spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 273: การเดินทางในทะเล
เครื่องจักรไอน้ำของเรือลำเรียงผู้โดยสารลำเล็กนั้นทำงานมาเกือบ 5 ชม. เสียงของเครื่องจักรดังออกมาเป็นเสียงเดียวพร้อมกับเสียงของนกนางแอ่นที่บินไปทั่วท้องฟ้าอีกทั้งยังเสียงของคลื่นที่ซัดมาตามรอบๆเรือ
เรือลำเลียงแล่นผ่านเรือและคลื่นมาจนทำให้น้ำกระจายไปรอบๆเมื่อมองพร้อมกับแสงอาทิตย์ที่ลอดผ่านมานั้นมันก็เหมือนกับลูกปรายสีเงินซึ่ง จางเทีย ต้องหรี่ตามองเล็กน้อย เขายืนอยู่บนดาดฟ้าชั้นสองและมองไปยังทะเลข้างหน้า
วันนี้คือวันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม วันที่ จางเทีย ต้องไปลงทะเบียนที่วังมังกรลับ
มันถือว่าเป็นวันที่ดี เมื่อคิดถึงตอนที่เขาเข้าร่วมงานเบียร์ในบาปีเมื่อเดือนที่แล้วและการมุ่งหน้าไปยังชีวิตใหม่ในตอนนี้ จางเทีย ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาเพราะปาฏิหาริย์
เมื่อคิดถึงเรื่องพวกนั้นแล้ว สาวตาสีดำก็ได้โผล่มาในความคิดของ จางเทีย – แพนโดร่า ! ก่อนที่เขาจะออกจากคารัวล์ ชื่อนี้คือชื่อที่ จางเทีย ห่วงมากที่สุด
ครอบครัวของ แพนโดร่า นั้นอยู่ๆก็ย้ายออกจากเมืองแบล็คฮ็อต ไม่มีใครรู้ว่าเธอไปที่ไหน ดูเหมือนว่าเธอจะไม่เคยอยู่ที่นั่นแต่แรกอยู่แล้ว เธอก็เหมือนหยดน้ำที่กระเด็นขึ้นมาแล้วกลับลงไปในทะเล เธอหายไปไม่เหลือสัญญาณอะไรทิ้งไว้เลย แม้แต่เพื่อนบ้านเองก็ไม่รู้ว่าพวกเธอย้ายออกไปตอนไหน
ครอบครัวของ อลิซ เองก็ย้ายออกไปจากแบล็คฮ็อตแล้ว ในตอนที่พวกเขาย้ายออกจากที่นั่น อลิซ ได้ทิ้งจดหมายเอาไว้และบอกให้ แบร์ลี่ ส่งมันให้กับ จางเทีย --- พ่อของเธอพาเธอและแม่ไปยังนอดินเบิร์ค เมืองหลวงทางชายแดนเหนือของอาณาจักรนอแมน
เบเวอร์รี่ ทำงานเป็นพยาบาลที่เมืองแบล็คฮ็อต สาวๆกลุ่มกุหลาบก็ใช้ชีวิตของตัวเองไป เรื่องที่เกิดขึ้นมานั้นดูเหมือนจะกลายเป็นความทรงจำไปแล้ว
กลุ่มทหารเก่าของเมืองแบล็คฮ็อตโดนยุบไปแล้ว ทีม 39 ที่ทำการป้องกันเมืองเองก็เริ่มที่จะตั้งรกราก เพื่อนที่โรงเรียนได้เข้าร่วมกองทัพ มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่ไม่ผ่านการตรวจร่างกายในการเข้ากองทัพ
แบร์ลี่ นั้นไม่ผ่านการตรวจร่างกายเพราะความอ้วนของมัน ชอร์วิน ไม่ผ่านเพราะเขาอ่อนแอเกินไปจนไม่ถึงมาตฐาน อีกคนที่เหลืออยู่คือ พอตเตอร์ เด็กหนุ่มที่ถือคบไฟในเหมืองเพราะเท้าที่แบนของเขา
