หน้าแรก > Castle of Black Iron
Chapter 296:การทะเลาะ

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

Chapter 296:การทะเลาะ

ชายป่าไผ่ได้บอกกับ จางเทีย เกี่ยวกับวิธีง่ายๆที่จะพัฒนาขั้นแรกของสายเลือดการโยนโดยบอกว่าให้ฝึกต่อไป ! การฝึกโยนด้วยหอกขนาดต่างๆกันไป !

ตอนนี้เขารู้ว่าเขาสามารถโยนหอกยาว 1.4 ม.ได้อย่างแม่นยำแล้วการโยนหอกยาว 1.3 ม.ล่ะ ? และเมื่อเขาโยนหอก 1.3 ม.ได้อย่างแม่นยำแล้วการโยนหอกยาว 1.29 ม.และ 1.28 ม.ต่อมาเรื่อยๆ...

ตราบใดที่เขาฝึกโยนหอกที่มีความยาวต่างๆกันไป แน่นอนว่า จางเทีย จะสามารถปามีด, ลูกดอก,หินรึหัวหอกซึ่งยาวแค่ไม่กี่นิ้วได้อย่างแม่นยำเหมือนกับที่เขาโยนหอก ในตอนที่เขาทำแบบนั้นได้ เขาจะเสร็จสิ้นการพัฒนาสายเลือดขั้นแรกได้

หลังจากที่รู้วิธีนี้จากชายป่าไผ่ จางเทีย ก็ได้ขบคิดเรื่องนี้อยู่นาน สำหรับคนส่วนใหญ่แล้วเพราะการโยนได้อย่างแม่นยำนั้นไม่ได้มาจากสายเลือดแต่พลังของมันนั้นขึ้นอยู่กับแรงของคนแต่เพราะความแข็งแกร่งของคนนั้นมีจำกัด ในตอนที่ถึงระยะทางระดับหนึ่งแล้ว พลังในการโยนนั้นจะเทียบไม่ได้กับหน้าไม้ดีๆ การโจมตีนั้นขึ้นอยู่กับแรงของคนที่ระเบิดออกมาส่วนพลังของหน้าไม้นั้นขึ้นอยู่กับส่วนประกอบต่างๆและแรงของคน  ทั้งสองนั้นไม่ได้มีมาตรฐานวัดเดียวกัน

‘ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่เหมาะกับคนส่วนมากแต่มันไม่ได้เหมาะกับข้า เพราะข้ามีแรงทั้งเจ็ดอยู่ซึ่งสามารถพัฒนาแรงของข้าไปจนเกินกว่าที่คนธรรมดาจะจินตนาการได้ ด้วยการที่มี Wild Wolf Seven-Strength Fruits แค่ 9 ผลในตัว ข้าก็มีแรงมากกว่าคนธรรมดาอย่างมากแล้ว แล้วถ้าข้ามี Golden Wolf Seven-Strength Fruits อีก 9 ผลล่ะ ? ไม่ต้องเดาเลยว่ามันต้องหมายถึงพลังในการโยนอย่างแม่นยำนั้นจะเหนือกว่าขีดจำกัดเพราะพลังจากผลไม้ที่เพิ่มขึ้นมา จากเรื่องนี้แล้วเมื่อข้าฝึกพัฒนาสายเลือดขั้นแรกเสร็จ นอกจากหอกแล้วข้ายังสามารถใช้อย่างอื่นที่เบากว่า,เล็กกว่าและพกพาง่ายกว่าในการโยนด้วย มันหมายความว่าของเหล่านั้นอาจไม่ได้อันตรายในสายตาคนอื่นแต่ด้วยพลังของข้าที่มีแล้ว ข้าจะไม่ใช่แค่อาวุธเคลื่อนที่ได้แต่ยังเป็นราชาอาวุธลับที่น่ากลัวที่สุดด้วย ‘

เขาคิดว่าในตอนที่เขายกมือขึ้น เขาจะทำให้คนอื่นกลัวจนหนีได้  จางเทีย รู้สึกเลือดร้อนขึ้นมาไปทั่วตัว

