spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 279: พนัน
ในโรงอาหารนั้นเงียบอย่างมาก ไม่มีใครรู้ว่าทำไมชายคนนี้ถึงได้มาถามหา จางเทีย ดังนั้นจึงไม่มีใครพูดแต่มองกลับมาที่ จางเทีย
ภายใต้สายตาแปลกๆมากมาย จางเทีย ได้ยืนขึ้นและเดินไปหาชายหนุ่มที่เข้ามาใหม่ ในตอนที่เขาลุกขึ้นยืนนั้น ชายหนุ่มคนนั้นมองมาที่เขาด้วยสายตาที่เฉียบคม หลังจากที่เห็น จางเทีย มองกลับมาตรงๆโดยไม่มีทางทีกลัว ชายคนนั้นก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย
จางเทีย เดินไปตรงหน้าและทักทายออกมา – “ ญาติสินะ ! “
“ ดี ดีมาก ! “ – ชายหนุ่มคนนั้นพยักหน้าและยื่นมือมาจับไหล่ของ จางเทีย – “ ไปคุยกันข้างนอก “
ทั้งคู่ได้เดินออกไปจากโรงอาหาร
“ ฉันไม่รู้ว่านายอยู่ในวังมังกรลับจนกระทั่งฉันได้รับจดหมายจากที่บ้าน เป็นไงบ้าง ? นายปรับตัวเข้ากับที่นี่ได้รึยัง ? “
“ ก็ดี ฉันไปเก็บแร่และทำเงินได้ 5 เงินวันนี้ “ - จางเทีย แตะจมูกตัวเอง
“ ไม่ต้องไปสนใจหน้าที่นั้น ฝึกฝนทักษะดำน้ำต่อ ตอนนายเข้าไปที่แผนกหลิงเทียน นายจะเจอวิธีทำเงินอีกเยอะกว่านี้ สำหรับเด็กใหม่แล้ว มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมาทำเงิน 1 ทองต่อวัน ถ้านายเก่งเรื่องดำน้ำล่ะก็ นายจะมีโอกาสมากกว่าเดิมในการทำเงินหลังจากที่เข้าแผนกหลิงเทียน “
“ หน้าที่อื่นในแผนกหลิงเทียนมีอะไรบ้าง ?” - จางเทีย ถามออกมา
“ ตอนที่นายไปที่นั่น นายจะไม่โดนบังคับให้ทำหน้าที่พวกนี้เพื่อทำเงินแต่นายจะมีหน้าที่ที่ถูกกำหนดมาแล้วเพื่อให้ได้คะแนนตระกูล จากนั้นถ้านายต้องการที่ทำเงิน มันก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของนายเพระมันมีโอกาสมากมายที่นายจะทำเงินได้ในทะเลแต่พวกมันต้องใช้ทักษะการดำน้ำที่ดีอย่างมาก ดังนั้นนายต้องฝึกฝนทักษะดำน้ำไว้ด้วย ! “ – ญาติของเขาพูดด้วยท่าทีจริงจัง
“ ขอบคุณ พี่ชาย ฉันเข้าใจแล้ว ! “
“ นายคือน้องของฉัน ไม่ต้องสุภาพมากก็ได้ “ – ญาติของเขายิ้ม –“ โอ้ นายฝึกพลังต่อสู้ฉีอะไร ? ในตอนที่นายขึ้นไปถึงระดับ 6 ได้ ฉันพานายไปที่ถ้ำมังกรได้เพื่อสร้างพลังฉีต่อสู้ “
“ ผมฝึกพลังต่อสู้ฉีเหล็กโลหิต “
