรงขนาดไหน ฮ่าฮ่า ถ้าข้าเป็นเช่นเจ้าได้ แสดงว่าข้าประสบความสำเร็จ ! ข้าจะเหยียบอัจฉริยะขี้อวดให้จมดินไปเลย ! "

เทียนฮงรังเกียจอัจฉริยะชั้นแนวหน้าของนิกายมาก

"เทียนฮง เวิงไคช่วยเจ้า เจ้าก็ต้องมีค่าตอบแทน เจ้าต้องช่วยให้เขาคุ้นเคยกับพื้นที่ส่วนนภาโดยเร็วที่สุด ไปล่าคะแนนเป็นเพื่อนเขาและอย่างน้อยช่วยให้เขาเข้ารอบ 64 คนสุดท้าย "

เทียนฮงพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น "ฮ่าฮ่า ไม่มีปัญหาเลย เวิงไคมาสิ ! ไปนั่งพักที่บ้านข้าก่อน "

เจี้ยงเฉินยังกล่าวอีกว่า "เฮ้ เวิงไค บ้านหลังนี้เป็นของเจ้าแล้ว ข้าจะไปดูบ้านใหม่ของตัวเอง "

คะแนนของเจี้ยงเฉินเพิ่มมากขึ้นอย่างเฉลียวฉลาดในรอบที่ผ่านมาและเขาก็ทำคะแนนได้จนไปถึงลำดับที่ 8 ดังนั้นบ้านพักของเขาตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วยเช่นกัน

........

สิ่งที่เขาไม่เคยคาดไว้คือหลิวเวิงไคและเทียนฮงรู้สึกเหมือนเพื่อนเก่าตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน และพวกเขาก็กลายเป็นเพื่อนสนิทที่สุดหลังจากผ่านไปไม่กี่วัน

หลิวเวิงไคช่วยเทียนฮงปรับแต่งเลือดสัตว์ร้ายและเทียนฮงก็ช่วยเขาล่าคะแนน ความร่วมมือที่ราบรื่นของพวกเขากลายเป็นฉากใหม่ในพื้นที่ส่วนนภา

การเปลี่ยนแปลงของเทียนฮงไม่ได้น่าตกใจเหมือนหลิวเวิงไคหลังจากปรับแต่งเลือดจากสัตว์ร้าย มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างน่าทึ่ง

มันเริ่มจากร่างกายของเขา

เดิมทีเขาตัวใหญ่และแข็งแกร่งอยู่แล้ว มีหลังเหมือนเสือและเอวเหมือนหมี ตอนนี้ร่างของเขาก็ยิ่งโตขึ้น แข็งแกร่งยิ่งขึ้นหลังจากปรับแต่งเลือดสัตว์ร้าย กล้ามเนื้อของเขาดูราวกับว่าพวกเขาถูกเคลือบของเหลวสีทองเหลือง ทำให้คนที่มองรู้สึกว่ามันระเบิดได้

การปรับแต่งเลือดของสัตว์ร้ายทำให้เทียนฮงสามารถเพิ่มร่องรอยแห่งความงามของป่าซึ่งแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนบนโครงร่างของเขา

หลิวเวิงไคยังต้องถอนหายใจ "เทียนฮง เจ้าไม่ควรเป็นสาวกของนิกายพฤกษาสวรรค์ เจ้าดูคล้ายกับพวกเรามากกว่า "

ความดุร้ายที่ร่างกายของเทียนฮงแสดงออกมานั้นเป็นสิ่งที่หลิวเวิงไคที่ไม่ค่อยเห็นแม้แต่ในสาวกของนิกายจิตมหัศจรรย์

สำหรับเจี้ยงเฉิน เขาปรารถนาอย่างสุดซึ้งว่าวันนี้เขาจะแบ่งออกเป็นสองส่วนเพื่อใช้ประโยชน์ได้

การปรับแต่งหัวใจของนกกาเหว่าไฟเป็นงานที่ยิ่งใหญ่

ดีที่เจี้ยงเฉินมีความรู้และวิธีการมากมายที่ช่วยให้เขาสามารถค่อย ๆ ดำเนินแผนการได้อย่างช้า ๆ และเป็นรูปธรรม

เขาประสบความสำเร็จในการตัดผ่านอาณาจักรปราณจิตวิญญาณที่ 6 ในสามวันหลังจากที่หลิวเวิงไคเข้ามาในพื้นที่ส่วนนภา

อย่างไรก็ตามระดับที่ 6 ไม่เพียงพอที่จะตอบสนองเจี้ยงเฉิน เป้าหมายของเขาคือระดับที่เจ็ดซึ่งเป็นอาณาจักรปราณจิตวิญญาณนภา !

หัวใจนกกาเหว่าไฟเก็บพลังของการฝึกฝนบ่มเพาะของนกกาเหว่าไฟไว้ทั้งชีวิต พลังวิญญาณมากมายไกลเกินกว่าความคาดหวังของเจี้ยงเฉิน

เจียงเฉินมีแนวทางและวิธีการปรับแต่งมากมายเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะเสียพลังวิญญาณให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เขาใช้ประโยชน์จากทุกส่วนของสัตว์วิญญาณ

เป็นสิ่งที่ดีที่แผนปราบปรามเจี้ยงเฉินของเล่ยกงหยุนหยุดชะงักอย่างสิ้นเชิงพร้อมกับการเกิดอุบัติเหตุค่ายกลแตก

