spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 274: เด็กใหม่
เกาะมังกรลับถูกล้อมไว้ด้วยภูเขา ชายหายมันเต็มไปด้วยกระแสน้ำที่เชี่ยวกราด ภายใต้คลื่นที่ซัดเข้ามานั้นมีหินแปลกๆมากมาย ท่าเรือเพียงอันเดียวของเกาะนั้นอยู่ทางทิศเหนือซึ่งตั้งอยู่ระหว่างสันเขาสองอันที่โผล่มาที่ทะเล ภูมิประเทศที่นี่ถือว่าสวยงามอย่างมาก
ทางน้ำที่เข้าไปสู่ท่าเรือนั้นเป็นเส้นทางของลม ภูเขาทั้งสองฝั่งนั้นปกคลุมไปด้วยถ้ำมากมายที่มีขนาดแตกต่างกันซึ่งก่อตัวขึ้นมาจากสภาพอากาศ การกัดกร่อนของน้ำและภูมิประเทศแปลกๆนั้นมีอยู่ทั่วทุกที่ ครึ่งหนึ่งของถ้ำที่โดนน้ำกัดเซาะนั้นอยู่ในน้ำ เมื่อมีคลื่นซัดเข้ามานั้นจะมีเสียงแปลกๆลอยออกมาจากถ้ำเหมือนเสียงคำรามของมอนเตอร์
จนกระทั่งเรือได้มุ่งหน้าเข้าไปที่ท่าเรือโดยห่างจากมัน 500-600 ม. จางเทีย ค่อยเห็นพื้นที่ขนาดใหญ่และเห็นถึงถ้ำยาวขนาด 100 ม.และตึกมากมายบนเกาะ
หลังจากที่เรือเข้าเทียบท่าแล้ว ทุกคนก็เริ่มขึ้นไปยังท่าเรือ จางเทีย ลงมาจากดาดฟ้าเรือมา ในตอนที่เกือบทุกคนลงไปจากท่าเรือ เด็กอายุ 16-17 ปีสองคนที่สวมชุดดำก็ได้มายังดาดฟ้าเรือพร้อมกับชายอีกสามคนที่ใส่ชุดแตกต่างกัน
“ นั่นเขา ... “ - ในตอนที่พวกนั้นมาถึงที่ดาดฟ้าเรือ หนึ่งในสามคนที่ใส่ชุดต่างกันนั้นได้ชี้มาที่ศพและตะโกนออกมาดังๆ – “ ชายคนนี้แหละที่ฆ่าพี่ชายและลุงของข้าแล้วยังปล้นแก่นตะขาบของเขาทั้งสองไปด้วย... “ – เมื่อพูดจบชายคนนั้นก็ได้ร้องไห้ออกมา สุดท้ายแล้วเขาก็ยืนไม่ไหวก่อนที่จะดึงดาบออกมาและฟันไปที่ศพนั่น – “ พี่, ลุง พวกท่านได้ตายอย่างน่าอนาถ ข้าจะใช้หัวของมันเซ่นไหว้พวกท่าน ! “
“ ข้าเอาแก่นตะขาบให้เจ้า นี่ศพของเขา เจ้าจัดการได้เลยตามใจอยาก “
“ ในนามของคน 659 คนในหมู่บ้านหม่าของเขตฉิงชาน ข้าต้องของคุณตระกูลจางที่ได้กระทำเรื่องที่ถูกต้อง ! “- ชายอกีคนพยายามพูดออกมาและโค้งให้กับเด็กหนุ่มสองคน
“ เพราะพวกเขาได้ตายไปแล้ว พวกนายก็ต้องลดความเศร้าลงบ้าง “
ด้วยความเศร้าที่มี ชายอีกคนได้ขอบคุณเด็กทั้งสองก่อนที่จะแบกศพนั่นลงจากเรือไป
ในตอนที่ยืนอยู่บนดาดฟ้า จางเทีย ได้เห็นฉากนี้ไปด้วยและได้เดาได้ถึงสถานะของเด็กหนุ่มทั้งสอง อย่างน้อยพวกเขาก็ต้องเป็นสมาชิกของตระกูลจางบนเกาะนี้ ถ้าไม่งั้นแล้วก็คงมาจากวังมังกรลับ
“โปรดรอเดี๋ยว ! “ – ในตอนที่เด็กหนุ่มสองคนนั้นกำลังจะเดินออกไป จางเทีย ก็ได้ห้ามทั้งคู่
“ มีอะไร ? “ - เด็กหนุ่มทั้งสองหันกลับมามองที่ จางเทีย ที่ซึ่งเพิ่งโผล่ออกมา
