spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
บทที่ 376: ล่าคะแนน
"เขาออกมาแล้ว " ผู้เข้าแข่งขันที่เฝ้าติดตามตาไม่กระพริบรีบพูดขึ้นมา
ดวงตาทั้งหมดขยับไปตามทิศทางนั้นอย่างพร้อมเพรียงกัน
เพิ่งผ่านไป 5 ชั่วยามเอง เขาทำเสร็จแล้วหรือ?
เท้าอันมหึมาของเทียนฮงก้าวข้ามไปข้างหน้า ผลักคนอื่นที่มาขวางทาง เขามองดูและเห็นว่าคนที่จะออกมาเป็นเจี้ยงเฉินจริง ๆ
“ลูกพี่ !” เทียนฮงเปิดตากว้าง หัวใจเต้นระรัว ไม่ใช่สัญญาณที่ดีที่เขาจะออกมาเร็วขนาดนี้
เขาออกจากภารกิจระดับ 5 เร็วเกินไป?
เจี้ยงเฉินกระพริบตาเมื่อเห็นคน 60 คนชุมนุมกันที่ห้องโถง เขาหันไปหาเทียนฮงแล้วชี้ไปที่ผู้ที่อยู่ในห้องโถง "เกิดอะไรขึ้นที่นี่ ?"
เทียนฮงหัวเราะ "พวกเขาทั้งหมดอยู่ที่นี่เพื่อชมการแสดงตั้งแต่พวกเขาได้ยินว่าท่านขอทำภารกิจระดับ 5"
"เยี่ยมมากลูกพี่? ท่านขยี้ภารกิจนั้นแล้วใช่มั้ย? " เทียนฮงตื่นเต้นมาก มือใหญ่ของเขากำกำปั้นขึ้นและแววตาของเขาเป็นประกาย
เจี้ยงเฉินพยักหน้า "ภารกิจระดับ 5 ค่อนข้างน่าสนใจ"
“เอ๋? น่าสนใจหมายถึงอะไร? ท่านผ่านหรือไม่? " เทียนฮงเกาหัวที่ฟูเหมือนฟางและถามตรงไปตรงมา
เมื่อคนอื่น ๆ เห็นว่าเจี้ยงเฉินพยักหน้าและบอกว่าภารกิจนั้นน่าสนใจ พวกเขาก็ไม่รู้ว่าเขาผ่านหรือไม่ พวกเขาทั้งหมดมองเจี้ยงเฉินด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน
บางคนคาดหวัง บางคนกำลังรอคอยที่จะดูเรื่องตลก บางคนดูถูก เจี้ยงเฉินได้สัมผัสกับความรู้สึกหลากหลายของมนุษย์จากกลุ่มคนที่รวบรวมกันในขณะนั้น
"อืม..ข้าผ่าน" เจี้ยงเฉินเมินเฉยในขณะที่เขาพยักหน้า
"เยี่ยมมาก ฮ่าฮ่าฮ่า !" เทียนฮงสะบัดผมและหัวเราะ "ภารกิจระดับ 5 ! พวกเจ้าเห็นไหม นี่คืออัจฉริยะ อัจฉริยะที่แท้จริง! "
เจี้ยงเฉินเดินไปข้างหน้าขณะที่ฝูงชนทั้งหมดแหวกช่องเป็นทางทั้งสองข้างตรงหน้าเขา อารมณ์ผสมผสานระหว่างใบหน้าของพวกเขาขณะที่พวกเขามองเจี้ยงเฉิน
"ผู้ตรวจสอบ นี่เป็นเหรียญภารกิจ โปรดตรวจสอบด้วย" เจี้ยงเฉินไม่ได้หลงตัวเองเพียงเพราะเขาผ่านภารกิจระดับ 5
เขายังไม่สนใจปฏิกิริยาของคนรอบตัวเขา ไม่ว่าพวกเขาเขาจะแค่อิจฉาหรือริษยา เจี้ยงเฉินก็จะเดินตามเส้นทางของตัวเองเท่านั้น
