spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 266: การต่อสู้กลางอากาศ (II)
หลังจากที่คิดอย่างจริงจังแล้วเพื่อนคนแรกก็ได้ตัดสินใจที่จะให้ จางเทีย ลองดูเพราะสิ่งที่ จางเทีย ได้ทำนั้นแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขา
ลูกดอกสองกล่องไม่นานก็ถูกขนออกมา ที่หัวและปลายของกล่องนั้นมีด้ามจับให้คนได้แบก
ลูกเรือสี่คนต้องแบกกล่องสองกล่องนี่มาด้วยความเร็วสูงสุดที่พวกเขาทำได้
“ นายอยากให้ฉันขึ้นไปด้วยมั้ย ?” – เพื่อนคนแรกถาม จางเทีย
“ ไม่จำเป็น แต่ก็ขอบคุณ ! “ - จางเทีย ตอบกลับและรีบยึดเข็มขัดของเขากลับด้านบนของทั้งสองกล่องเพื่อที่เขาจะได้ยกมันขึ้นไปได้ ภายใต้สายตาทึ่งของทุกคน จางเทีย ได้ยกกล่องที่หนักกว่า 200 กก.ด้วยแขนซ้ายและเขาได้พยักหน้าเล็กน้อย
ยานนั้นเพิ่มความเร็วขึ้นอีกรอบ หลังจากที่ยิงไปอีกระลอกแล้ว Iron-beak Ibises ก็ถูกยิงตกลงไป ก่อนที่ยานจะคงที่ จางเทีย ก็เริ่มวิ่งขึ้นไปที่บันไดเชือกเส้นหนึ่งพร้อมกับกล่องสองกล่องที่อยู่ในมือและเริ่มปีนขี้นไป
ในตอนที่เขาอยู่ดาดฟ้าตะกี้ เขาไม่ได้รู้สึกหนาวแต่เมื่อปีนขึ้นมาหลายเมตรด้านบนแล้ว จางเทีย รู้สึกได้ถึงอากาศเย็นๆกับความสูงที่สูงจากพื้นได้ 2000 กว่าเมตร หน้าของเขาเหมือนถูกลมพัดอัดจนบู้บี้ ในตอนที่เขาก้มหน้าลงไปมอง เขาพบว่าทุกอย่างที่พื้นดูเล็กลงกว่าเดิมมาก ตอนนั้นเองสิ่งที่อยู่ใต้เท้าเขาคือทุ่งหญ้าที่ไม่รู้จบ
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาอยู่สูงขนาดนี้ จางเทีย รู้สึกว่าตัวเองเวียนหัวเล็กน้อย
สัตว์ในทุ่งหญ้าดูเหมือนจะไม่ได้รู้ถึงการต่อสู้ด้านบนพวกมันเลย จางเทีย มองลงไปและพบกับสิ่งมีชีวิตที่เขาไม่รู้จักซึ่งสูงและใหญ่ยิ่งกว่าช้างซึ่งมันกำลังดื่มน้ำอยู่ที่แม่น้ำ ในเสี้ยววินาทีมันก็ได้กลืนน้ำจำนวนมากลงไป หลังจากนั้นหัวอันน่ากลัวของมันซึ่งใหญ่กว่ารถไฟสองอันก็จมไปที่น้ำอีกครั้ง ทำให้นกต่างก็บินหนีและระลอกบนผิวน้ำ
ถ้ามันตัวไม่ใหญ่พอ จางเทีย คงไม่อาจเห็นมันได้จากความสูงระดับนี้ เมื่อเห็นแบบนั้น จางเทีย ก็เริ่มเหงื่อผุด เขาเริ่มเข้าใจว่ามันน่ากลัวเพียงใดกับดินแดนที่ห่างไกลเมืองแบบนี้
จางเทีย ไม่รู้ว่าสัตว์ด้านล่างมันคืออะไรรึอยู่ระดับไหน แม้ว่าสิ่งมีชีวิตนี้จะจมลงไปในน้ำแล้วแต่ จางเทีย ก็รู้สึกได้ถึงสายตาอันเย็นชาของมันที่จ้องมาที่เขา มันกำลังมองดูยานที่บินออกไปเหมือนกับมองเหยื่อ ทำให้ จางเทีย รู้สึกถึงความเย็นเฉียบในใจเขา
