หน้าแรก > Castle of Black Iron
Chapter 243: ดาบอสรพิษแดง

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

Chapter 243: ดาบอสรพิษแดง

จางเทีย หยิบของชิ้นนั้นขึ้นมาดู เหี้ย มันคือเข็มขัดหนังจริงๆด้วย แม้ว่ามันจะดูสวยและดูมีราคาหลายสิบเงินแต่มันก็ยังคงแปลกที่จะเห็นว่ามันถูกใส่เอาไว้รวมกับอาวุธของเจ้าหน้าที่ภาคพื้นใช้

เดี๋ยวก่อน....

จางเทีย พบบางอย่างผิดปกติ หัวเข็มขัดของมันดูพิเศษนิดหน่อย มันใหญ่กว่าเข็มขัดทั่วไป นอกจากนี้แล้วมันยังมีงูสองตัวที่พันเข้าด้วยกัน แม้ว่าจะสกปรกแต่มันก็ยังสวย พื้นที่ระหว่างสองสายที่พันกันอยู่นั้นมันเหมือนกับสามารถใช้ไว้รั้งเข็มขัดได้

จางเทีย เห็นปุ่มด้านล่างหัวเข็มขัด ในตอนที่เขากดมันลงไป หัวเข็มขัดก็เด้งขึ้นมมาและรัดแน่นที่มือของเขา

ตอนแรกจางเทีย คิดว่าเข็มขัดหนังนี่น่ะคือดาบเบาที่สามารถพันไว้รอบเอวได้  ดอนเดอร์ เคยพูดถึงอาวุธแบบนี้มาก่อนแต่เมื่อเข็มขัดนี่ทำงาน  จางเทีย ก็คิดว่ามันคือมีดแต่เมื่อเขาถือมันไว้ เขาต้องตะลึงเพราะมันไม่ใช่ทั้งดาบเบารึมีดแต่เป็นดาบที่มีแต่ด้ามจับแต่ไม่มีใบมีด

จางเทีย ค่อยดู มันคือด้ามจับที่มีช่องว่างตรงกลางกว่า 2 ซม.ที่อยู่ระหว่างงูสองตัว มันเล็กอย่างมาก เหมือนกับแผลที่ จางเทีย กรีดตัวเองเมื่อคืนนี้

‘ นี่มันอะไรกัน ? อาวุธลับ ? แม้ว่ามันจะถือได้เหมาะมือแต่มันไม่มีปุ่มลับรึสวิตซ์บนด้ามจับเลยต ‘

“ นี่มันอะไร ? “

ก่อนที่ จางเทีย จะได้อ้าปากถาม ปิปิง ที่ซึ่งยืนอยู่ข้างๆก็ถามออกมาแทน

“ มันคือดาบที่พิเศษอย่างมาก ! “ – ร้อยโทตอบกลับและเอาของนั่นไปจากมือ จางเทีย

“ ถอยออกไปห่างๆหน่อย ฉันจะแสดงให้ดูว่าใช้ดาบนี่ยังไง ! “

จางเทีย และ ปิปิง ถอยออกไปหลายก้าว

“ นายควรห่างไว้ 2 ม. ดาบนี่ค่อนข้างพิเศษเลยทีเดียว ฉันควบคุมมันได้ไม่ดีเท่าไหร่.. “
จางเทีย และ ปิปิง ถอยหลังออกอีกหลายก้าวจนห่างจากร้อยโท 2 ม. ในเวลาเดียวกันพวกเขาต่างก็สงสัยว่าดาบนี่มันคือดาบแบบไหนกันแน่

“ จับตาดูไว้ดีๆ ! “

ไม่นานหลังจากที่พูดจบ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็ได้สูดลมหายใจเข้าลึกๆและสะบัดดาบในมือ ด้วยเสียงฟันผ่าลม ได้มีใบมีดเล็กๆคมๆโผล่ออกมาจากด้ามจับ เสียงแหลมๆและแสงส่องประกายออกมาและกระบองเหล็กที่ห้อยอยู่ตรงหน้าเขา 1 ม.ก็โดนตัดออกเป็นสองท่อน

