spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 268: การเลื่อนขั้นและการมาถึง
ลมที่พัดเข้ามาตอนที่สูงจากพื้นกว่าพันเมตรทำให้เสื้อผ้าของ จางเทีย กระพือไปมาจนเกิดเสียงดัง ตอนนั้น จางเทีย กลังวิ่งไปมาอยู่ที่ด้านบนของถุงแก๊สราวกับวิ่งอยู่กับพื้นโดยไม่มีชุดป้องกันอะไร
ตอนนั้นเองดาบอสรพิษแดงในมือ จางเทีย นั้นดูเหมือนจะเป็นงูจริงๆ แต่ละครั้งที่ฟันออกมานั้นมันเหมือนมีเงาของงูนั้นบิดเบี้ยวไปมาพร้อมกับแสงสีเงินในอากาศ
แต่ละครั้งที่เงางูในมือ จางเทีย บิดเบี้ยว มันจะมีเลือดกระจายออกมาซึ่งทำให้ Iron-beak Ibises ตัวที่เหลือต่างก็คลั่ง
ด้วยการที่แตกต่างจากครั้งที่แล้วตอนที่ Iron-beak Ibises เข้าโจมตียาน ครั้งนี้ จางเทีย กลายเป็นเป้าหมายเดียวของ Iron-beak Ibises ทุกตัว Iron-beak Ibises แต่ละตัวนั้นดูเหมือนจะมีความเกลียดต่อ จางเทีย มาก พวกมันพุ่งหาเขาทีละตัวๆ
ยานนั้นพุ่งทะลุเมฆไปด้วยความเร็วที่สูงกว่า 120 กม./ชม.
การต่อสู้ระหว่าง จางเทีย และ Iron-beak Ibises นั้นยังคงดำเนินต่อไป
“ นี่มันเหมือนสู้กับนักรบระดับ 5 รึเปล่า ? นี่คือใช่ความรู้สึกที่แรงอมตะมีรึเปล่า ? “
หนึ่งชั่วโมงก่อน จางเทีย ได้กิน Leakless Fruit อีกผลเข้าไปซึ่งทำให้เขาปลุกจุดชีพจรที่ 5 บนกระดูกสันหลังได้สำเร็จ ทำให้เขาอยู่ในดินแดนของนักรบระดับ 5
ในตอนที่เขาเลื่อนชั้นขึ้นมา จางเทีย รู้สึกว่ากระดูกแต่ละส่วนนั้นเหมือนกับมีมดมากมายไต่อยู่ข้างในแต่เขาไม่อาจเกาได้ มันรู้สึกคันอย่างมากจนกระทั่งกระดูกของเขาได้แตกออกจึงมีความรู้สึกใหม่ปรากฏขึ้นมา
จางเทีย รู้สึกได้ถึงแรงที่ไหลไปตามกระดูกส่วนต่างๆเลื่อนระดับแรงลับของ จางเทีย ให้เป็นระดับใหม่
แรงอมตะ ! แรงที่เกิดใหม่ของแรงกระดูกและแรงไขกระดูก
จำนวนคนที่สามารถเลื่อนขั้นแรงลับเหล็กโลหิตให้เป็นแรงอมตะเหล็กโลหิตได้นั้นมีไม่ถึง 1 ใน 10 แม้แต่ในแคมป์เหล็กโลหิต แต่ จางเทีย รู้สึกง่ายเหมือนกับดื่มน้ำ เหมือนกับว่าเขาได้เตรียมการมันมาอย่างดีและคาดถึงมันไว้แล้ว แม้แต่ จางเทีย เองก็สับสนว่ามันเป็นแบบนี้ได้ยังไง
ดาบนั้นขับเคลื่อนด้วยแรงอมตะเริ่มที่จะแสดงความแข็งแกร่งที่ต่างจากแต่ก่อน ด้วยแรงที่เพิ่มขึ้นมาอย่างมากนี้แต่ละครั้งงที่ จางเทีย ทำการโจมตี มันจะรวดเร็วและมีเงาของงูนั้นส่องประกายมาพร้อมกับพลังฉีของดาบ
จางเทีย ไม่เคยได้ความรู้สึกที่ว่า ‘ หนึ่งเดียวกับดาบ หนึ่งเดียวกับโลก ‘ มานานแล้ว
ที่ความสูงพันเมตรจากพื้น จางเทีย ได้กระโดดขึ้นจากด้านบนเรือกว่า 3 ม.พร้อมกับดาบนในมือนั้นได้เปิดปากของมันเหมือนกับมังกรและได้กลืนกิน Iron-beak Ibises 5 ตัวในอากาศด้วยการฟันครั้งเดียว
มีแค่ Iron-beak Ibises ตัวเดียวที่เหลืออยู่....
