spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 267: เมืองลู่หลาน
สามวันต่อมายานของวังไฮหยวนก็ได้มาจอดที่ฐานของเมืองแปลกๆในทะเลทรายเพื่อทำการเติมเชื้อเพลิงและทำการซ่อมแซมหลังจากที่โดนโจมตี
แม้ว่าการโจมตีของ Iron-beak Ibises นั้นจะทำถังแก๊สหนึ่งรั่วแต่เพื่อที่จะรักษาความสุมดุลระหว่างการบินไว้ ฮีเรียมในถุงอีกฝั่งจะต้องน้อยลง อีกอย่างแล้วความดันของถุงแก๊สอันอื่นก็ต้องปรับทำให้ยานนั้นลดความเร็วลง 1 ใน 3 จากเดิมจาก 100 มาเหลือ 70-80 กม./ชม.
การขับยานนี้ต้องอาศัยเทคนิคอย่างมาก จางเทีย รู้ว่าต้องปรับยานยังไงเพื่อรักษาสมดุลการบินไว้หลังจากที่โดน Iron-beak Ibises โจมตี
ระหว่างสามวันที่ผ่านมา ฐานะของ จางเทีย ในยานนั้นได้เปลี่ยนไปเพราะการโจมตีของ Iron-beak Ibises แม้ว่าเขาจะยังถือว่าเป็นแขกพิเศษในหมู่ผู้โดยสารแต่ลูกเรือส่วนมากต่างก็คุ้นเคยกับเขาแล้ว
ในตอนที่ยานเตรียมที่จะลงจอดที่เมืองนี้ จางเทีย เองก็ได้เดินออกมาจากห้องนอนเหมือนคนอื่นๆและได้ไปยังดาดฟ้าก่อนที่จะมองดูความสวยของเมืองด้านล่าง
สิ่งที่น่าประทับใจที่สุดสำหรับ จางเทีย คือมีต้นไม้สูงกว่า 40-50 ม.นั้นล้อมรอบเมืองเอาไว้ซึ่งได้กลายเป็นกำแพงเมือง เมื่อมองลงไปด้านล่าง เมืองนี้น่ะเหมือนเมืองที่ปลุกคลุมไปด้วยสีเขียว ใจกลางของมันนั้นมีโดมที่ออกแบบแปลกๆ ตรงใจกลางของเมืองนั้นมีแม่น้ำขนาดพอดีๆ
ฐานลงจอดนั้นยอมให้ยานลงจอดได้ที่ข้างๆแม่น้ำนั่น
ในตอนที่เขาออกจากคารัวล์ มันก็หน้าหนาวแล้วแต่เมื่อเขามาถึงที่นี่ ตอนนี้มันอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เขารู้สึกได้ถึงแสงแดดอุ่นๆที่สาดลงมา ผู้โดยสารคนอื่นๆต่างก็ถอดเสื้อกันหนาวของตนออก
“ เราอยู่ในเมืองลู่หลาน เมืองแห่งทะเลทราย จำนวนประชากรของเมืองนี้และรอบๆเมืองนี้คือ 4.1 ล้านคน ! “ – ในตอนที่ จางเทีย มองไปรอบๆเมืองด้านล่าง จางซีเทียน ที่ซึ่งมาอยู่ข้างๆเขาก็ได้แนะนำเมืองนี้ให้ จางเทีย
หลังจากที่โดน จางเทีย ช่วยไว้ตั้งแต่วันนั้น จางซีเทียน ที่ซึ่งแก่กว่า จางเทีย สองปีก็เป็นมิตรกับเขา
“ แผลเป็นไงบ้าง ? “ – จางเทีย มองไปที่เด็กหนุ่มที่ซึ่งมีผิวสีแทนเพราะโดนแดดเผามานาน จางซีเทียนนั้นมีตาที่ยาวและแคบ บางทีเพราะเขาและ จางเทีย นั้นมีสายเลือดเดียวกัน จางซีเทียน เลยดูคล้าย จางหยาง นิดๆ ชายคนนี้ดูสุภาพแต่ไม่คิดว่าจะมีบุคลิคพูดตรงไปตรงมา
ในตอนที่เขาจำได้ว่าชายคนนี้สู้กับ Iron-beak Ibis ยังไงและเสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อถุงแก๊ส จางเทีย ก็ส่ายหน้า หนังสือมันคงบอกจากหน้าปกไม่ได้
