spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 290: ฝันทีจะเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ
ในตอนที่เขาไปถึงหน้าเคาเตอร์ จางเทีย ก็ได้ส่งบัตรและเงิน 360 ทองที่เขาเตรียมไปให้
“ ถ้าเจ้ามีเงินพอ เจ้าควรจะส่งเงินค่าใช้จ่าย 1 ปีไปล่วงหน้าก่อน “
นี่คือสิ่งที่ จางซู บอกมาในตอนที่เขาเอาเงิน 300 ทองและ 900 ทองจาก จางไห่ ให้กับ จางเทีย
มีคนบอกว่า จางไห่ และญาตินั้นขาดทุนอย่างมากในครั้งนี้ ทั้งคู่เสียทั้งหน้าและเสียทั้งเงิน หลังจากที่จ่ายตามที่พนันแล้ว ทั้งสองคนก็ได้ออกไปทำงานหาเงินในวันเดียวกัน ช่างเป็นพี่น้องที่น่าสงสารจริงๆ
เพราะแบบนั้น จางเทีย เลยมีเงินอยู่กับตัว 1200 ทองในตอนนี้ บวกกับหนี้ของสาวๆในแผนกซีซิง แน่นอนว่า จางเทีย เป็นพวกมาใหม่ที่รวยที่สุดในแผนกทำลายสวรรค์ไปแล้ว
“ ข้ามาใหม่ ข้าต้องการจ่ายค่าใช้จ่ายล่วงหน้า 1 ปี.. “
“ เจ้าคือ จางเทีย รึเปล่า ? “ – เจ้าหน้าที่ด้านหลังเคาเตอร์มองมาที่ของของ จางเทีย และก้มหน้าลงไป เขาลดแว่นตาตัวเองลงแล้วมองมาที่ จางเทีย อย่างจริงจัง
หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นมาเมื่อวานนี้ จางเทีย รู้ว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดาในวังมังกรลับอีกต่อไป หลายคนควรที่จะได้ยินเรื่องของเขา ดังนั้น จางเทีย เลยไม่ได้แปลกใจกับท่าทีของเจ้าหน้าที่คนนี้ เขากลับพยักหน้าตอบรับ
“ เดี๋ยวนะ ให้ข้าช็อกแหล่งของเงินนี่ตั้งแต่ที่เจ้าเข้ามาในวังมังกรลับก่อน ! “
จางเทีย พยักหน้า เจ้าหน้าที่เองก็ได้ไปอีกห้องที่ จางเทีย มองไปไม่ได้ หลังจากนั้นหนึ่งนาทีเจ้าหน้าที่ก็ได้กลับมา
จางเทีย คิดว่าผู้จัดการของวังมังกรลับคงรู้ที่มาของเงินได้ง่ายๆจากการเครื่องต่างๆเกี่ยวกับความฉลาดของเด็กๆที่อยู่ที่นี่ ถ้าพวกเขาคิดไม่ออกว่าเด็กๆนั้นแอบเอาเงินเข้ามาด้วย วังมังกรลับคงจะเสียหน้าอย่างมาก
“ แหล่งที่มาของเงินถูกต้อง จ่ายล่วงหน้า 1 ปี เจ้าแน่ใจ... “
“ ข้าแน่ใจ ! “
“ ดี ! “ – หลังจากที่นับเงินแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ได้เสียบบัตรลงไปในเครื่องและทำการบางอย่าง
“ จางเทีย ส่งค่าใช้จ่ายหนึ่งปี 360 ทอง... “ – เจ้าหน้าที่ได้ส่งบัตรและกุญแจสองอันให้กับ จางเทีย – “ ห้องเจ้าเบอร์ 7 ห้องของเจ้าต้องมุ่งหน้าที่สวนในศาลซองเตา นี่กุญแจสำหรับศาลาซองเตาและห้องของเจ้า ! “