ในตอนที่เท้าของ จางเทีย ออกจากพื้น Iron-beak Ibises ตัวสุดท้ายก็ได้ใช้จะงอยของมันพุ่งมาใส่ตรงหน้าอกของ จางเทีย โดยคิดจะเสี่ยงชีวิตของมันเอง
ระหว่างในการสู้หลายครั้งที่ผ่านมา จางเทีย ได้มีประสบการณ์ในการสู้กับ Iron-beak Ibises ขึ้นอย่างมาก เมื่อเห็น Iron-beak Ibises เขาได้แสยะยิ้มออกมาในใจ เขายกตัวขึ้นเล็กน้อย ในเวลาเดียวกันจะงอยของมันก็แทงเข้าใต้แขนของ จางเทีย แทน
ในตอนที่มันยื่นกงเล็บออกมาใส่ จางเทีย เขาได้ยื่นนิ้วทั้งห้าของเขาเข้าใส่กงเล็บของมัน
ในตอนที่กงเล็บนั้นชนเข้ากับมือของคน กงเล็บนั้นก็แตกออกทันที
ด้วยการที่จะงอยของมันยังคงติดอยู่ Iron-beak Ibises จึงกรีดร้องออกมาไม่ได้ ทำได้แค่ตัวสั่น
“ ฮี่ฮี่ โทษทีนะ เพราะแกเป็นตัวสุดท้ายในวันนี้ งั้นคงต้องอยู่สักพักแหละ ! “ - เมื่อพูดจบ จางเทีย ก็ได้ตัดเท้าและปีกของมันออก
ด้วยการที่ดิ้นรนไม่ได้ Iron-beak Ibis ทำได้แค่มองมาที่ จางเทีย ด้วยความรู้สึกผิดและแค้น จางเทีย ไม่ได้แสดงเมตตาเลยสักนิด หลังจากที่ทำแบบนั้นเสร็จ เขาก็คว้าไปที่จะงอยของมัน เขาวิ่งไปสองก้าวพร้อมกับลากมันไปด้วยแล้วคว้าเชือกเอาไว้เส้นหนึ่งและโดดลงมาโดยไม่สนชีวิตตัวเอง
ระหว่างตอนนั้น จางเทีย ก็ได้ตกลงมาหลายสิบเมตร ในตอนที่เชือกนั้นได้กลับไปอยู่ที่กึ่งกลางของถุงแก๊ส จางเทีย ก็ได้ลงไปที่ยานก่อนจะเหวี่ยงตัวเองไปข้างนอกอีกครั้ง หลังจากนั้นเชือกก็ได้เด้งกลับมาอีก ครั้งนี้ จางเทีย ลองกำเบาๆแล้วโยนตัวเองไปยืนที่ดาดฟ้าของเรือ การกระทำในตอนนั้นไม่ได้มีเครื่องป้องกันแต่อย่างใด อีกอย่างระหว่างตอนนั้นเองยานกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงด้วย
สิ่งที่น่าทึ่งคือ จางเทีย ได้แบก Iron-beak Ibis อยู่ด้วย
ไม่มีใครอยู่บนดาดฟ้า จางเทีย ได้ลาก Iron-beak Ibis เช้าไปในห้องลูกเรือ หลังจากนั้นเขาก็ได้เปิดประตู เขาไม่มองไปด้านในแล้วโยน Iron-beak Ibis เข้าไปข้างในทันที
ไม่มีใครอยู่บนเรือ
ฮาฮา
อิสระสิ !