เมื่อได้ยินคำถาม จางซีเทียน ก็ยิ้มออกมา เขายกแขนของตัวเองขึ้นเล็กน้อย – “ หลังจากที่ใช้ยาระดับต่ำไปขวดหนึ่งและยาทาแผล ฉันก็ดีขึ้นแล้ว ! “
“ อ่า นายเจอเรื่องแบบนั้นมาหลายครั้งแล้วเหรอ ? “ - จางเทีย ถามออกมา
“ เป็นแบบนั้นได้ไง ? ถ้าการบินแต่ละครั้งอันตรายแบบนี้ ยานสินค้าก็จะเป็นเป้าหมายของพวกสัตว์ชั้นสูง “
“ นายหมายถึงเรื่องนี้ไม่ค่อยเกิดขึ้น ? “ - จางเทีย อึ้งเล็กน้อย
“ ไม่ใช่ไม่ค่อยเกิดขึ้นแต่ยากมากๆที่จะได้เจอ ฉันอยู่ที่ยานมากกว่า 3 ปีแต่ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน แม้ว่าฉันจะเจอการโจมตีจากพวกสัตว์อสูรมาบ้างแต่ก็ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้เลย ... “ – จางซีเทียน อธิบาย – “ แม้ว่าในสายตาของนาย ยานนี้จะบินไปไหนได้อย่างอิสระแต่จริงๆแล้วเส้นทางน่ะมันถูกกำหนดไว้แล้ว ในเส้นทางนั้นยานจะไม่ได้เจอกับการโจมตีของพวกสัตว์อสูรซึ่งนั่นก็เพื่อความปลอดภัยของยาน นี่น่ะถือเป็นเรื่องสำคัญในตอนที่เราเลือกเส้นทาง ถ้ามีสัตว์อสูรอยู่มากในเส้นทางนั้นๆ ยานก็จะเลือกที่จะหลีกเลี่ยงเส้นทางนั้น มันก็คล้ายกับการเดินทางในทะเลนั่นแหละ แม้ว่าทะเลจะกว้างแต่นายก็ไปทุกที่ที่ต้องการไม่ได้ “
จางเทีย เข้าใจขึ้นมาทันที – “ ฉันเองก็รู้สึกแปลกๆที่ Iron-beak Ibises พวกนั้นฉลาด พวกมันดูเหมือนว่าจะรู้จักการหลบลูกดอกที่ยิงมาจากดาดฟ้า พวกมันเลือกโจมตีจุดอ่อนของยานที่ซึ่งอาวุธของเราไปไม่ถึง !”
จางซีเทียน มองไปทั้งสองฝั่งและเมื่อพบว่าไม่มีใครฟังพวกเขา เขาก็ลดเสียงลงและบอกกับ จางเทีย – “ ฉันได้ยินการคุยกันกับกัปตันกับเพื่อนคนแรกนั่น พวกเขารู้สึกว่าการโจมตีนี้มันแปลก ในหลายปีที่ผ่านมา พวกเราไม่เคยเห็น Iron-beak Ibises เลย แต่พวกเรากลับเจอพวกมันจำนวนมากในครั้งเดียว มันแปลกนิดๆ “
“ นายหมายถึงมีคนส่ง Iron-beak Ibises พวกนี้มา ?” - จางเทีย เองก็รู้สึกทึ่ง
ตอนนั้นหลังจากที่ได้รับสัญญาณยืนยันจากภาคพื้นดิน ยาลำนี้ก็ลดระดับลง ในตอนที่อยู่สูงกว่าพื้นหลายร้อยเมตร ยานก็ได้โยนเชือกขนาดใหญ่ลงไป หลังจากที่ได้เชือกนั้นแล้ว รถและคนที่พื้นก็เริ่มยุ่ง ยานนี้ซึ่งส่ายไปมาตามกระแสลมนั้นอยู่ๆก็คงที่และเริ่มที่จะเพิ่มความเร็วในการร่อนลงไป
ไม่นานหลังจากที่ก้มลงไปมองแล้ว จางซีเทียน ก็หันหนี – “ Iron-beak Ibises น่ะมีจะงอยปากที่คม ดังนั้นแล้วภัยของมันที่มีต่อเรือจึงถือว่าได้อยู่ในระดับท็อป 3 ในบรรดาสัตว์ที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 6 เพราะพวกมันโผล่มาในเส้นทางที่ปลอดภัย เจ้าหน้าที่บนยานจำนวนมากตัดสินว่าต้องมีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ ถ้าเราใช้ยานแบบอื่นแทน พวกเราทุกคนอาจจะไม่รอด “