มือของผู้ตรวจสอบได้คลายลงเล็กน้อยขณะที่เขารับเหรียญภารกิจ เขาพูดพึมพำว่า "ข้า....ข้าไม่เคยคิด ... ไม่คิดเลยว่าคนแรกที่ประสบความสำเร็จในภารกิจระดับ 5 ของพื้นที่ส่วนนภาจะเป็นผู้เข้าแข่งขันสามัญ ทั้งสี่นิกายที่ยิ่งใหญ่ของเราคงสั่นคลอน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมามีอัญมณีอีกกี่เม็ดที่เราพลาดไปในโลกสามัญ? "
ผู้ตรวจสอบถอนหายใจและรับเหรียญภารกิจของเจี้ยงเฉินไป หลังจากตรวจสอบแล้ว เขาให้รางวัล 160 คะแนนกับเจี้ยงเฉิน
ด้วยวิธีนี้ ในเหรียญประจำตัวของเจี้ยงเฉินจึงมีคะแนนรวม 400 คะแนน
คะแนนนี้เพียงพอที่จะทำให้แน่ใจว่าเขาจะไม่ถูกตัดออกจากพื้นที่ส่วนนภา
"พี่ชาย เราควรมาทำความรู้จักกัน ข้าคือเหล็กต้าฉีจากนิกายพฤกษาสวรรค์ ข้าไม่เคยคิดมาก่อนว่าอัจฉริยะเหมือนท่านจะมีอยู่ในโลกสามัญ นี่เป็นเรื่องที่เปิดหูเปิดตาข้าจริง ๆ ข้ามาที่นี่เพราะข้าต้องการเป็นพยานถึงความรุ่งโรจน์ของอัจฉริยะเช่นท่าน ท่านสนใจที่จะไปเยี่ยมเยียนที่บ้านของข้าหรือไม่? " ในแง่ของเต๋าโอสถ ถ้านิกายพฤกษาสวรรค์ของข้ากล้าเรียกตัวเองว่าเป็นที่สองท่ามกลางสี่นิกาย จะไม่มีใครกล้ากล้าพูดว่าพวกเขาเป็นที่หนึ่ง "
เหล็กต้าฉีเป็นคนแรกที่เข้ามาและทักทายเจี้ยงเฉินอย่างกระตือรือร้น
เจี้ยงเฉินจ้องมองแบบไม่เต็มใจ เขาไม่คิดว่าเหล็กต้าฉีจะแสดงอาการแบบนี้ เขายังจำได้ตอนที่เหล็กต้าฉีมีปากเสียงกับเขาและเทียนฮงในวันนั้น ดูเหมือนพวกเขาจะเข้ากันไม่ได้
เหล็กต้าฉีทำตัวเหมือนลืมเรื่องของวันนั้นไปแล้วและทักทายเขาอย่างอบอุ่น
เทียนฮงกระพริบตา เขาเดินขึ้นไปและผลักเหล็กต้าฉีไปข้าง ๆ "หลบไปและอย่ายืนขวางทางที่นี่"
เหล็กต้าฉีรู้สึกโกรธแต่ก็สามารถยับยั้งตัวเองได้ และพูดอย่างใจเย็นว่า "เทียนฮง เจ้ากับข้า เรามาจากนิกายเดียวกัน ถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าจะไม่สร้างความยุ่งยาก ข้ากำลังเชิญอัจฉริยะให้เข้าร่วมนิกายของเรา ทำไมเจ้าต้องทำเหมือนเป็นเรื่องเล่น ๆ ด้วย? "
เทียนฮงไม่ใช่คนที่สุภาพกับเหล็กต้าฉี "เจ้าเป็นบ้าอะไร? เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นตัวแทนของนิกาย? เจ้าเป็นตัวแทนของตระกูลเหล็กต่างหากล่ะ เจ้าเข้าใจไหม?"