“ อะไรนะ ? ! “ – เมื่อได้ยินแบบนั้น ญาติก็ช็อกเล็กน้อย – “ นายนี่มันทะเยอทะยานจริงๆ แม้แต่ในวังก็มีไม่กี่คนที่สร้างพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตขึ้นมาได้ในระยะหลายสิบปีที่ผ่านมา พลังต่อสู้ฉีนี้น่ะยากที่จะสร้างขึ้นมาได้ ดังนั้นนายควรจะหาแผนดีๆให้กับตัวเอง ถ้านายสร้างมันไม่ได้ นายน่าจะเปลี่ยนไปฝึกอย่างอื่น ถ้านายมีโอกาสอื่นในอนาคต นายค่อยกลับมาฝึกมัน ! ไม่งั้นแล้วมันคงกินเวลาเยอะกว่าจะไปถึงระดับ 6 ได้ซึ่งนั่นมีแต่ส่งผลเสียกับนาย “
หลังจากรู้ว่าญาติคนนี้หวังดี จางเทีย ก็พยักหน้าและรับคำเสนอโดยไม่พูดว่าเขาเกือบจะทำมันได้โดยไม่เจออุปสรรคใดๆเลยในตอนที่เขาฝึกทักษะหมัดเหล็กโลหิต – “ เข้าใจแล้ว ! “
ญาติได้พูดต่อ – “ มีเวทีสูงเสียดฟ้าและมีโอกาสมากมายที่จะเปลี่ยนชะตาของนายในวังมังกรลับแต่ของเหล่านั้นน่ะล้วนแต่มีไว้สำหรับคนที่แข็งแกร่งจริงๆของวัง นายจะได้รับโอกาสนั้นได้ด้วยตัวเอง ไม่มีใครช่วยนายได้ มันยากที่จะได้เห็นสองคนในรุ่นเดียวในในตระกูลอย่างนายและฉันเข้ามาในวังมังกรลับพร้อมกันได้ มันหมายความว่าสายเลือดของตระกูลเราน่ะดีและน่าเตะตา ความสัมพันธ์ของฉันกับนายอาจเป็นที่รู้กันไปทั่ว ดังนั้นนายจะได้รับความสนใจอย่างมากที่นี่ ฉันมีคู่ต่อสู้สองคนในแผนกหลิงเทียน พวกนั้นเองก็เป็นญาติกัน ฉันเคยอัดพวกนั้นมาก่อน เพราะนายอยู่ในแผนกซิซิง นายไม่ต้องกังวลว่าพวกนั้นจะสร้างปัญหาให้กับนายแต่เมื่อนายเข้าแผนกหลิงเทียนแล้ว พวกนั้นอาจมาหานาย นายก็ควรเตรียมรับมือเรื่องนั้นไว้ด้วย “
จางเทีย อึ้ง - “ หมายความว่าพวกนั้นจะมาจัดการฉัน ? “
“ ไม่แย่ขนาดนั้นแต่พวกนั้นจะอัดนายในที่สาธารณะตามกฎของแผนกหลิงเทียน ! “
“ อ๊าก.. “ - จางเทีย อึ้ง เขาไม่คิดเลยว่าญาติของเขาจะสร้างปัญหาให้เขาแบบนี้
เมื่อเห็นสีหน้าของ จางเทีย ญาติของเขาก็อายและฝืนยิ้มออกมา – “ ตอนแรกตอนสองพี่น้องเข้ามาในวังมังกรลับ พวกนั้นน่ะก็ดูสะดุดตาและเย่อหยิ่ง ฉันไม่ชอบพวกมัน ฉันไม่คิดว่าจะมีคนอื่นในตระกูลจางจะเข้ามาในวังมังกรลับได้ ดังนั้นแล้วฉันคิดว่าพวกนั้นมาจากตระกูลอื่นและจัดการาพวกมันตามกฎของแผนกหลิงเทียน “
ในที่สุด จางเทีย ก็เข้าใจ เพราะญาติของเขามักจะอัดคนอื่น ตอนนี้มันจึงเป็นตาเขาบ้างที่จะโดนอัด