หลังจากที่สร้างพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตขึ้นมาได้แล้ว เป้าหมายต่อไปของเขาคือการพัฒนาสายเลือดขั้นแรกและใช้พลังนี้กับของที่เล็กกว่าเดิม

หอกที่ได้มาจากหน่วยอุปกรณ์นั้นแบ่งออกเป็น 41 กลุ่มขนาดแตกต่างกันไป แต่ละกลุ่มมีหอก 6 อัน  ความยาวก็ไล่ไปจาก 5 นิ้วซึ่งดูเหมือนลูกดอก พวกมันถูกใส่ไว้ในลังใหญ่ 3 อันหนักกว่า 1480 กก. แม้ว่าลังทั้งสามจะไม่ได้หนักเกินไปแต่ จางเทีย ก็ต้องใช้เวลาแบกพวกมันกว่าสามรอบ

ในตอนที่ จางเทีย แบกลังพวกนั้นกลับมา เขาก็ได้เจอสาวๆที่ต้องการแก้แค้นให้รุ่นน้องพวกเธอที่เขาเคยเจอเมื่อ 10 วันก่อน

มีผู้ชาย 7-8 คนอยู่ด้านหลังพวกเธอ นับๆรวมกันแล้วมีมากกว่า 10 คน ในตอนที่พวกนั้นเดินมาหา จางเทีย โดยทีคุยและหัวเราะกันอยู่ พวกนั้นชนเข้ากับเขาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จางเทีย ไม่ได้รู้สึกอยากจะคุยกับสาวๆเหล่านี้เพราะพวกนี้ทำตัวแปลกต่อ จางเทีย  อีกอย่างแล้ว จางเทีย กำลังยุ่งและไม่มีเวลามาสนใจว่าพวกเธอจะรู้สึกยังไงกับเขา

จางเทีย รู้สึกจริงๆว่าไม่มีอะไรจะต้องพูดแต่สาวๆดูเหมือนจะเกลียดเขามาก ในตอนที่ จางเทีย ยังอยู่ห่างจากสาวๆ 10 ม. พวกนั้นต่างก็มองอาฆาตมาที่เขา

“ ข้าได้ยินมาว่าเจ้าไม่ได้เลือกทักษะการเคลื่อนที่กับการป้องกันงั้นเหรอ ? “ – หนึ่งในสาวๆพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาในตอนที่มาใกล้ จางเทีย

“ ข้ามีคะแนนตระกูลไม่พอ ข้าต้องทำงานก่อน ! “ - จางเทีย ตอบอย่างใจเย็นโดยทั้งสองกลุ่มต่างก็หยุดเดิน

“ ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่เลือกวิชาเลือกต่อสู้สองอย่างนะ “

“ ช่างเถอะ ข้าไม่สนเรื่องความหวังดีของพวกเจ้าอยู่แล้ว พี่สาว ! “

‘ อะไรวะ ! อยากขู่รึไง ? ‘ จางเทีย รู้สึกว่ามันตลกเล็กน้อย ‘ สาวๆพวกนี้ซีเรียจเรื่องพวกนี้จริงๆ ! ‘

“ ฮึ่ม...ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่กลับคำพูดนะ ! “

หลังจากนั้น จางเทีย และสาวๆกลุ่มนั้นก็ไม่ได้คุยกันอีกและเดินจากไปแต่ จางเทีย ไม่คิดว่าหลังจากเดินมาได้ไม่กี่ก้าว เขาก็ได้ยินสาวๆพวกนั้นคุยกับผู้ชายซึ่งทำให้ จางเทีย ต้องหยุดทันที

“ ไอ้เด็กนั่นใช่มั้ย จางเทีย ? ข้าเสียเงินกว่า 100 ทองเพราะเขา  เขาดูไม่เห็นเก่งอะไรเลย ... “

“ นั่นแหละเขา มันแปลกอย่างมากสำหรับเขาที่สร้างพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตได้ในวันเดียว ข้าได้ยินมาว่าพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตน่ะสร้างขึ้นมาไม่ได้ถ้าไม่มีความกล้า  ข้าล่ะสงสัยจริงๆว่าทำไมเขาถึงสร้างมันได้อย่างราบรื่นแบบนั้น ! “