และแสงนั่นยังคงกวาดไปทั่วและโจมตีไปทิศทางอื่นหลายครั้งเหมือนกับมันควบคุมไม่ได้  สองครั้งถึงกับโจมตีมาทาง จางเทีย และ ปิปิง ที่ซึ่งกลัวจนถอยหนีออกไปอีกสองก้าว ร้อยโทนั้นพยายามที่จะบังคับให้ด้ามดาบสงบลงเพื่อจะปล่อยใบมีดออกมาได้อย่างอิสระ

“ ใบมีดของดาบนี่น่ะซ่อนอยู่ในด้ามจับ นายต้องใช้แรงลับ, แรงที่มีรึพลังต่อสู้เข้าไปข้างในเพื่อบังคับให้มันออกมา เพราะใบมีดนี่น่ะบางและยืนหยุ่น มันจึงยากที่จะทำการควบคุม ถ้าใครทำผิดพลาด เขาอาจจะทำร้ายตัวเองได้ง่ายๆ  นั่นแหละว่าทำไมมันถึงอยู่ที่นี่มานาน ไม่มีเจ้าหน้าที่คนไหนอยากเลือกมัน....”

หลังจากที่เจ้าหน้าที่พูดจบ จางเทีย ก็เดินเข้าไปหาดาบเล่มนั้น เขาจับที่ใบมีดซึ่งหนาพอๆกับปีกแมลงและกว้างกว่านิ้วเขา 2 ซม.และดูมันดีๆ ตอนนั้นใบมีดไม่ได้ยาวกว่า 1 ม.เลยแต่เขารู้สึกได้ว่าก่อนหน้านี้ใบมีดน่ะยาวกว่านี้

“ ระวัง ฉันจะใช้แรงลับเพื่อผลักใบมีดออกมา ถ้าฉันเก็บแรงลับเอาไว้ ใบมีดนั้นจะดึงกลับมาและทำให้นายบาดเจ็บได้ ... “

“ ยาวเต็มที่เท่าไหร่?” - จางเทีย ถาม

“ ประมาณ 3 ม. นายสามารถดึงใบมีดออกมาด้วยมือได้ ฉันจะค่อยๆใช้แรงลับออกมาเพื่อแสดงให้เห็นความยาวเต็มที่ ! “

 ดังนั้น  จางเทีย จึงจับไปที่ปลายดาบด้วยสองนิ้วแล้วถอยกลับหลังมา ด้วยการที่เจ้าหน้าที่ค่อยๆใช้แรงลับออกมา ใบมีดก็ค่อยๆถูกดึงออก มันยาว 3 ม. จริงๆ

เหี้ย ! เมื่อมองไปที่ใบมีดที่ทั้งบางและแคบ  จางเทีย ก็เข้าใจทันทีว่าแรงบัลดาลใจของคนสร้างนั้นคืออะไร

ตลับเมตร !

ของต้นแบบในการสร้างดาบนี้คือของธรรมดาในชีวิตประจำวัน  จางเทีย ยังคงจำได้ตอนที่เขายังเด็ก เขาได้เอาตลับเมตรของพ่อไปเล่น สุดท้ายแล้วเพราะเทปด้านในนั้นถูกดึงกลับเร็วเกินไป มันจึงทำให้เขามีแผลที่หน้าและมือ เขายังโดนแม่ตีด้วยยซึ่งมันสลักฝังลึกในจิตใจเขา

ใบมีดของดาบเล่มนี้ก็เหมือนกับตลับเมตรซึ่งม้วนและซ่อนอยู่ด้านในด้ามจับ เขาต้องใช้แรงพิเศษในการผลักมันออกมา เมื่อแรงนั้นหายไป มันจะดึงตัวเองกลับ  ด้วยวัสดุที่ทำ,การออกแบบและความพิเศษของด้ามจับ นั่นคือความต่างของดาบยาวธรรมดาและตลับเมตรนั้นราคาแค่ไม่กี่สิบทองแดงนี้น่ะคือหลักการในการทำมันงั้นเหรอ ?