จางเทีย สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แม้ว่าเขาจะสงสัยในเรื่องที่เกิดขึ้นแต่ตอนนี้ข้อสงสัยได้ยืนยันแล้ว จางเทีย ยังคงรู้สึกช็อกอยู่ในใจ – “ บางคนเล็งเป้าหมายไปที่วังไฮหยวนงั้นเหรอ ? “
“ ฉันเองก็ไม่รู้ ! “ - จางซีเทียน ส่ายหน้า – “ แต่เราจะรู้ในไม่ช้า เมืองลู่หลาน เมืองแห่งทะเลทรายนี้เป็นท่าทางอากาศที่สำคัญภายใน 2000 กม. หลังจากที่ลงจอดแล้ว ตราบใดที่พวกนั้นไปถามกับยานอื่นๆว่าพวกเขาเจอเรื่องกคล้ายๆกันรึเปล่า เจ้าหน้าที่อาจจะได้ข้อสรุปมาก็ได้ “
“ ถ้ามีคนเล็งไปที่วังไฮหยวนจริงๆล่ะ ?”
จางซีเทียน ยิ้มออกมาอย่างภูมิใจ – “ ตราบใดที่เรากลับไปในอาณาเขตของวังไฮหยวนได้ บางคนแน่นอนว่าต้องจัดการคนที่ทำเรื่องแบบนั้น ! ไม่มีใครหนีได้หลังจากที่ทำเรื่องแบบนี้โดยไม่ชดใช้ ! “
ความภูมิใจของ จางซีเทียน นี้ดูไม่เข้ากับอายุของเขาเลยและมันได้ส่งผลต่อ จางเทีย ด้วย จางเทีย เองก็ยิ้มออกมา นี่คือเรื่องบังเอิญที่มีตระกูลที่มีอำนาจคอยหนุนหลังเขา ด้วยความบังเอิญนี้แม้แต่คนหนุ่มที่อยู่บนยานเองก็ได้ยังรู้สึกภูมิใจไปด้วย มันเหมือนกับตอนที่ รินฮาท เผชิญหน้ากับศัตรู ในตอนที่เขาคิดถึงวังไฮหยวนและสถานการณ์ตอนี้ที่พ่อกับครอบครัวเขาต้องเจอ จางเทีย ก็แอบถอนหายใจ
“ พูดถึงวังไฮหยวนแล้ว ฉันเองก็ไม่รู้มีนดีเท่าไหร่ นายบอกฉันได้มั้ย ?”
“ แน่นอน ฉันได้พักอย่างน้อยหนึ่งวันสำหรับการเติมเชื้อเพลิงและซ่อม เพราะฉันพักฟื้นอยู่ด้วย ฉันพูดเรื่องวังไฮหยวนให้นายฟังได้ ! “ - เมื่อได้ยิน จางเทีย ถามถึงวังไฮหยวน จางซีเทียน ก็ได้ยิ้มออกมา
“ จินหยวนเป็นประเทศที่หลักๆแล้วประกอบไปด้วยคนจีน เรา วังไฮหยวนเป็นหนึ่งในหกตระกูลใหญ่ในจินหยวนมาหลายรุ่นแล้ว ใน 8 เมือง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 500 ม.และอยู่จุดที่ดีที่สุดของจินหยวน ชื่อของที่ทำการเราคือที่ทำการไฮหยวน ผู้เชี่ยวชาญแต่ละคนของวังไฮหยวนที่ซึ่งได้รับตำแหน่งของ เคาท์ชางเฟิง นั้นจะเป็นที่เคารพของสมาชิกทุกคนในตระกูลจาง ผู้เชี่ยวชาญของวังไฮหยวนนั้นแนะนำมาจากผู้อาวุโสในตระกูล แต่ใน 200 ปีที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญของตระกูลนั้นถูกเลือกมาจากเมืองดงไฮ.. “
จางซีทียน ค่อยๆอธิบายมันออกมา จางเทีย เองก็เริ่มที่จะเข้าใจวังไฮหยวนมากยิ่งขึ้น
...