เหล็กต้าฉีพ่นลมออกทางจมูก "ข้าจะไม่เสียเวลาโต้เถียงกับคนโง่งมเช่นเจ้า"
เขายิ้มอย่างขอโทษให้เจี้ยงเฉิน "พี่ชาย เทียนฮงเป็นคนโง่ อย่าไปจริงจังกับเขาเลย ในบ้านพักของข้ามีสุราชั้นเลิศ ข้ารู้สึกเจ็บใจมากที่ข้าไม่มีใครให้แบ่งปัน สุราชั้นดีกับอัจฉริยะนั้นคู่กัน เพราะถูกสร้างจากสวรรค์เหมือนกันใช่หรือไม่? ท่านสนใจไปดื่มกับข้าบ้างไหม? "
เจี้ยงเฉินขมวดคิ้วเมื่อเห็นเหล็กต้าฉีพูดจาเลอะเทอะน่ารำคาญ "ข้าไม่สนใจ หลีกทางด้วย"
เขาไม่หยุดหลังจากพูดเสร็จและเดินผ่านเหล็กต้าฉีไปราวกับว่าเหล็กต้าฉีเป็นอากาศ เขากำลังมุ่งหน้าไปที่ประตู
เทียนฮงหัวเราะอย่างแปลกประหลาด "เหล็กต้าฉี อย่าคิดว่าตัวเองเป็นอัจฉริยะเพียงเพราะมีบรรพบุรุษที่ยิ่งใหญ่ เจ้าไม่คู่ควรเลยจริง ๆ "
คราวนี้เขาทำให้ตัวเองเสียหน้าอย่างอัปยศ เจตนาร้ายได้กระพริบผ่านสายตาของเหล็กต้าฉี
คนอื่น ๆ ก็เริ่มหัวเราะอย่างอึกทึก สายตาที่พวกเขามองเหล็กต้าฉีเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยและการเสียดสี เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้สึกยินดีที่ได้เห็นเหล็กต้าฉีอับอาย
ไม่ใช่ว่าพวกเขาเป็นศัตรูกับเหล็กต้าฉี พวกเขากำลังแข่งขันกัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขารู้สึกยินดีที่ได้เห็นคนอื่นโชคร้ายและทำให้ตัวเองดูโง่ เมื่อเหล็กต้าฉีล้มลงพวกเขาก็พร้อมที่จะซ้ำเติม
ชูซิงหานยืนอยู่ที่ประตู เขาสบตากับเจี้ยงเฉินก่อนที่เจี้ยงเฉินจะเดินผ่านประตู
"ใช่เขาแน่ ๆ !" ชูชิงหานมีความคิดอุปาทานในใจของเขาแล้ว เมื่อเขาเห็นสายตาที่มีความหมาย ความคุ้นเคยที่เกิดขึ้นจากการปฏิสัมพันธ์กับเจี้ยงเฉินก่อนหน้านี้ก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
ชูชิงหานยืนถอนหายใจให้ตัวเองอยู่ที่ประตูในขณะที่เขามองเจี้ยงเฉินเดินหายไปในระยะไกล "ข้าถูกกำหนดให้เป็นศัตรูกับอัจฉริยะคนนี้หรือ?"
ชูชิงหานส่ายหัวและเตือนตัวเองอีกครั้ง "ไม่ ข้าไม่สามารถมีส่วนร่วมในความขัดแย้งนี้ได้ เขาเป็นคู่แข่งของหลงยู่ซื่อผู้โชคร้าย และนั่นคือเรื่องระหว่างทั้งสองคน ข้า ชูชิงหาน ภักดีกับเต๋าศิลปะการต่อสู้ ครั้งหนึ่งข้าเคยช่วยชีวิตหลงยู่ซื่อเนื่องจากความกตัญญูที่ข้ามีต่อท่านอาจารย์ ข้าไม่จำเป็นต้องมีส่วนร่วมอีกต่อไป มีพลังอำนาจในตัวเขาที่ทำให้ข้าสั่นระรัว ข้ามีลางสังหรณ์ว่าเขาจะไม่ถูกปราบปรามอย่างง่ายดาย "
ชูชิงหานเตือนตัวเองด้วยใจสงบ
หลังจากการปะทะกันด้วยสายตาเมื่อสักครู่นี้ เขาก็ยิ่งมั่นใจในความคิดของเขา อัจฉริยะสามัญคนนี้ไม่ใช่คนที่จะถูกกดขี่อย่างง่ายดาย
แม้ว่าหลงยู่ซื่อจะมีพรสวรรค์ที่เหนือกว่าทั้งหมด ถ้านางประมาทกับศัตรู นางก็จะต้องทนทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของชายคนนี้
ชูชิงหานมีความรู้สึกที่คลุมเครือว่าอัจฉริยะสามัญคนนี้มีบุคลิกประจำตัวที่โดดเด่นซึ่งเขาไม่เคยสัมผัสมันได้กับหลงยู่ซื่อ
...........