“ เขามีพรสวรรค์แต่เขาน่ะมีชื่อเสียงแย่ๆในหมู่สาวๆแผนกซีซิง นั่นแหละว่าทำไม เมี่ยหรู และคนอื่นๆเลยบอกให้สั่งสอนบทเรียนเขาหน่อย ! “

“ พรสวรรค์อะไร ? เขาก็แค่โชคดี... “ - เสียงแหบๆดังขึ้นมา – “ ข้าได้ยินมาว่าพ่อของเขาเป็นแค่ขยะที่เลือกที่จะแต่งงานกับผู้หญิงที่แซ่ต่างกัน ในที่สุดพ่อของเขาก็หนีไปกับผู้หญิงคนนั้น เพราะพ่อเขาเป็นขยะแล้วลูกชายจะยิ่งใหญ่ได้ไง .. “

“ รุ่นพี่ฉีกู่ ระวังคำพูดหน่อย ! “

หลังจากที่หยุดเดิน จางเทีย ก็ได้หันกลับมา  เขาได้โยนลังหนักกว่า 500 กก. ลงที่พื้น หลังจากได้ยินเสียงลังนั้นตกลงไป ในเสี้ยววินาทีพวกนั้นก็ได้หยุดเดินและหันกลับมา

จางเทีย หรี่ตาลงและมองไปที่พวกนั้นด้วยสายตาเย็นชาและพูดขึ้น – “ คนที่พูดถึงพ่อข้า ถ้าแกคุกเข่าต่อหน้าข้าแล้วขอโทษพ่อข้าสามครั้งและตบหน้าตัวเองอีก 10 ครั้ง ข้าจะถือว่าไม่เคยเกิดเรื่องนี้ขึ้น ! “

เมื่อได้ยินคำพูดของ จางเทีย สีหน้าของทุกคนก็ได้เปลี่ยนไป

“ จางเทีย เจ้า... “

ก่อนที่เด็กสาวคนหนึ่งจะได้คิ้วขมวดและพูดบางอย่างออกมา เธอก็หยุดพูดเพราะการที่ จางเทีย ได้พูดขึ้น

“ หุบปาก ! มันไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า ! “

ตอนนั้น จางเทีย แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เขาไม่ได้ใจเย็นรึดูใจดีแบบแต่ก่อน

“ รุ่นน้อง รุ่นพี่แค่พูดเล่น อย่าถือเป็นเรื่องใหญ่สิ ! “

“ พูดเล่น ? ถ้ามันด่าพ่อตัวเองได้สิบรอบแบบตะกี้ ข้าจะเชื่อ ! “

เมื่อได้ยินคำพูดของ จางเทีย คนที่พูดตะกี้ก็ไม่กล้าพูดออกมาอีก

จางเทีย มองไปที่เด็กหนุ่มในกลุ่มผู้ชายพวกนั้น – “ ใครเป็นคนพูด ? แกอยู่ไหน ? “

“ ข้าพูด แล้วไง ? “ – เด็กหนุ่มคนหนึ่งอายุประมาณ 20 ปี หน้าคล้ายลิงเดินออกมาสองก้าวและเงยหน้าขึ้นมองมาที่ จางเทีย ด้วยรอยยิ้มอันเย็นชา – “ อย่าคิดว่าแกเก่งเพราะแกสร้างพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตขึ้นมาได้ เพราะเราอยู่ในแผนก ข้าอยากทดสอบพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตของแก... “

ไม่นานหลังจากที่เขาพูด หน้าของเขาก็เปลี่ยนไป ในเวลาเดียวกัน จางเทีย ก็ได้ระเบิดสัญลักษณ์พลังฉีต่อสู้ออกมา --- ธงสีเลือด  ในพลังฉีที่แผ่ออกมานั้น แมงมุมสีทองอันน่ากลัวได้โผล่มาด้านหลัง จางเทีย อย่างกับยักษ์  ในที่สุดสัตว์ประหลาดอันน่ากลัวที่สูงพอๆกับตึกก็มองมาที่คนเหล่านั้นด้วยสายตาอันเย็นชาพร้อมกับพลังงานสีเลือดที่ลุกไหม้ราวกับเปลวไฟทำให้ทุกคนกลัว

