spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 246: ผลของยีสต์กลายพันธุ์
จางเทีย กลับมาดึกนิดหน่อยในคืนนี้ ในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเขาว่างในตอนกลางวัน เขาจะไปดูรอบๆหมู่บ้านและไปหาหมาป่า อย่างแรกเขาจะไปหาสัตว์ที่หมู่บ้านข้างเคียงเลี้ยงไว้ที่สามารถปล่อยได้และทำไปให้เกิดการสร้าง Fruit of Redemption อย่างที่สองเพื่อทำการบ่มเพาะตัวเอง
บนผาขนาดใหญ่ห่างจากเชฟวี่ไปหลายกิโลเมตร จางเทีย ได้พบที่ที่เหมาะสำหรับการฝึกท่าหลังหมี ที่นั่นไม่ว่าเขาจะใช้หลังของเขาอัดเข้ากับหินมากเท่าไหร่ก็ได้ หินขนาดใหญ่นั้นหนักหลายตันยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง นี่เป็นโอกาสที่เขาจะเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายอีกครั้งและสร้าง Iron-Body Fruit
จากความแข็งแกร่งของเขาตอนนี้แล้ว ถ้าเขาฝึกท่าหลังมีกับกำแพงบ้าน แฮนนา เมื่อเขาใช้แรงออกมาเต็มที่ เขาอาจทำให้กำแพงนั้นพังได้แต่ถ้าเขาใช้แรงน้อย เขาอาจจะไม่พัฒนา นั่นเป็นเหตุผลที่เขาต้องหาที่เหมาะๆในการฝึกทักษะนี้ ถ้าเขาหาต้นไม้ไม่ได้ เขาก็ต้องหาหินรึผาที่สามารถทนแรงหลายพันกิโลกรัมของเขาได้
จางเทีย เดาวว่าหนึ่งในเหตุผลที่ว่าทำไมเขาไม่ถูกฆ่าในการต่อสู้โชกเลือดนั้นอาจจะเพราะ Iron-Body Fruit ที่อยู่ในตัวเขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้กินมันมากแต่ผลของมันต้องแสดงออกมาในตอนวิกฤตและช่วยชีวิตเขาไว้ เพราะแบบนั้น จางเทีย จึงเริ่มสนใจ Iron-Body Fruit มากกว่าเดิมหลังจากที่ร่างกายเขาฟื้นฟูขึ้นมา
โดยเฉพาะตอนนี้ที่ร่างกายเขาได้รับการฟื้นตัวระดับต้นมา จางเทีย ได้มีความสามารถในการฟื้นฟูที่ยอดเยี่ยมซึ่งได้เปิดความคิดในการบ่มเพาะในอนาคตของเขาอย่างมาก ผลของ Iron-Body Fruit นั้นได้เสริมสร้างการป้องกันทางร่างกายและป้องกันการโจมตีที่รุนแรง ถ้าเขาสามาราถใช้ผลของมันไปพร้อมกับการรักษาตัวเอง แน่นอนว่าเขาต้องมีโอกาสรอดมากกว่าเดิมและอาจถือได้ว่าเป็นแมลงสาบซึ่งมีความอึดแบบสุดยอด
จางเทีย จริงๆแล้วกลัวตายอย่างมาก ดังนั้นหลังจากที่ได้รับการฟื้นฟูร่างกายระดับต้นมา เขาจึงกังวลกเกี่ยวกับ Iron-Body Fruit นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมหลายวันมานี้ เขาใช้เวลาส่วนมากนั้นไปกับการฝึกท่าหลังหมีมากกว่าแต่ก่อน
ในเวลากลางวันเขาจะใช้หลังของเขาอัดเข้ากับหิน ในตอนที่เขาต้องหยุดเพราะความเจ็บ เขาจะตบไปที่ท้องส่วนล่าง, หน้าอก, ต้นขาและน้อง หลังจากนั้นความเจ็บของหลังของเขาจะเบาลงไปและเขาก็จะเริ่มฝึกได้อีกครั้ง