เทียบกับสิ่งมีชีวิตนั้นแล้ว ไม่ต้องเดาเลยว่า Iron-beak Ibises ที่กำลังโจมตีอยู่ถือได้ว่าเป็นเพื่อนที่น่ารักเลย
แม้ว่าเขาจะแบกกล่องลูกดอกหนักกว่า 200 กก. แต่ จางเทีย ก็ปีนขึ้นไปได้ง่ายๆ ในสายตาของลูกเรือและเพื่อนคนแรกแล้ว กล่องสองกล่องนี้เหมือนกับกล่องเปล่า มีแค่บันไดเชือกที่รับน้ำหนักของ จางเทีย เอาไว้ ทุกคนรู้ว่ามันรับน้ำหนักได้ 300 กก. แต่ละก้าวที่ จางเทีย ก้าวขึ้นไปนั้นบ่งบอกถึงน้ำหนักที่กดทับลงมายังเส้นเชือก
“ ป้องกันด้วย ! “ – เพื่อนคนแรกตะโกนออกมาดังๆ ยานนี้ได้หันกลับไปอีกครั้งและสะบัด จางเทีย ไปด้านข้าง ในเวลาเดียวกันลูกดอกก็ถูกยิงอกกมาจากดาดฟ้าเรือและยิงเข้าใส่ Iron-beak Ibises ซึ่งกำลังพุ่งเข้าหา จางเทีย เพื่อนคนแรกใช้โอกาสนั้นยิงออกไปสองดอกและจัดการ Iron-beak Ibises สองตัวที่เข้ามาในองศาการยิงและต้องการที่จะโจมตี จางเทีย
“ เหี้ย ! “ - จางเทีย บ่นออกมาในใจ เขารู้สีกว่า Iron-beak Ibises พวกนี้มันเจ้าเล่ห์ หลังจากที่เห็นลูกทีมสามทีมแรกปีนขึ้นมา พวกเขาก็รู้ว่าจะต้องปกป้อง จางเทีย ยังไง
การเดินทางมันยากขนาดนี้เลยรึไง ? จางเทีย สงสัย นี่เป็นครั้งแรกที่ จางเทีย เดินทางมาไกลเขตเมืองขนาดนี้ ก่อนหน้านี้ในการฝึกเอาตัวรอดและสงครามในคารัวล์ที่ซึ่งแคมป์เหล็กโลหิตได้สู้กับราชวงศ์อาทิตย์นั้นก็ไม่ได้ไกลจากเมือง จางเทีย ไม่ได้รู้สึกถึงอันตรายของป่าแต่ครั้งนี้ จางเทีย รู้สึกจริงๆว่าทำไมคนในยุคนี้ถึงมักจะอยู่ในเมืองที่มีกำแพงสูง
“ ระวัง ! “ – บางคนด้านล่างตะโกนออกมา
ครั้งนี้มี Iron-beak Ibises ทั้งหมด 6 ตัวที่เข้าโจมตี จางเทีย แม้ว่าสามตัวจะถูกยิงไปแล้วแต่ก็ยังมีอีกสามตัวที่พุ่งเข้าหา จางเทีย จากทิศทางต่างๆ จะงอยปากของมันพุ่งเข้าหา จางเทีย อย่างกับหอก นอกจากจะงอยปากแล้วถ้าเขาโดนกงเล็บของมันเข้า มันจะอันตรายยิ่งกว่าการโดนกงเล็บของเสืออีก ยังไงซะพวกนี้ก็เป็นสิ่งมีชีวิตระดับ 5
จางเทีย เหวี่ยงตัวกลับมาอีกครั้งและอยู่ใกล้กับเกราะเหล็กของถุงแก๊ส ด้วยสองกล่องที่อยู่ในแขนซ้าย มือซ้ายของเขาที่จับเชือกไว้แน่น เมื่อเห็น Iron-beak Ibises สองตัวเข้ามาใกล้เขาในเสี้ยววินาทีและจะเข้าโจมตีเขา จางเทีย ก็ได้หรี่ตาลง
ในตอนที่ใจของลูกเรือเต้นรัว ก็ได้มีแสงสีเงินอย่างกับงูโผล่ออกมากลางอากาศ
ในตอนที่แสงสีเงินนั้นปรากฏออกมา ระยะระหว่างจะงอยที่ใกล้ที่สุดกับ จางเทีย นั้นแค่ 50 ซม. ส่วน Iron-beak Ibises อีกสองตัวและ จางเทีย นั้นอยู่ห่างกันถึง 2 ม.และ 3 ม.