เทียบกับพันธมิตรเก่าแล้ว เงื่อนไขในการเข้ากองทัพของอาณาจักรนอแมนเคร่งครัดกว่ามาก
จางเทีย เองก็เสียใจกับ พอตเตอร์ มีแค่ พอตเตอร์ เท่านั้นที่ทำการขุดเหมืองต่อ ส่วนคนอื่นๆในกลุ่มพระเจ้าได้เข้าร่วมกองทัพในตอนที่ จางเทีย ออกจากแบล็คฮ็อตมา นอกจากหวังว่า พอตตเอร์ จะยอมแพ้กับตัวเองและให้ แบร์ลี่ ดูแลเขาถ้าจำเป็น จางเทีย ไม่มีความคิดอื่นที่จะช่วยอีกฝ่าย เมื่อเจอสายตาอ่อนแอของ พอตเตอร์ ที่มั่นคงยิ่งกว่าไฟ จางเทีย ก็อดไม่ได้ที่บอกว่ามันเป็นแค่เรื่องตลก
“ อ๊ากก ดูนั่น โลมา... “
เมื่อได้ยินแบบนั้น จางเทีย ก็กลับมาสู่โลกความจริง จางเทีย ส่ายหน้าและสลัดเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับแบล็คฮ็อตออกไปจากหัว สิ่งที่ต้องคิดตอนนี้คือการพัฒนาตัวเอง ถ้าเขาแข็งแกร่งขึ้น มันก็ไม่มีปัญหาที่จะพาคนที่เขารู้จักไปกับครอบครัวเขาด้วยไปยังทวีปตะวันออกในตอนที่สงครามศักดิ์สิทธิ์เริ่มขึ้นมา แต่สำหรับเรื่องเวลาแล้ว เขาก็แค่ตัวตนเล็กๆในกงล้อโชคชะตา คนที่โดดออกมาจากก้นบ่อและไม่สามารถมองเห็นทิศทางข้างหน้าได้
ที่ทะเลที่ไกลออกไป โลมาบางตัวกระโดดขึ้นมาจากน้ำและเล่นกับเรือ จางเทีย มองกลับไปและพบว่ามีคนห้าคนยืนอยู่ที่ดาดฟ้ากับเขา
สามคนนั้นเป็นผู้ชาย อีกสองเป็นผู้หญิง พวกนี้ต่างก็แก่กว่า จางเทีย และต่างก็มีอาวุธกับตัว ผู้ชายสามคนนั้นมีไหล่เหมือนเสือและเอวเหมือนหมี ในตอนที่ จางเทีย เห็นพวกนั้น เขาก็รู้ว่าพวกนั้นน่ะเป็นนักรบ หนึ่งในผู้หญิงนั้นอายุกว่า 30 ปี ส่วนอีกคนอายุ 17-18 ปี ผู้หญิงที่แก่กว่านั้นมีเอวคอดและหน้าอกได้รูป เธอยังดูแข็งแกร่งและดูมีความเป็นผู้นำ แม้ว่าจะดูมีประสบการณ์เล็กน้อยแต่เธอนั้นก็ยังคงมีเสน่ห์ของความเป็นผู้ใหญ่อยู่ สาวที่เด็กกว่านั้นมีตาเหมือนอัลมอนด์,แก้มสีชมพูและขาเรียวยาว เธอดูสวยอย่างมาก แม้ว่าจะเด็กกว่าแต่เธอสูงกว่าผู้หญิงอีกคน
เสียงอุทานตะกี้มาจากผู้หญิงที่เด็กกว่า เธอมองไปที่โลมาที่อยู่ไกลออกไปและปรบมือด้วยความตื่นเต้น
“ แม้แต่ตอนนี้ พี่ฟู่ ก็ยังชอบโลมามาก ทำไมไม่ให้ ศิษย์น้องยู่ จับมันสักสองตัวล่ะหลังจากที่เธอขึ้นไประดับ 6 และสร้างพลังฉีต่อสู้ได้ ฉันคิดว่าถ้านายทำตามคำขอได้ ศิษย์น้องยู่ น่าจะไม่ปฏิเสธนายไม่ว่าเขาจะเจอปัญหาอะไร ใช่มั้ย น้องยู่ ?” - หญิงวัย 30 ปีพูดตลกออกมา
