หน้าแรก > Castle of Black Iron
Chapter 289: เข้าแผนกทำลายสวรรค์

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

Chapter 289: เข้าแผนกทำลายสวรรค์

ถ้าคุณไม่เข้าแผนกทำลายสวรรค์ คุณก็บอกไม่ได้ว่าคุณนั้นบ่มเพาะในวังมังกรลับ – นี่คือสิ่งที่ จางซู บอกกับ จางเทีย ในตอนที่พวกเขาออกจากถ้ำมังกรมาเมื่อคืนนี้

หลังจากที่กลับมาเมื่อวาน จางเทีย จำฉากวุ่นวายตอนมื้อเย็นไม่ได้อีก ในตอนที่เขาโผล่ไปที่โรงอาหารเมื่อคืน เด็กทุกคนที่รู้ว่า จางเทีย ได้สร้างพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตได้ในวันเดียวต่างก็อึ้ง สิ่งที่ทำให้วุ่นวายกว่านั้นคือรุ่นพี่หลายคนจากแผนกทำลายสวรรค์ได้แห่กันเข้ามาและตะโกน – “ จางเทีย อยู่ไหน ? จางเทีย ที่สร้างพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตกับสัญลักษณ์ที่สูงหลายสิบเมตรในวันเดียวอยู่ไหน ?  จางเทีย ที่ทำให้ทั้งเกาะช็อกน่ะอยู่ไหน ? “

ในตอนที่ผู้คนมากมายแห่กันมาที่แผนกซีซิง มันก็เริ่มเสียงดังอย่างกับตลาดแต่มันยังไม่จบแค่นั้น  ตามติดๆด้วยกลุ่มคนอีกกลุ่มจากแผนกทำลายสวรรค์ที่แห่มาจากบนภูเขา พวกหลังนั้นได้ตะโกนออกมา – “ จางเทีย อยู่ไหน ? ไอ้โกหกนั่นอยู่ไหน ? ทำไมเขาถึงสร้างพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตได้ในวันเดียว ?นี่เขาจะหลอกโกงเงินเราสินะ ? ไม่มีทาง ! เราต้องยืนยัน... “

เพื่อให้จบเรื่องนี้ จางเทีย ได้ปล่อยพลังฉีต่อสู้ของตัวเองออกมา ธงสีเลือด  ออกมาให้ทุกคนได้เห็นอีกครั้ง !

ในตอนที่แมงมุมตัวใหญ่ที่สูงกว่า 40-50 ม.ซึ่งใหญ่กว่าสัญลักษณ์ของพลังฉีต่อสู้ทั่วไปกว่า 10 เท่าได้โผล่ออกมาด้านหลัง จางเทีย  มันก็ทำให้ทั้งแผนกและทั้งโลกเหมือนกับหยุดนิ่งไป....

ทุกคนต่างก็เงยหน้าขึ้นไปมองสัญลักษณ์ด้านหลัง จางเทีย ด้วยความตะลึง,ชื่นชม,อิจฉา, กลัว, ช็อกและสับสน บ้าเอ้ย มันประหลาดจริงๆ !

แม้ว่าจะโดนบังคับให้แสดงมันออกมาแต่ จางเทีย ก็พบว่ามันส่งผลดีต่อร่างกายและจิตใจของเขาในการทำแบบนี้บ้าง โดยเฉพาะเมื่อเขามองไปที่สาวๆ  จางเทีย น่ะรู้สึกสบายใจขึ้นมาทันที – “ เดาสิว่ารุ่นพี่คนนี้จะจัดการสาวน้อยพวกนี้ยังไง .. “

นี่คือคืนสุดท้ายที่ จางเทีย  ได้นอนอยู่ในแผนกซีซิง

เช้าวันต่อมาแม้ว่าจะห่างกันไม่ไกลจากแผนกทำลายสวรรค์แต่เพื่อน จางเทีย ในแผนกซีซิงนั้นก็ยืนกรานว่าจะไม่ตาม จางเทีย ไปที่นั่น

“ ถ้าพวกเรารู้ว่าเจ้าทำมันได้ง่ายแบบนี้ พวกเราคงพนันมากกว่านี้ ! “ – ในตอนที่ลา จางเทีย  เว่ยเว่ย ก็พูดออกมาอย่างเสียดาย -  “ ใครจะไปคิดว่าเจ้าจะประหลาดแบบนี้ไปได้ ! เจ้าสร้างพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตได้ง่ายราวกับดื่มน้ำได้ไง ! “

