spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 270: วังมังกรลับ
“ คะแนนตระกูลนั้นไว้ใช้เป็นตัววัดการมีส่วนร่วมของตระกูล เอาง่ายๆ นายใช้คะแนนนั้นเป็นเหมือนเงินที่ใช้จ่ายในตระกูลและในวังไฮหยวนได้ ในตอนที่นายมีส่วนร่วมกับเรื่องตระกูล นายจะได้คะแนนมา นายสามารถแลกคะแนนเหล่านั้นกับวัตถุดิบต่างๆได้ซึ่งมีแต่สมาชิกเท่านั้นที่ทำการแลกได้ พูดโดยทั่วไปแล้วนายจะซื้อของพวกนั้นด้วยเงินที่โลกภายนอกไม่ได้ ! “ – พนักงานของเขตได้ตอบคำถามของ จางเทีย สั้นๆ
“ ฉันแลกคะแนนกับทักษะต่อสู้ลับได้รึเปล่า “ - นี่เองก็เป็นสิ่งที่ จางเทีย สนใจมากที่สุด
“ แน่นอน นั่นก็แค่เรื่องหลักๆสำหรับการใช้คะแนน เพราะนายได้มาที่วังไฮหยวนเป็นครั้งแรก นายอาจจะยังไม่รู้ถึงความสำคัญของคะแนนแต่เดี๋ยวนายก็รู้เองแหละ “
“ ฉันจะได้คะแนนมาจากไหนล่ะ ? “
“ ฉันก็อธิบายให้นายฟังง่ายๆไม่ได้ มันมีกฎเคร่งครัดและข้อบังคับต่างๆในการได้คะแนนมา ยกตัวอย่างเช่นฉันรับใช้ตระกูลในฐานะสมาชิกของเขต นอกจากค่าจ้างแล้ว ฉันก็จะได้รับคะแนน 3 คะแนนต่อเดือน ! ผู้หญิงที่ให้กำเนิดลูกหลังจากที่แต่งงานกับคนของตระกูลจางจะได้ 8 ทองและ 15 คะแนนต่อลูกหนึ่งคน ! “
ผู้หญิงนั้นได้คะแนนและเงินด้วยการมีลูก ? ในที่สุด จางเทีย ก็เข้าใจว่าทำไมตระกูลถึงได้มีสายเลือดโดยตรงกว่า 200,000 คนในเวลาแค่เพียงไม่กี่ร้อยปี
“ มีอย่างอื่นอีกมั้ย ?” – เมื่อคิดถึงพ่อแม่ที่ยังอยู่ในเมืองจินไห่ จางเทีย ก็อดที่จะรีบกลับไปไม่ได้
“ มีอีกเรื่องที่ฉันต้องบอกนาย เพราะนายยังไม่ได้ทำสัญญากับการศึกษาของตระกูลและอยู่นอกระบบมาตลอด ตระกูลไม่ได้ให้ความช่วยเหลือในเรื่องการเป็นอยู่ แม้ว่านายจะกลับมาที่สมคมแล้วแต่นายก็ยังคงมีอิสระอย่างมาก ! “
“ นายหมายความว่าไง ? “
“ หมายถึงตระกูลและนายต่างก็เท่าเทียมกันที่มีสิทธิและภาระ ในเขตไฮหยวนแล้ว สมาชิกส่วนมากของตระกูลจางที่อายุเท่านายน่ะต้องไปฝึกทั่วทุกที่หลังจากที่เรียนจบ ในตอนที่รับใช้ตระกูล พวกเขาจะเรียนรู้การพัฒนาพรสวรรค์และความสามารถของตัวเอง พวกเด็กที่ซึ่งมีการตื่นของสายเลือดจะไปรวมตัวกันที่ปราสาทมังกรลับของตระกูลตามกฎแต่นายน่ะเลือกได้ว่านายจะเข้าไปหรือไม่ก็ตามใจ !”
