spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

Chapter 263: เรื่องทางบ้าน

แม้ว่าการส่งข้อความนั้นจะแพงแต่ครอบครัวของเขาก็ยังส่งข่าวมาว่าเกิดอะไรขึ้นในครอบครัว

สามสิบปีก่อนพ่อของ จางเทีย , จางปิง ก็แค่สมาชิกธรรมดาในวังไฮหยวนของเมืองจินไฮ  จางปิง นั้นเป็นเด็กหนุ่มทั่วไปในหมู่คนที่มีพรสวรรค์ของตระกูลจางของเมืองจินไฮ  เขานั้นถือได้ว่าธรรมดาทุกด้าน

พ่อของ จางปิง ,ปู่ก็ด้วย พวกนั้นดูแลท่าเรือในเมือง ดังนั้นแล้วครอบครัวของเขาจึงรวยและค่อนข้างมีชื่อเสียงในเมืองจินไฮ  แม่ของ จางปิง, ย่าก็ด้วยนั้นเป็นแค่เมียคนที่สี่  พ่อของ จางปิง นั้นไม่ได้เป็นลูกคนโตแต่เป็นลูกคนที่ 3 ของเมียคนที่ 4  อีกอย่างแล้วย่าของ จางเทีย ก็ได้จากไปตั้งนานแล้ว  พ่อของ จางเทีย ได้เริ่มมีอำนาจน้อยลง  แม้ว่า จางปิง จะไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้ชีวิตแต่ในครอบครัวที่มีการแข่งขันอันดุเดือดนี้ ถ้าเขาเลิกกังวลเรื่องระบบความสำคัญแล้ว บางครั้งคุณอาจจะต้องเจอกับอันตรายที่ไม่เคยเจอมาก่อนก็ได้

พ่อของ จางปิง นั้นเกิดมาพร้อมกับอารมณ์ที่หุนหัน แม่ว่าสภาพครอบครัวจะไม่ได้แย่ เขานั้นเป็นคนธรรมดาและไม่ได้มีพรสวรรค์อะไร ถ้าเขาเกิดมาในบ้านทั่วไป เขาอาจจะใช้ชีวิตได้ตามต้องการแต่เขาเกิดมาในครอบครัวที่มีอำนาจอย่างวังไฮหยวน ดังนั้นแล้วมันจึงกลายเป็นภาพลวงตากับชีวิตในแบบที่ จางปิง ต้องการจะใช้มัน

สำหรับคนอย่าง จางปิง แม้ว่าเขาจะเป็นคนธรรมดาแต่เขาก็ถือว่าเป็นลูกหลานของตระกูลจางในวังไฮหยวนซึ่งหมายความว่าเขาต้องโดนบังคับให้ไปยุ่งกับเรื่องต่างๆ

ปีนั้น จางปิง ได้ถูกบังคับให้แต่งงาน เขาถูกเลือกโดยหัวหน้าเขตของวังไฮหยวน เขากับผู้ชายอีก 7 คนของตระกูล เขาต้องแต่งงานเข้าไปและใช้ชีวิตกับครอบครัวฝ่ายเจ้าสาวซึ่งเป็นอีกตระกูลใหญ่ในจินหยวน

ในวันนี้และตอนนี้ ในบรรดาตระกูลใหญ่ๆแล้วโดยเฉพาะพวกคนจีนในประเทศจินหยวนซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลจีนใหญ่ๆบางที่ ความสัมพันธ์ผ่านการแต่งงานนั้นเป็นเรื่องธรรมดาแต่สำคัญอย่างมาก

มันเป็นเรื่องธรรมดาเพราะในยุคนี้ นอกจากความสัมพันธ์กับตระกูลจีนใหญ่ๆผ่านการแต่งงานนั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่มีให้เห็น สำหรับตระกูลจางของวังไฮหยวน แต่ละปีมีชายและหญิงหลายคนที่ต่างแซ่กันต้องแต่งงานเข้าไปในตระกูลอื่นๆเพื่อเชื่อมสัมพันธ์

ความสัมพันธ์ผ่านการแต่งงานนี้สำคัญอย่างมากเพราะมันเกี่ยวข้องกับว่าจะมีกี่คนในบรรดาหมู่ลูกหลานของตระกูลจางที่จะปลุกสายเลือดขึ้นมาได้ – พรสวรรค์ของคนจีน  พูดโดยทั่วไปแล้วลูกหลานของคนที่ปลุกสายเลือดขึ้นมาได้นั้นมีโอกาสสูงมากที่จะปลุกสายเลือดตัวเองขึ้นมา แม้ว่าสายเลือดจากฝั่งพ่อจะยังไม่ตื่นแต่ก็มีโอกาสเป็นไปได้อยู่  ยิ่งมีลูกหลานมากเท่าไหร่ยิ่งทำให้ตัวเลขของการปลุกสายเลือดนั้นเพิ่มมากขึ้นไปด้วย