“ พี่ฟ่าง อย่าแหย่ฉันสิ ! “ – เด็กสาวกระทืบพื้นไปมาและฮึดฮัดใส่ชายที่ซึ่งหล่อที่สุดในสามคนนั้น
ผู้ชายนั้นดูอายยิ่งกว่าผู้หญิง ใบหน้าของเขาแดงกล่ำในตอนที่ได้ยินมุขแบบนั้น เขาพูดติดอ่างออกมา – “ ถ้า...ถ้าศิษย์น้องสาว..ฟู่ ชอบมัน เราไปดูโล...โลมาก็ได้ ! “
ศิษย์น้องฟู่...ศิษย์น้อง...ศิษย์พี่....เมื่อได้ยินคำพูดทางการแบบนี้ จางเทีย เดาได้ถึงสถานะของพวกนี้ พวกนี้ต้องมาจากนิกายของจีนที่ซึ่ง ดอนเดอร์ เคยพูดถึง
นิกายจีนนั้นเป็นเรื่องใหม่สำหรับ จางเทีย ในความคิดของเขา นิกายนี้คือองค์กรที่มีทั้งตระกูล, กลุ่มการค้า, โรงเรียน, โบสถ์, และแม้แต่กองทัพ มันเป็นกลุ่มที่อยู่ด้วยกันด้วยความสนใจคล้ายๆกันและความต้องการแบบเดียวกัน
นิกายนั้นยากที่จะได้เห็นในที่อื่นนอกจากในประเทศจีน จางเทีย ไม่เคยได้ยินถึงเรื่องนิกายมาก่อนตอนอยู่ในพันธมิตร แม้ว่าเขาจะเห็นโบสถ์, สำนัก, คลับต่อสู้และทีมลับต่างๆมากมายที่มีความสัมพันธ์แบบอาจารย์และศิษย์แต่เขาก็รู้ว่าพวกนี้ต่างก็จากระบบชนชั้นทั้งนั้น
พูดโดยทั่วไปแล้วนิกายก็คล้ายกับโรงเรียน เทียบกับโรงเรียนแล้ว ความต่างที่ใหญ่ที่สุดคือนิกายนั้นเกี่ยวข้องกับความเชื่อและตัวตน แต่ความเชื่อรึตัวตนนั้นอาจจะมีรึไม่มีในโรงเรียนก็ได้ โรงเรียนมีการจัดการที่ยืดหยุ่นมากกว่า นิกายนั้นโฟกัสไปที่ความเชื่อแต่โรงเรียนนั้นโฟกัสไปที่ความรู้ลึกลับ พวกเขาต่างก็มีวิธีการของตัวเอง
เพราะมันเป็นครั้งแรกที่เจอคนมาจากนิกาย จางเทีย จึงสนุกกับฉากตรงนี้และสนใจที่พวกนี้คุยกัน เมื่อเห็นว่า จางเทีย เป็นเด็กอายุ 15-16 ปี พวกนั้นก็ไม่ได้สนใจเขาและคุยกันต่อ
ไม่นานพวกเขาก็เปลี่ยนหัวข้อไปที่เรื่องเป้าหมายของพวกเขาจาก ‘ ศิษย์น้องฟู่ ‘ และ ‘ ศิษย์น้องยู่ ‘
“ มันแพงเกินไป มันคิดเงินเราตั้ง 15 เงินสำหรับการเดินทางไม่กี่ชั่วโมงในทะเล นี่มันไม่ต่างอะไรจากการปล้นเลย ที่อื่นมันอาจคิดแค่ 5 เงินต่อการเดินทางในทะเลทั้งวัน ! “ – คนหนึ่งได้บ่นออกมา
“ ศิษย์น้องเฟ่ง ไม่ต้องบ่นเรื่องนั้นแล้ว เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่นายและ ศิษย์น้องฟู่ ได้ออกมาเพื่อสร้างพลังฉีต่อสู้ มีหลายอย่างที่พวกนายไม่รู้ ถ้านายอยู่ที่อื่นในจินหยวน นายอาจจะไม่สามารถเข้าไปยังโลกใต้ดินแม้ว่าจะใช้เงินมากกว่านี้ 10 เท่า ไม่นานมานี้ห้าทางเข้าของโลกใต้ดินถูกจินหยวนค้นพบแล้ว นอกจากเกาะมังกรลับนี้ที่สามารถเข้าได้ฟรีๆแล้ว อีกสามอันน่ะโดนตระกูลใหญ่ๆจับจองไปหมดและนายจะเข้าไม่ได้นอกจากจะจ่าย 5 ทองต่อครั้ง ทางเข้าสุดท้ายคือสันเขายานกุย ทางเข้านั้นห่างจากเมืองยานกุยไป 1000 กม. นายสามารถเข้าที่นั่นได้ตามใจแต่นอกจากนักสู้เก่งๆไม่กี่คนแล้ว ไม่มีใครไปถึงที่นั่นได้ “