จางเทีย นั้นเหมือนกับเป้าที่ห้อยอยู่กลางอากาศ
“ จบแล้ว ! ถ้าเด็กนั่นไม่โชว์ออฟและอยู่ที่ดาดฟ้า เขาอาจจะยิง Iron-beak Ibises ไปได้หลายตัวก็ได้ .. “ – ลูกเหลือหลายคนมองไปที่ จางเทีย และคิดแบบนั้น
แต่หลังจากที่แสงสีเงินนั้นปรากฏออกมา
ในเสี้ยววินาทีก็ได้มีเลือดของ Iron-beak Ibises ทั้งสามตัวกระฉูดออกมาและเปลี่ยนพวกมันเป็นหกส่วนแล้วตกลงมาจากอากาศ เลือดนั้นได้กระจายออกไปและได้อาบไปทั่วใบหน้าของลูกเรือที่ถือหน้าไม้อยู่ด้านล่าง
นอกจากเพื่อนคนแรกแล้วไม่มีใครเห็นเลยว่า จางเทีย นั้นโจมตียังไง
หลังจากโจมตีรอบนี้ไป จางเทีย ได้เพิ่มความเร็วในการปีนขึ้นอีก เขาขยับมือและเท้าเร็วขึ้นกว่าเดิม จางเทีย ได้มาถึงด้านบนซึ่งสูงกว่าดาดฟ้าเรือหลายสิบเมตรในเวลาสักพัก
ลูกเรือกลุ่มแรกที่ได้มาด้านบนนั้นต่างก็ได้รับบาดเจ็บ Iron-beak Ibises กว่า 10 ตัวได้เข้าล้อมพวกนั้นและเข้าโจมตี ในบรรดาลูกเรือที่ได้รับบาดเจ็บ มีสองคนที่นอนอยู่ที่พื้น คนอื่นๆยึดเกาะตัวเองไว้กับบันไดเชือก ลูกเรือด้านบนได้แบ่งออกเป็นสองกลุ่มและทำการปกป้องทหารสองคนที่ได้รับบาดเจ็บ
การต่อสู้ตอนนี้นั้นดุเดือดอย่างมาก เลือดจากทั้งคนและนกต่างก็สาดกระเซ็นไปทั่วทุกที่
เพราะตำแหน่งนี้ใกล้กับกาบข้างของด้านบนของยาน จางเทีย พบว่าเกราะของถุงแก๊สได้โดนฉีกออกแล้ว แม้ว่าจะมีลมแรงพัดผ่านไปมาแต่เขาก็ยังได้ยินเสียงแก๊สรั่วแต่ไม่ไกลจากตรงนั้นเกราะเหล็กที่โดน Iron-beak Ibises เข้าโจมตีก็ไม่ได้มีสภาพที่ดีกว่ากันเลย
“ ไปตายซะ ! “ – ในตอนที่เขาปีนขึ้นไป จางเทีย ได้เห็นลูกเรือที่ใบหน้าอาบไปด้วยเลือดต้องกระโดดขึ้น ตอนที่จะงอยแทงเข้าไปที่ไหล่และอกของพวกนั้น พวกนั้นเองก็เหวี่ยงมีดเข้าใส่คอของพวก Iron-beak Ibises เหมือนกับฆ่าหมู พวกเขาฟันคอของมันออก กว่าจะทำแบบนั้นได้ต้องฟันกันอยู่หลายครั้ง
Iron-beak Ibises ร้องคร่ำครวญออกมาพร้อมกับกระพือปีกมันอย่างบ้าคลั่งและถูกดึงให้ตกลงมาจากฟ้า ผลก็คือคนหนึ่งคนและนกได้กลิ้งตกลงจากยานพร้อมกับเลือดที่กระจาย
“ ซีเทียน ! “ - ลูกเรือคนหนึ่งกรีดร้องออกมา ตาของเขาแทบหลุดออกมาจากเบ้าเพราะความโกรธ ร่างกายของชายคนนั้นต้องแหลกเป็นชิ้นๆเมื่อตกลงจากความสูงระดับนี้
คนและนกนั้นได้กลิ้งมาทาง จางเทีย ที่ซึ่งได้ใช้โอกาสนั้นคว้ามือขวาของชายคนนั้นเอาไว้ Iron-beak Ibises ได้ตกลงไปและโดนเป่ากระเด็นด้วยกระแสลม