ในตอนที่ทั้งคู่คุยกัน จางเทีย เห็นคนสองคนเข้ามาที่แผนกซิซิง คนหนึ่งอายุได้ 18-19 ปีส่วนอีกคนอายุพอๆกับญาติของ จางเทีย ทั้งสองดูคล้ายกัน ในตอนที่พวกนั้นเข้ามา พวกนั้นก็เดินตรงมาหา จางเทีย และญาติ
“ จางซู ฉันได้ยินมาว่านายได้น้องชายเข้ามาที่แผนกซิซิง ใช่คนนี้มั้ย ? “
ชายสองคนเมื่อเดินเข้ามาแล้วจ้องมาที่ จางเทีย
ญาติได้หันหลังกลับและมองไปที่ชายสองคน – “ นี่คือน้องชายของฉัน จางเทีย แล้วยังไง ? นายอยากเห็นนายโดนน้องชายฉันจัดการเอารึไง ? “
จางเทีย ตระหนักได้ว่าญาติของเขาปากหมา แม้ว่าเขาจะอยู่ในตำแหน่งเสียเปรียบแต่ปากของญาตินี่ก็ยังหาเรื่องไม่หยุด
เมื่อได้ยินคำพูดของ จางซู ชายสองคนนั้นที่ยิ้มอยู่ก็นิ่งไปทันที ในเวลาเดียวกันหน้าพวกนั้นก็แดงขึ้นมา
“ เชื่อฉันได้เลย ตอนน้องชายของนาย จางเทีย เข้าไปที่แผนกหลิงเทียน เราจะแนะนำเขาอย่างดี ! “ – เด็กหนุ่มอายุ 18-19 ปีกัดฟันแน่น
“ ฉันเกือบลืมบอกนายแน่ะว่าน้อยชายฉันฝึกพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิต นายคงไม่กลัวอะไรหรอกมั้ง ! “ - จางซู ยังคงยั่วต่อ
“ ฮ่ะ .. “- ราวกับได้ยินเรื่องตลก คนที่แก่พอๆกับ จางซู ได้หันมามอง จางเทีย ด้วยท่าทีกวนๆ – “ นายหมายถึงเขาจะอยู่ในแผนกนี้อีกนานอีกนิดสินะ ? เรื่องนี้น่ะหลอกกันง่ายไปแล้ว นายไม่คิดงั้นเหรอ ? “
“ นายสร้างพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตไม่ได้ มันไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะทำไม่ได้ อีกอย่างนายจะรู้ได้ยังไงถ้านายยังไม่ได้ลอง ? “ – จางซู พูดด้วยท่าทีใจเย็น
“ ฮาฮา..ดูเหมือนว่านายจะมั่นใจกับน้องมากนะ ! “ - คนที่แก่พอๆกับ จางซู กรอกตา – “ จางซู แกกล้าพนันกับฉันมั้ย ? “
“ เอาอะไรมาพนัน ?”
“ พนันว่าน้องชายแกจะสร้างพลังต่อสู้ฉีเหล็กโลหิตได้รึเปล่า “
จางซู ลังเลเล็กน้อย...
“ แกกลัวรึไง ? ไม่ใช่แกบอกว่ามั่นใจในตัวน้องรึไง ? ถ้าไม่ ฉันเดาว่าน้องแกคงอยากอยู่ที่แผนกนี้นานอีกหน่อย เพราะเหตุผลนั้นใช่มั้ย ? “ – ชายคนนั้นยั่วต่อ – “ ถ้าน้องแกสร้างพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตขึ้นมาได้ ฉันจะจ่ายให้ 300 ทอง เอางั้นเป็นไง ? แกกล้าพนัน 300 ทองมั้ยล่ะ ?”