“ ศิษย์พี่อัน ท่านหมายความว่าวังไฮหยวนได้ทำเรื่องดีๆไว้งั้นเหรอ ? “ – ศิษย์น้องเฟ่ง ถามออกมา
“ ฮี่ฮี่ ตระกูลจางของวังไฮหยวนน่ะรวยซะจนเป็นเจ้าของ 8 เมือง และได้ผลประโยชน์จากทะเล แม้ว่าทองนั้นจะได้มาจากการแลกเปลี่ยนระหว่างทวีปตะวันออกและตะวันตกนั้นเป็นหลายเท่าตัวของค่าเข้าของโลกใต้ดิน เกาะมังกรลับนี่น่ะห่างจากชายฝั่ง มันจะฉลาดกว่าถ้าเปิดมันให้เราดีกว่าการสร้างเมืองใหม่และส่งทหารมาที่นี่ นั้นก็เพื่อชื่อเสียงที่ดี อีกอย่างแล้วคนจะได้รับของดีๆมากมายจากการล่าสัตว์อสูรในโลกใต้ดินซึ่งมันเอากลับมาไม่สะดวก ดังนั้นแล้วคนส่วนใหญ่เลยเลือกที่จะขายมันให้กับเกาะมังกรลับซึ่งแน่นอนว่าต้องทำกำไรให้กับกลุ่มการค้าชางเฟิงภายใต้การดูแลของวังไฮหยวน ! “ – ศิษย์พี่อัน อธิบาย
“ ฉลาดจริงๆเลย ! “- ศิษย์น้องยู่ ถอนหายใจ
“ มันไม่ได้พึ่งแค่โชคสำหรับวังไฮหยวนที่จะมีขนาดแบบนั้นได้ จากความคิดของพวกเขาแล้ว แน่นอนว่าพวกเขาดำเนินแผนมาได้ดี ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงได้คำชมและผลประโยชน์จากคนอื่น “ - ศิษย์พี่ฟ่าง ตอบ
“ ศิษย์พี่ฟ่าง ฉันได้ยินมาว่าสัตว์อสูรในโลกใต้ดินน่ะตัวใหญ่และดุร้ายอย่างมาก แม้แต่แมงมุมดำที่อยู่ในระดับต่ำที่สุดก็ตัวใหญ่อย่างกับวัว “
“ ไม่ต้องกังวล ศิษย์น้องฟู่ แม้ว่าแมงมุมดำจะดุร้ายแต่ ศิษย์พี่อัน และข้าจะเผชิญหน้ากับมันก่อนเอง ครั้งนี้มันคงไม่ยากที่เราจะจัดการแมงมุมดำเล่านั้น ศิษย์พี่อัน ของเจ้าและข้าแน่นอนว่าจะช่วยให้เจ้าสร้างพลังต่อสู้ฉีลมทลายให้ได้เอง เราจะไม่เริ่มยกระดับไปยังระดับ 7 จนกว่าพวกนายทั้งสามคนจะไปถึงระดับ 6 จากนั้นเจ้าจะได้สู้ไปพร้อมกับเราได้และดูว่าสิ่งที่จำเป็นในการเพิ่มระดับไประดับ 7 นั้นต้องใช้อะไรบ้าง “
เมื่อได้ยินแบบนั้น จางเทีย ก็หันหลังกลับและเตรียมตัวที่จะออกจากดาดฟ้าเรือ ในเวลาเดียวกันก็เริ่มเห็นเกาะอยู่ไกลๆ เมื่อมองไปที่เรือที่ขับไปยังเกาะ จางเทีย รู้ว่านั่นต้องเป็นเกาะมังกรลับแน่ๆ