“ ขอบคุณ ! “- จางเทีย รับของมาและมองไปยังเครื่องจักรด้วยท่าทีสงสัย – “ ข้าถามได้มั้ยว่าคุณไม่ให้ใบเสร็จเหรอหลังจากที่ข้าจ่ายเงินไป แล้วข้าจะเอาอะไรมายืนยันได้ ? “
ในตอนที่เขาได้ยินคำพูดของ จางเทีย เจ้าหน้าที่ก็ตาโตและมองไปที่ จางเทีย – “ โกงเจ้างั้นเหรอ ? นอกซะจากว่าวังมังกรลับได้พังและระบบเครื่องจักรนั้นถูกทำลาย ข้อมูลของเจ้าจะอยู่ในฐานข้อมูลของเครื่องต่างๆในวังมังกรลับซึ่งไม่มีข้อผิดพลาด เจ้าไม่รู้รึไง ? “ – เมื่อพูดจบเจ้าหน้าที่คนนั้นก็หันหน้าไปตะโกนหาเจ้าหน้าที่ที่ห้องด้านหลัง – “ ฟังนะ ไอ้เด็กนี่สงสัยเรื่องเครื่องจักรของเราโดยบอกว่าจะมีข้อผิดพลาด อะไรของมันวะ.. “
ในเสี้ยววินาทีผู้อาวุโสอีกคนในห้องก็ได้มองมาที่ จางเทีย ราวกับโดนดูถูก
เมื่อเห็นว่าเขาก่อเรื่องใหญ่เข้าแล้ว จางเทีย ก็รีบขอโทษและหนีออกมา
หลังจากที่ออกจากปราสาทกลางจากประตูหลังแล้ว จางเทีย ก็ได้เข้ามาที่แผนกทำลายสวรรค์อย่างเป็นทางการ จนกระทั่งเขาได้เข้ามา จางเทีย ถึงรู้ว่าที่นี่นั้นสวยงามขนาดไหน ที่นี่นั้นห้อมล้อมไปด้วยภูเขา เทียบกับลานที่แผนกซีซิงแล้ว ที่นั่นน่ะเหมือนกับสวนเด็กเล่นไปเลย
แผนกทำลายสวรรค์นั้นมีพื้นที่หุบเขากว้างขวางและมีป่าข้างๆเนินเขาด้วย การออกแบบของที่นี่นั้นเป็นแบบจีนผสมกับตะวันตก จางเทีย เห็นศาลา, ทางเดินและห้องมากมายอยู่ทั่วทุกที่ มีน้ำตกตามภูเขาด้วย มันราวกับอยู่ในสวรรค์ น้ำที่ไหลไปมามีให้เห็นทุกที่และมีปลาที่แหวกว่ายอยู่ในน้ำเหล่านั้น ดอกไม้และต้นหญ้าก็มีอยู่ทั่วทุกที่เช่นกัน มันเป็นครั้งแรกจริงๆที่ จางเทีย ได้เห็นฉากสวยงามแบบนี้
หลังจากที่มองไปรอบๆ จางเทีย ก็ตระหนักได้ว่าขนาดของแผนกนี้เล็กกว่าเมืองที่อยู่บนเกาะเล็กน้อยเท่านั้น
ด้วยความแตกต่างจากแผนกซีซิงที่ซึ่งเงียบในตอนกลางวัน ในแผนกนี้เต็มไปด้วยผู้คนและความสวยงามมากมาย ภายใต้น้ำตก มีคนจำนวนมากกำลังฝึกดาบ ที่ด้านบนเนินเขามีกลุ่มคนจำนวนมากนั่งฝึกทักษะการหายใจ ในทางกลับกันก็มีคนจำนวนมากกำลังอ่านหนังสือและพูดคุยอยู่ข้างๆแม่น้ำและในศาลา
ทุกคนที่นี่ต่างก็ยุ่งกับการทำบางอย่าง นอกจากนั้นแล้วคนที่นี่ต่างก็รีบเดินกัน
เพราะเขตที่พักของแผนกนั้นอยู่ส่วนกลาง จางเทีย จึงหาศาลาซองเตาได้ง่ายๆ มันถือว่าเป็นธรรมเนียมของจีนที่จะสร้างตึกห้าชั้นใกล้ๆกับป่าสน