วังไฮหยวนนั้นคือชื่อทางการของตระกูลจางต่อสาธารณะ ส่วนวังมังกรลับนั้นคือหน่วยงานของตระกูลซึ่งก็เหมือนกับเขตนี้ แค่บอกชื่อไปคนก็จะรู้ว่ามันเป็นหน่วยงานอะไร
“ คนที่เข้าไปยังวังมังกรลับต้องทำตามคำสั่งและเสียอิสระรึเปล่า ?” - จางเทีย ถาม
“ ใช่ พวกคนที่ไปรวมตัวกันที่นั่นต่างก็เป็นชนชั้นสูงของตระกูล วังมังกรลับน่ะก็เหมือนกับกองทัพ แต่จะเสียเรื่องความเป็นส่วนตัวและจะต้องรับงานอันตรายมากมาย คนระดับธรรมดาที่อายุเท่านายน่ะทำไม่ได้ อัตราการเสียชีวิตของคนที่เข้าที่นั่นเพื่อบ่มเพาะคือ 20% บอกเลยว่ามีแค่ 8 ใน 10 ของคนที่เข้าไปเท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่ “
ในตอนที่พนักงานเขตพูดแบบนั้น จางหยาง ก็ได้มองมาที่ จางเทีย ด้วยท่าทีกังวลเพราะกลัววว่า จางเทีย จะเข้าที่นั่น
“ แล้วมีประโยชน์อะไรกับการเข้าที่นั่นบ้าง ? “ - จางเทีย ถามออกมา
พนักงานยิ้มและพยักหน้า ดูเหมือนว่าเขาจะพอใจกับการตอบกลับของ จางเทีย อย่างมาก เขาไม่ได้ส่ายหน้าแต่กลับตบอย่างใจเย็น – “ ที่นั่นนายจะได้โอกาสในการรับคะแนนมากที่สุดที่ซึ่งนายสามารถเพลินเพลินไปกับวัตถุดิบที่มีคุณภาพจำนวนมากของตระกูลและเรียนรู้ความรู้ลับและทักษะต่อสู้ วังมังกรลับนั้นนายสามารถที่จะเปิดมุมมองของตัวเอง พวกคนที่ออกมาแบบเป็นๆได้น่ะถือว่ามีพรสวรรค์และเป็นชนชั้นสูงของตระกูลที่ซึ่งมีความรับผิดชอบอย่างมาก ! “
จางเทีย ยิ้ม – “ ฉันเลือกที่จะเข้าวังมังกรลับของตระกูล “
เมื่อได้ยิน จางเทีย ตอลกลับ จางหยาง ก็ลุกขึ้นทันทีเพื่อที่จะค้านแต่ในตอนที่เขาจะพูดบางอย่าง เมื่อมองไปยังพนักงาน เขาก็ต้องกลืนคำพูดตัวเอง
“ แผนกของวังมังกรลับอยู่ที่เกาะมังกรลับ ถ้านายอยากไปที่นั่น นายไปลงทะเบียนวันจันทร์หน้า วันที่ 5 ธันวาคม ถ้านายไปไม่ทัน มันจะถือว่านายยกเลิก “
“ แล้วฉันต้องเอาอะไรไปยืนยันบ้าง “
“ ไม่จำเป็น นายแค่เอาบัตรนั่นไปก็พอ “
...
ในตอนที่ จางเทีย และ จางหยาง ออกจากสำนักงานเขตมา จางหยาง ที่ซึ่งเงียบมาตลอดก็อดไม่ไหวอีกต่อไป เขาเริ่มถาม จางเทีย – “ นายรู้มั้ยแม่กับพ่อกังวลเรื่องนายมากแค่ไหนตอนนายอยู่ที่แคมป์เหล็กโลหิต ? พวกเขากลัวว่านายจะตกอยู่ในอันตราย ตอนนี้นายเลือกได้ว่าจะเข้าวังมังกรลับรึเปล่า ทำไมนายถึงเลือกเข้า ? “
จางเทีย มองไปที่พี่ด้วยท่าทีจริงจัง – “ พี่ ถ้าสงครามศักดิ์สิทธิ์เกิดขึ้นมา พี่คิดว่ามันจะง่ายเหรอที่เราจะรอด ? เราต้องพึ่งครอบครัวรึพึ่งอำนาจวังไฮหยวน ? สำหรับครอบครัวเราแล้ว พี่กับผมน่ะไม่ได้โดนกำจัดจากระบบของวังไฮหยวน ถ้าผมเข้าวังมังกรลับ มันจะดีที่สุดเพราะเราจะได้ตอบโต้ได้ทันสถานการณ์ ! “ - จางเทีย ตบไหล่พี่ชาย – “ ไม่ต้องกังวลหรอก เพราะผมไม่เป็นไรที่แคมป์เหล็กโลหิต งั้นที่นี่ก็ต้องไม่เป็นไร !”