ในตอนที่เขาออกจากดาดฟ้ามา จางเทีย ได้ยินเสียงของน้ำด้านล่างเรือ เขารู้สึกว่าเสียงของน้ำมันแปลกไปเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะได้หันหลังกลับไป เขาก็ได้ยินเสียงอุทานด้านหลังเขาและได้มีการชนกันของอาวุธและเสียงคำราม
จางเทีย หันกลับไปและเห็นคนอีกคนอยู่บนดาดฟ้า
คนๆนั้นใส่เสื้อสีฟ้าและมีผมที่รกรุงรัง เขายืนอยู่ตรงใจกลางดาดฟ้า ผมเปียก ตาของชายคนนั้นดูตื่นตัว เขายังคงมองไปรอบๆดาดฟ้าแต่นิ้วแปลกๆของเขานั้นกำคอของ ศิษย์น้องฟู่ ไว้แน่น ที่ซึ่งตอนนี้ดูค่อนข้างเจ็บและไม่มีความสามารถที่จะขัดขืน คนที่อยู่กับ ศิษย์น้องฟู่ นั้นโดนโยนออกไปนอนอยู่ที่พื้นตรงดาดฟ้า ศิษย์น้องยู่ และ ศิษย์น้องเฟ่ง ต่างก็พยายามปีนกลับมาบนาดฟ้า ส่วนศิษย์พี่อัน และ ศิษย์พี่ฟ่าง นั้นยืนห่างออกไปหลายก้าวพร้อมกับส่งสายตาหงุดหงิดออกมา มือของ ศิษย์พี่ฟ่าง สั่น เธอหน้าซีด มุมปากของ ศิษย์พี่อัน นั้นมีเลือดไหลออกมา ในตอนที่พวกเขาได้สู้กับชายลึกลับคนนี้ พวกเขาก็ได้รับบาดเจ็บ
ด้านหลังของชายคนนี้มีพลังฉีต่อสู้อันน่ากลัวแสดงภาพของงูออกมา
หลังจากนั้นก็ได้มีเสียงน้ำดังขึ้นอีกครั้งและชายอายุไม่ถึง 20 ปีก็โผล่ขึ้นมาที่ดาดฟ้าซึ่งด้านบนนั้นไม่ได้ใส่อะไรและเท้าเปล่า เขาใส่กางเกงขาสั้นและจับมีดไว้ในมือ เขามองไปที่ชายคนนั้นด้วยท่าทีห่างเหิน – “ ปล่อยเธอไป เจ้าได้ลดโทษมาเหลือขนาดนี้แล้ว ทำไม เจ้าต้องเอาเด็กน้อยมายุ่งให้เจ้ามีความผิดมากกว่าเดิมอีก ? “
“ ตอแหล ! “ – ชายคนนั้นตะโกนออกมาดังๆ เขามองไปที่ชายหนุ่ม เขาดึงเด็กสาวไปอยู่ข้างตัวและค่อยๆซ่อนเธอไว้ด้านหลัง – “ แกกระโดดลงจากเรือและให้เรือหันกลับเพื่อที่จะได้ส่งข้ากลับไปที่ดินแดนหลัก ! “ - ชายคนนั้นตะโกนออกมาอย่างเดือดดาล
“ เจ้าฝ่าฝืนกฎของเขตไฮหยวนบนเกาะวังมังกรลับ เจ้าคิดว่าเจ้าจะยังหนีได้อยู่อีกเหรอ ? แม้ว่าเจ้าจะขึ้นฝั่งได้แต่ เจ้าคิดว่าเจ้าจะหนีจากเขตไฮหยวนไปได้รึไง ? อย่าทำเป็นใสซื่อน่า “ – เขาเล่นกับมีดตัวเองแล้วแสดงท่าทีจริงใจมมากกว่าเดิม – “ พวกข้าไล่ตามมาสามวัน เราก็คุ้นกันแล้วนิ ไว้หน้าข้าสักหน่อยน่า ข้าจะรีบทำให้เจ้าตายให้เร็วที่สุดและข้าจะได้ไปส่งภารกิจให้เร็วที่สุดด้วย จากนี้เราะจะได้ไม่ต้องเจอกันอีก แบบนี้เป็นไง ? “
“ เหี้ย ! “ – ก่อนที่ชายคนนั้นจะได้ด่าออกมาก็ได้มีดาบพุ่งมาแทงที่ลำคอของเขา ตาของเขาถลนออกมาและพยายามที่จะมองกลับไปว่าใครแทงเขาแต่ก็ล้มเหลว
พลังฉีต่อสู้, พลังชีวิตไม่นานทั้งคู่ก็ได้หายไป