หลังจากนั้น จางเทีย ก็ได้คว้าคนๆนั้นด้วยมือขวา ส่วนกล่องลูกดอกหนักหว่า 200 กก.นั้นห้อยอยู่ที่ข้อมือซ้าย เขาปีนต่อไปด้วยมือซ้ายและเท้าทั้งสองของเขา ในตอนที่เขาขึ้นไปด้านบนได้ จางเทีย ก็ได้วางชายคนนนั้นลงก่อนจะรีบยึดเกาะของชายคนนั้นไว้กับบันไดเชือก
ตอนนั้นลูกเรือคนอื่นด้านบนต่างก็อึ้งกับการปรากฏตัวของ จางเทีย และชายอีกคนพร้อมกับกล่องลูกดอกสองกล่องที่ จางเทีย นำขึ้นมา
ยานได้เปลี่ยนทิศทางอีกครั้ง แรงจากการเหวี่ยงนี้แทบจะโยนทุกคนด้านบนลงไปจากยาน
ระหว่างตอนนั้น จางเทีย รีบนอนลง เขาใช้เกราะตัวเองผูกไว้กับบันไดเชือกก่อนจะบิดเท้าทั้งสองกับเชือกให้เหมือนน็อตและยืนอย่างมั่นคงเหมือนกับที่คนอื่นทำ
หลังจากที่มัดตัวเองได้แล้ว จางเทีย ก็เปิดกล่องที่ห้อยอยู่ในแขนซ้ายออกมาและหยิบเอาลูกดดอกที่เหมือนหอกโยนออกไป...
สำหรับ จางเทีย แล้วระหว่างการต่อสู้ของเขากับ Iron-beak Ibises สิ่งที่อันตรายที่สุดและท้าทายที่สุดคือพื้นที่หลายสิบเมตรระหว่างดาดฟ้าและด้านบน ถ้า Iron-beak Ibises ไม่หยุดเขาระหว่างที่ปีนขึ้นมาได้ เขาก็จะปีนขึ้นมาพร้อมกับลูกดอกที่เพียงพอและเข้าประจำตำแหน่งของตัวเองไว้ได้ ทุกอย่างก็จะไม่เป็นไร
หนึ่งนาทีหลังจากที่ จางเทีย ได้ปีนขึ้นมา Iron-beak Ibises ตัวแรกก็โดนลูกดอกของ จางเทีย แทงทะลุแล้วตกลงไป
“ อ่า มันโดนยิงโดยลูกดอก เด็กนั่นปีนขึ้นไปได้แล้ว ! “ – บางคนตะโกนออกมา ส่วนบางคงช็อก
“ ฉันสงสัยว่าเด็กนั่นจะฆ่า Iron-beak Ibises ได้กี่ตัว ? “ – เมื่อคิดถึงคำถามนั้น เพื่อนคนแรกก็ได้สั่งให้ทีมที่สองเตรียมพร้อมที่จะปีนขึ้นไป
จากนั้นทุกคนก็ได้เงยหน้าขึ้นไปมองด้วยความตะลึง...
ไม่นานหลังจากที่ Iron-beak Ibises ตัวแรกถูกยิงตกลงมา Iron-beak Ibises อีกตัวก็ตกลงมาในเวลาห่างกันไม่นาน
ยานนั้นได้เปลี่ยนทิศทางอีกรอบ
นี่ทำให้คนบนยานนั้นมีโอกาสที่จะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Iron-beak Ibises สองตัวสุดท้ายที่กลัวว่าจะโกนฆ่าและต้องการที่จะหนี แต่ก่อนที่มันจะบินหนีไปได้ 100 ม. ลูกดอกสองอันจากด้านบนยานก็ตามพวกมันทัน
ด้วยเสียงคร่ำครวญของสองตัวสุดท้าย โลกนี้ได้กลับมาสงบสุขอีกครั้ง
เวลาทั้งหมดตั้งแต่ที่เขาปีนขึ้นไปด้านบนได้และจบการต่อสู้นั้นใช้เวลาไม่ถึง 3 นาที