“ พวกนายรู้วิธีเข้าไปในวังมังกรลับรึเปล่า ? “
“ วังมังกรลับ ? “ - หนึ่งในนั้นได้มองด้วยท่าทีจริงจังมาที่ จางเทีย ในตอนที่ จางเทีย บอกว่าจะไปยังวังมังกรลับ
“ ใช่ ฉันอยากไปที่วังมังกรลับ “ - จางเทีย พูดพร้อมกับยิ้ม
“ นายจะไปทำอะไรที่วังมังกรลับ ? “
“ ไปสมัครเข้าร่วม ! “
“ แสดงบัตรตระกูลของนายมา ! “
จางเทีย หยิบบัตรตระกูลออกมาและส่งให้ทั้งคู่ หลังจากที่ดูสักพักแล้ว สองคนนั้นก็ได้มองหน้ากันและพยักหน้า
“ นายคือ จางเทีย ? “ - หนึ่งในนั้นคืนป้ายให้กับ จางเทีย
“ ฉัน ซูหลาง เขา จางหู เรามาจากวังมังกรลับ ! “ - เมื่อพูดจบ ซูหลาง ก็เริ่มกระตือรือร้นขึ้นมา หลังจากที่พูดจบ ซูหลาง ก็ได้มองไปที่ จางหู และถามออกมา – “ ใครจะไปส่งเขาที่วังมังกรลับ นายรึฉัน ? “
“ โฮ่โฮ่ ยังไงซะเราต่างก็มีแซ่จาง ฉันจะไปส่งเขาที่นั่นเอง ! นายไปลาดตระเวนต่อเถอะ ฉันจะไปส่งเขาก่อน จากนั้นเราจะไปพบกันที่เมืองแบล็คดราก้อน “ – เด็กหนุ่มที่ชื่อ จางหู ตอบกลับ
“ ได้ “
“ ตามฉันมา ! “ - จางหู ทักทาย จางเทีย และหันกลับเพื่อเตรียมที่จะออกไป แน่นอน จางเทีย เองก็ตามเขาไปด้วย
มีถนนอยู่ข้างๆท่าเรือ ทั้งสองฝั่งนั้นมีตึกอาคาร จางเทีย มองไปรอบๆและพบกับคลัง, โรงแรม, ตลาดปลาและร้านค้าสองร้านที่มีของที่เขาไม่รู้จัก มีร้านอาหารอยู่ร้านหนึ่งด้วย ผู้โดยสารส่วนมากที่ลงจากเรือจะมายังร้านอาหารนี้ หลังจากที่เดินทางมาได้กว่า 4-5 ชม. พวกเขาก็ไม่ได้กินอะไรเลย ดังนั้นแล้วในตอนที่เห็นร้านอาหาร พวกเขาจึงเข้าไปทันที
ท้องของ จางเทีย เองก็ร้อง คนที่นำทางเขาเองก็ด้วย จางเทีย รู้สึกว่าไม่เหมาะสมที่จะให้เขากินข้าวเสร็จก่อนแล้วค่อยเดินทางต่อ
“ นายอยากกินอะไรมั้ย ? “- แม้ว่า จางเทีย จะไม่ได้พูดออกมาแต่ จางหู ก็รู้สึกได้และถามออกมา – “ ถ้านายหิว นายกินสักหน่อยก็ดี เพราะที่นี่น่ะห่างจากวังมังกรลับกว่า 20 กม. ถ้านายหิวมาก ฉันกลัวว่านายจะตามฉันไม่ไหว “
“ ไม่เป็นไรหรอก ไปกินที่วังมังกรลับก็ได้ ! “
“ ดี งั้นก็ตามฉันมา เราจะวิ่งไปที่นั่น มันจะได้เร็วกว่า “ - เมื่อพูดจบ จางหู ก็เริ่มวิ่ง จางเทีย เองก็รีบตามไปติดๆ
เมื่อคิดถึง ซูหลาง ที่เขาเจอตะกี้ อยู่ๆ จางเทีย ก็มีคำถามขึ้นมาและเขาได้ถาม จางหู - “วังมังกรลับรับคนที่มีแซ่อื่นด้วยเหรอ ? “