“ ข้าล่ะอยากรู้จริงๆ เจ้าพนันให้ข้าเท่าไหร่ ? “ - จางเทีย ถาม จางคีเหลียง

“ ข้าพนันไป 28 ทอง หยุนเฟยพนัน 2 ทอง 36 เงิน   เหงเชงพนัน 13 ทอง 79 เงิน  เว่ยเว่ย น่ะพนันไปแค่ 11 ทอง ฮาฮา.. “ – จางคีเหลียง หัวเราะออกมา หลังจากที่ได้เงินมาแล้วทุกคนต่างก็ดีใจกันอย่างมาก

เมื่อได้ยินแบบนั้น จางเทีย ไม่ได้พูดอะไรแต่เขาซึ้งเล็กน้อย หลังจากที่อยู่กับพวกนี้มาหลายเดือน แน่นอนว่า จางเทีย รู้ว่าตอนนี้ ทุกคนได้ใช้เงินเก็บที่มีเพื่อสนับสนุนเขา แม้ว่า เว่ยเว่ย จะพนันไปแค่ 13 รึ 14 ทองแต่เมื่อคิดถึงตอนที่พวกเขาเก็บแร่ด้วยกันกับการสนับสนุนพวกนี้  จางเทีย ก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในใจ

จางเทีย ไม่ได้พูดอะไรอีก เขากลับกอดพวกนั้นแน่น – “ ข้าจะรอพวกเจ้าอยู่ที่แผนกทำลายสวรรค์ ! “

“ ข้าจะถึงระดับ 6 ในสองเดือน จากนั้นข้าจะไปสร้างพลังฉีต่อสู้... “ - จางคีเหลียง ยิ้มออกมา – “ หงเชง กับ เว่ยเว่ย น่ะยังคงอยู่ระดับ 5  หยุนเฟย อีกไม่นานก็จะถึงระดับ 5 ด้วย  ไม่นานเราจะได้เจอกันในแผนกทำลายสวรรค์ ! “

“ หลังจากที่เข้าแผนกทำลายสวรรค์ได้แล้ว ข้ามีแผนที่จะทำให้พวกเราทำเงินได้อีกเยอะ ข้ามั่นใจว่าเราจะมีเงินเพียงพอทุกวันโดยไม่ต้องทำงานหนักอีกต่อไป... “- เว่ยเว่ย พูดออกมา

“ หือ แผนอะไร ?” - จางเทีย ถามออกมา แม้แต่ จางเทีย ก็ยังต้องมองไปที่ เว่ยเว่ย  - “ ชายคนนี้มีความคิดแปลกๆ เขาอาจจะมีวิธีทำเงินในแผนกทำลายสวรรค์ได้จริงๆก็ได้  “ – หลังจากที่ได้ยิน จางซู แนะนำเรื่องแผนกทำลายสวรรค์เมื่อคืนนี้  จางเทีย ก็พอรู้ถึงวิธีหาเงิน

“ มันก็เป็นแผนง่ายๆ เราน่ะจะเช่าเต็นท์ใหญ่เหมือนกับละครสัตว์ที่สามารถจุคนได้หลายร้อยคน ตั๋วราคา 10 เงินต่อคน แสดงวันละสามรอบเราก็จะได้เงินมากพอแล้ว ! “

“ เจ้าอยากแสดงงั้นเหรอ ? ถ้าเจ้าแสดง ข้ากลัวว่าตั๋วจะลดราคาไปเหลือ 1 ทองแดงน่ะสิ ! “ – จางหงเชง แซวจากด้านข้าง

“ แน่นอนไม่ใช่ข้า ฮี่ฮี่ ใครเคยเห็นสัญลักษณ์พลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตที่สูงกว่า 40-50 ม.บ้าง ? ถ้าเราลาก จางเทีย ออกมาและเขาแสดงพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตให้คนดู คนในเกาะนี้จะสนใจกับเงินแค่ 10 เงินเหรอ ? ไม่ว่ายังไงถ้าเป็นข้า ข้าก็ต้องจ่ายเงินเข้ามาดู  แน่นอนว่านี่น่ะจะถือเป็นโปรแกรมท่องเที่ยวของเกาะเลย... “ - เว่ยเว่ย หัวเราะคิกคัก – “ เมื่อคืนข้าถึงกับคิดคำโฆษณาไว้ด้วย แค่กๆ..สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีและคนที่ผ่านไปมา อย่าพลาด คุณต้องจ่ายแค่ 10 เงิน แค่ 10 เงินเพื่อชมพลังฉีต่อสู้ที่สูงกว่า 40-50 ม.ของพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตใกล้ๆ มาๆมาดูกัน .. “