เขาทำแบบนี้ทั้งวัน แม้ว่ามันจะเป็นเวลามื้อเทียงรึมื้อเย็น เขาก็จะรีบกินอาหารแห้งแล้วรีบกลับมาฝึกต่อ
จางเทีย คิดว่าตัวเองนั้นเหมือนกับเหล็กร้อนๆที่ต้องรีบตี แต่ละครั้งที่เขาฟาดมัน เขาจะรู้สึกมีความสุข บางครั้งตราบใดที่ความคิดเราเปลี่ยนไป เรื่องน่าเบื่อในการฝึกฝนอาจจะสนุกขึ้นมา สำหรับ จางเทีย แล้วการบ่มเพาะนี้น่ะจริงๆแล้วถือว่าเป็นเกมสำหรับเขา
เพราะเขาฝึกแบบนี้มาตั้งแต่สี่วันก่อน Iron-Body Fruit ผลแรกหลังจากที่เขาหายดีก็เริ่มสุกขึ้นมาอีกครั้ง ในที่สุด Iron-Body Fruit ก็ได้ลิ้มรสความหวานของมัน มันไม่ได้ทำให้เขาต้องเจ็บใจจากการเจ็บตัวเลย มันได้เปลี่ยนเป็นพลังงานที่แผ่ไปทั่วผิวหนังและกล้ามเนื้อของเขาจากด้านในสู่ด้านนอก
ในสองวันมานี้ จางเทีย ได้อัดตัวเองอยู่เรื่อยๆ เขาได้มีความรู้สึกแตกต่างจากเดิม เขารู้สึกได้ถึงความสบาย พลังฉีอุ่นๆและพลังงานที่เริ่มหลอมรวมเข้ากับผิวและกล้ามเนื้อ ในตอนที่ฝึกและกินผลไม้ จางเทีย นั้นรู้สึกเหมือนแท่งเหล็กที่เริ่มได้รูปหลังจากที่ใช้ค้อนโหมกระหน่ำฟาดมันลงไป
หลังจากที่ฟื้นตัว เมื่อวานนี้ Iron-Body Fruit ผลที่สองก็สุกได้ 82% หลังจาการฝึกในวันนี้ จางเทีย ได้ประมาณว่ามันน่าจะสุกแล้ว นอกจาก Iron-Body Fruit แล้ว Leakless Fruit ผลแรกก็น่าจะสุกวันนี้เช่นกัน ในตอนที่เขาคิดที่จะกินผลไม้ทั้งสองในคืนนี้ จางเทีย ก็คึกขึ้นมาทันที
หลังจากที่ปลุกจุดชีพจรอีกสองจุด ตอนนี้เขาก็เลื่อนขึ้นมาอยู่ในระดับ 5 เพราะบาปียังคงเงียบสงบและเขาได้รับการฟื้นฟูร่างกายระดับต้นมา จางเทีย คิดถึงเรื่องการเลื่อนระดับอีกในเดือนหน้ารึสองเดือน แม้ว่าการเลื่อนระดับของเขานั้นจะยากกว่าเดิมเป็นสองเท่าแต่มันก็เป็นแค่เรื่องเล็กน้อยสำหรับ จางเทีย ในตอนนี้
ถ้าไม่มีอะไรฉุกเฉิน เขารู้สึกว่าแรงลับนั้นสามารถเปลี่ยนเป็นแรงอมตะได้ในตอนที่เขาขึ้นไปอยู่ระดับ 5 การควบคุมโดยแรงอมตะ หมัดเหล็กโลหิตและดาบอสรพิษแดงนั้นจะทรงพลังยิ่งกว่าเดิม อีกอย่างในตอนที่เขามาถึงระดับ 5 แล้วความแข็งแกร่งของร่างกายและแววการพัฒนาก็รุดหน้าขึ้นไปอีกซึ่งหมายความว่าการโจมตีโดยใช้หอกของเขานั้นจะน่ากลัวขึ้นกว่าเดิม
จริงๆแล้วในคืนนั้นตอนที่เขาสู้กับกองทัพราชวงศ์อาทิตย์ คามเร็วของหอกที่ จางเทีย โยนออกไปก็อยู่ในระดับความเร็วเสียงแล้วแต่ จางเทีย รู้ดีว่ามันยังไม่เสถียร แต่เมื่อเขามาอยู่ที่ระดับ 5 ไม่มีปัญหานั้นหลงเหลืออยู่อีกเลย บางทีจากนี้หอกของเขาจะได้ปลดปล่อยพลังของมันออกมาได้อย่างเต็มที่เมื่ออยู่ในมือ จางเทีย
...