“ นอกจากลูกหลานโดยตรงของตระกูลจางแล้ว ถ้าใครในหมู่ญาติของตระกูลจางในเขตไฮหยวนได้ปลุกสายเลือดบรรพบุรุษขึ้นมาได้ พวกเขาก็สามารถเข้าวังมังกรลับได้ เพราะนายเป็นคนใหม่ นายควรที่จะจำกฎหลักๆเอาไว้ว่านายไม่ควรถามเรื่องสายเลือดว่าพวกเขาปลุกมันมาได้กี่ครั้ง นายไม่ควรบอกคนอื่นเรื่องสายเลือดที่นายได้ปลุกขึ้นมา แม้ว่านายจะรู้ว่าข้อมูลนี้มันไม่ได้สำคัญ แต่พวกมันถือว่าเป็นความลับที่สำคัญที่สุดของตระกูล ในตอนที่นายปลุกสายเลือดขึ้นมาเป็นครั้งแรก บางคนอาจจะรู้ เมื่อนายปลุกสายเลือดมาเป็นครั้งที่สอง ไม่ว่านายจะมีความสามารถมากแค่ไหน นายก็ควรที่จะบ่งบอกคนอื่นให้น้อยที่สุด นี่คือไพ่ในมือนาย มันอาจช่วยชีวิตนายในตอนวิกฤต ! “ - จางหู อธิบายเมื่อเห็นว่า จางเทีย ตามเขาทัน เขาจึงเพิ่มความเร็วขึ้นมากกว่าเดิม
“ สายเลือดนั้นสามารถปลุกได้เป็นครั้งที่สองด้วยเหรอ ?” – เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ จางเทีย ได้ยินเรื่องนี้ เขาจึงทึ่งเล็กน้อยและคิดว่าเขาสามารถปลุกทักษะการขว้างได้เพียงครั้งเดียว
“ แน่นอน ! มันไม่มีขีดจำกัดว่ากี่ครั้ง สายเลือดที่ต่างกันจะทำให้มีพรสวรรค์ที่ต่างกัน สำหรับการปลุกกี่ครั้งที่นายได้ทำ มันขึ้นอยู่กับความสามารถและโชคของนาย หลายคนได้ปลุกสายเลือดขึ้นมาได้เป็นครั้งแรกนั้นสามารถปลุกครั้งที่สอง,สามรึมากกว่านั้นได้ มันใช้เวลาในการพัฒนาและเกี่ยวข้องกับความเข้มข้นของสายเลือดที่เราได้ปลุกขึ้นมาด้วย ! “
จางเทีย ถอนหายใจเล็กน้อย – “ วังมังกรลับนี่ยิ่งใหญ่จริงๆ แม้ว่าฉันจะเพิ่งมาถึง ฉันยังเจอเรื่องแปลกใจตั้งสองอย่าง หนึ่งคือบนเรือ อีกอันก็ที่นี่ ฉันสงสัยว่ามันจะรู้สึกยังไงถ้าฉันปลุกทักษะขว้างมาเป็นครั้งที่สอง “ – เมื่อคิดแบบนั้นใจของ จางเทีย ก็เริ่มเต้นรัวและคาดหวังกับเรื่องอนาคต
หลังจากออกจากท่าเรือมา ทั้งสองคนได้ไปยังเขตภูเขา ตอนแรก จางหู ต้องการที่จะดูแล จางเทีย โดยการลดความเร็วลงแต่เขาตระหนักได้ว่า จางเทีย นั้นยังคงพูดคุยได้สบายๆในตอนที่วิ่ง จางหู จึงเริ่มเพิ่มความเร็วขึ้นแต่ไม่ว่าเขาจะเพิ่มความเร็วยังไง จางเทีย ก็สามารถตามเขามาได้ทันและอยู่ในท่าทีสบายๆด้วย จางหู ทึ่งอย่างมากเพราะเขาได้เพิ่มความเร็วขึ้นมาอีกเยอะและเริ่มใช้แรงทั้งหมดที่เขามี
จางเทีย ไม่ได้รู้สึกเหนื่อยเลย ส่วนคนนำทางนั้นเริ่มมีเหงื่อผุดมาที่หน้าผาก สำหรับ จางเทีย ที่กิน Wild Wolf Seven-Strength Fruits ไป 9 ผล จางเทีย น่ะรู้สึกสบายๆเพราะความเร็วระดับนี้นั้นช้ากว่าความเร็วในตอนที่เดินเล่นของเขาเล็กน้อย ถ้าเขาจะทำจริงเขาสามารถวิ่งได้ด้วยความเร็วระดับนี้ได้ทั้งวัน