เคาท์ชางเฟิงจางไฮหยวน ผู้ก่อตั้งวังไฮหยวนของตระกูลจางได้ปลุกสายเลือดอันทรงพลังขึ้นมาได้ ดังนั้นแล้วแม้ว่าสายเลือดโดยตรงของตระกูลจางจะอยู่ในระดับทั่วไปแต่พวกเขาก็ยังมีสายเลือดของ เคาท์ไฮหยวน อยู่  ถ้าพวกเขาใช้ชื่อตระกูลต่อไป พวกเขาก็จะถือว่ามีประโยชน์อย่างมาก

ตระกูลใหญ่ไหนๆจะไม่สามารถทำแบบนั้นได้ถ้าไม่รักษาสายเลือดเอาไว้ ดังนั้นแล้วความสัมพันธ์ระหว่างการแต่งงานของสองตระกูลใหญ่นั้นก็เท่ากับตำแหน่งทางสังคมโดยการแต่งงานนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่จัดขึ้นเพื่อที่จะรักษาตำแหน่งของสามคมและดูดซับความสามารถทางสายเลือดของตระกูลอื่นด้วย

มันเหมือนกับการแลกเปลี่ยนสายเลือดของตระกูลใหญ่ๆ

พวกคนที่มีความสัมพันธ์กับตระกูลจางผ่านการแต่งงานเองก็เป็นตระกูลใหญ่ๆของจินหยวน

ระหว่างตอนนั้นพวกผู้ชายที่จะไปแต่งงานกับอีกฝ่ายต้องมีข้อกำหนดดังนี้ อย่างแรกเลยพวกเขายังไม่ปลุกสายเลือด,ไม่ใช่ลูกหลานโดยตรงของตระกูลและไม่มีพรสวรรค์รึตำแหน่งในตระกูล อย่างที่สองเลยต้องสุขภาพดี อย่างที่สามต้องดูดีและมีพฤติกรรมที่ดี

แต่ละปีผู้ชายที่อายุถึงวัยและมีเงื่อนไขตามที่บอกไปจะแต่งงานเข้ากับตระกูลอื่นผ่านการจับฉลาก  นี่น่ะเกือบเป็นธรรมเนียมของแต่ละตระกูลแล้ว ไม่ได้มีเฉพาะตระกูลจาง

โชคร้ายที่พ่อของ จางเทีย มีเงื่อนไขตามข้างต้นในตอนที่อายุถึงวัยและโดนเลือก ดังนั้นแล้วเขาก็ต้องแต่งงานกับตระกูลอื่นในนามของตระกูลจาง

แต่ จางปิง นั้นไม่ได้อยากทำแบบนั้น เขาตกหลุมรักสาวจีนคนหนึ่งในเมืองจินไฮ แม้ว่าผู้หญิงคนนั้นจะเกิดมาในครอบครัวธรรมดาแต่เธอก็ฉลาด, ใจดีและขายเบียร์ข้าวเก่ง  ครั้งแรกที่ทั้งคู่เจอกัน พวกเขาก็ตกหลุมรักกันและได้ไปขอพ่อแม่ของตน ตอนนั้นทั้งสองได้ตกลงที่จะแต่งงานกันแล้วในอีกหนึ่งปีกแต่เมื่อได้ยินเรื่องการจับฉลาก จางปิง ก็ตกลงไปในนรกทันที

แทบจะไม่มีใครอยากที่จะแต่งงานเข้าไปในตระกูลอื่น ดังนั้นแล้วการจับฉลากจึงถือว่ายุติธรรม ผลของมันคือคำสั่งของตระกูลที่ไม่มีใครขัดขืนได้ ในปีแรกๆแม้แต่หลานของผู้อาวุโสในวังไฮหยวนเองก็หลีกเลี่ยงเรื่องนี้ไม่ได้  ชายคนนั้นได้แต่ออกจากปราสาทไฮหยวนพร้อมน้ำตา นี่ไม่ต้องคิดถึง จางปิง หรอก