จางเทีย วิ่งไปที่ชั้นสาม ชั้นสามนั้นคือชั้นที่มีหอบังคับการอยู่ จากนั้นเขาจึงเข้าไปที่หอบังคับการ
หอบังคับการของยานนี้คือจุดที่สูงที่สุดของยานที่บนหัวของยานด้านล่างของถุงแก๊ส หอบังคับการนี้ทำให้มองเห็นมุมมองใกล้ๆสูงขั้นไป 1 ม.รอบๆตัวกว่า 270 องศา มีกระจกหนาโปร่งใส คนขับแทบไม่มีจุดอับสายตาเลยด้วยซ้ำ
ด้านนอกของหอบังคับการนั้นมีเมฆสีขาวลอยไปมา เพราะไม่มีใครอยู่ข้างใน ยานจึงเคลื่อนที่เป็นเส้นตรงไปข้างหน้าอย่างเดียว
ประตูของหอบังคับการนั้นถูกล็อกจากด้านใน เพราะกระจกโปร่งใส่ที่ประตูของหอบังคับการ จางเทีย เห็นได้ชัดเจนว่ามีอะไรอยู่ข้างในบ้าง เขาคิดว่าเขาจะเข้าไปข้างในด้วยความรุนแรงยังไง เขาก็ได้ฝืนยิ้มออกมา
ปัง ! จางเทีย เตะประตูไม้เข้าไปและทำให้เกิดรูขนาดใหญ่ หลังจากนั้นเขาก็ยื่นมือเข้าแล้วเปิดประตูออก
เพราะเขาได้เข้ามาที่หอบังคับการ งั้นยานลำนี้ก็กลายเป็นของเล่นส่วนตัวเขา
ที่ใจกลางห้องนั้นมีพวงมาลัยที่ซึ่งสามารถถือได้ด้วยสองมือ ทั้งสองด้านของมันนั้นมีตัวเลขถึงระดับความต่างเรื่องความสูงและความยาว ด้านล่างนั้นมีเหรียญสองอันที่ใช้เท้าควบคุม
หลายวันมานี้หลังจากที่ทำยานร่วงกว่า 10 ครั้ง ในที่สุด จางเทีย ก็เข้าใจฟังก์ชันการทำงานของคันโยกพวกนี้ อีกอย่างแล้วเขาเองก็เรียนรู้วิธีบินมาด้วย ระหว่างอุบัติเหตุพวกนี้ ที่น่าสงสารที่สุดคงเป็นตอนที่ จางเทีย ดึงคันโยกสีแดงลง ยานได้ตกลงมาเฉยๆทำให้หน้าของ จางเทีย ถึงกับซีด
หลังจากเหตุการณ์นั้นแล้ว จางเทีย รู้ว่าคันโยกสีแดงนั้นเอาไว้จอดฉุกเฉิน ตราบใดที่คันโยกถูกดึง ถุงแก๊สทั้ง 12 ของยานนั้นจะเริ่มปล่อยลมออกมาพร้อมกัน ผลก็คือยานจะเสียการพยุงตัวในเวลาอันสั้นที่สุด ในตอนที่ จางเทีย ดึงคันโยกนี้ เขาถึงกับรีบเหยียบไปที่คันแร่งไอน้ำด้านล่างและทำให้ยานมีความเร็วมากกว่าเดิมซึ่งส่งผลให้ยานพุ่งลงไปที่พื้นด้วยความเร็วที่สูงขึ้น ผลก็คือ จางเทีย นั้นตายอยน่างอนาถ
อุบัติเหตุครั้งนั้นได้ตราตึงในความทรงจำของ จางเทีย
ความจริงที่ว่าตราบใดที่คนไม่กลัวความตายและมีหลายชีวิต เขาสามารถเรียนรู้อะไรก็ได้อย่างรวดเร็ว
จางเทีย ขับยานกว่า 2 ชม.และสนุกกับมันมาก หลังจากที่รู้สึกว่าเวลานั้นเกือบจะหมด จางเทีย ก็ได้ออกจากห้องเครื่อง ในห้องอุปกรณ์ข้างๆ จางเทีย ได้ใส่กระเป๋าร่มชูชีพก่อนที่จะรีบวิ่งกลับไปที่ดาดฟ้าที่ชั้นสอง เขาตะโกนแปลกๆออกมาแล้วกระโดดลงไป...
“ ฉันมาแล้ว...โฮ่....”
หลังจากนั้นหลายวินาที ดอกไม้สีขาวก็เบ่งบานในอากาศ....
หลังจากนั้นหลายวินาทีดอกไม้สีขาวก็ลงไปแตะที่พื้นอย่างราบรื่น...