“ 300 ทอง ? “ - จางซู มองไปที่สองคนนั้นพร้อมกับขมวดคิ้ว แม้จำนวนเงินนี้จะไม่ได้มากเมื่ออยู่ด้านนอกเกาะแต่มันถือว่ามากสำหรับคนในวังมังกรลับ มันไม่ได้ง่ายที่จะหาเงินขนาดนี้ในเกาะ แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ในแผนกหลิงเทียนแต่หลายคนก็ไม่อาจทำเงินได้มากขนาดนั้นในครึ่งปีได้ ตอนนี้ จางซู มีเงินแค่ 200 ทอง เขารู้นี่มันเป็นกับดักที่ส่งเขาสู้นรกโดยใช้วิธีของเขาเอง
“ อ๊าก ฉันเกือบลืมไปเพราะพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตมันยากที่จะสร้างมาได้ งั้นฉันจะเอาเปรียบได้ยังไง ? ฉันจำได้ว่าแกไม่ได้มีเงินมากแบบนั้น ถ้าแกมั่นใจกับน้องชายแก่ ฉันจะยกเว้นให้หน่อยก็ได้ ถ้าแกจ่ายเงินให้ฉัน 200....ไม่สิ 100 ทอง เราก็จะตกลงกันได้ 1 แลก 3 ฟังดูเป็นไง ? “ – คนนั้นแสดงท่าทีจริงจังออกมา
“ 300 ทองนั่นแหละ ฉันไม่ต้องการให้มายกเว้นให้ฉัน ฉันจะพนันกับแกเอง !” – เมื่อพูดจบ จางซู ได้เงยหน้าขึ้น เขาอาจจะแพ้แต่เขาจะไม่ยอมเสียศักดิ์ศรี นี่คือสิ่งที่ จางซู มัน่ใจ
“ ดี งั้นให้เวลานานเท่าไหร่ที่น้องแกจะสร้างพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตขึ้นมาได้ ? “
“ 2 ปี ก่อนที่เราจะออกจากวังมังกรลับ ถ้าเขายังสร้างมันไม่ได้ แกชนะ ! “
“ งั้นก็ตกลง ! “
“ ตกลง ! “
จางซู จับมือทำการตกลงกับอีกฝ่าย
หลังจากนั้นสองคนนั้นก็ได้มองมาที่ จางเทีย และฮึดฮัดออกมาอย่างไม่พอใจก่อนจะเดินจากไป
“ รอเดี๋ยว ! “ - จางเทีย ที่ซึ่งเงียบมาตลอดเอ่ยปากออกมา
ทั้งสองคนนั้นหันกลับมาและมองมาที่ จางเทีย
“ ฉันเองก็จะเข้าร่วมพนันด้วย ฉันพนันว่าฉันจะสร้างพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตขึ้นมาได้ ! “
“ แก ? พนันอะไร ? “ - หนึ่งในนั้นได้มองมาที่ จางเทีย ตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ ฉันเองก็จะพนันด้วยทอง 300 ทอง “ - จางเทีย พูดออกมาอย่างใจเย็น
“ ฮาฮาฮา แกเป็นแค่เด็กใหม่ แกไม่มีเงินมากแบบนั้นหรอก แกคงจะร้องให้พ่อแม่มาจ่ายแทนแก ตามกฎของวังมังกรลับ เงินที่แกใช้ที่นี่แม้แต่การพนันควรที่จะหามาด้วยตัวเองบนเกาะ ตอนนี้แกทำเงินได้เท่าไหร่ ? จากที่แกกล้ามาพนัน 300 ทองกับเรา ? ไม่มีติดหนี้นะโว้ย ! “ – คนๆนั้นมองมาที่ จางเทีย ด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์ – “ เด็กน้อย พูดน่ะง่ายแต่แกควรที่จะรู้ความสามารถของตัวเองด้วยก่อนที่จะพนัน แกบอกว่าแกเตรียมแร่ 300 ตันไว้ให้ฉันเมื่อแกแพ้แล้วงั้นสิ ฮาฮาฮา... “