"ลูกพี่ ท่านดังใหญ่แล้ว ! ข้าเชื่อมั่นว่าชื่อของท่านจะอยู่ในรายการข้าง ๆ อัจฉริยะชั้นนำ พวกเขาอาจกาหัวว่าท่านเป็นหนึ่งในคู่แข่งของพวกเขาในอนาคต" เทียนฮงหัวเราะร่าเริง
“แข่งขันรึ?” เจี้ยงเฉินหัวเราะเบา ๆ "มันเป็นเรื่องสำคัญหรือ? ข้าเดินตามเส้นทางของข้า อัจฉริยะชั้นนำมีส่วนเกี่ยวข้องกับข้ายังไง? "
"เอาล่ะ ลูกพี่ช่างไม่เหมือนใคร ! ท่านสุดยอดจริง ๆ ! " เทียนฮงถอนหายใจ
การบรรลุภารกิจระดับ 5 ทำให้เกิดระลอกคลื่นที่ยิ่งใหญ่ในพื้นที่ส่วนนภา เกือบทุกคนกำลังคุยถึงอัจฉริยะสามัญที่จู่ ๆ ก็มาปรากฏตัวขึ้นที่นี่ พวกเขาอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเขาและยังพูดคุยกันถึงการแสดงที่รุ่งโรจน์ของเขา
ผู้ชนะเลิศของการคัดเลือกรอบแรก ผู้ชนะเลิศของพื้นที่ส่วนลึกลับ ผู้ชนะเลิศของพื้นที่ส่วนปฐพี
เขากวาดล้างคู่แข่งทั้งหมดของเขาในการแข่งขันชิงแชมป์ จำนวนคนที่ได้ลิ้มรสความพ่ายแพ้ด้วยน้ำมือของเขาเกินกว่าจะนับได้
เกียวเล็นกลัวมากจนสร้างตัวตนขึ้นมาเป็นปีศาจภายในและเขาต้องกระอักเลือดออกมาจากปากโดยที่เจี้ยงเฉินยังไม่ได้ลงมือ
ฮั่วหวิ๋น ลูกศิษย์คนที่สี่ภายใต้หัวหน้าชูหยู่ ถูกเหยียบย่ำง่าย ๆ
ไห่เทียน ลูกศิษย์คนที่สามที่ภายใต้หัวหน้าชูหยู่ ได้แสดงท่าไม้ตายที่น่าทึ่งแต่ในที่สุดก็ถูกสังหาร
หัวหน้าชูหยู่ ผู้ควบคุมพื้นที่ส่วนปฐพีสูญเสียลูกศิษย์ 2 คนติดต่อกันและถูกขับออกจากตำแหน่ง นางต้องอับอายต่อหน้าผู้บริหารอาวุโสของนิกายทั้งสี่
เมื่อความสำเร็จอันน่าอัศจรรย์เหล่านี้ได้ถูกค้นพบทีละขั้นตอนแล้ว อัจฉริยะสามัญได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นในพื้นที่ส่วนนภา เขาได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในผู้ที่สามารถไปถึงรอบ 64 คน
แม้กระทั่งผู้ที่มองโลกในแง่ดีคิดว่าอัจฉริยะสามัญมีความหวังว่าจะได้เข้าชิงในรอบ 16 คนสุดท้ายและกลายเป็นหนึ่งในสาวกของบรรพบุรุษ
ทุกคนอยากรู้อยากเห็นในตอนนี้ อัจฉริยะสามัญมาจากไหน? เขาเป็นใครกันแน่?