หลังจากนั้นไม่กี่นาที ทั้งโลกก็ได้แตกออกเป็นชิ้นๆ
...
ภายในห้องนอนของยาน จางเทีย ได้ลืมตาขึ้นมา เขานอนอยู่บนเตียงพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมา
จางเทีย ไม่รู้ว่าสิ่งที่ได้ทำลงไปนั้นเจ้าเล่ห์แค่ไหนแต่เขามีความรู้สึกดีกับการได้ใช้ Trouble-reappearance Fruit
Trouble-reappearance Fruit ผลล่าสุดนั้นได้มาจาก Iron-beak Ibises ฉากแรกนั้นคืออยู่บนยาน หลังจากที่สู้กับ Iron-beak Ibises อยู่หลายครั้ง จางเทีย พบว่าถ้าเขาไม่ต้องการหยุดโลกจำลอง เขาต้องไว้ชีวิต Iron-beak Ibises ตัวสุดท้ายเอาไว้ ด้วยเงื่อนไขนั้นโลกจำลองจะไม่พังออก นอกจากที่ว่ามันเป็นวิญญาณแล้วมันไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากโลกจริงๆเลย
เพราะ Trouble-reappearance สามารถสร้างโลกที่อยู่ในอากาศได้ซึ่งยากที่จะได้เห็น แน่นอน จางเทีย น่ะไม่อยากยอมแพ้เมื่อมีโอกาสแบบนี้ หลังจากที่ตายมาแล้วหลายครั้ง จางเทีย ก็ได้เรียนรู้วิธีโดดร่มและวิธีขับยาน อีกอย่างเขามีประสบการณ์ในการสู้กับ Iron-beak Ibises ในอากาศมากกว่าเดิม
ตั้งแต่ที่พวกเขาออกจากเมืองลู่หลานมา ระหว่างทางพวกเขาไม่ได้เจอกับอันตรายใดๆ ยานยังคงเดินหน้าไปได้อย่างราบรื่น เพราะเขามักจะทำการบ่มเพาะอยู่ตลอด จางเทีย เลยไม่รู้ว่าตอนนี้ยานอยู่ที่ไหน
วันนี้ในตอนที่ จางเทีย ได้ออกจากโลกจำลองมา เขาก็ได้ยินเสียงใครบางคนเคาะประตู
จางเทีย เปิดประตูออกและพบ จางซีเทียนอยู่ด้านนอก
“ มีอะไร ? “
“ เรามาถึงแล้ว ! “
“ เขตไฮหยวน เรามาถึงแล้ว ! “
จางเทีย ช็อกในใจ เขาได้ไปที่ดาดฟ้าพร้อมกับ จางซีเทียน ที่พื้นด้านล่างยานนั้นเป็นแม่น้ำใหญ่ที่ จางเทีย ไม่เคยเห็นมาก่อน ความกว้างของมันอาจจะถึง 20 กม. ทั้งแม่น้ำนั้นลัดเลี้ยวไปมาไกลสุดลูกหูลูกตาเหมือนกับมีมังกรอยู่ด้านล่างยาน มีคนมากมายคอยตักน้ำ ทำให้ด้านล่างนั้นเป็นฉากที่ดูวุ่นวาย ควันดำลอยออกมาจากปล่องไฟต่างๆ ด้านข้างแม่น้ำ จางเทีย ได้พบกับทุ่งหญ้าสีทองเรียงรายกันอยู่ที่ด้านหนึ่งของแม่น้ำ
ภาพของเขตไฮหยวนนี้ทำให้ จางเทีย ประทับใจกับความยิ่งใหญ่และความรวยของวังไฮหยวน
“ นี่คือแม่น้ำหยวนเจี้ยงซึ่งเป็นของวังไฮหยวน คืนนี้ยานของเราจะไปถึงที่เมืองยีแยงที่ซึ่งเป็นสำนักงานของกลุ่มการค้าชางเฟิง “
“ วังไฮหยวน ฉันมาแล้ว ! “
เมื่อคิดว่าเขากลับมาอยู่กับครอบครัวได้อีกครั้ง ในที่แปลกๆแบบนี้ จางเทีย ก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ – “ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะฉันมาถึงที่นี่แล้ว ฉันจะช่วยพ่อออกจากคุกให้ได้ ! “