spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 271: ฟังแล้วสุดยอด
หลายปีก่อนหน้านี้มันมักจะมีหิมะในเมืองแบล็คฮ็อตตอนช่วงเดือนธันวาคมแต่ 5000 ไมล์ห่างออกมาในจินไห่ มันยังคงฝนตกอยู่ เพราะฝนทำให้อากาศในตอนเช้าที่นี่สดชื่นอย่างมาก
นี่เป็นวันที่สามแล้วตั้งแต่ที่ จางเทีย มายังจินไห่และอยู่กับครอบครัวของเขา
แม้ว่าพ่อจะโดนจับขังกว่า 10 วันแต่ต้องขอบคุณการตัดสินของตระกูลจางที่ปล่อย จางปิง ออกมาเพราะทักษะการคิดเลขในใจ จางเทีย ได้บอกกับ จางเทีย ว่ามันหลักๆแล้วมันเป็นเพราะลุงหกของพ่อพวกเขา
เพราะความช่วยเหลือของลุงหก เรื่องที่ว่าพ่อของพวกเขาต้องโดนขังไปตลอดชีวิต ในที่สุดก็หมดไปซะที
นับจากรุ่นแล้ว จางเทีย และ จางหยาง ควรที่จะเรียงลุงหกของพ่อว่าทวดหกเพราะเขาเป็นผู้อาวุโสของตระกูลที่ซึ่งอยู่รุ่นแก่กว่าพวกเขาไปสามรุ่น บอกได้ว่าชายคนนั้นก็เป็นญาติของปู่ จางเทีย ทวดหกของพวกเขานั้นโด่งดังอย่างมากในจินไห่เพราะเขาได้ดูแลสำนักงานเขตที่นี่และเป็นสมาชิกเพียงคนเดียวในเมืองจินไห่ที่มีสายเลือดโดยตรงในกลุ่มผู้อาวุโสของตระกูล เขานั้นเป็นหลักฐานว่าเมืองจินไห่นี้เป็นตัวแทนของกลุ่มผู้อาวุโสของตระกูลจาง
เมื่อได้ยินข่าวนั้น จางเทีย ก็จำมันไว้ในใจและต้องตอบแทนทวดหกที่เขาไม่เคยเจอ
สายเลือดในจินไห่ของตระกูลจางนั้นเกิดมาจากเมียคนที่เจ็ดของ ลอร์ดไฮหยวน วันนี้มีสมาชิกทั้งหมด 2-3 หมื่นคนที่อยู่ในเมืองจินไห่ แม้ว่าตัวเลขนี้จะอยู่ในอันดับสุดท้ายในบรรดา 8 เมืองแต่ตระกูลจางนั้นก็ถือว่าเป็นตระกูลอันดับหนึ่งและเป็นพวกที่มีอำนาจที่สุดในเมืองจินไห่
เพราะครอบครัวของ จางเทีย ได้ย้ายออกไปอยู่อย่างโดดเดี่ยวที่เมืองแบล็คฮ็อตมาหลายสิบปี มันจึงเป็นเหมือนฝันสำหรับ จางเทีย ที่เขากลายเป็นสมาชิกของตระกูลที่ยิ่งใหญ่แบบนี้
ในตอนเช้า แม่ของ จางเทีย ได้ต้มข้าวต้มเอาไว้ เธอเริ่มเตรียมมันตั้งแต่เมื่อคืน ในตอนเช้า จางเทีย ก็รีบซัดข้าวต้มนั้นไปอย่างเต็มอิ่ม เขาเห็นรอยยิ้มของแม่พร้อมกับรอยย่นที่หางตาซึ่งทำให้ จางเทีย นึกถึงตอนที่แม่มองเขาตอนกินข้าวก่อนที่จะไปโรงเรียนในแต่ละเช้าตอนที่พวกเขายังอยู่ในเมืองแบล็คฮ็อต
ความเสี่ยงทุกอย่างที่ จางเทีย ได้เผชิญมา การต่อสู้และดิ้นรนตลอดหลายเดือนมานี้ได้หายไปเมื่ออยู่ต่อหน้าแม่ของเขา จางเทีย รู้สึกได้แต่ความอบอุ่นของบ้านที่เต็มเปี่ยมในใจ
“ กินเท่าที่อยากเลย เรามีอีก ! “ – เมื่อเห็นช้อนของ จางเทีย เริ่มช้าลง แม่ก็ได้ตักข้าวต้มให้อีกถ้วย
