หน้าแรก > Castle of Black Iron
Chapter 241: หมอก

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

Chapter 241: หมอก

เพราะบางอย่างตั้งแต่ที่เขาเห็นคลังโดนเผาเป็นซาก จางเทีย ที่นั่งอยู่บรถม้าก็อารมณ์ไม่ดี เขาคิดไม่ออกว่าทำไมมันถึงโดนเผาแต่รู้สึกได้ถึงความระแวงที่ทำให้เขาอึดอัดเล็กน้อย

‘ ใครกันที่เผาคลังที่เกิดเหตุ ? ‘

‘ ใช่พวกสายของราชวงศ์อาทิตย์ ? ‘

มันเป็นไปได้ คน 15 คนที่เขาฆ่าในคืนนั้นอาจจะไม่ได้เป็นสายลับกันทุกคน มันอาจเป็นคนอื่นในเมืองที่รู้ว่าคลังนั้นเป็นหนึ่งในฐานลับในบาปี

แต่ทำไมพวกนั้นถึงต้องทำลายที่นี่ด้วย ? ทำลายหลักฐาน ? นั่นก็เป็นไปได้ แต่มันไม่เรียกร้องความสนใจมากไปหน่อยเหรอกับการจุดไฟ ? ถ้ามันมีสายลับคนอื่นยังมีชีวิตอยู่จริงๆ แล้วพวกเขาจะทำอะไรหลังจากที่พบว่าเพื่อนของมันโดนฆ่าหมด ?

‘ ถ้าเป็นฉัน แน่นอนว่าฉันต้องหนี ฉันจะไม่อยู่ในบาปีอีกต่อไป ยิ่งการจุดไฟยิ่งแล้วใหญ่ ฉันสงสัยว่าศพพวกนั้นจะอยู่ในไฟอยู่รึเปล่า ถ้าเป็นแบบนั้นต้องมีคนมาที่นี่เพื่อสืบสวนเรื่องไฟไหม้ ถ้ามีมากกว่าสิบศพโดนพบที่นี่ มันไม่มีทางที่จะเมินเฉยไปได้แน่ไม่ว่าศพนั่นอยู่ที่ไหนก็ตาม ในอาณาจักรนอแมนตามกฎแล้ว การที่ไฟไหม้นั้นที่เกิดเหตุจะมีม้วนสีเหลืองล้อมรอบเมื่อถูกพบ เส้นเชือกนั้นจะยังคงอยู่อีกนานแต่ตะกี้ไม่เห็นมีเส้นเชือกรอบที่เกิดเหตุเลย  มันหมายความว่าศพพวกนั้นน่ะโดนย้ายออกไปก่อนที่จะเริ่มการสืบสวน... ‘

มันถือว่าเป็นวันที่ดีแต่คำถามก่อนหน้านี้ทำให้ จางเทีย รู้สึกว่าเขาน่ะโดนล้อมรอบด้วยหมอก

เพราะหลักฐานนั้นเกี่ยวข้องกับเขาและความลับสุดยอดของเขา  จางเทีย เลยเมินเฉยไม่ได้ เขารู้สึกแปลกเกี่ยวกับที่ที่โดนไฟไหม้

ในรถม้านั้น จางเทีย ได้ไปถึงซอยที่บ้านเช่า เขาได้ลงจากรถและได้ทำสัญลักษณ์ไว้ที่โคมไฟข้างถนนก่อนที่จะกลับไปที่พัก

ก็อย่างเข่นเคยในตอนเช้า คุณกรีน จะมาดูผักในสวนตรงหน้าบ้าน บางทีสิ่งที่ จางเทีย ทำในอาทิตย์ก่อนอาจจะเป็นเรื่องช็อกสำหรับพวกเขา  ยิ่งเมื่อได้เห็น จางเทีย ครั้งนี้ แม้ว่า คุณกรีน จะทักทายเขาแต่ จางเทีย น่ะเห็นท่าทีกลัวและลังเลบนใบหน้าทั้งคู่

สำหรับสองคนที่อยู่ในเมืองบาปีมาหลายสิบปีแล้ว  การกระทำอันเย็นชาที่ จางเทีย สั่งให้ทหารสับหัวคนโดยไม่มีทางทีลังเลนั้นทำให้ทั้งคู่กลัวเจ้าหน้าที่คนนี้ แม้ว่า จางเทีย จะรู้สึกว่าเขาใจดีแล้วก็ตาม