หลังจากที่เข้ามาในศาลาซองเตาโดยใช้กุญแจแล้ว จางเทีย ก็พบว่าแต่ละชั้นนั้นมี 8 ห้อง ซึ่งอยู่ตามแต่ละมุมของศาลา ห้องเบอร์เจ็ดนั้นอยู่ที่ชั้นสี่ซึ่งหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ในตอนเช้าๆ จางเทีย ไม่ได้เจอใครในศาลาเลยก่อนที่เขาจะไปถึงหน้าห้องตัวเอง เขาคิดว่าทุกคนคงไปข้างนอกกันหมดแล้ว
หลังจากที่เข้ามาในห้อง จางเทีย ก็ได้เอากระเป๋าของตัวเองลงและได้ถอนหายใจออกมา 1 ทองต่อ 1 วัน นอกจากความลำบาก,เตียงไม้ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่แย่ที่สุดในวังมังกรลับ สิ่งอื่นๆน่ะดีกว่าของในแผนกซีซิง
ข้างๆห้องนอนนั้นเป็นห้องน้ำ,ห้องอ่านหนังสือ,ห้องทำงานและห้องบ่มเพาะที่หันหน้าไปทางระเบียง มีเสาคริสตัลหนาๆที่มุมห้อง แต่ละอันน่าจะหนักกว่า 10 กก.ได้ เมื่อเขาเข้าไปในห้อง ด้วยพลังที่ได้จาก ‘ ตัวสร้างคริสตัล ‘ จางเทีย รู้สึกว่าพลังฉีต่อสู้ของเขานั้นดูมีพลังงานมากกว่าเดิม
หลังจากที่จัดแจงของต่างๆไม่กี่นาที จางเทีย ก็ได้ออกจากศาลามา
กว่า 10 นาทีต่อมา ในที่สุด จางเทีย ก็พบกับที่ที่เขาหาหลังจากที่ถามทางคนมาตลอด
นี่คือตึกเล็กๆที่อยู่ในป่าสน มันดูเล็กในบรรดาตึกใหญ่โตมากมายในแผนก ตรงหน้าตึกเล็กๆนี้มีกระดานที่เขียนเอาไว้ว่า ‘ เด็กทั้งหลายควรมีความทะเยอทะยานที่จะทำลายสวรรค์ ! ‘
ในตอนที่ จางเทีย ไปถึงที่นั่นก็มีเด็กคนหนึ่งที่เพิ่งเดินออกมาโดยท่าทีนั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจ เมื่อออกมาแล้วเด็กหนุ่มคนนนั้นได้โค้งหัวให้กับตึกนี้ก่อนจะจากไป
ชายที่อยู่ที่นี่ถือว่าเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ในแผนกทำลายสวรรค์ จางซู เรียกชายคนนี้ว่าชายป่าไผ่ แต่ละคนที่มาใหม่ที่นี่ควรจะมาหาชายคนนี้ก่อนที่จะไปเริ่มชีวิตตัวเองอย่างเป็นทางการในแผนก
มีกฎแปลกในการมาเยี่ยมชายคนนี้ ครั้งแรกสำหรับพวกที่มาใหม่นั้นจะมาหาเขาได้ฟรีๆแต่พวกเขาต้องจ่าย 100 ทองและคะแนน 100 คะแนนสำหรับครั้งที่สอง จากนั้นก็ 1000 ทองและ 1000 คะแนนสำหรับครั้งที่สาม ทุกคนสามารถมาหาเขาได้แค่ 3 ครั้งเท่านั้น
เพราะ จางเทีย ถือว่าเพิ่งมาที่นี่วันแรก ดังนั้นมันเลยฟรี
จางซู บอกกับ จางเทีย ว่าแต่ละคนที่มาหาชายคนนี้นั้นจะประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ดังนั้นแล้วเขาจึงบอกให้ จางเทีย ต้องเคารพชายคนนี้