ชายคนนั้นล้มลงพร้อมกับ ศิษย์น้องฟู่ ที่โดนจับตัวมานั้นรีบวิ่งหนีไปด้วยสีหน้าที่ตกใจ
ตอนนั้นเองเด็กหนุ่มสุดหล่อในชุดขาวกำลังถือดาบยาวยืนอยู่ด้านหลังชายคนนั้น ไม่มีใครบนดาดฟ้านั้นเห็นว่าเขามาจากไหนในตอนที่เด็กหนุ่มคนนี้ปรากฏตัวอยู่ด้านหลังชายที่ตายไปรวมถึง จางเทีย ด้วย
เมื่อเห็นชายคนนั้นนอนอยู่ที่พื้น เด็กหนุ่มชุดขาวก็ส่ายหน้า – “ ฉันล่ะสงสัยจริงๆว่านายไปถึงระดับ 8 ได้ยังไง หลังจากที่ไล่ตามมาสามวัน นายก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีกี่คนไล่ตามนายอยู่ ฉลาดน้อยจริงๆเลย นายยังกล้ามาทำธรุกิจแบบนี้อีกรึไง ? ความฉลาดนายนี่มัน... “ – เด็กหนุ่มสะบัดดาบออกเพื่อสะดบัดคราบเลือดให้ไหลออก หลังจากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้าและมองขึ้นไป – “ตลกจริงๆเลย “
ในตอนที่พูดจบ เด็กหนุ่มชุดขาวก็ได้โดดออกจากดาดฟ้าแล้วหมุนตัวในอากาศสองรอบพร้อมกับเก็บดาบเข้าไปในฝักก่อนที่จะลงไปยังทะเลอย่างกับโลมา เขาหายไปในทะเลโดยที่น้ำไม่กระเซ็นออกมาเลย
“ ทำไมต้องทำเท่ต่อหน้าข้าด้วยแล้วมาทิ้งให้ข้าจัดการกับที่เหลือ ? “ – เด็กหนุ่มคนแรกที่เล่นกับมีดพึมพำออกมาแล้วเดินไปที่ศพและทำการค้นตัว เขาได้ถุงมาจากศพและเปิดมันต่อหน้าทุกคน จากนั้นเขาก็ได้เอาลูกปัดสีแดงออกมาจากถุง หลังจากที่ดูมันสักพักแล้ว เขาก็ได้พยักหน้าแล้วใส่กลับคืนแล้วเอามันไป
“ ตอนเรือไปถึงท่า จะมีคนมาจัดการกับศพนี่ “ - หลังจากพูดจบ เด็กหนุ่มคนนั้นก็ได้กระโดดลงทะเลไป
ตอนนั้นดาดฟ้านั้นมีผู้โดยสารมากมายมามุงดู ส่วนมากแล้วก็เป็นคนที่จะไปยังเกาะมังกรก็จะเป็นนักสู้ที่ซึ่งชินกับการต่อสู้ ดังนั้นแล้วหลังจากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น หลายคนก็ไม่ได้รู้สึกกลัวเลยสักนิด พวกเขากลับวิ่งออกจากห้องมาดูเท่านั้น
มันถือว่าเป็นการต่อสู้ที่สุดยอด
“ คนที่ตายนี้หน้าคุ้นๆแหะ ! “ – คนที่มามุงพูดขึ้น
“ เขาคือ เดงทง สัตว์ประหลาดแห่งทะเล เขาเป็นหัวหน้าโจรสลัดที่เป็นที่ต้องการของประเทศฉีแลน ฉันไม่คิดว่าเขาจะโดนฆ่าวันนี้ ! “ – เพราะมีผู้โดยสารเป็นร้อยๆเดินออกมาดู ในตอนที่ใครบางคนรู้สึกว่าชายคนนี้หน้าคุ้นๆ บางคนก็จำชายคนนั้นได้