ในตอนที่ จางเทีย กลับมายังเชฟวี่ มันก็ดึกแล้วแต่หมู่บ้านนั้นคึกคักกว่าเดิมเป็นสิบเท่า เพราะงานเบียร์คือวันพรุ่งนี้ มีหลายคนในเชฟวี่เริ่มที่จะทำคบไฟและตะเกียงเพื่อเข้าร่วมงาน อีกอย่างมีเด็กมากมายที่อดไม่ได้ที่จะจุดคบไฟและตะเกียงแล้วเล่นกับมัน เมื่อมองจากไกลๆแล้วเชฟวี่นั้นดูสว่างสดใสและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
ผู้คนต่างก็กินห่านย่างในงาน คืนนี้มีหลายบ้านต่างก็มีกลิ่นหอมของห่านย่างลอยออกมา
พูดไปแล้ว จางเทีย ก็ได้ค้นพบบางอย่างใหม่ในหลายวันมานี้ ในบาปีจริงๆแล้วเขาสามารถที่จะปล่อยพวกสัตว์ได้อย่างไก่, เป็ดและห่านที่ถูกเลี้ยงไว้ตามบ้าน มันไม่ได้ทำให้เขาต้องเสียเงินมากในการซื้อสัตว์พวกนั้น อันที่จริง จางเทีย น่ะสงสัยจริงๆว่า Fruit of Redemption จะทำงานก็ต่อเมื่อเขาปล่อยสิ่งมีชีวิตธรรมดา
แม้ว่าความคิดนี้จะดีอย่างมากแต่ จางเทีย ก็หาเหตุผลเหมาะที่จะทำแบบนั้นไม่ได้ เขากลัวว่าในตอนที่เขาเอาพวกมันไปปล่อยในป่า พวกมันจะโดนคนอื่นจับกลับมา มันคงไม่ได้ผลเลยสักนิด
แม้ว่าเขาจะปล่อยมันได้ใน Castle of Black Iron ที่ซึ่งเขาไม่ต้องกังวลว่าพวกมันจะโดนคนอื่นจับแต่มันก็ไม่ใช่วิธีการที่เหมาะ เขาเคยเอาไส้เดือนไปปล่อยใน Castle of Black Iron หลายวันก่อนและทำให้ไส้เดือนนี้เป็นสัตว์ที่อยู่ที่นั่นสายพันธุ์ที่สองต่อจากผึ้งแต่พวกสัตว์อื่นๆน่ะใหญ่กว่าไส้เดือนอย่างมาก
มันจะได้ผลถ้าเขาซื้อไปไม่กี่ตัวแต่มันจะดูน่าสะดุดตาเกินไปถ้าเขาเอาพวกมันเข้าไปทีละมากๆ อีกอย่างแล้วเนื่องจากเขาพักอยู่ที่บ้าน แฮนนา ถ้าเขาซื้อไก่และเป็นกลับมาที่ห้องซึ่งหายไปในวันต่อมา แล้วเขาจะอธิบายให้คนอื่นฟังได้ยังไง แม้แต่คนโง่ยังเห็นว่ามันผิดปกติ แน่นอนว่า จางเทีย น่ะไม่ต้องการเป็นที่สนใจแบบนั้น
...