หลังจากผ่านภูเขาระยะทางกว่า 5 กม. จางเทีย ก็ได้พบกับเมืองขนาดใหญ่อีกเมืองบนเกาะ เมืองนี้เป็นเมืองที่อยู่บนเกาะในเกาะซึ่งล้อมรอบไปด้วยป่า ความเจริญนั้นก็ไม่ได้แย่กว่าที่เมืองหลัก พวกเขาผ่านเมืองนี้ไปจากเนินเขาในด้านทิศตะวันออกของเมือง
“ อ๊าก ฉันไม่คิดเลยว่าจะมีเมืองแบบนั้นบนเกาะนี้ด้วย ! “ - จางเทีย ถอนหายใจออกมา
เมื่อได้ยิน จางเทีย ถอนหายใจ จางหู ที่วิ่งอยู่ก็ก้มหน้ากลับมาดูและต้องอึ้งเพราะเขายังพูดไม่ได้เลยในตอนที่วิ่งแบบนี้ เขาไม่คิดว่า จางเทีย จะยังพูดได้สบายๆโดยไม่หอบเลยด้วยซ้ำ
“ นี่มัน..เมืองมังกรขาว...มันมี...ทั้งหมด 5 เมือง....บนเกาะ...นอกจากเมืองมังกรขาวแล้ว...ยังมีเมืองมังกรเขียว...มังกรเหลือง..มังกรดำ...และมังกรฟ้า “ - จางหู กัดฟันแน่นแล้วพึมพำออกมา ลมที่พัดเข้ามาในปากเขานั้นทำให้เขาเกือบไอออกมา
ตอนนั้น จางหู ยืนยันในใจแล้วว่าสายเลือดที่ จางเทีย ได้ปลุกขึ้นมาคงเกี่ยวข้องกับการวิ่ง ถ้าไม่งั้นแล้ว จางเทีย คงไม่มีแรงมากขนาดนี้และความสามารถในการวิ่งที่น่าทึ่งแบบนี้เพราะ จางเทีย ดูอ่อนกว่าเขา 1-2 ปีได้
หลังจากที่ จางหู ได้วิ่งมากกว่าอีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาก็ได้มาถึงวังมังกรลับ มันเป็นปราสาทสามหลังที่สร้างอยู่บนที่สูงพร้อมกับบรรยากาศที่สวยงามซึ่งขยายไปจนถึงด้านบนภูเขา ปราสาทนี้เชื่อมต่อกันด้วยบ้านและศาลามากมายที่ซ่อนอยู่ในป่า มันดูงดงามอย่างมาก แค่มองไปแว๊บเดียว จางเทีย ก็บอกได้ว่าวังไฮหยวนนี่รวยจริงๆ
ทางเดินเป็นซุ้มโค้งที่มีป้ายเขียนไว้ว่า ‘ วังมังกรลับ ‘ นั้นอยู่ตรงหน้า จางเทีย ภายใต้ทางเดินตรงหน้านั้นมีสิงโตหินสองตัว
“ นี่...นี่คือวังมังกรลับ ในตอนที่นายเข้าไปที่นั่น...นายจะเจอคนข้างในมาทักทายนาย ! “
หลังจากที่พูดจบ จางหู ก็ได้กลับออกไปก่อนที่ จางเทีย จะได้ขอบคุณด้วยซ้ำ
จางเทีย เกาหัว เขารู้สึกว่าท่าทีของ จางหู นั้นแปลกเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่า ‘ พี่ชาย ‘ คนที่พาเขามาที่นี่ได้อายเพราะความอึดของ จางเทีย ดังนั้นแล้วในตอนที่มาถึงที่หมาย จางหู จึงรีบหนีไปทันที
...
หลังจากที่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ จางเทีย ได้จับไปที่บัตรของตัวเองแล้วเข้าไปที่ทางเดินนั้น เขาเดินไปยังปราสาทแรกที่ตีนเขา คนคุ้มกันด้านนอกต่างก็เป็นเด็กหนุ่ม เมื่อเห็น จางเทีย เด็กหนุ่มที่อายุน้อยกว่า 20 เดินมาหาพวกตน หลังจากที่เห็นบัตรของ จางเทีย และเข้าใจจุดประสงค์ของ จางเทีย แล้ว เด็กหนุ่มก็ได้พา จางเทีย เข้าไปในปราสาท
...
หลายนาทีต่อมา ....