“ ฉันได้ยินมาว่า เดงทง นั้นเก่งเรื่องว่ายน้ำในทะเลและยังมีเทคนิคลับด้วย เขาเป็นที่รู้กันว่าไม่ตายแม้ว่าจะอยู่ในทะเลมากกว่า 7 วัน เขาหนีการไล่ล่าของประเทศฉีแลนได้หลายครั้งเพราะพรสวรรค์นี้ เขาถึงกับพลิกสถานการ์และไล่ฆ่าคนที่มาไล่ตามเขาได้ด้วย ฉันไม่คิดว่าเขาจะโดนฆ่าใกล้ๆกับเกาะมังกรลับเลย เขาโดนไล่มาและถูกอีกคนฆ่าตาย สุดท้ายแล้วเขาคงใช้โชคหมดไปแล้ว “
“ ถ้าเขาทำตัวดีและไม่ขโมยของแล้วฆ่าคนที่เกาะมังกรลับ ทำไมเขาถึงโดนฆ่า มีคนบอกว่า เดงทง น่ะอยู่แค่ระดับ 7 ฉันคิดว่าเขามาที่นี่เพื่อเลื่อนระดับแต่เขาไม่คิดว่าเขาจะตายหลังจากที่ได้เลื่อนไปเป็นระดับ 8 ! “
“ เด็กหนุ่มสองคนที่ไล่ตามมานั้นเป็นใคร ? “
“ พวกเขาต้องมาจากวังมังกรลับของตระกูลจาง วังมังกรลับน่ะคือที่สำหรับชนชั้นสูงตระกูลจางในการบ่มเพาะตัวเอง มีคนบอกว่าคนที่ทำการบ่มเพาะที่นั่นน่ะมีการตื่นของสายเลือดกันทุกคน “
หลังจากที่พากันถอนหายใจออกมา พวกคนที่ดูอยู่ต่างก็กลับออกไปแต่หลังจากที่มองไปที่ศพบนดาดฟ้าแล้ว หลายคนต่างก็เตือนตัวเองว่าพวกเขาไม่ควรที่จะไปสงสัยในเรื่องของเกาะมังกร ถ้าดูจากความสามารถของพวกเขาตอนนี้
...
“ ศิษย์น้องฟู่ เจ้าเป็นอะไรมั้ย ? “ - ศิษย์น้องยู่ มองไปที่ ศิษย์น้องฟู่ อย่างกังวล ศิษย์น้องฟู่ ของเขานั้นยังไม่รู้ตัวจนกระทั่งเขาถามไปอีกรอบ
“ อ๊าก.. ข้าไม่เป็นไร ! “
“ ขอบคุณที่เจ้าไม่เป็นไร ข้าล่ะกังวลจริงๆ ! “ - ศิษย์น้องฟู่ ถอนหายใจออกมาแล้วยิ้มแต่เขาไม่เห็นว่า ศิษย์น้องฟู่ นั้นยังคงเหม่ออยู่ในตอนนั้น
มีแค่ ศิษย์พี่ฟ่าง ที่ถอนหายใจออกมาหลังจากที่มองไปยังหน้าของ ศิษย์น้องฟู่ ผู้ชายสองคนนั้นหล่อเกินไปและมีพรสรรค์ด้วย โดยเฉพาะคนที่ใส่ชุดสีขาวที่ช่วย ศิษย์น้องฟู่ เอาไว้ หลังจากที่เห็นคนๆนั้นแล้ว ตาของ ศิษย์น้องฟู่ ไม่ได้ถอนสายตาออกมาจากเด็กหนุ่มนั่นเลย ประโยคสุดท้ายตะกี้เขาพูดว่าอะไร ? เฮ้อ ! ศิษย์น้องยู่ ช่างน่าสงสารจริงๆเลย !
...
“ วังมังกรลับ...” จางเทีย พึมพำชื่อนี้ออกมาสองรอบในใจ ตาของเขาเริ่มเป็นประกายขึ้นมา หลังจากที่มองไปยังผู้ชายสามคนและผู้หญิงสองคนบนดาดฟ้าและศพแล้ว เขาก็ได้กลับไปที่ห้องตัวเองพร้อมกับคนที่เหลือ
...
20 นาทีต่อมาเงาของเกาะก็เริ่มใหญ่ขึ้นๆ
เกาะมังกรลับนั้นเป็นเกาะใหญ่ที่อยู่ภายใต้การดูแลของเขตไฮหยวน มันห่างจากทวีปมา 190 กม.และมีพื้นที่กว่า 340 ตร.กม. มันมีป่าหนาแน่นและเต็มไปด้วยภูเขา
ด้วยการที่อยู่เกาะเดียวกับวังมังกรลับคือรูมังกรบนเกาะซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นทางเข้าโลกใต้ได้ 1 ใน 5...