ในตอนที่เขากลับมาบ้าน แฮนนา แฮนนา ก็ได้ดึงขาไปที่ห้องกินข้าว สิ่งที่เขาแปลกใจคือทุกคนต่างก็มองไปที่แก้วเบียร์บนโต๊ะ ฮาเร่, พ่อ, พี่,ต่างก็มองไปที่แก้วเบียร์โดยไม่กระพริบตา แม่และพี่สะใภ้ต่างก็มีท่าทีกังวลสุดๆ
‘ ทำไมพวกนี้ถึงมองไปที่แก้วเบียร์ ? เกิดอะไรขึ้น ? มันเป็นธรรมเนียมการฉลองก่อนงานเทศกาลไม่ใช่รึไง ? ‘
แต่ก่อนที่ จางเทีย จะอ้าปากพูด เขาก็เห็น แฮนนา มองมาที่เขาและเขาก็ต้องกลืนน้ำลายกลับไป
หลังจากนั้นสักพัก ฮาเร่ ที่นั่งมองแก้วเบียร์ก็ได้ถอนหายใจออกมา
“ นี่มัน 6 นาทีแล้ว ! “
“ ฟองยังอยู่เลย ! “ – พี่พูดออกมาด้วยตาที่เป็นประกาย
“ ฟองอากาศตอนแรกน่ะสูงถึง 3 ซม. ! “ - พ่อพูดเพิ่มด้วยเสียงที่สั่นเครือ
หลังจากนั้นชายทั้งสอมคนก็ได้มองไปด้วยความมั่นใจโดยที่ไม่อาจควบคุมความตื่นเต้นได้
จางเทีย ไม่ได้เห็นอะไรพิเศษ หลังจากที่แอบถาม แฮนนา ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอก็ได้บอกเขาว่าสำหรับผู้ชายในบาปีแล้วเบียร์คือชีวิต ร้อยปีที่ผ่านมาพวกเขาน่ะสรุปวิธีในการวัดคุณภาพของเบียร์ นอกจากการชิมแล้ว คนเราตัดสินได้ด้วยตาด้วย เอาฟองอากาศเป็นตัวอย่าง หลายคนตัดสินคุณภาพจากฟองและสี --- มาตรฐานของเบียร์ชั้นสูงน่ะคือฟองจะสูง 3 ซม.เหนือปากแก้วและยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงอย่างน้อย 4-5 นาที
หลังจากที่ดมกลิ่น, ตรวจสีและชิม มันคือตอนสุดท้ายที่จะตัดสินคุณภาพของมัน ผลของมันดีเยี่ยมในทุกด้าน ดังนั้นแล้วทุกคนจึงตื่นเต้นกันอย่างมาก
...
“ มันดูสมบูรณ์แบบเกินไป ฉันดื่มมันไปเร็วเกินไปตะกี้และไม่ได้รสชาติที่แท้จริงของมัน ฉันคงต้องลองอีก .. “
พี่ชายเลียปากและยื่นมือออกมาเพื่อจับแก้วเบียร์บนโต๊ะ
“ บัดซบ นายกินไปหนึ่งแก้วแล้วตะกี้ ! “
พ่อผลักมือของลูกชายออกด้วยสีหน้าที่เย็นชาพร้อมกับเอื้อมมือตัวเองออกไปยังแก้วเบียร์นั้น
“ แค่กๆ... “ - ฮาเร่ ไอออกมาสองครั้ง
เมื่อได้ยินแบบนั้นมือของพ่อก็หยุดนิ่ง
ในตอนที่ ฮาเร่ กำลังจะเอาแก้วเบียร์พร้อมกับรอยยิ้ม แฮนนา ก็ลงมือและหยิบแก้วนั่นมาจากโต๊ะ เธอเอามันมาตรงหน้า จางเทีย ฮาเร่ ยิ้มออกมาแบบอายๆพร้อมกับดึงมือกลับ
“ ลองดูสิ “
เธอมองมายัง จางเทีย ด้วยสีหน้าที่คาดหวัง
จางเทีย จับแก้วและมองดู เขาลองดูสีและเห็นใส่กว่าเบียร์ที่เขาเคยกินแต่ก่อน แม้ว่ามันจะมีแสงจากโคมไฟในตอนเย็นก็ตาม จางเทีย รู้สึกว่ากำลังถือคริสตัลสีเหลืองซึ่งโปร่งใส่อย่างมาก
ในตอนที่เขาเอาเบียร์เข้าใกล้ปาก กลิ่นหอมอันมีชีวิตชีวาก็ลอยเข้ามา เอาจริงๆแล้ว จางเทีย ไม่เคยได้กลิ่นหอมแบบนี้มจากเบียร์มาก่อนเลยตั้งแต่ที่เขาเกิดมา
ในตอนที่เบียร์เข้าปาก รสชาติของมันทั่งนุ่มลื่นและสดชื่น ดูเหมือนว่าจะไม่มีความขมเหมือนเบียร์อื่นๆเลย มันกลับทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าแทน มันเหมือนกับมีแก่นของแสงอาทิตย์ที่ถูกดูดซับเข้าไปแล้วเปลี่ยนมาเป็นแอลกอฮอร์
ด้วยการจิบนั้น จางเทีย ก็เริ่มติดมัน
แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเบียร์แต่เขาก็รู้อย่างชัดเจนว่าเบียร์ในมือนั้นแน่นอนว่าดีที่สุด
ในตอนที่คนอื่นๆในห้องกลืนน้ำลายตัวเอง จางเทีย ก็ดื่มจนหมดแก้ว
หลังจากนั้นเขาก็ได้มองไปที่ แฮนนา ด้วยสีหน้าสงสัย เธอได้พยักหน้าเล็กน้อย จางเทีย ได้เข้าใจในทันที
เบียร์นี้น่ะ แฮนนา หมักโดยใช้ยีสต์กลายพันธุ์ที่เขาให้กับเธอ !