“ เก็บไว้อีกถ้วยไว้ให้พี่สะใภ้ด้วย เธอต้องการสารอาหารมากกว่าผม ! “ - จางเทีย พึมพำพร้อมกับกินไปด้วย
“ ลูกก็รู้นิว่าแม่รู้ว่าต้องทำยังไง ! “ - พ่อดีดหน้าผากของเขา
แม้ว่าพ่อจะอยู่ในคุกมา 10 วันแต่ จางปิง ก็ดูเหมือนจะไม่ได้รับการบาดเจ็บจากทางจิตใจและร่างกายเลย เมื่อเห็นพ่อของเขาตอนนั้น จางเทีย รู้สึกว่าพ่อนั้นผ่อนคลายกว่าเดิมและมีรอยยิ้มมากกว่าเดิม
จางเทีย ไม่คิดว่าทักษะการคิดเลขในใจที่เขาได้ซื้อมาด้วยเงินไม่กี่เงินจากข้างถนนนั้นจะส่งผลขนาดนี้ ในตอนที่เขาคิดถึงประโยชน์ที่หนังสือนั่นนำมาให้กับเขา จางเทีย ก็รู้สึกว่าเขายังไม่ได้เรียนรู้ความลับของมันอย่างเต็มที่
ในสองวันที่ผ่านมา จางเทีย พบว่าเขาสามารถคำนวณสี่กระบวนการบนลูกคิด 13 แถวสองอันพร้อมกันได้เร็วกว่าเดิม เขารู้สึกว่าจิตใจของเขานั้นยืดหยุ่นมากกว่าเดิมหลังจากที่จำลองลูกคิดแต่ละอันขึ้นมา ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถโฟกัสไปกับสองกระบวนการที่ต่างกันได้ในเวลาเดียวกันซึ่งมันเป็นความรู้สึกที่วิเศษ
“ แม่ เมื่อคืน ผมได้ไปที่ตึกตรงถนนซินฮีที่แม่บอกไว้ ปู่และลุงไม่ได้อยู่ที่นั่นแล้ว คนอื่นบอกมาว่าพวกนั้นย้ายไปเมื่อสิบปีที่แล้ว ดูเหมือนว่าพวกนั้นจะย้ายไปยังเมืองซิ่น เพราะแม่หลับแล้วตอนผมกลับมา ผมเลยไม่ได้เข้าไปกวน “ - จางเทีย บอกเรื่องนี้กับพ่อแม่พร้อมกับกินไปด้วย
เมื่อได้ยินข่าวนี้ แม่ก็ได้ถอนหายใจออกมา
“ แม่ ไม่ต้องกังวล ถ้าแม่อยากไปหาพวกเขาเร็วๆ เราส่งข่าวผ่านหนังสือพิมพ์ก็ได้ ถ้าพวกเขายังอยู่ในเขตไฮหยวน เราจะต้องหาพวกเขาเจออย่างแน่นอน ! “ - เมื่อเห็นแม่เศร้า จางเทีย ก็รีบปลอบทันที
“ ลงข่าว ? “ – แม่กระพริบตาเหมือนกับเห็นว่าเป็นความคิดที่น่าสนใจ
“ เพราะเรารู่วาพวกนั้นไปที่เมืองซิ่น ฉันจะไปที่นั่นกับเธอตอนเราว่าง ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็ไปที่นั่นได้แล้ว เราจะจ้างคนให้หาพวกนั้นด้วย ถ้าวิธีพวกนี้ไม่ได้ผล เราก็จะลงข่าวในหนังสือพิมพ์ เพราะเราเพิ่งมาอยู่ทีนี่ มันจะดีกว่าถ้าเราทำตัวไม่ให้เป็นที่สะดุดตา “ – พ่ออธิบายอย่างใจเย็น
ตั้งแต่ที่พวกเขาได้กลับมายังเขตไฮหยวน จางเทีย เองก็พบว่าพ่อของนั้นใจเย็นขึ้นกว่าเดิม
เมื่อได้ยินพ่อพูดแบบนั้น ทุกคนต่างก็พยักหน้าหลังจากที่คิดอยู่สักพัก
หลังจากที่กินมื้อเช้าเสร็จ ทั้งครอบครัวก็ยุ่งอยู่กับการเริ่มทำความสะอาดและอาบน้ำ พวกเขาใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ที่เพิ่งไปซื้อมา โดยเฉพาะพ่อของเขาเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ จางเทีย ได้เห็นพ่อใส่สูทและผูกไทด์ด้วย