มันเป็นเพราะคนสร้างดาบนี้เคยได้แผลเพราะตลับเมตรตอนเขายังเด็กเลยคิดไอเดียนี้ได้ตอนโตขึ้นมา มันน่าจะเป็นแบบนั้น

สำหรับคนที่แข็งแกร่งแล้ว เสือผ้าธรรมดานั้นสามารถถือว่าเป็นแค่เศษผ้าได้ แล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงอาวุธคมๆแบบนี้ นอกจากความยากในการควบคุม เหตผลที่อาวุธนี้ไม่ได้ถูกเลือกหลักๆก็คงเพราะการออกแบบที่ดูผู้หญิงไปหน่อยทั้งสไตล์และการใช้งานซึ่งตัดกับอาวุธที่ดูแข็งแกร่งและสวยงามซึ่งทหารต่างก็เลือกใช้ตามเทพสงคราม

แม้ว่าคนอื่นจะไม่ชอบอาวุธนี้แต่สำหรับ จางเทีย แล้วมันเหมาะสมอย่างมาก

เข็มขัดนี่น่ะถือได้ว่าเป็นอาวุธที่พกไปไหนก็ได้ การที่พกไปไหนก็ได้และไม่สะดุดตานี้เหมาะกับ จางเทีย ที่สุดในตอนนี้

สำหรับการใช้งานมันในการต่อสู้จริง  Trouble-Reappearance Fruits น่าจะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้ในไม่ช้า

ดาบนี้เองก็มีชื่อที่เหมาะกับมันอย่างมาก  --- ดาวอสรพิษแดง !

อสรพิษแดงนั้นคืองูพิษ ตามที่ร้อยโทได้บอกมา มันมีสีแดงตกต่างตามใบมีดของมันซึ่งได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ในตอนที่เราใช้แรงลับผลักมันออกมา พวกเขาจะเห็นได้ถึงประกายของมันเหมือนกับงูที่แหวกว่าย  อีกอย่างจากความแข็งแกร่งของคนที่ผลักมันออกมาแล้วสีและภาพของงูแดงที่แสดงออกมานั้นจะต่างกัน

ไม่ต้องเดาเลย แม้ว่าจะแปลกไปนิดแต่ดาบนี่น่ะแน่นอนว่าสมแล้วที่ถูกเก็บไว้ที่นี่

จางเทีย เลือกมันโดยไม่ลังเล

เพราะเขาไม่สามารถที่จะลองมันที่นี่และเขาเองก็ไม่อยากเปิดเผยความจริงที่ว่าเขาหายดีแล้ว เขาจึงลือกที่จะเก็บดาบนี่โดยไม่ต้องลง เขาเซ็นเอกสารเพื่อจะเอามันไปก่อนจะออกไปพร้อมกับ ปิปิง  ในตอนที่พวกเขามาถึงประตูหน้าหน่วย  จางเทีย ก็ได้ถอดเข็มขัดเก่าแล้วโยนใส่ไว้ในถังขยะ ไม่นานเขาก็เอาเข็มขัดอันใหม่นี้ใส่เข้าไปแทน

เขากำลังอารมณ์ดีสุดๆ

...

ในตอนเย็น จางเทีย ได้กินมื้อเย็นที่โรงแรมเดิมที่เขากินกับ บิลลิส ครั้งที่แล้ว  ครั้งนี้เขารู้สึกว่าเขาอยากกินมากกว่าเดิม 20% ดูเหมือนว่ามันจะเป็นผลของการฟื้นตัวระดับต้น  หลังจากที่กินเท่าปกติแล้ว  จางเทีย ก็ได้สั่งสเต็กมาอีกจาน หลังจากินเสร็จเขาก็รู้สึกเกือบอิ่ม

หลังจากกินอาหารมื้อนี้แล้ว จางเทีย รู้สึกได้ถึงการย่อย สารอาหารและพลังงานในอาหารนั้นทำให้เขากระปรี้กระเปร่ามากกว่าเดิมทั้งทางร่างกายและจิตใจด้วยความเร็วที่สูงกว่าเดิม มันเหมือนมีพลังฉีอีกในตัวเขาตอนที่เขากินอาหารเข้าไปซึ่งทำให้เขารู้สึกสบายตัวสุดๆ

