หน้าแรก > Castle of Black Iron
Chapter 265: การต่อสู้ทางอากาศ (I)

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

Chapter 265: การต่อสู้ทางอากาศ (I)

จางเทีย ไม่เข้าใจผ่านเขตประชากรน้อยแต่ละครั้งนั้น มันจะเจอกับการโจมตีจากสิ่งมีชีวิต แต่การโจมตีนี้ชัดแล้วว่าได้สร้างปัญหาใหญ่ให้กับยาน

Iron-beak Ibis นันมีเป้าหมายอย่างชัดเจน --- ถุงแก๊สที่มีชั้นเหล็กบางๆกันอาไว้ นี่ทำให้ จางเทีย กลัวนิดๆ  Iron-beak Ibis  พวกนี้ชัดแล้วว่าเป็นนักฆ่าที่รู้ว่าจะโจมตีที่ไหนเพื่อให้ลูกเรือนั้นกลัวที่สุด

ลูกเรือบนดาดฟ้าและอาวุธด้านในนั้นต้องเจอกับปัญหาเพราะการใช้ยกมันระดับการยิงขึ้นไป เมื่อ Iron-beak Ibises ได้ไปถึงถุงแก๊สของยาน อาวุธทุกอย่างนี้ก็จะไร้ประสิทธิภาพ ดังนั้นแล้วยานจึงเป็นได้แค่แท่งเหล็กลอยในอากาศและเผยยจุดอ่อนให้ Iron-beak Ibises ซึ่งกำลังเข้าโจมตียานผ่านทางองศาการยิงและอาวุธที่ประจำอยู่ด้านบนดาดฟ้า

Iron-beak Ibises นั้นเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วและมีเป้าหมายที่ชัดเจน ยานนั้นก็เหมือนกับม้าที่ซึ่งโดนตัวเหลือบก่อกวนและได้พุ่งไปมั่วทุกทิศทาง

ตอนนั้นเองในทีสุด จางเทีย ก็ได้สัมผัสกับการทำงานของชุดที่ซึ่งได้ต่อกับตัวยานและเข็มขัดผ่านเส้นสลิง ในตอนที่ยานเลี้ยวกลับอย่างรวดเร็วบนท้องฟ้าด้วยความเร็วที่สูงกว่า 100 กม./ชม. ถ้าไม่มีเครื่องพวกนี้ ทุกคนจะทำได้แต่ต้องจับบางอย่างเอาไว้ ไม่ต้องคิดถึงเรื่องใช้อาวุธสู้เลย

แต่การต่อสู้นั้นยากขึ้นในเวลาไม่ถึง 5 นาทีต่อมา

นอกจากการต่อสู้ที่เป็นไปได้ดีในการโจมตีระลอกแรก ในการโจมตีช่วงหลังๆ ส่วนมากแล้วพวกเขาไม่สามารถยิงในองศาที่เหมาะได้ ลูกเรือส่วนมากก็ไม่ได้มีทักษะที่ดีเท่าไหร่  จำนวนของหน้าไม้ประเรือนั้นก็เทียบไม่ได้กับฝีมือของเพื่อนคนแรกของ จางเทีย ที่ใช้หน้าไม้ แต่ชายคนนั้นได้ฆ่า Iron-beak Ibises ไปไม่ถึง 8 ตัว

นอกจากชายคนนี้แล้วคนที่น่าเตะตาที่สุดคือ จางเทีย เขาจัดการ Iron-beak Ibises น้อยกว่าชายคนนั้นไปแค่สองตัวด้วยหน้าไม้ของเขา

แต่ละครั้งที่ยานสร้างโอกาสการยิงให้ทั้งสองฝั่งของยาน  จางเทีย จะยืนนิ่งๆ เขาจะจับไปที่เข็มขัดตัวเองและด้ามจับเหล็กของเรือ เขาจะยิงออกไปตอนที่ Iron-beak Ibises นั้นพุ่งผ่านด้านบนเท่านั้น

แต่ละครั้งที่ยานเดินหน้า,ซ้าย,ขวา, ขึ้น , ลง มันจะเปิดโอกาสให้ลูกเรือบางส่วนบนดาดฟ้าเท่านั้นที่ยิง เพื่อนคนแรกนั้นเชี่ยวชาญการใช้หน้าไม้อย่างมาก ดังนั้นเขาได้ส่งลูกดอกสองอันไปในสองวินาทีในตอนที่ยานได้เลี้ยวและลูกดอกได้ยิงตรงเข้าใส่ Iron-beak Ibises มากกว่า จางเทีย อยู่สองตัว

ยานทั้งสองฝั่งและ Iron-beak Ibises ต่างก็เคลื่อนที่กันอย่างรวดเร็ว อีกอย่างแล้วพวก Iron-beak Ibises นั้นฉลาดอย่างมาก เมื่อยานเปลี่ยนทิศทาง Iron-beak Ibises ทุกตัวก็ยังคงคอยไล่ตามถุงแก๊สของยานด้วยความเร็วสูงสุดโดยเหลือเวลาให้ลูกเรือยิงแค่ไม่กี่วินาที

สำหรับคนอื่นๆแล้วการใช้เวลาหนึ่งรึสองวินาทีในการจัดการ Iron-beak Ibises ที่ซึ่งพุ่งผ่านพวกเขาไปด้วยความเร็ว 200 กม./ชม.