เมื่อเห็นแบบนั้น จางเทีย ก็ทำท่าที่จะเตะก้น เว่ยเว่ย   ส่วน เว่ยเว่ย ได้ยิ้มและกระโดดหลบไป นี่แหละคือตอนที่พวกเขาแยกจากกัน

เมื่อเห็นเงาของเพื่อนๆ จางเทีย ก็เริ่มคิดถึงความเป็นไปได้ของมุข เว่ยเว่ย   เขาได้ยิ้มออกมาและส่ายหน้า ถ้าเขาทำแบบนั้นจริงๆ จางเทีย แน่นอนว่าทำมันได้ในเวลาสั้นๆ เขาคงโดนฆ่าโดยพวกนักฆ่าที่อาณาจักรนอแมนส่งมาแน่  ถ้าใครกล้าเอาเรื่องความรู้ลึกลับของอาณาจักรนอแมนมาเป็นเรื่องตลก คนๆนั้นต้องตายอย่างแน่นอน

หลังจากที่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ จางเทีย ก็ได้หันกลับและเดินไปยังปราสาทกลางของวังมังกรลับ

ที่ปราสาทกลางนั้นอยู่ตรงใจกลางภูเขา ทั้งปราสาทนั้นสูง 70 ม.และเต็มไปด้วยหินเหล็กสีดำมากมาย มันใหญ่กว่าปราสาทด้านล่างเยอะ  ปราสาทกลางนั้นสวยยิ่งกว่าปราสาทหมาป่า  มันคือทางเข้าของแผนกทำลายสวรรค์ หลังจากที่เข้ามาในปราสาทกลางเขาก็มาถึงที่หมาย เมื่อยืนอยู่ต่อหน้าประตูของปราสาท  จางเทีย ก็เงยหน้าขึ้นไปมองการป้องกันต่างๆของปราสาทที่แผ่ความอำมหิตออกมา

ก่อนหน้านี้ จางเทีย ไม่ได้มีสิทธิเข้ามาที่นี่ด้วยซ้ำ ตอนนี้ในที่สุด จางเทีย ก็ได้รับสิทธินั้นมา หลังจากที่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ จางเทีย ก็ได้ยกกระเป๋าของตนและเดินเขาไปที่ประตูของปราสาทแห่งนี้

หลังจากที่มาถึงประตู ภายใต้การจับตามองของทหารทั้งสองข้างทาง  จางเทีย ก็ได้ดึงป้ายตระกูลออกมาและเสียบเข้าไปในช่องการ์ดที่ญาติเขาบอกมา หลังจากที่ทำแบบนั้น จางเทีย ก็ได้ยินเสียงเครื่องทำงาน หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีบัตรของ จางเทีย ก็ได้ถูกคืนออกมาจากเครื่อง ในเวลาเดียวกันประตูเหล็กก็เปิดออกอัตโนมัติ หลังจากนั้นทหารยามที่เฝ้าอยู่ก็ไม่ได้สนใจ จางเทีย อีก

ตั้งแต่เข้าเกิดมานี่เป็นครั้งแรกที่ จางเทีย ได้ใช้เครื่องที่ทันสมัยแบบนี้ ตามที่ จางซู บอกมา ปราสาทกลางนั้นไม่ใช่แค่ทางเข้าของแผนกทำลายสวรรค์แต่ยังเป็นหน่วยจัดการด้วย  ชั้นใต้ดินของปราสาทนั้นคือเครื่องจักรที่มีกลไกที่สามารถแยกแยะสัญลักษณ์พิเศษบนบัตรของ จางเทีย ได้   เมื่อ จางเทีย ได้รับสิทธิเข้าไปในแผนกทำลายสวรรค์ ประตูจะเปิดให้กับเขาเอง