จางซู เองก็ยังบอกให้ จางเทีย คิดเรื่องความทะเยอทะยานให้ดีและเสนอกับ จางเทีย ว่าอย่าเพิ่งไปหาชายคนนี้ก่อนที่จะคิดออกว่าเขาต้องการที่จะทำอะไรและคนแบบไหนที่เขาอยากจะเป็นเพราะไม่งั้นคงเสียโอกาสครั้งแรกไปเปล่าๆ
แน่นอน จางเทีย ไม่ได้เสียโอกาสไปเปล่าๆ คำแนะนำของญาตินั้นถือว่ายอมรับได้แต่ จางเทีย มีสิ่งที่เขาคิดและมีเป้าหมายที่เขาฝันมาตลอดในชีวิตอยู่แล้ว
ด้วยความตั้งมั่นที่มี จางเทีย ได้จัดแจงเสื้อผ้าและทำความสะอาดโคลนที่ติดรองเท้าก่อนที่จะเข้าไปยังตึกแห่งนั้น
ผู้อาวุโสที่มีปากแดงและใบหน้าเนียนขาวนอนอยูที่เตียงนุ่มๆที่อยู่ข้างๆโต๊ะ ในตอนที่เขาเห็น จางเทีย เขาก็ได้พึมพำออกมาซึ่งมันทำให้ จางเทีย ต้องอึ้ง
“ พวกแซ่จางน่าคาญอีกแล้ว.... “
“ ขอโทษที่รบกวน ! “ - ตามที่ญาติเขาบอกมา จางเทีย ได้ยิ้มและโค้งให้กับชายป่าไผ่ก่อนที่จะไปยืนอยู่ตรงหน้าโต๊ะและกุมมือ
หลังจากที่มองมาที่ จางเทีย แล้ว ชายคนนั้นก็ได้หลับตาลงสักพัก ในตอนที่เขาลืมตาขึ้นมา เขาก็ได้ถอนหายใจออกมาอีกรอบ – “ เส้นทางที่เจ้าเลือกน่ะยากเกินไป ข้ากลัวว่าไม่มีใครในวังมังกรลับและตระกูลจางสามารถช่วยเจ้าได้ แม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งในเขตนี้ก็ตาม ! “
ใจของ จางเทีย เต้นรัว ‘ ข้ายังไม่ได้เปิดปากพูดเลย เขารู้ได้ยังไง ? มันเป็นไปไม่ได้ ! ข้ายังไม่เคยบอกเรื่องความต้องการของข้าให้ใครฟัง ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ‘
“ สายเลือดชั้นสูงที่สุด 2 อันนั้นได้ตื่นขึ้นมาในตระกูลจาง ใครก็ตามที่ปลุกมันได้จะสามารถนำไปสู่การผลิตตัวอักษรรูนได้ซึ่งถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงในหมู่มนุษย์ คนส่วนมากในตระกูลจางที่มายังวังมังกรลับล้วนแต่อยากเป็นผู้ผลิตรูน ผู้เชี่ยวชาญการผลิตรูนจากตระกูลจางถือว่าเป็นอันดับหนึ่งในทวีปย่อยไว่ เจ้ารู้มั้ยว่ามีกี่คนในทวีปไว่ที่อยากเรียนรู้ถึงวิธีการผลิตของรูน ? แต่เจ้า.. “ – เขาเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย ชายป่าไผ่ได้มองมาที่ จางเทีย พร้อมกับยิ้มขมขื่นออกมา –“ ในฐานะลูกหลานโดยตรงของตระกูลจาง ชัดแล้วว่าเจ้ามีคุณสมบัติตามข้อกำหนดระดับสูงที่จะเป็นผู้ผลิตรูนได้ซึ่งคนอื่นได้แต่ฝันถึง เจ้าฝันที่จะเป็นนักเล่นแปรธาตุได้ยังไง ? ข้าไม่รู้ว่าจะด่าเจ้าว่าโง่รึชมว่าเจ้ามีความทะเยอทะยานดี ? “
จางเทีย ช็อกทันที ‘ เขารู้จริงๆด้วย.... ‘