หลังจากที่ยานลงจอดที่ฐาน หลายคนบนยานได้ลงจากยานไปด้วยท่าทียุ่ง เพราะเมืองนี้ขาดแร่ พวกเขาจึงขายแร่และอาวุธที่เอามาจากเมืองคารัวล์ให้และทำกำไรให้กับกลุ่มการค้าชางเฟิงไปมหาศาล
หลังจากที่ขายสินค้าที่เอามาแล้ว จางเทีย ก็เห็นพวกเขาซื้อของจำนวนมากที่นี่ ด้วยการแนะนำของ จางซีเฟิง แล้ว จางเทีย รู้ว่าของหลักๆสามชนิดที่พวกเขาซื้อจากที่นี่คือทับทิม, กิ้งก่ากลายพันธุ์ที่เอาไว้ใช้ทำหน้าไม้และลูกดอก, ต้นกระบองเพชรลึกลับที่เอาไว้ใช้ทำที่ปิดบาดแผล
ในตอนที่ขนสินค้าเข้ามา เชื้อเพลิงที่จำเป็นสำหรับยานเองก็ถูกเติมไปด้วย
หลังจากที่ลงจอด การซ่อมถุงแก๊สก็เริ่มทำการทันที
หลังจากที่บอกว่ายานนี้จะลงจอดหลายวัน ในตอนที่ยานลงไปถึงพื้น จางเทีย ถึงกับเดินให้มั่นคงไม่ได้ ภายใต้การนำทางของกลุ่มลูกเรือที่คุ้นเคยกัน จางเทีย ได้เดินเที่ยวไปทั่วเมืองซึ่งเขาก็เริ่มประทับใจกับการป้องกันของเมืองนี้
ในตอนเย็น อุณหภูมิอยู่ๆก็ลดลง ทำให้มันหนาวยิ่งกว่าอยู่ในคารัวล์ ผู้โดยสารบนเรือต่างก็ร็ศึกว่าอยู่ระหว่างไฟกับน้ำแข็ง
ในคืนเดียวกัน กัปตัน, เพื่อนคนแรก, และคนมีอำนาจบางคนได้คิ้วขมวดและนั่งอยู่ในห้องควบคุมยาน
“ นายได้ถามข่าวมามั้ย ? “ - กัปตัน ถามชายที่นั่งข้างๆ
“ อื้อ นอกจากเราแล้ว ยานอีกห้าลำที่มายังเมืองนี้เพื่อเติมเชื้อเพลิงในอีกสามวันก่อนได้เจอกับเรื่องแบบเดียวกัน พวกเขาล้วนแต่ใช้ยานแบบหนักซึ่งมีเกราะป้องกัน หลังจากที่จ่ายเงินไปจำนวนมากแล้ว พวกเขาก็ได้ลงมาจอดที่เมืองนี้ อีกอย่างยานบางลำที่นั้นมีนัดกับกลุ่มการค้าที่นี่นั้นไม่ได้มาถึงตามเวลา ยานที่หายไปเหล่านั้นล้วนแต่เป็นยานแบบเบา ! “
กัปตันหรี่ตาพร้อมกับสูบซิการ์ของตัวเอง หลังจากนั้นสักพักก็ได้ถามออกมา – “ นายได้ข่าวล่าสุดของกลุ่ม่นักเล่นแร่แปรธาตุที่โดนกำจัดไปแล้วมั้ย ?”
“ ยัง แม้ว่า แม้ว่าจะมีประกาศจับกระจายไปทั่วทวีปแต่คนฆ่านั้นเหมือนอยู่ๆก็หายไปดื้อๆเลย “ เมื่อพูดจบชายคนนั้นก็ได้มองไปที่กัปตัน – “ มีอะไรเกี่ยวข้องกับสองเรื่องนี้เหรอ ? “
“ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกี่ยวข้องกันรึเปล่าแต่ฉันรู้ว่าโลกและเส้นทางทางอากาศนั้นกลับมาอันตรายอีกครั้งแล้ว ! “ -กัปตันแสดงสายตาที่ผ่อนคลายและพูดออกมาอย่างใจเย็น – “ ซ่อมยานให้เร็วที่สุด ติดตอไปยังกลุ่มที่โดนโจมตีเหมือนเราและมุ่งหน้าไปยังสถานีเดียวกับเรา เราจะเดินทางกันไปเป็นกลุ่มเพื่อออกจากเมืองลู่หลาน ! “
“ ครับ ! “