ไม่มีใครมีเวลาว่างสำหรับเรื่องแบบนั้น

เมื่อเวลาผ่านไป ความสำคัญของเรื่องอื่นจะลดลงเรื่อย ๆ หลังจากนั้นแทบไม่มีใครที่จะสนเรื่องปราบปรามเจี้ยงเฉินเลย

อย่างไรก็ตามหลงยู่ซื่อเป็นข้อยกเว้น

วันนั้นในบ้านพักของนางแสงสว่างอันงดงามพุ่งทะลุเมฆตามมาด้วยเสียงร้องของร่างฟีนิกซ์

ดวงตาที่สวยงามของหลงยู่ซื่อเปิดกว้างเต็มไปด้วยความมั่นใจที่ว่า "ข้าคนเดียวที่ได้ครอบครองสวรรค์และโลกนี้"

ทันใดนั้นเองแสงสว่างได้ล้อมรอบหลงยู่ซื่อ แสงสว่างเหมือนกับควันและมีคลุมเครือเหมือนหมอกทำให้คนที่มองรู้สึกหวาดกลัว

ความเรืองแสงเปลี่ยนเป็นรูปแบบของลมอากาศมหัศจรรย์ ทะยานและโฉบเหนือศีรษะของนางราวกับฟีนิกซ์สีฟ้า

"นี่คืออาณาจักรปราณจิตวิญญาณนภาหรือ?" หลงยู่ซื่อค่อย ๆ สูดลมหายใจที่เน่าเหม็นออกจากช่องอากาศที่เต็มไปด้วยลมหายใจขณะที่ท่าทางการกระทำทั้งหมดของนางเปลี่ยนไป

ดวงตาของนางเยือกเย็นมากขึ้นขณะเดียวกันท่าทางของนางก็หยิ่งมากไปด้วยเช่นกัน

มีพลังอันแข็งแกร่งในดวงตาฟีนิกซ์ของนาง ราวกับว่านางทำให้คนแข็งตายได้ทันที

อาณาจักรปราณจิตวิญญาณนภา !

เมื่อร่างฟีนิกซ์ของหลงยู่ซื่อส่งเสียงดังก้องไปทั่วทั้งพื้นที่ส่วนนภา มันรบกวนผู้เข้าแข่งขันจำนวนมากที่กำลังฝึกฝนบ่มเพาะ

เมื่อมองไปที่แหล่งกำเนิดเสียง พวกเขาเห็นคลื่นพลังเยือกแข็งและแสงสว่างที่ทะยานขึ้นสู่ดวงดาว ทะยานขึ้นสูง กว่าพื้นดินถึง ลี้

“อืม ? พลังวิญญาณที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า นี่คือแสงของคนที่ตัดผ่านอาณาจักรปราณจิตวิญญาณนภา ! " เช่อหยุนหยุนจากนิกายวายุคลั่งพึมพำอย่างนุ่มนวลกับตัวเองขณะที่นางจ้องไปยังลำแสงนั้น

"ทิศทางนั้นมีเสียงดังชัดเจน มันอาจเป็นไปได้ว่าหลงยู่ซื่อจากนิกายตะวันม่วงได้ตัดผ่าน? " อัจฉริยะหมายเลขหนึ่งเล่าซี่ในสายตาของเขาดูเคร่งเครียด เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ

เหลียนคังไห่จากนิกายพฤกษาสวรรค์มีสีหน้าตกใจบนใบหน้าผอมแห้ง "อาณาจักรปราณจิตวิญญาณนภาคนที่ 2 เกิดขึ้นในนิกายตะวันม่วง นี่คือนิกายที่ถูกลิขิตให้เรียกร้องความรุ่งโรจน์ทั้งหมดในการคัดเลือกครั้งนี้หรือ "

เล่ยกงหยุนเฝ้าดูความงดงามอันเยือกเย็นที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า เขามีท่าทีกดดันมากอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน กล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขายังกระตุกเล็กน้อย

"หลงยู่ซื่อ ถึงเจ้าจะตัดผ่านเข้าสู่อาณาจักรปราณจิตวิญญาณนภา เจ้าต้องเอาชนะข้าให้ได้ก่อนถ้าเจ้าต้องการให้ข้ายกตำแหน่งอัจฉริยะหมายเลข 1 ของนิกายให้กับเจ้า !"

เสี่ยงชี่ลูกศิษย์คนแรกภายใต้หัวหน้าชูหยู่รู้สึกหดหู่และเสียใจ "ร่างฟีนิกซ์สวรรค์ ทรัพยากรของนิกายที่ดีที่สุดและโชคลาภที่ดีที่สุด ข้าติดตามท่านอาจารย์มาหลายปีแล้วแต่ถูกผู้หญิงคนนี้แทนที่ภายในเวลาคืนเดียว  เส้นทางของเต๋าศิลปะการต่อสู้ช่างโหดเหี้ยมจริง ๆ "

เจี้ยงเฉินยืนอยู่ในบ้านพักของเขา เขาเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเขาเห็นความวุ่นวาย "นางหญิงชั่ว หลงยู่ซื่อ นางกำลังโอ้อวดพลังของตัวเอง นางพยายามที่จะทำให้อัจฉริยะคนอื่นกลัวใช่มั้ย? "

เจี้ยงเฉินรู้อย่างเป็นธรรมชาติว่าการแสดงดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นขณะที่กำลังตัดผ่านเข้าไปในอาณาจักรปราณจิตวิญญาณนภา ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่หลงยู่ซื่อจงใจแสดงมันออกมา

เป้าหมายของนางชัดเจนอยู่แล้ว