หลังจากที่เข้ามาสิ่งที่ จางเทีย เห็นตอนแรกคือห้องโถงที่ใหญ่โต ในห้องนั้นมีเคาเตอร์พร้อมกับคนในแผนกที่ยืนต่อแถวกันอยู่ ด้วยการที่ จางซู บอกมาว่าต้องทำอะไร  จางเทีย ก็เข้าไปต่อแถวด้วย ด้านหลังเคาเตอร์นั้นคืออาจารย์บางคนที่ใส่ชุดดูหรูหรา

บางคนด้านหน้า จางเทีย นั้นกำลังส่งเงินไปที่เคาเตอร์  ส่วนคนอื่นๆนั้นได้ส่งกระดาษไปให้  นอกจากเงินและกระดาษนั้นคือบัตรของพวกเขา  หลังจากที่รับของแล้วคนด้านหลังเคาเตอร์ก็ดูมันอย่างละเอียดก่อนจะเสียบบัตร์ไปในเครื่องแล้วกดปุ่มเพื่อให้ทำงานคล้ายๆกับที่ประตูด้านนอก หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้กดปุ่มอีกครั้งแล้วดึงบัตรออกมา

“ อูหยางกวง ได้ส่งเงิน 30 ทองสำหรับเดือนมีนาคมในแผนกทำลายสวรรค์ .... “

...

“ จางเซ่นหยู ได้ส่งเงิน 30 ทองสำหรับเดือนมีนาคมในแผนกทำลายสวรรค์ ... “

...

“ จางเว่ย ได้ทำงานเลข Z125 และได้รับคะแนนตระกูล 120 คะแนน... “

...

“ ฉีเฟ่ย ได้ส่งเงิน 30 ทองสำหรับเดือนมีนาคมในแผนกทำลายสวรรค์... “

...

“ จางกูเว่ย ได้ทำงานเลข T14 และได้รับคะแนนตระกูล 50 คะแนน “

คนตรงหน้า จางเทีย นั้นที่ดูแก่กว่าเขา 2 ปีนั้นคือ จางกูเว่ย  หลังจากที่ยืนยันได้ว่าชายคนนี้ได้รับคะแนนตระกูล 50 คะแนน  จางเทีย ก็ถอนหายใจออกมา – “ คุณช่วยเช็กหน่อยได้มั้ยว่าข้ามีคะแนนตระกูลกี่คะแนนแล้ว ... “

หลังจากที่ได้ยินคนนี้ถาม  จางเทีย ก็เห็นท่าทีของคนด้านหลังเคาเตอร์ หลังจากได้ยินคำร้องของ จางกูเว่ย  คนที่ทำหน้านี้นั้นก็ได้ดึงลิ้นชักบนเครื่องนั้นออกมาเพื่อทำบางอย่าง  หลังจากนั้นก็ได้มีตัวเลขแสดงมาที่หน้าจอด้านข้างของชายคนนั้น

แน่นอนว่าเครื่องนี้น่ะไม่ใช่เครื่องที่ทำงานด้วยเครื่องจักรไอน้ำ มันเป็นเครื่องที่ต่อไปยังเครื่องจักรไอน้ำ  จางซู บอกว่าเครื่องจักรไอน้ำนั้นอยู่ใต้พื้นดินสูงได้ประมาณ 3 ชั้น  ด้วยท่อแรงดันที่ต่ออกมาแล้วก็ได้มีกลไกต่างๆต่อไปทั่วเกาะแห่งนี้อีกหลายรอบ

“ จากคะแนน 50 คะแนนที่ได้ไปจากการทำงานนี้ เจ้ามีคะแนนตระกูลรวม 176 คะแนน เจ้าอยากรู้อะไรอีกมั้ย ?”

“ ไม่ ขอบคุณ ! “ - เขารู้สึกแย่เล็กน้อย  จางกูเว่ย ได้ส่ายหน้า

หลังจากที่ดึงบัตรออกจากเครื่องแล้ว พนักงานก็ได้คืนบัตรให้กับ จางกูเว่ย  ในตอนที่ชายคนนั้นออกไป จางเทีย ก็ได้ยินเขาพึมพำบางอยางพร้อมกับมองไปที่เพดาน – “ สุดท้ายข้าก็ต้องใช้อีก 24 คะแนนเพื่อเรียนรู้ทักษะช้างเหล็ก... “

หลังจากที่ชายคนนั้นออกไปก็ถึงคิว จางเทีย แล้ว....

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.