“ นั่นแหละที่ฉันคิด ! ฉันพนันว่าถ้าฉันแพ้ ฉันจะเก็บแร่ 300 ตันให้แก ถ้าฉันทำตามพนันไม่ได้ ฉันจะไม่ออกจากเกาะนี้ไปตลอดชีวิต “ - จางเทีย พูดออกมา
เสียงหัวเราะอยู่ๆก็ได้หยุดลง ตอนนั้นทั้งสามคนได้มองมาที่ จางเทีย แม้แต่ จางซู ที่เป็นญาติก็ยังมองด้วยท่าทีจริงจังเหมือนว่าไม่รู้จักญาติตัวเอง
“ แกกล้าจะรับพนันมั้ยล่ะ ? “ - จางเทีย มองไปที่อีกฝ่าย
“ แน่นอนว่าฉันกล้าแต่ถ้าแกแพ้ ฉันคงไมมีเวลาที่จะรอให้แกมาเก็บแร่แลกกับเงิน 18 เงินต่อวัน จากนั้นเงินที่แกแรกมาก็คงไม่น่าสนใจเท่าเงิน 300 ทอง ถ้าแกเก็บแร่นี้ไป 20 ปี แกอยากให้ฉันรอหนี้จากแกบนเกาะนานขนาดนั้นเลยรึไง ? ถ้าแกไม่จ่ายไปตลอดชีวิตล่ะ ?ใครจะมาจ่ายแทนแก ? ถ้าเราพนันกัน แน่นอนว่าเราจะจ่ายด้วยเงินจริงๆ ไม่มีเหตุผลอะไรที่แกจะมาพนันแบบปากเปล่า ! แกคิดว่ามันง่ายรึไงที่จะทำเงิน 300 ทองบนเกาะนี่ ?” – คนนั้นฮึดฮัดออกมา
จางเทีย ไม่คิดว่าชายคนนี้จะคิดไปถึงขนาดนั้น – “ แล้วแกจะเอาไง ? “
“ ก็ง่ายๆ ในเมื่อแกอยากเล่น แน่นอนว่ามันจะตกลงกันก็ต่อเมื่อแกเอาของที่พนันมาโชว์ ก่อนที่จะไปถึงระดับ 6 และลองสร้างพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิต ฉันจะเอาเงินทุกเงินที่แกทำได้จากการเก็บแร่มาเป็นค่าพนัน...”
“ ดี งั้นก็ตกลง “
“ จางเทีย ... “ – จางซู ต้องการที่จะห้าม
“ พี่ เพราะพี่กล้าพนันตั้ง 300 ทองกับผมแล้วทำไมผมจะไม่พนันให้ตัวเองบ้าง ? มันก็ไม่ได้มีอะไรจริงจังถ้าผมแพ้ อีกอย่างผมคิดเรื่องการเก็บแร่เพิ่มเพื่อฝึกทักษะการว่ายน้ำและสร้างร่างกาย เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เราได้พบกันในวันนี้ เราจะพนันกับพวกนี้ ตามคำพูดของจีนแล้ว พ่อและลูกชายจะต้องร่วมมือกันส่วนพี่น้องจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กัน ผมเองก็อยากสู้ไปด้วย “
“ ดี ! “ - ตาของ จางซู เป็นประกายขึ้นมาแล้วตะโกนออกมาดังๆ เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าญาติตัวเองจะสมชายชาตรีแบบนี้ เขารู้สึกสนใจที่จะเป็นเพื่อนกับ จางเทีย
“ ฮี่..ฮี่ ครั้งนี้ เราจะทำให้น้องชายของแกหมดสิ้นทุกอย่าง ! “ – หลังจากนั้นพวกนั้นจับมือกับ จางเทีย แสดงการตกลง
“ ทุกคนรู้ว่าพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตนั้นยากที่จะสร้างมาได้ อัตราระหว่างฉันกับญาติแกก็ไม่ยุติธรรม ญาติฉันรับอัตรา 1: 1 กับแก ส่วนฉันในฐานะที่เด็กกว่าแกและไม่ชอบที่จะขาดทุน งั้นเอา 1: 3 เป็นไง ? ถ้าฉันชนะจ่ายให้ฉัน 3 เท่า ? “ - จางเทีย ยิ้มออกมาเพราะเขาได้สร้างกับดักให้ชายคนนี้มาตกแล้ว