ตอนนั้น จางเทีย ช็อกจนพูดอะไรไม่ออก
เบียร์นี้น่ะหมักโดยใช้ยีสต์ที่มีคุณสมบัติ 1 ใน 3 ของยีสต์ที่เขามี แล้วถ้ายีสต์แบบดั้งเดิมเอามาใช้หมักมันล่ะ ?
ใจของ จางเทีย เต้นรัว ทันใดนั้นเขาก็จำได้ว่าเขาได้หมักบางอย่างไว้ใน Castle of Black Iron ด้วยยีสต์พวกนี้ซึ่งสามารถดื่มได้ด้วย
ใจของเขาเต้นรัวอย่างรุนแรง
...
“ พระเจ้าอวยพร แฮนนา ให้เป็นราชินีเบียร็ปีนี้รึเปล่า ? “
แม่ตื่นเต้นอย่างมากจนน้ำตาเริ่มไหล
“ มันเป็นไม่ได้หรอก เบียร์ที่ แฮนนา หมักก่อนหน้านี้ไม่ได้มีรสชาติแบบนี้ เธอหมักแบบนั้นมาตลอด เธอจะมาหมักให้เป็นแบบนี้ได้ยังไง ? “ - พี่ชายเริ่มสงสัย – “ ไม่มีทาง ฉันจะลองอีกแก้วเพื่อเช็กดูว่ามันเป็นภาพลวงตารึเปล่า ? “
“ ไม่มีใครได้ชิมเบียร์อีก ! “ – ฮาเร่ พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมแล้วมองไปยังพี่ชาย เขาพูดออกมาทันที – “ พรุ่งนี้เบียร์จะพิชิตใจชายทุกคนในบาปี แฮนนา น่ะจะได้เป็นราชินีเบียร์ ! “ – เมื่อพูดจบ ฮาเร่ ก็ได้มองมาที่ จางเทีย และฝืนยิ้มออกมา – “ นายเก็บความลับเรื่องนี้เอาไว้ก่อนได้มั้ย ?”
จางเทีย พยักหน้า
“ นายรู้มั้ย เรามีอีกอย่างที่จะต้องต่อรองกันที่บ้าน... “
จางเทีย รู้สึกอายขึ้นมาทันที ในตอนที่เขากำลังจะออกไป แฮนนา ก็ดึงแขนเขาเอาไว้ ด้วยการพูดออกมาจรงๆ แฮนนา ได้เผยความลับออกมาให้ทุกคนได้ฟัง
“ ปู่ ปู่ไม่จำเป็นต้องรู้สึกแปลกกับเรื่องนี้อีกหรอก เหตุผลที่เบียร์ฉันน่ะแตกต่างจากแต่ก่อนก็เพราะ จางเทีย เอายีสต์พิเศษกว่าแต่ก่อนมาให้... “
หลังจากที่อึ้งเล็กน้อย พ่อก็ได้ดีดตัวขึ้นจากโต๊ะ เขาไม่ยอมปล่อยให้ จางเทีย ไป เขาพุ่งออกมาด้านนอกและมองไปรอบๆ หลังจากที่พบว่าไม่มีคน เขาก็รีบปิดประตู
นอกจาก แฮนนา แล้ว ทุกคนในห้องต่างก็มองไปที่ จางเทีย ด้วยตาที่เป็นประกาย ทำให้เขารู้สึกเหมือนโดนฝูงหมาป่าล้อมเอาไว้…