“ จางเทีย , 15 , นักรบระดับ 5 ได้ปลุกสายเลือดเป็นครั้งแรก นี่เป็นครั้งแรกที่เข้ามาในวังมังกรลับ นี่คือกุญแจห้องนาย ห้อง 73 ของแผนกซีซิง นี่คือแผนที่ของเกาะ นายไปลงทะเบียนที่แผนกซีซิง ได้เลยวันนี้ ก่อนที่นายจะไป นายยืนยันอีกครั้งว่านายได้ส่งเงินทั้งหมดของนายมาแล้ว เราได้บันทึกเงินของนายไว้ 8 ทอง 13 เงิน ก่อนที่นายจะออกจากวังมังกรลับ เราจะคืนมันให้กับนาย ถ้านายถูกเจอเงินที่ซ่อนเอาไว้ แม้ว่าจะแค่ทองแดงเดียว ผลลัพธ์นั้นร้ายแรงอย่างมาก ! “ - ชายแก่วัย 60 ปีที่มีท่าทีกวนๆยืนอยู่ด้านหลังเคาเตอร์เหมือนกับเป็นเจ้าของร้าน เขาเอากุญแจ,แผนที่และของอื่นๆมาไว้ตรงหน้า จางเทีย และเงยหน้าขึ้นเตือน จางเทีย
จางเทีย ไม่คิดว่าขั้นตอนแรกคือส่งเงินทั้งหมดที่มี นอกจากเงินนี้แล้วเขายังมีเงิน 5000 ทองและเช็ค 5000 ทองใน Castle of Black Iron ซึ่งถือได้ว่าเป็นเงินเก็บของเขา มันคือเงินที่เหลือจากการประมูลแหวนของพลังงานหลังจากที่ จางเทีย ไปที่แบล็คฮ็ฮตและเอาบางส่วนให้กับเพื่อนของเขา
“ ขอโทษนะ ผมไม่ต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อของในเกาะนี้และในวังนี้เหรอ ? ทำไมผมต้องเอาเงินทั้งหมดฝากไว้ด้วย ? “
“ แน่นอนว่าต้องใช้เงินบนเกาะและวังนี้ มันต้องใช้เงินจำนวนมากด้วย เงินน่ะจำเป็นกับทุกที่ แต่สำหรับเด็กฝึกหัดของวังมังกรลับ เราจะให้เงินที่เกาะนี่แทนเงินที่มาจากบ้าน ! “ – เสียงนั้นดังมาจากข้างหลัง จางเทีย จางเทีย หันกลับมาและเห็นเด็กหนุ่มสี่คนเดินเข้ามาหาเขา แต่ละคนนั้นถือถุงบางอย่างอยู่กับตัว
เด็กสี่คนนั้นใส่เสื้อผ้าธรรมดา พวกเขาเหงื่อชุ่มตัวไปหมด ดูเหมือนว่าของที่หลังพวกนั้นจะหนักอย่างมาก คนที่สูงอยู่ด้านหน้านั้นยังดูดีอยู่ ส่วนผิวและแขนของเด็กอีกสามคนด้านหลังนั้นผิวแห้งและหมองคล้ำ จางเทีย สามารถรู้ได้ว่าแต่ก่อนพวกนี้ดูเป็นยังไง
เพราะหน้าผากนั้นชุ่มไปด้วยเหงื่อ เกลือขาวๆมีให้เห็นอยู่ทุกที่ ผิวแตกๆนั้นก็มีเหงื่อหยดออกมาทำให้หางตาของพวกนั้นกระตุก
ในตอนที่พวกนั้นเข้ามาใกล้ จางเทีย ได้กลิ่นทะเลจากตัวพวกนั้น จางเทีย ดูไปที่แผลที่แขนและมือ ถ้าพวกนี้ไม่ได้มาที่นี่ แน่นอนว่าพวกนี้คงถูกจับไปทำร้ายที่อื่น
“ เด็กใหม่ ? “ - เด็กหนุ่มตรงหน้าถาม จางเทีย
จางเทีย พยักหน้า
“ งั้นตามเรามา เราเองก็มาจากแผนกซีซิง ! “ – เด็กหนุ่มตรงหน้าตอบกลับ
“ ฮาฮา ยินดีต้อนรับสู่วังมังกรลับ ! “ – เด็กหนุ่มอีกคนที่หน้าเหมือนกับโจ๊กดูเหมือนอยากจะหัวเราะแต่เมื่อเห็นท่าทีอึ้งของ จางเทีย ในตอนนั้นเขาก็ฝืนยิ้มและอดทนเอาไว้
วังมังกรลับแห่งนี้ดูเหมือนว่าจะแตกต่างจากที่เขาได้คิดเอาไว้