เพราะวังไฮหยวนนั้นเคร่งกฎอย่างมาก ต่อหน้าความจริงพวกนั้น จางปิง จึงไม่มีโอกาสที่จะขัดขืนได้เลย

ด้วยการที่เป็นคนธรรมดาอยู่นาน จางปิง ได้ต่อต้านการตัดสินของตระกูลและได้ทำการตัดสินใจที่กล้าหาญที่สุดในชีวิต ---* เขาพาแม่ของ จางเทีย หนี  ก่อนที่จะหนี เพื่อที่จะหนีจากการจับกุมได้ จางปิง ถึงกับต้องแกล้งทำว่าตัวเองตาย

จางปิง ทำสำเร็จ ไม่มีใครคิดว่า จางปิง ที่ซึ่งเป็นคนธรรมดาจะทำแบบนั้นได้

จางปิง ได้หนีมาพร้อมกับแม่และตั้งรกรากที่เมืองแบล็คฮ็อตซึ่งห่างจากวังไฮหยวนกว่าหมื่นกิโลเมตร แม้ว่าพวกเขาจะได้พบกับชีวิตที่ยากลำบากแต่พวกเขาก็ยังมีความสุข

พวกเขาสามารถใช้ชีวิตแบบนี้ได้ต่อไปแต่มันกลับมีเรื่องที่ จางเทีย ได้ปลุกสายเลือดขึ้นมาได้ตอนที่เขาเข้าร่วมการฝึกเอาตัวรอด  สิ่งที่ จางเทีย ปลุกขึ้นมาได้คือ’ การขว้างที่แม่นยำ ‘  วันหนึ่งที่เขาได้ปลุกจุดชีพจรที่หลังและใช้แรงของพลังฉีและแรงของเลือด  ตอนนั้นตัวตนของ จางเทีย ได้เป็นที่รับรู้ของคริสตัลวิญญาณเลือดของตระกูล  ตระกูลได้ทำการค้นหาเขามานานแต่ก็ยังหาไม่พบในหมู่สายเลือดที่บันทึกไว้ กลุ่มผู้อาวุโสหงุดหงิดและได้สั่งการออกมาให้หาตัวให้ได้ สุดท้ายแล้วด้วยความช่วยเหลือจากตระกูลใหญ่ของวังไฮหยวน  ความจริงที่ว่า จางปิง นั้นแกล้งตายก็ถูกเปิดโปงออกมา  เพราะเส้นสายต่างๆในที่สุดวังไฮหยวนก็ได้พบบ้านของ จางเทีย ในเมืองแบล็คฮ็อต

ตอนนี้ จางปิง ยอมรับความผิดของตน

เขาปฏิเสธคำสั่งของตระกูลและไม่อาจรับผิดชอบหน้าที่ในฐานะลูกหลานของตระกูลจาง จากนั้นเขาก็ได้พาเด็กผู้หญิงหนีไปโดยใช้การแกล้งตายเพื่อหลอกหัวหน้าเขตของตระกูล  แม้ว่าเขาจะไม่ได้โดนลงโทษกับการตายแต่เขาก็ยังต้องได้รับโทษอย่างหนัก

หลังจากที่ถูกหัวหน้าเขตพาตัวไปจากเมืองแบล็คฮ็อต ตอนนั้น จางปิง ก็ได้มาถึงอาณาเขตของตระกูลจาง เขานั้นถูกพาตัวไปโดยทีมกฎหมายของตระกูลและโดนอัดในคุก ต้องขอบคุณที่แม่ของ จางเทีย , จางหยาง พี่สะใภ้ที่ยังปลอดภัยอยู่

ตอนนั้นธนาคารได้ส่งข้อความของ จางเทีย ให้กับครอบครัวของเขา

หลังจากที่ได้ยินข่าวของ จางเทีย แล้ว จางหยาง ก็รีบไปหาผู้อาวุโสของเขตและอยากลบความผิดของ จางปิง โดยแลกกับการคิดเลขในใจโดยใช้ลูกคิดที่  จางเทีย พบมา ในตอนที่ จางหยาง ได้ส่งข้อความไปให้ จางเทีย ที่วังไฮหยวน  จางปิง นันยังคงอยู่ในคุกและผู้อาวุโสในตระกูลจางกำลังเถียงกันเรื่องฐานะของ จางหยาง อยู่

ตอนนั้นเองครอบครัวของ จางเทีย นั้นต้องพบกับเรื่องยากลำบากในวังไฮหยวน

--- พ่ออยู่ในปัญหา วังไฮหยวนมีกฎที่เคร่งครัด ลุงสองคนได้ช่วยเราให้อยู่ในเมืองจินไฮและดูแลเราได้ดี เพราะเราไม่ได้ข่าวจากนายและพ่อนั้นก็โดนพาตัวไป แม่ป่วย เธอถึงกับเรียกชื่อนายตอนหลับ

หวังว่านายจะกลับมาเร็วๆ !