หลังจากใส่ชุดนั้นแล้ว พ่อเขาดูต่างจากแต่ก่อนอย่างสิ้นเชิง
“ พ่อ พ่อนี่ดูหล่อมากเลยในชุดนี้ ! “ - จางเทีย หยอกออกมา
“ พ่อไม่ได้ใส่ชุดนี้มาหลายสิบปีแล้ว พ่อไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะต้องจัดไทด์ยังไง “ – พ่อถอนหายใจออกมา
เมื่อคิดถึงตอนที่พ่อใส่ชุดเครื่องแบบคนงานสีขาวและต้องขยันเพื่อครอบครัว ต้องตื่นแต่เช้าและกลับดึกในเมืองแบล็คฮ้อต จางเทีย ก็รู้สึกอยากร้องไห้ เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เขาจะรีบจัดการเรื่องต่างๆเพื่อเข้าวังมังกรลับ เพราะเขาโตแล้ว มันได้เวลาที่เขาจะได้รับผิดชอบต่อครอบครัวสักที
ในตอนที่มันเกือบถึงเวลา 9.30 พี่ชายของพ่อ ลุงของ จางเทีย ก็ได้มารับพวกเขา
ลุงนั้นอายุกว่า 50 ปี ซึ่งดูไปแล้วคล้ายกับพ่อกว่า 60% นอกจากนี้ยังดูเป็นสุภาพบุรุษกว่าด้วยแว่นที่ใส่ แต่ดูไปแล้วเขาอ้วนกว่าพ่อเล็กน้อยและดูเหมือนว่าเขาจะชินกับการใช้ชีวิตแบบชนชั้นสูง
เพราะช่วงนี้ลุงมักจะมาหาพวกเขา พวกเขาเลยเริ่มสนิทกัน ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงพูดกันตรงๆได้
ครอบครัวของ จางเทีย นั้นขึ้นไปนั่งแถวสามของรถและออกจากที่พักตอนนี้ไป
จินไห่นั้นเป็นเมืองติดชายฝั่ง มันไม่ได้เจริญเท่ากับยีแยงแต่ก็ถือว่าเป็นเมืองที่ใหญ่ จินไห่นั้นมีคน 3.4 ล้านคน สำหรับศูนย์กลางการผลิตของที่นี่นั้นเหนือกว่าคารัวล์ ครึ่งหนึ่งของเครื่องจักรไอน้ำของจินหยวนและหนึ่งในห้าของยานมาจากโรงงานในจินไห่
ในตอนที่รถขับไปถึงอเวนิวของชายหาดของเมือง จางเทีย ก็เห็นท่าเรือมากมายที่มีขนาดต่างๆ
“ ลองไปที่ท่าเรือของเราก่อน จางเทีย และ จางหยาง ไม่เคยเห็นมัน “ – ลุงหันกลับมาและพูดกับ จางปิง
จางปิง พยักหน้า – “ ดีเลย พาพวกนี้ไปดูกัน ฉันเองก็ไม่ได้ไปที่นั่นมานานแล้ว มันจะดูเป็นยังไงบ้างตอนนี้ “
“ พ่อได้รวมท่าเรืออีกสองอันเข้าด้วยกันเมื่อหลายปีที่แล้ว ตอนนี้ท่าเรือมิลค์เวย์ถือว่าเป็นหนึ่งในสามของท่าเรือในด้านขนาดและอำนาจในจินไห่และหนึ่งในห้าของประเทศจินหยวน ตอนนี้ท่าเรือของเราน่ะผลิตเรือประมง 500-2000 ตัน อีกทั้งเรือรับส่งและเรือเดินทะเลที่ประมูลได้จากกองทัพ พ่อน่ะเตรียมที่จะเริ่มทำเรือประมง 10,000 ตันในปีหน้าและผลักดันท่าเรือนี้ให้อยู่ในอันดับท่าเรือที่มีการผลิตได้ 10,000 ตัน ! “
“ ท่าเรือเก่าเราไม่ได้มีความสามารถที่จะผลิตได้เรือประมง 10,000 ตันนิ มีท่าเรือใหม่มาสร้างเพิ่มเหรอ ?”