จางเทีย เดินขึ้นบันไดไป ที่ทางเข้าของบันไดชั้นแรก เขาได้เห็นผู้หญิงที่อยู่ที่ชั้นสองตรงชั้นสองที่กำลังจะลงมาเพื่อไปซื้อผักพร้อมกับตะกร้าของเธอ เมื่อเห็นเขา เธอก็หน้าซีดทันที

ก่อนหน้านี้เธอได้เดินลงมาตรงช่วงกลางบันไดแต่เมื่อเธอเห็นเขาแล้ว เธอก็นิ่งและพิงกับพนักบันไดแล้วฝืนยิ้มออกมารอให้เขาขึ้นไปก่อน

จางเทีย หมดคำพูด หลังจากที่ใส่ชุดกองทัพแล้ว จางเทีย ได้ออกจากที่พักไป ที่ข้างถนนเขาได้เรียกรถม้าก่อนที่จะบอกให้มุ่งหน้าไปที่หน่วยต่อ

เมื่อ จางเทีย มาถึง  ปิปิง ได้ทักทายเขาด้วยท่าทีหลงใหลแต่ชัดแล้วว่าเขาเข้าใจผิดกับการมาถึงของ จางเทีย  ไม่นานหลังจากที่ จางเทีย มาถึงออฟฟิศ ปิปิง ได้เอาสมุดบัญชีและกระเป๋าตังให้เขา รายได้สีเทาของหน่วยนี้มีให้สองอาทิตย์ครั้ง ปิปิง คิดว่า จางเทีย น่ะมาที่นี่เพื่อเอาเงิน

ที่ด้านล่างและด้านบนเหรียญทองของอาณาจักรนอแมนนั้นเป็นต้นเฟิร์นและหอกไขว้กันของเทพต่อสู้  หน้าแรกนั้นเป็นดอกไม้ของอาณาจักรนอแมน ส่วนอันที่สองนั้นสัญลักษณ์ของโบสถ์อาณาจักรนอแมน

เขาจับเงินนั้นในมือ จางเทีย ถอนหายใจออกมา นี่คือชีวิตที่เขาฝันมาก่อน เขามีเงินมากมายที่ไม่ต้องทำอะไรเลยในแต่ละวัน แม้ว่าจะไม่ได้รวยมากแต่ก็ถือว่าอยู่สบาย  ด้วยเงินที่มีนี้เขาสามารถซื้อที่ดินรึมีผู้หญิงจำนวนมากได้  หลังจากนั้นเขาก็แค่ไปอยู่กับสาวๆและใช้เงินไปเรื่อยๆ

ชีวิตแบบนี้ใกล้เคียงกับเขามากแต่ จางเทีย รู้ว่าถ้าเขาไม่พยายามที่จะก้าวหน้า เขาอาจะไม่สามารถใช้ชีวิตแบบนี้ได้หลายวันก่อนที่ทุกอย่างที่เขาเป็นเจ้าของนั้นจะไร้ค่าไปหมด

ยกตัวอย่างมันดูเหมือนจะมีอะไรที่สร้างปัญหาให้เขาอย่างมากในตอนนี้

เมื่อเห็น จางเทีย ถือเงินแล้วถอนหายใจออกมา ปิปิง ที่ซึ่งดูหน้าเขาอยู่ก็คิดว่า จางเทีย น่ะต้องไม่พอใจกับส่วนแบ่ง

“ แม้ว่าการแบ่งครั้งนี้จะไม่มากเท่าไหร่แต่มันเก็เป็นธรรมเนียมของหน่วย 9 ที่ทำกันมาหลายปี ถ้านายอยากจะแหกธรรมเนียมนี้ นายอาจจะไปทำให้คนอื่นไม่พอใจ  ก่อนหน้านี้มีบางคนในตำแหน่งนายที่อยากได้ส่วนแบ่งมากกว่านี้แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีเลยสักคนที่อยู่ตำแหน่งได้นาน! “ – ปิปิง อธิบายให้ จางเทีย ฟัง

ยังไงซะคนมักจะเคลื่อนที่ได้เพราะเงิน ในตอนที่ได้รับส่วนแบ่งจากกำไร 10%  คนเราจะคิดกำไร 20%  ร้อยโทขั้นสองคิดว่าร้อยโทขั้นแรกต้องการเงินมากกว่าที่ได้รับตอนนี้