หลังจากที่คิดสักพัก จางหยาง ก็พยักหน้า – “ ถ้างั้นนายก็ไม่ควรพูดเรื่องนี้ที่บ้านเพราะพ่อแม่จะเป็นห่วง นายบอกพวกเขาเรื่องนี้ก่อนนายจะไปที่นั่นในอีกสองวัน “
“ ได้ “ - จางเทีย พยักหน้าและมองไปที่สองฝั่งถนน – “ เราจะกลับบ้านกันยังไง รถไฟ ? “
“ มีอะไรที่สะดวกกว่ารถไฟอีก ! “ - จางหยาง โบกมือ ไม่นานหลังจากนั้น จางเทีย ก็ได้เห็นรถสีเขียวขับมาจากไกลๆและมาจอดตรงหน้าพวกเขา จางหยาง บอกให้ จางเทีย ขึ้นรถซึ่งทำให้ จางเทีย ตกใจเพราะเขาไม่คิดว่ารถนั้นจะมาจอดตรงหน้าพวกเขาเหมือนกับเกวียนในเมืองบาปีและแบล็คฮ็อต
“ จะไปไหนกัน ? “ – คนขับถามทั้งสองที่นั่งข้างหลัง
“ เมืองจินไห่ ! “
“ จินไห่ห่างออกไป 240 กม. มันต้องใช้เวลา 3 ชม.กว่าจะไปถึงที่นั่นและ 3 ชม.กว่าผมจะกลับมาที่นี่ คุณต้องจ่าย 12 เงิน ! “
“ ไม่มีปัญหา ! “ – จางหยาง ส่งเงินให้กับคนขับ
หลังจากที่รับเงินมาแล้ว คนขับก็ออกรถทันที
“ นี่มันรถแบบไหน ? “ - จางเทีย ที่นั่งอยู่ข้างในถามออกมาด้วยความสงสัย “
“ รถแบบจ่ายค่าเช่า มันสะดวกใช่มั้ยล่ะ ?”
จางเทีย พยักหน้าพร้อมกับคิดว่าที่นี่มันเจริญจริงๆ แม้แต่รถก็ยังมีให้เช่าด้วย....
“ เมื่อรู้ว่านายจะกลับไปคืนนี้ แม่เลยเตรียมของโปรดไว้ให้นายด้วย ! “
จางเทีย อยากจะร้องได้ออกมา –“ ดี งั้นกลับกันเลย ! “
...
ไม่ถึง 10 นาทีต่อมาหลังจากที่ จางเทีย และ จางหยาง ออกจากสำนักงานเขต ผู้อาวุโสทุกคนที่นั่งอยู่ในศาลาของวังไฮหยวน เขตหวงห้ามของตระกูลจางต่างก็รู้ตัวเลือกของ จางเทีย
“ ฉันไม่คิดว่าเด็กนั่นจะมีจิตใจที่ไม่เลว เพราะเขาเลือกที่จะเข้าวังมังกรลับ เขาต้องมีแววเป็นชนชั้นสูงได้แน่ ! “ – หนึ่งในผู้อาวุโสพูดขึ้นพร้อมพยักหน้าเล็กน้อย
“ ตามข่าวของตระกูลแล้ว เด็กนี่น่ะต้องคนมีอำนาจในแคมป์เหล็กโลหิต เขาถึงกับได้รับรางวัลเหรียญเหล็กโลหิตมาด้วย เขาต้องฆ่าคนมามากมายในสนามรบ ! “ – ผู้อาวุโสอีกคนพูดขึ้น – “ แม้ว่าคูต่อสู้นั้นจะเป็นทหารธรรมดาของราชวงศ์อาทิตย์แต่เขาก็ไม่ใช่คนทั่วไปแน่นอน เขาน่ะมีแววที่จะเป็นชนชั้นสูงได้ ! “
“ แต่เขากลัดมันไปหน่อย เด็กนี่นอนกลับเด็กผู้หญิงจากกลุ่มกุหลาบกว่า 80 คนในอาทิตย์เดียว นี่มันวัวถึกรึเปล่า ต้องขอบคุณที่เขาไม่ได้ทำให้พวกเธอท้อง ไม่งั้นแล้วมันคงสร้างปัญหาให้สำนักงานเขตแน่ ! “