คนๆนั้นไม่คิดว่า จางเทีย จะรู้ว่าตัวเองไม่สูญเสียอะไรมาก แต่คำว่าสามเท่านี่ทำให้ชายคนนั้นต้องปวดหัว – “ แม้ว่าอัตราต่อรองระหว่างเขากับ จางเทีย และ จางซู เป็น 1: 2 เพราะอีกฝ่ายฝึกพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตซึ่งยากที่จะหาคนฝึกในวังมังกรลับ จริงๆแล้วอัตรานี้ก็พอมีเหตุผลกับฉัน ถ้าเป็นอย่างอื่น พวกนั้นคงไม่พนันกับฉันแต่เด็กนี่ดูใจเย็น ดูเหมือนว่ามีบางอย่างผิดปกติไป... “
“ อะไร ไม่กล้ารึไง ? นอกจากตระกูลจักรพรรดิของอาณาจักรนอแมนแล้ว ในทวีปย่อยไว่น่ะมีโอกาสที่จะสร้างขึ้นมาได้แค่ 1 ใน 10,000 อัตราที่แท้จริงควรเป็น 1:10,000 ด้วยซ้ำ คิดดูจากว่าเราทุกคนอยู่ในวังมังกรลับ ฉันจะให้อัตราอยู่ที่ 1:3 ฉันลดให้ตั้ง 300 กว่าเท่า แกยังไม่กล้าอีกรึไง ? งั้นเอาสัก 400 เท่าเป็นไง แม้ว่าฉันจะมาใหม่ที่นี่และยังไม่ถึงระดับ 6 แม้ว่าฉันจะมีเงินไม่พอ อย่างน้อยก็น่าจะเคารพรุ่นพี่บ้าง งั้นเอาสัก 500 เท่าเป็นไง ? “ - จางเทีย มองกวนๆไปที่อีกฝ่าย เขาแหย่คนๆนั้นเหมือนกันที่อีกฝ่ายแหย่เขา เขาใช้น้ำเสียงเดียวกันในการยั่วอีกฝ่าย มันเหมือนกับตอนที่เขาจัดการกับ สมิหลา จางเทีย ไม่เคยสุภาพกับคนแบบนี้เลย
คนๆนั้นกัดฟันแน่นและพูดขึ้นมา – “ ได้ 1 ต่อ 3 ฉันจะรอดูว่าแกเก็บแร่มาได้มากเท่าไหร่ ! “
หลังจากที่จับมือตกลงกันแล้ว ทั้งสองคนก็ได้จากไป หลังจากที่เดินไปได้ไม่กี่ก้าว คนๆนั้นก็หันกลับมาฮึดฮัด – “ พลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตไม่ได้ง่ายที่จะสร้าง ฉันหวังว่าคำโม้ของแกวันนี้จะไม่ใช่เรื่องตลกที่พูดกันไปทั่วนะ ! “
หลังจากที่สองคนนั้นกลับไป จางซู ก็ได้เดินมาตบไหล่ จางเทีย – “ ดีมาก ! สมชายเข้าไว้ ! อย่ากลัวเรื่องพนัน แม้ว่าเราจะแพ้แต่เราก็จะไม่เสียหน้า ! ฉันจ่ายเงินแทนนายได้ นายถือว่าการพนันนี้เป็นประสบการณ์แล้วกัน ! “
แม้ว่าสิ่งที่ จางซู พูดจะเป็นการให้กำลังใจ จางเทีย แต่เขาก็ยังคงไม่มั่นใจว่า จางเทีย จะสามารถสร้างพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตขึ้นมาได้รึเปล่า สิ่งที่ จางเทีย ต้องเผชิญมีสองอย่าง : เก็บแร่และสร้างพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตถ้าเขาอยากจะชนะ งานแต่ละอย่างนั้นยากมากที่จะทำสำเร็จ จางเทีย ไม่มีตัวเลือกอื่นแล้วตอนนี้
“ พี่ เชื่อผมได้เลย เราจะชนะ “ - จางเทีย ยิ้มออกมา – “ ผมกังวลว่าพวกนั้นจะจ่ายพนันรึเปล่าต่างหาก “
“ ชายคนนั้นชื่อ จางไห่ คนที่เก่งเรื่องการหาเงินในแผนกหลิงเทียน เขามีเงินเกือบ 2,000 ทองแล้ว แต่เขาเองก็เป็นที่รู้ว่าเป็นคนใจร้าย ถ้าเขากล้าผิดคำพูด ฉันจะลอกหนังเขาเอง !”