หลังจากที่มองไปยัง ปิปิง  ที่ซี่งอยู่ตรงหน้าเขา  จางเทีย ก็ฝืนยิ้มออกมาแล้วเก็บกระเป๋าตังไว้ในเสื้อ เขาลองชั่งน้ำหนักมันและรู้สึกว่ามีอย่างน้อย 22 ทองข้างในซึ่งเท่ากับจำนวนเงินสองปีของค่าจ้างพ่อ สำหรับคนธรรมดา นี่ไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ

“ ร้อยโทขั้นสอง ฉันพอใจมากอยู่แล้วกับสถานการณ์ตอนนี้และไม่ได้มีจุดประสงค์จะเปลี่ยนอะไร ดังนั้นนายไม่ต้องกังวล ! “

เมื่อได้ยินแบบนั้น ปิปิง ก็ถอนหายใจออกมา

หลังจากที่ดื่มน้ำเสร็จ  จางเทีย ก็ถามออกมา – “ ฉันไปอยู่แถวเขตชนบทเพื่อพักฟื้นในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา ดังนั้นทำไมฉันรู้สึกว่าบรรยากาศในเมืองถึงตึงเครียดวกว่าเดิมในอาทิตย์ที่ผ่านมา ไม่ใช่ว่าพวกสายของราชวงศ์อาทิตย์โดนจับได้แล้วเหรอ ?”

“ ในวันพุธ ทหารสองคนของทีม 21 ได้หายไปจากเมือง เพราะแบบนั้นบรรยากาศในเมืองเลยตึงเครียดขึ้นมาอีกครั้งในหลายวันมานี้ !  “ - ปิปิง พูดอกมาเบาๆ – “ เพราะกองทัพเขาเหล็กน่ะไม่ต้องการให้ตึงเครียดในเมืองมากกว่าเดิม พวกเขาเลยไม่ได้ปล่อยข่าวนี้ในสาธารณะ ! “

จางเทีย อึ้ง – “ เรื่องนี้พวกสายของราชวงศ์อาทิตย์เป็นคนทำงั้นเหรอ ? “

“ มันน่าจะเป็นไปได้มาก แต่ฉันเองก็ไม่รู้รายละเอียด มันเป็นพวกถุงมือแดงที่ซึ่งรับหน้าที่ในการจับคนพวกนั้น น่าเสียดายพวกนั้นทำไม่สำเร็จ พวกนั้นมาที่นี่ตั้งแต่สองอาทิตย์ก่อน ดูเหมือนว่าพวกนั้นจะสนุกกับชื่อเสียของตัวเอง ....”

ในตอนที่เขาพูด ปิปิง ได้ยิ้มออกมาด้วย

“ ถุงมือแดง ? “ – เมื่อได้ยินชื่อนี้เป็นครั้งแรก  จางเทีย ก็สับสนและมองไปที่ ปิปิง – “ อะไรคือถุงมือแดง ?”

จนกระทั่งตอนนี้ ปิปิง ก็เพิ่งรู้ว่าเจ้าหน้าที่คนใหม่ของเมืองแบล็คฮ็อตนี้อาจจะไม่รู้ว่าพวกที่ว่าถุงมือแดงนี้เป็นใคร ดังนั้นเขาจึงอธิบายให้ จางเทีย ฟัง แม้ว่าเขาจะเป็นคนพูดมากแต่เมื่อพูดถึงคนพวกนั้น เขาอดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้ารังเกียจออกมา ไม่มีใครในกองทัพเขาเหล็กชอบพวกถุงมือแดงเลย

“ นายหมายถึงตำรวจลับที่ทำงานภายใต้หน่วยสั่งการของอาณาจักรนอแมนที่รับผิดชอบหน้าที่ในการจับสายลับในบาปีอย่างงั้นเหรอ ? “

เมื่อรู้ข่าว จางเทีย ก็ช็อกอยู่ในใจ

“ ใช่ คนพวกนั้นเกี่ยวข้องกับการทะเลาะกันระหว่างพวกมีอำนาจสูงกว่าพวกนั้น  มีคำบอกว่ามันคือการติดต่อระหว่าง มาแชลหลินชางเจี้ยง และคนที่มีอำนาจบางคนในหน่วยสั่งการของอาณาจักรนอแมน... “