สัญลักษณ์พลังฉีต่อสู้ของ จางเทีย นั้นน่ากลัวอย่างมากและถึงกับทำให้คนอยู่ไกลๆนั้นช็อกได้ ไม่ต้องคิดถึงคนที่ยืนอยู่ต่อหน้ามันที่ต้องกลัวกลับสนามพลังฉีและไฟที่สัญลักษณ์นั้นแผ่ออกมา

กลุ่มคนตรงข้าม จางเทีย ต้องเงยหน้าขึ้นถึงจะมองเห็นสัญลักษณ์ทั้งหมดได้ แมงมุมนั้นเหมือนกับภูเขาที่ลุกไหม้ซึ่งแสดงความหงุดหงิดของ จางเทีย ออกมาต่อหน้าทุกคน ในตอนที่พวกนั้นมองไปยังตาอันเย็นชาของแมงมุม พวกเขาก็เหมือนรู้สึกมองลงไปในนรก  ความรู้สึกมืดมิดและกลัวนั้นมากพอที่จะทำให้คนที่จิตใจอ่อนแอล้มลงไปกับพื้น

ด้วยพลังที่ จางเทีย แผ่ออกมา คนพวกนั้นต่างก็กลัวและเริ่มใช้พลังฉีต่อสู้ของตัวเองออกมาบ้าง

ส่วนมากจะมีพลังฉีต่อสู้ของระดับ 7 ซึ่งเป็นตะขาบ มีแค่ไม่กี่คนที่เป็นระดับ 8 ซึ่งแสดงออกมาเป็นราชางู  พลังฉีต่อสู้ของพวกนั้นสูง 2-5 ม. เมื่ออยู่ต่อหน้าพลังฉีต่อสู้ของ จางเทีย แล้วมันไม่ต่างอะไรกับทารกเลย มันราวกับว่าแมงมุมของ จางเทีย จะกินตะขาบและงูเหล่านั้น

พลังฉีต่อสู้ของชายที่หน้าเหมือนลิงนั้นก็เป็นของระดับ 8  เมื่อมองไปที่ จางเทีย ที่เดินมาที่เขา พลังฉีต่อสู้ของชายคนนั้นก็เริ่มสั่นไหวอย่างรุนแรงและได้แสดงสายตาแปลกๆออกมา !

“ ถอยไป.. “ – เมื่อเห็นบรรยากาศอันตรายที่เพิ่มขึ้น คนอื่นๆก็รีบถอยหลังเพื่อให้พื้นที่ทั้งสอง

เมื่อมีผู้ชายก็ต้องมีการทะเลาะกัน ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีเรื่องกันในแผนกทำลายสวรรค์ ในตอนที่พวกเขาทะเลาะกันไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยคำพูด ด้วยกฎที่มีพวกเขาสามารถจัดการมันด้วยหมัดได้  ในตอนที่มีปัญหาใหญ่เกิดจากการต่อสู้ ยกตัวอย่างเช่นมีการฆ่ากันตายรึเชื่อว่าอีกฝ่ายนั้นทำผิด มันจะถูกแก้ปัญหาโดยหน่วยวินัยของแผนกตามกฎของแผนกทำลายสรรค์

ในตอนที่คนอื่นๆนั้นถอยหลังกลับไป  จางเทีย ก็ได้โจมตีออกมา เกิดเสียงหินแตกที่ล่างเท้าของเขาพร้อมกับป่นหินนั้นให้เป็นชิ้นเล็กๆ ในเสี้ยววินาที จางเทีย พุ่งออกไปอย่างกับลูกดอกและปล่อยหมัดเข้าใส่หัวของอีกฝ่ายซึ่งมันเหมือนกับมีเสียงเสือคำรามตามสายลมมาด้วย.....

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.