ด้านบนดาดฟ้า จางเทีย อาจจะไม่ใช่คนที่มีประสบการณ์ต่อสู้มากที่สุด แน่นอนว่าเขาน่ะเป็นคนผ่อนคลายที่สุด  ลูกเรือส่วนมากนั้นอดไม่ได้ที่จะมองมาที่เด็กชายคนนี้ที่ซึ่งอายุ 15-16 ปี

จางเทีย ไม่ได้ทำท่าผ่อนคลาย เขาผ่อนคลายจริงๆ ด้วยพลังวิญญาณที่เพิ่มขึ้นมา  จางเทีย รู้สึกว่าความเร็วของ Iron-beak Ibises ที่ผ่านเขาไปนั้นไม่ได้เร็วมาก ในช่วงเวลาเดียวกัน จางเทีย ถึงกับรู้สึกว่าเวลารอบตัวเขาช้าลง เพราะผลของการช้าลงนี้ จางเทีย เห็นเส้นทางของ Iron-beak Ibises ได้อย่างชัดเจน  ในตอนที่คนอื่นต่างก็เร่งรีบ  จางเทีย ก็แค่ลั่นไกออกไปและมักจะจัดการนกให้ตายไปได้

จางเทีย ยังคงยิงไปเรื่อยๆทีละตัวๆเหมือนกับเขายิงกระต่าย นอกจาก จางเทีย แล้ว เพื่อนคนแรกนั้นที่ได้เป็นผู้นำคนอื่นๆนั้นเริ่มเหงื่อผุดขึ้นมาแล้ว

ตอนนั้นเองแผ่นเหล็กขนาดกว่า 1 ตร.ม.ก็ได้แตกออกจากถุงแก๊สของยาน  มันได้บินเข้าไปใส่ลูกเรือที่อยู่ด้านบนดาดฟ้าด้วยความเร็วที่สูงอย่างมาก ในตอนที่มันผ่านแขนของลูกเรือคนหนึ่งไป มันก็ได้ทำแผลให้ชายคนนั้นพร้อมเลือดที่สาดออกมา

ลูกเรือที่ได้รับบบาดเจ็บนั่งยังคงเงียบและจับหน้าไม้ต่อไป ตอนนี้ไม่ใช่แค่เพื่อคนแรก ทุกคนบนดาดฟ้าต่างก็เปลี่ยนสีหน้ากันหมด

เมื่อเกราะปกป้องถุงแก๊สนั้นโดนฉีกออก สถานการณ์เลวร้ายที่สุดก็ได้มาถึง แม้ว่าจะมีการปกป้องแต่เมื่อเกราะส่วนนอกโดนฉีกออก เกราะส่วนที่สองก็จะปรากฏออกมา แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รู้สึกถึงผลกระทบจากการรั่วไหลของแก๊สแต่ถ้ามันยังมีการรั่วแบบนี้ต่อไป หลังจากนี้สักพักความเร็วของยานต้องลดลงอย่างแน่นอนซึ่งนั่นถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นภัยพิบัติสำหรับทุกคน

เมื่อยานนั้นเริ่มเสียความเร็วและต้องลงไปที่พื้นซึ่งห่างจากเมืองที่ใกล้ที่สุดกว่า 1000 กม. ราคาที่วังไฮหยวนที่ห่างออกไป 10,000 กม.จะต้องใช้เพื่อชดเชยความเสียหายนั้นสามารถสร้างยานลำนี้ได้ใหม่  นี่ไม่ต้องคิดถึงเรื่องว่าพวกเขาจะกลับไปที่เมืองได้แบบมีชีวิตหรือไม่

“ จางซีเทีย , หลินหยู, เฉียนซีตง พวกนายสามคนไปด้านบนกับคนของนาย .. “ – เพื่อนคนแรกตะโกนออกมา

ไม่นานหลังจากที่สั่ง คนกว่า 10 คนก็พุ่งออกไปด้านนอกตอนที่ยานเริ่มเสถียร พวกเขาต่างก็ถือหน้าไม้และเริ่มปีนขึ้นไปยังเชือกบันไดที่ห้อยลงมาจากถุงแก๊ส