ปิปิง ได้อธิบายให้กับ จางเทีย ฟังถึงเรื่องราวภายในของพวกถุงมือแดงที่มาที่บาปีเพื่อทำการสืบสวนคดีระเบิด

“ เพราะทหารสองคนของหน่วย 21 หายไป ทุกคนเลยสงสัยว่าเป็นฝีมือของพวกสายลับแต่ไม่มีใครรู้ว่าจะต้องทำยังไงต่อไป เจ้าหน้าที่ระดับสูงนั้นหงุดหงิดอย่างมาก ดังนั้นแล้วบรรยากาศในเมืองเลยตึงเครียดนิดหน่อยในช่วงหลายวันมานี้ อีกอย่างแล้วมีพวกถุงมือแดงมากมายที่ถูกส่งมาที่เมืองนี้ภายในอาทิตย์นี้ด้วย... “

‘ งั้นหมายความว่าก็มีสายลับกลุ่มอื่นในเมืองนอกจากพวกที่ฉันฆ่าไปอย่างนั้นเหรอ ? ‘

เมื่อคิดแบบนั้น จางเทีย ก็แอบถอนหายใจออกมา บางทีที่คลังนั้นโดนเผาเพราะพวกนั้นจริงๆก็ได้ พวกนั้นไม่ได้กลัวตายและไม่หนีไปเมื่อเหตุการณ์นี้ถูกเปิดเผย มันอาจจะมีความลับบางอย่างที่คลังนั้นที่พวกนั้นไม่อยากให้ถูกเปิดเผยออกมาสู่สาธารณะ ยังไงซะเขาก็รีบเกินไปในตอนั้นและไม่ได้เช็ครอบๆคลังอย่างระมัดระวัง

จางเทีย คิดว่าเหตุผลนั้นน่าจะเป็นต้นเหตุของการเกิดขึ้นของทุกอย่าง

ตอนนั้นเอง จางเทีย ไม่ได้รู้สึกถึงการเกี่ยวข้องอะไรกับพวกถุงมือแดงที่ ปิปิง ได้พูดมากับตัวเขาเอง  พวกถุงมือแดงก็แค่เครื่องมือที่ถูกทิ้งมาที่เมืองนี้จากคนใหญ่โตโดยมีเป้าหมายไปที่พวกสายลับของราชวงศ์อาทิตย์ แล้วเขาจะไปเกี่ยวข้องกับคนพวกนั้นได้ยังไง ?

เมื่อคิดแบบนี้แม้ว่าจะสับสนเล็กน้อยแต่ จางเทีย ก็ไม่สนใจมัน

“ นายคุ้นกับที่ศูนย์อุปกรณ์ของกองทัพมั้ย ?” - จางเทีย ถาม ปิปิง

“ ฉันรู้จักเจ้าหน้าที่ทุกคนข้างใน ! “ – ปิปิง พูดอย่างภูมิใจ

คนอย่าง ปิปิง นั้นมักจะสันทัดในเรื่องนี้ อีกอย่างแล้วเขาจะช่วยคุณคุ้นเคยกับเพื่อนมากมาย แม้ว่าคนอย่าง รินฮาท จะเป็นคนที่เชื่อใจได้ในสนามรบแต่คนอย่าง ปิปิง นั้นช่วยได้อย่างมากในบางเรื่อง

“ งั้นก็ขับรถไป ฉันจะไปที่คลังแสง “

“ จะไปที่ไหนนะ... “

“ ฉันได้ยินมาว่าคนที่ได้รับเหรียญเหล็กโลหิตน่ะจะได้รับอาวุธพิเศษจากคลังของกองทัพ “

จางเทีย ยิ้ม เนื่องจากเขาพิการมาเมื่อหลายวันก่อน เขาไม่ได้คิดเรื่องรางวัลในตอนนั้น ยังไงซะเขาก็ใช้มันไม่ได้แต่ตอนนี้เขาได้หายดีแล้ว  ดังนั้นแน่นอนว่าเขาต้องไปเอาประโยชน์เข้าตัว เขาไม่มีอาวุธที่เหมาะๆ ดังนั้นแล้วมันก็ฟังดูมีเหตุผลพอที่จะเลือกอาวุธจากคลังมา

เพราะนี่เป็นคลังแสงของทั้งกองทัพ มันน่าจะมีของที่ดีกว่าคลังแสงในเมืองแบล็คฮ็อตอยู่

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.