“ นั่นมันเรื่องเล็ก ไม่มีใครบอกได้หรอกว่าไม่มีความรักตอนเด็กๆ “ – ผู้อาวุโสอีกคนยิ้ม – “ โฮ่โฮ่ ถ้าเขามีพลังพอและปลุกสายเลือดได้ ในกรณีที่แย่ที่สุด เราจะเอาพวกกิ๊กให้กับเขาเพิ่ม ให้เขามีเมียหลายๆคนจะได้ขยายสายเลือดของตระกูลไปด้วย “
“ ดี ! “ – ผู้อาวุโสอีกคนจับไปที่หนวดสีขาวของตัวเองแล้วพวกเขาก็พยักหน้ากันด้วยท่าทีจริงจัง
ถ้า จางเทีย รู้ว่าเขาน่ะคือเครื่องรีดน้ำในสายตาของผู้อาวุโสวังไฮหยวน เขาคงทำตัวไม่ถูกแน่ๆ
“ ดูเหมือนว่าพ่อของเขา จางปิง ได้รับการลงโทษที่เบาครั้งนี้ ถ้าเขาถูกปล่อยตัวอาจมีบางคนเลียนแบบเขาในอนาคต ! “ – ผู้อาวุโสบางส่วนยังคงกังวลเรือง จางปิง
“ จางปิง ทำท่าตายเพื่อที่จะหนีไปกับผู้หญิง แม้ว่ามันจะผิดกฎตระกูลแต่มันก็ไม่ได้มีอันตรายอะไรกับคนอื่นรึไม่ใช่ว่ายกโทษให้ไม่ได้ ผลกระทบมันเป็นเรื่องเล็กๆ แม้ว่าเราจะจับเขาขังไว้สัก 100 ปีแล้วมันจะส่งผลดีอะไรต่อตระกูลเรา ? มีการลดโทษถ้าทำตัวดี เราจัดการกับเรื่องนี้ไม่ใช่แต่เพราะเขาคนเดียว เราเองก็เรียนรู้ทักษะการคิดเลขในใจโดยใช้ลูกคิดมาแล้วนิ เราต่างก็รู้วิธีเพิ่มการบ่มเพาะของพลังวิญญาณและมันเป็นดีต่อการพัฒนาตระกูลอย่างมาก ถ้ามีคนเลียนแบบ จางปิง ตราบใดที่พวกนั้นเอาของที่มีค่าพอๆกับการคิดเลขในใจนี้มาได้ มันก็มีเหตุผลพอที่จะยกโทษให้ ถ้ามีคนแบบ จางปิง มากกว่านี้ วังไฮหยวนของเราแน่นอนว่าต้องรุ่งเรือง ! “ – คนที่พูดขึ้นมานั้นคือลุงหกของ จางปิง ที่ซึ่งได้พาครอบครัวของ จางเทีย มาจากเมืองแบล็คฮ็อต ลุกหกนั้นคือหัวหน้าของสำนักงานนี้ซึ่งก็เป็นหนึ่งในสาขาของจินไห่ด้วย
“ เพราะผู้อาวุโสทุกคนได้ตัดสินใจแล้ว งั้นก็ให้มันจบไป ไม่ต้องพูดถึงมันอีก ! “ – ผู้อาวุโสอีกคนมองไปผู้อาวุโสสองคนที่เพิ่งพูดตะกี้และทำให้บรรยากาศนั้นผ่อนคลายลง - “ ผู้อาวุโสทั้งสองต่างก็อยากพัฒนาตระกูลของเรา ตอนวิกฤตนี้เราควรที่จะสนใจเรื่องการเติบโตของเราให้มากที่สุด ! “
เมื่อได้ยินแบบนั้น ผู้อาวุโสสองคนหน้านี้ต่างก็มองหน้ากันแล้วพยักหน้า
“ ไม่นานมานี้มีเรื่องวุ่นวายแบบผิดปกติในทวีปย่อยไว่ ดังนั้นเราควรที่จะเตรียมรับมือกับสังครามให้ได้เร็วที่สุด ... “
“ ก่อนสงครามศักดิ์สิทธิ์แต่ละครั้ง พวกของปิศาจในหมู่มนุษย์จะทำเรื่องวุ่นวาย เพื่อจะกำจัดความแข็งแกร่งของคนไปจนถึงการเพิ่มจำนวนของพวกมันและการทำให้เราแตกแยก ครั้งนี้มีคนมากกว่าเดิมที่ยอมสละตนให้กับปิศาจก่อนที่สงครามจะมาถึง ....“ – ผู้อาวุโสอีกคนถอนหายใจออกมา