จางเทีย รู้สึกได้ตอนที่ บิลลิส มายืนอยู่ต่อหน้าเขา หลังจากที่กินเสร็จ เขาได้มองไปที่ บิลลิส   หลังจากผ่านมาหนึ่งอาทิตย์ ชายคนนี้ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า เขาสวมชุดที่ดูดีขึ้น อย่างน้อยก็ดีกว่าครั้งที่แล้ว

“ นั่งลงสิ .. “

หลังจากได้รับอนุญาตแล้ว  บิลลิส ก็ค่อยๆนั่งลงตรงข้ามกับ จางเทีย และรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นในอาทิตย์นี้

ก็อย่างที่คาดเอาไว้ หลังจากที่ได้เงินไป 20 ทองที่ จางเทีย ได้ให้ไปเก็บมาจาก ไบซ์ แล้วมาแบ่งให้กับคนที่ขาหัก ไม่มีเลยสักคนที่จะลังเล พวกนั้นล้วนแต่รับเงินค่ารักษาและเริ่มทำงานให้ บิลลิส สำหรับพวกนักเลงแล้ว มันมีเกียรติกว่าเดิมเป็นร้อยเท่าที่ได้รับใช้ จางเทีย

จางเทีย รู้สึกพอใจนิดๆเพราะเขารู้สึกได้ถึงคำชมเชยและผลของการเตือนแป็นครั้งแรก มันยังทำให้เขารู้สึกสำเร็จที่เลี้ยงนักเลงเป็นลูกน้องได้

“ ฉันบอกให้นายไปรวบรวมข้อมูลของพวกสายลับและคนของราชวงศ์อาทิตย์ เรื่องนั้นเป็นไง ?”

เมื่อได้ยินคำถาม  บิลลิส ก็กังวลขึ้นมาเล็กน้อย – “ มีคนบอกว่าคนที่รับหน้าที่ในการจับคนพวกนั้นน่ะคือตำรวจลับของอาณาจักรนอแมน เพราะพวกนั้นทำงานกันอย่างเป็นความลับ ฉันเลยไม่ได้ข้อมูลอะไรมาเลย ! “

คำตอบนี้ จางเทีย ก็คาดเอาไว้แล้ว  เพราะ บิลลิส สามารถบอกเขาได้ว่าใครที่รับหน้าที่ในการจับพวกราชวงศ์อาทิตย์ มันก็ดูเหมือนลูกน้องเขาได้ทำดีแล้วแต่คนอย่างเขาน่ะไม่ชอบฟังเรื่องซุบซิบแทนข่าวลับหรอก

หลังจากที่รายงานแล้ว บิลลิส ก็กังวลขึ้นมาแล้วมองไปที่ จางเทีย  - “ เอิ่ม..ฉันยังมีอีกปัญหา ! “

“ อะไร ? “

“ คนพวกนั้น..ยังไม่เชื่อว่าฉันทำงานให้นาย พวกนั้น...พวกนั้นอยากเห็นนาย บอสตัวจริง  เพื่อความแน่ใจ ! “

จางเทีย ยักคิ้วขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่นานก็ใจเย็นลง เรื่องนี้เขาเองก็คาดเอาไว้แล้ว

“ พวกนั้นหายดีรึยัง ? “

“ ยังแต่หลังจากที่ได้รับการรักษาแล้ว หลายคนน่ะเดินได้แล้ว ! “

“ อาทิตย์หน้าสักวันฉันจะไปเจอพวกนั้น ! “

“ ได้ ! “ - บิลลิส ก้มหน้าลงทันที....

...

ตอนนี้ จางเทีย ไม่ได้มีเวลามาสนเรื่องเล็กๆ สิ่งที่เขาต้องการทำมากที่สุดคือกลับที่พักและเข้าไปใน Trouble-Reappearance Situation แล้วลองใช้ดาบใหม่ที่ได้มาดู..

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.