เมื่ออ่านจบ จางเทีย ได้ร้องไห้ออกมา เขาไม่อยากรอที่จะบินไปที่วังไฮหยวน เขาอยากอยู่กับครอบครัวและช่วยพ่อเขาจากคุก

จางเทีย คิดว่าไม่มีใครผิดในการพากันหนีออกมา  จางเทีย สนับสนุนและห่วงพ่อแม่ของตัวเอง แต่เขาเองก็รู้ว่าตระกูลใหญ่นั้นมักจะมีกฎที่เคร่งครัด สิ่งที่พ่อเขาทำนั้นก็ฝ่าฝืนกฎจริงๆ มันเป็นไปไม่ได้ที่วังไฮหยวนจะมองข้าม การกระทำแบบนั้นมันเสี่ยงต่อความมั่นคงของตระกูลและอาจทำให้เสื่อมเสียงถึงการคงอยู่ ที่สำคัญที่สุดสำหรับ จางเทีย ตอนนี้คือต้องออกจากที่นี่ทันทีและไปอยู่กับครอบครัว ถ้าเขาอยู่กับครอบครัวได้ ก็ไม่มีอะไรมาเอาชนะเขาได้

วังไฮหยวนเองก็ได้ส่งข้อความมาหา จางเทีย  --- ยานของกลุ่มการค้าชางเฟิงภายใต้การดูแลของวังไฮหยวนจะไปถึงที่คารัวล์ในอีก 9 วัน หลังจากที่ไปถึงที่นั่นแล้ว จางเทีย จะกลับมาที่วังไฮหยวนได้

ก่อนที่ยานนั้นจะมาถึงคารัวล์  จางเทีย เดาว่าเขามีเวลาพอที่จะกลับไปเมืองแบล็คฮ็อตเพื่อลาเพื่อนๆ ครั้งนี้ จางเทีย ไม่รู้ว่าเขาจะมีโอกาสกลับไปที่เมืองนั่นอีกรึเปล่าในอนาคต

สงครามศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สามระหว่างมนุษย์และปิศาจนั้นจะเริ่มในไม่ช้า ซึ่งมันก็พอมีวี่แววให้เห็นบ้างแล้ว  จางเทีย ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างในเร็วๆนี้

การเดาของ จางเทีย นั้นถูก ในตอนที่ความวุ่นวายของโลกมาถึง ไม่มีใครบอกเขาได้เลยว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ ด้วงสีทองที่เขาได้ซื้อมาควรที่จะมาถึงคารัวล์ในเช้าพรุ่งนี้แต่มันก็ไม่ได้มา ในวันเดียวกันมีผู้คนมากมายได้ยินข่าวที่น่าตกใจยิ่งกว่าการที่อาณาจักรนอแมนและราชวงศ์อาทิตย์นั้นได้เข้าต่อสู้แย่งชิงพันธมิตร

---- กลุ่มนักเล่นแร่แปรธาตุของคาโรล์ในตระกูลแบล็คซอนซึ่งมีคน 1876 คนได้พินาศลงในชั่วข้ามคืน ทุกคนโดนฆ่าตายหมด

กลุ่มนี้เป็นเพียงกลุ่มเดียวที่เชี่ยวชาญเรื่องการหาด้วงทองคำและสัตว์กายพันธ์อื่นๆซึ่งเอาไว้ใช้ในการทำยาสำคัญต่างๆ การที่กลุ่มนี้หายไปจะส่งผลกระทบต่อนักเล่นแร่แปรธาตุอย่างมาก เมื่อไม่มีวัตถุดิบ นักเล่นแร่แปรธาตุในตระกูลแบล็คซอนจะไม่สามารถที่จะทำยาดีๆออกมาได้ รวมไปถึงยาระดับต่ำ,ระดับกลางและระดับสูงและยังมียาอื่นๆที่เพิ่มความแข็งแกร่งของคนได้