ในตอนที่พวกเขาได้ปีนขึ้นไป ยานก็ได้เปลี่ยนทิศทางอีกครั้ง เพราะแรงจากการเหวี่ยง ทีมที่อยู่บนบันไดเชือกก็เริ่มโดนสะบัด เพราะพวกเขาอยู่สูงไปหลายพันเมตร ถ้าพวกเขาตกลงไปตอนี้ พวกเขาแหลกเป็นชิ้นๆ เมื่อเห็นแบบนั้น แม้แต่ จางเทีย ก็ยังต้องใจเต้น

จางเทีย  จำเรื่องที่ ดอนเดอร์ เล่าถึงกะลาสีที่สู้อยู่ในทะเล เขาไม่คิดว่าลูกเรือที่อยู่บนยานนี้จะเหมือนกับกะลาสีเหล่านั้น บางครั้งพวกนี้อาจจะอันตรายกว่าด้วยซ้ำ

กะลาสีน่ะสู้อยู่ในทะเลแต่ลูกเรือพวกนี้สู้อยู่กลางอากาศ

“ ปกป้องพวกเขา ! “  - เพื่อนคนแรกตะโกนออกมาดังๆ

Iron-beak Ibises วนไปรอบๆยานและดูเหมือนว่าจะพบคนปีนขึ้นมาที่ถุงแก๊ส

จางเทีย ไม่เคยเห็น Iron-beak Ibises มาก่อนแต่ในตอนนั้นเขารู้สึกว่า Iron-beak Ibises พวกนี้น่ะฉลาดและแปลก

เพื่อคนแรกได้ยิงลูกดอกออกไปอีกสองลูก ส่วน  จางเทีย ยิงออกไปลูกเดียว ในเวลาเดียวกันหน้าไม้ประจำยานและพวกพลยิงต่างก็ยิงเข้าใส่ Iron-beak Ibises ที่กำลังโจมตีพวกที่ไต่บันไดเชือกอยู่

Iron-beak Ibises กว่าห้าตัวโดนฆ่า

ภายใต้การปกป้อง ไม่นานพวกนั้นก็ปีนขึ้นไปด้านบนได้และหายไปจากสายตาของผู้คน  หลังจากนั้นสักพัก ในตอนที่ลูกเรือไม่ได้ยิงอีกต่อไป Iron-beak Ibises ก็เริ่มตกลงมาจากด้านบนยานทีละตัวๆ  พวกมันเริ่มได้รับการโจมตีจากด้านบนยานแล้ว

Iron-beak Ibises ด้านบนยานคอยร้องออกมาเรื่อยๆพร้อมเสียงของเหล็กเสียดสีกันที่น้อยลงไป หลังจากที่ Iron-beak Ibises อีกหลายตัวโดนยิงลงมา  Iron-beak Ibises ก็ยิ่งฆ่าคนได้น้อยลง  จางเทีย ได้ยินเสียงคนด้านบนนั้นร้องออกมาในตอนที่พวกเขาสู้กับ Iron-beak Ibises ที่อยู่ด้านบน ในเวลาเดียวกันเขาก็ได้ยินเสียงคนและ Iron-beak Ibises ร้องโอดโอยเพราะบาดแผล

เกราะเหล็กป้องกันชิ้นที่สองได้ตกลงมา แม้แต่ จางเทีย เองก็รู้สึกได้ว่ายานนี้ไม่ได้เคลื่อนที่เร็วแบบแต่ก่อน

เพื่อนคนแรกทำสีหน้ากลัวมากกว่าเดิม ในตอนที่เขาต้องการส่งทีมที่สองขึ้นไปช่วย จางเทีย ก็ได้เดินอกอมา

“ ให้ฉันลองดู !”

“ นาย ? “ - เพื่อนคนแรกจ้องมาที่สีหน้าใจเย็นของ จางเทีย ในขณะที่คนอื่นๆเองก็มองมาที่ จางเทีย ด้วย – “ นายอาจจะตายได้ ! “

“ ฉันเคยอยู่ในแคมป์เหล็กโลหิตของอาณาจักรนอแมนมาก่อน ! “ - จางเทีย พูดอย่างใจเย็น

แคมป์เหล็กโลหิตของอาณาจักรนอแมน ? เพื่อนคนแรกตกใจเล็กน้อยและได้ตัดสินใจทันที – “ นายต้องการอะไรบ้าง ? “

จางเทีย ดึงเอาสลักยาวกว่า 1 ม.และหนัก 5-6 กก.ซึ่งได้ออกแบบมาพิเศษกับหน้าไม้ประจำยาน มันถือว่าเป็นหอกเลยก็ได้

“ เอาลูกดอกแบบนี้มาให้ฉันสองกล่อง ! “ – แต่ละกล่องนั้นมีลูกดอก 25 อันซึ่งหนักกว่า 100 กก.

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.