นอกเหนือจากอัจฉริยะบางคนของนิกายตะวันม่วงที่รู้ความจริงที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ หลายคนอาจคาดเดาอย่างไม่มีเบาะแส อัจฉริยะชั้นนำของนิกายตะวันม่วงไม่อยากลดตัวมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนินทาเช่นนี้
แม้ว่าภารกิจเกี่ยวกับการทดสอบโอสถระดับที่ 5 จะดูสะดุดตา แต่ก็ยังไม่อยู่ในสายตาของอัจฉริยะเหล่านี้
"อัจฉริยะด้านโอสถ ขยะในด้านเต๋าโอสถ แม้จะมีศักยภาพที่แข็งแกร่งในด้านโอสถก็คือลมที่ว้าวุ่นบนสังเวียน" นี่เป็นความคิดที่หยิ่งยโสของอัจฉริยะชั้นสูงส่วนใหญ่
"ในโลกของเต๋าศิลปะการต่อสู้ ในท้ายที่สุดเต๋าศิลปะการต่อสู้ก็คือราชา เต๋าโอสถเป็นแค่ทางสนับสนุน" เหล่านี้คือความคิดของกลุ่มที่เงียบสงบและมีเป้าหมายมากกว่า
"อัจฉริยะสามัญคนนี้มีความสามารถเทียบสวรรค์ในด้านโอสถ ถ้าเขามีศักยภาพในการต่อสู้ที่น่าอัศจรรย์ด้วยแล้ว มันจะน่าทึ่งมาก และเขาจะเป็นศัตรูที่น่าเกรงขาม" นี่คือชนกลุ่มน้อยที่สงบซึ่งยังมีเหตุผล
อย่างไรก็ตาม ความประหลาดใจเกี่ยวกับเจี้ยงเฉินไม่ได้จบลงที่นี่ เขาทำให้มันเป็นกิจวัตรประจำวัน เขาล่าคะแนนในการทดสอบโอสถจากระดับ 1 ถึงระดับ 5 และทำซ้ำแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก
เขาได้รับคะแนน 310 คะแนนในการทำเช่นนั้น
ด้วยคะแนนสะสมเช่นนี้คะแนนของเขาได้พุ่งขึ้นถึง 1,640 คะแนนหลังจากผ่านไปหนึ่งเดือน!
ความเร็วนี้ทำให้บริเวณพื้นที่ส่วนนภาจมลงสู่บรรยากาศแปลก ๆ
ความเร็วอันบ้าคลั่งในการล่าคะแนนได้กลายเป็นภัยคุกคามที่แฝงไว้สำหรับอัจฉริยะระดับแนวหน้าเหล่านั้น
ถ้ามีใครจะบอกว่าพวกเขาไม่สนใจตอนต้น ตอนนี้พวกเขาอาจรู้สึกว่าอัจฉริยะสามัญกำลังไล่ตามพวกเขาด้วยความเร็วสูงสุดภายในหนึ่งเดือนต่อมา
แม้ว่าสิ่งเหล่านี้ยังไม่ถึงระดับของไฟลนก้น ในอัตรานี้ ถึงแม้ว่าคะแนนอัจฉริยะสามัญจะไม่เกินคะแนนของพวกเขาในตอนท้ายครบรอบสามเดือน แต่มันอาจจะเท่ากันก็ได้
ในช่วงเวลานั้น แม้แต่อัจฉริยะชั้นนำก็อดกังวลไม่ได้
พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีอัจฉริยะโอสถในโลกสามัญ เขาไม่เคยล้มเหลวสักครั้งในการทดสอบ !
นี้สามารถสรุปได้อย่างง่ายดายด้วยชื่อที่ว่า "อัจฉริยะโอสถ" คำที่ว่า "อัจฉริยะโดดเด่น" ก็ไม่เพียงพอที่จะอธิบายถึงความสามารถของเขา
ผู้ตรวจสอบเองก็ตกตะลึงไม่น้อยไปกว่าผู้เข้าแข่งขันในพื้นที่ส่วนนภา พวกเขาไม่เคยคิดว่าจะมีม้ามืดด้านโอสถมาปรากฏตัวขึ้น แรงผลักดันของเขารุนแรงมากจนบรรดาอัจฉริยะชั้นนำรู้สึกไม่สบายใจในตำแหน่งของตัวเอง
ถ้ายังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป แม้แต่อัจฉริยะระดับแนวหน้าก็อาจต้องเริ่มรับความเสี่ยงและต้องยอมเริ่มเพิ่มจำนวนภารกิจระดับ 4
พวกเขาจะต้องพยายามทำภารกิจระดับ 5 ด้วย มิฉะนั้นอัจฉริยะสามัญต้องตามพวกเขาทันแน่นอน !