มันต้องใช้ความแข็งแกร่งอย่างมากในการกำจัดกลุ่มนั้นทิ้งในชั่วข้ามคืน แม้แต่ทั้งกองทัพก็อาจจะทำแบบนั้นไม่ได้ในคืนเดียว แต่สิ่งที่แปลกคือนักฆ่านั้นไม่ได้ทิ้งสัญลักษณ์อะไรไว้ มันทำเหมือนกับไม่มีอะไร ตระกูลรวมไปถึงฟาร์มที่เลี้ยงสัตว์ต่างก็โดนเผา วิธีของนักฆ่านี้น่ากลัวจริงๆ

ตั้งแต่สงครามศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สอง กลุ่มนี้ไม่เคยโดนฆ่ามากว่า 200 ปี ยิ่งกว่านั้นคือกลุ่มนี้โดนกำจัดหมดทั้งกลุ่ม นี่มันเหมือนกับการโยนระเบิดลงไปในน้ำ ผลของมันยังไงก็ส่งผลกระทบ แม้แต่ จางเทีย ที่ซึ่งอยู่ห่างมาถึงเมืองคารัวล์เองก็กลายเป็นเหยื่อกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ผลก็คือ Fruit of Redemption จากด้วงทองคำตอนนี้ได้กลายเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้ว

เมื่อได้ยินข่าวนี้นักเล่นแร่แปรธาตุในคารัวล์ต่างก็อึ้ง

รัฐบาลของคาโรล์และกลุ่มนักเล่นแร่แปรธาตุหงุดหงิดอย่างมาก ได้มีคำสั่งจับกุมสองอันซึ่งมีรางวัลให้ถึง 500,000 ทองโดยเรื่องการจับนี้แพร่กระจายไปทั่วตระกูลแบล็คซอนในวันเดียว

“ นี่คือจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายรึเปล่า ?” - จางเทีย ช็อก

 ในวันเดียวกัน ด้วยความช่วยเหลือจากธนาคาร  จางเทีย ก็ได้ขึ้นรถไฟมุ่งหน้าไปยังเมืองแบล็คฮ้อต

7 วันต่อมา จางเทีย ก็ได้กลับมาที่เมืองคารัวล์อย่างปลอดภัย ก่อนที่เขาจะกลับมา เขาถึงกับไปที่บาปีด้วย หลังจากที่ออกจากบาปีมาแล้ว จางเทีย ก็ไปที่ฐานของแคมป์เหล็กโลหิต ในตอนที่เขาออกจากแคมป์เหล็กโลหิต ผู้การรินฮาทและพลตรีกู๊ดเดียนถึงกับขับรถมาส่ง จางเทีย ที่คารัวล์แล้วร่ำลากัน

“ หวังว่าเราจะได้มีโอกาสพบกันอีก ! “ - พลตรีกู๊ดเดียน กอด จางเทีย ไว้แน่น

“ หวังว่าเราจะได้เจอกันแบบมีชีวิตในครั้งหน้า ! “ - จางเทีย หยิบเอากล่องออกมาส่งให้กับ กู๊ดเดียน – “ ถ้ามีโอกาส เอามันให้กับครอบครัวของ เฟโอ แทนผมหน่อย ! “

กู๊ดเดียน เปิดกล่องออกมา มันคือเหรียญกล้าหาญของ จางเทีย   กู๊ดเดียน พยักหน้าและทำสีเหน้าเคร่งขรึม

จากนั้น จางเทีย ก็ไปกอด รินฮาท ไว้แน่น

“ เอาสิ ฉันรู้สึกว่านายจะสร้างพลังฉีต่อสู้เหล็กโลหิตขึ้นมาได้ “

“ มันเป็นไปไม่ได้หรอก ! “ - จางเทีย ยิ้ม – “ ผมบอกคุณเลยว่าครั้งหน้าที่เราเจอกัน คุณคงเอาชนะผมไม่ได้แล้ว ! “

รินฮาท หัวเราะออกมาอย่างดัง....

...

ในวันที่สองตั้งแต่ที่ จางเทีย ได้กลับมาที่คารัวล์ ยานของกลุ่มการค้าชางเฟิงได้มาถึง มันได้เอาสินค้ามากมายหลายอย่างเข้ามาเพื่อแลกเปลี่ยนกับที่เมืองนี้

ในเช้าที่มีลมเย็นๆ  จางเทีย ได้ขึ้นยานเป็นครั้งแรก จากนั้นยานก็ค่อยๆลอยตัวขึ้นไปพร้อมกับสายลม...

จางเทีย ที่ซึ่งกำลังจะกลับไปที่วังไฮหยวนนั้นตอนนี้เขาเกือบที่จะขึ้นไปถึงนักรบระดับ 5 ได้แล้ว