“ มันจะเป็นการแข่งขันในสองเดือนนี้ เพราะท่าเรือเก่าเราเริ่มสร้างตึกให้พวกเรือประมง เราเลยได้เงินมากมายจากมันในหลายปีที่ผ่านมา จนเราสามารถสร้างท่าเรือที่รองรับเรือที่ขนปลามาได้ 10,000 ตัน ! “
“ เพราะการขนส่งทางทะเลนี้คืออุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงสูงและค่าตอบแทนก็สูง เรือจึงถูกปรับมาตามการขนส่งและถูกผลิตออกมาตามคำสั่ง ท่าเรือของเราน่ะยังไม่เสร็จ แล้วเราได้รับออเดอร์ได้ยังไง ?” - พ่อของ จางเทีย อึ้งเล็กน้อง
“ ออเดอร์ก็มาจากตระกูลจางของเรา ฉันเองก็รู้สึกแปลกถึงเรื่องนี้ ปีที่แล้วกลุ่มการค้าชางเฟิง บริษัทขนส่งทางทะเลและบริษัทเรือภายใต้ตระกูลจางนั้นเกือบที่จะโยนแผนพัฒนาออกมาพร้อมกับซึ่งเพิ่มความต้องการของเรือ 10,000 ตัน, เรือบรรทุกผู้โดยสารและเรือล่องสมุทรออกมาหลายครั้ง มันดูรีบเร่งและวุ่นวายนิดหน่อย ฉันเองก็ไม่รู้ว่าพวกนั้นมั่นใจได้ยังไง ที่ไร้สาระกว่านั้นคือแผนของพวกเขาน่ะได้ยืนยันผ่านสภาของตระกูล การปรับปรุงท่าเรือของเราส่วนแรกนั้นได้เงินกู้ยืมมาจากธนาคารไฮหยวน สำหรับออเดอร์ที่บริษัทปลานั้นส่งมา ตราบใดที่เรามีเรือประมง 10,000 ตันเตรียมไว้ ธนาคารจะจ่ายให้ 40% ของราคาสำหรับค่าต่อเรือ มันถือว่าเป็นการดูแลที่ดีอย่างมาก ในจินไห่แล้วนอกจากท่าเรือเราแล้ว ท่าเรืออื่นๆเองก็ได้รับออเดอร์คล้ายๆกัน “
เมื่อได้ยินที่ทั้งสองคุยกัน จางเทีย และ จางหยาง ที่นั่งอยู่ด้านหลังก็มองหน้ากันด้วยความตะลึง ทั้งสองไม่คิดเลยว่าพ่อของเขาได้เกิดมาในตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่ซึ่งมีท่าเรือติดหนึ่งในสามของจินไห่และยังติดหนึ่งในห้าของจินหยวนด้วย มันฟังแล้วดูสุดยอดมาก