“ ดี “
“ อีกอย่างจากที่รู้จักเขามา เขาต้องคิดว่าเขาชนะแน่ ดังนั้นแน่นอนว่าเขาจะบอกข่าวนี้ไปทั่ววังมังกรลับเผื่อว่าเราแพ้ด้วย “
“ โฮ่โฮ่ ฉันจะให้พวกนั้นรู้ว่าเมื่อมันยกหินแล้วตกทับเท้าตัวเองเป็นยังไง .. “
หลังจากที่คุยกับ จางเทีย สักพักแล้ว จางซู ก็ได้กลับไป
หลังจากที่ จางเทีย กลับมาที่โรงอาหาร เว่ยเว่ย และคนอื่นๆก็เริ่มสงสัยว่าใครคือคนที่มาหา จางเทีย ตะกี้
“ เขาเป็นญาติฉัน “ - จางเทีย แนะนำสั้นๆโดยไม่ได้พูดเรื่องพนัน
ก็อย่างที่คาดไว้ เมื่อได้ยินว่าทั้งสองเป็นญาติกันแล้วเข้ามาในวังมังกรลับพร้อมกัน คนอื่นๆที่นั่งอยู่ด้วยต่างก็แปลกใจและแสดงความสงสัยออกมาผ่านทางสายตา
หลังจากที่กินมื้อเย็นแล้ว สาวๆในแผนกซีซิงได้ตั้งร้านในศาลาที่ลาน พวกมันมีเครื่องประดับมากมาย ในร้านขายของนั้นมีน้ำมันที่ได้มาจากหอย น้ำมันแบบนี้ในตอนที่ทาไปที่หน้าและตัวแล้วจะปกป้องจากแสงอาทิตย์ได้ มันยังช่วยฟื้นฟูผิวหนังจากการโดนเผาไหม้ด้วย
ราคาของมันก็อยู่ที่ 1 เงินต่อกล่อง เด็กชายจำนวนมาได้มาล้อมร้านค้านั้น คงมีแต่พระเจ้าที่รู้ว่าพวกนี้จะมาซื้อของรึหาจีบสาว แม้แต่ จางคีเหลียง และ เว่ยเว่ย เองก็ไปตามฝูงชนนั้นด้วย
หลังจากที่มองขึ้นไปบนฟ้าและจับเงิน 5 เงินในกระเป๋า จางเทีย ก็ได้ออกจากแผนกซิซิงไป
“ จางเทีย .. “- จางหยุนเฟย เห็นเงาของ จางเทีย แล้วรีบตะโกนออกมา – “ น้ำมันหอยนี่ก็ดี นายอยากได้สักอันมั้ย ? “
“ ไม่จำเป็น มันเป็นของไร้ประโยชน์สำหรับฉัน มันเปลืองเงินเปล่าๆที่จะซื้อมัน ฉันจะไปที่ท่าเรือ ! “ - จางเทีย โบกมือก่อนจะออกไป ‘ นี่นายล้อเล่นป่ะเนี้ย ? ฉันมีการฟื้นฟูร่างกายอยู่แล้ว ฉันจะต้องการน้ำมันนั่นไปทำไม ? ปัญหาเล็กๆกับการโดนแดดเผาหายในคืนเดียว ด้วยเงินพวกนั้น มันจะดีกว่าถ้าฉันจะซื้อพวกหอยไปปล่อยในทะเลและเช็กว่าจะได้ผลไม้แบบไหน ‘
จางเทีย เดินออกมาพร้อมกับที่สาวๆที่ขายของกันอยู่มองตามเงาเขาออกไป – “ ไอ้บ้านี่มันน่ารังเกียจจริงๆ ! คำพูดมันอวดดีจริงๆเลย ! “
จางเทีย ไม่รู้ว่าเพราะคำพูดที่จริงใจของเขา ทำให้สาวๆเริ่มแบนเขา
หลังจากที่ออกจากวังมา เมื่อคิดถึงหาดที่เขาไปที่แรก จางเทีย ก็เริ่มเพิ่มความเร็ว
“ เพราะฉันได้พนันกับพวกนั้นไว้ แน่นอนฉันจะชนะ เงินที่ฉันจะหามาได้มันก็ขึ้นอยู่กับการพนันนี้ “
ในตอนนั้น จางเทีย รู้สึกว่าตัวเองยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
“ มันเพราะไอ้บัดซบน่ารังเกียจนั่น ! “