spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
บทที่ 369: ลูกน้อง
"การทดสอบครั้งที่ 2 การจับคู่โอสถวิญญาณ อย่างที่เราทุกคนทราบ มีโอสถที่สามารถต้านหรือเติมเต็มซึ่งกันและกัน คนกลั่นเม็ดโอสถที่มีคุณวุฒิต้องมีความรู้ที่ซับซ้อนในด้านการจับคู่ มิฉะนั้นถ้าเขาไม่รู้จักวิธีการจับคู่โอสถวิญญาณ หรือไม่เข้าใจว่าโอสถนั้นเหมาะสำหรับกันและกันแล้ว มันจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะกลายเป็นคนกลั่นโอสถที่ยิ่งใหญ่ "
ผู้ตรวจสอบยิ้ม "มีโอสถวิญญาณ 32 ชนิดในการทดสอบครั้งที่ 2 กรุณาจับคู่ให้เหมาะสม จำไว้ว่าไม่จำเป็นต้องจับเป็นคู่ ๆ การทดสอบครั้งนี้เป็นการทดสอบความรู้เกี่ยวกับผลข้างเคียงจากโอสถและความเข้าใจในวิธีการที่มันสามารถเสริมกันและกันได้หรือไม่ "
นี่เป็นความรู้พื้นฐานที่คนปรุงโอสถควรจะรู้ มันเป็นสิ่งที่คุ้นเคยกับทั้งเจี้ยงเฉินและเทียนฮง
เทียนฮงมีสีหน้ากระตือรือร้นมาก หลังจากการสูญเสียในการทดสอบครั้งแรก จิตวิญญาณการต่อสู้ของเขาลุกโชนขึ้นและเขาก็เต็มไปด้วยจิตวิญญาณที่มีการแข่งขันมากยิ่งขึ้น
เขาเป็นคนที่ต่อสู้อย่างดุเดือดมากขึ้นเมื่อมีอะไรมาขวาง
เจี้ยงเฉินทำตัวธรรมดา, รักษาภาพพจน์, เขาไม่สะทกสะท้านและกระวนกระวายใจ ไม่มีอะไรที่เขาจะต้องห่วงใยในเรื่องของโอสถวิญญาณ
ไม่มีใครสามารถทำให้เขากดดัน
"เริ่มได้"
เทียนฮงเริ่มเกือบจะทันทีที่ผู้ตรวจสอบพูดเสร็จ
เจี้ยงเฉินยิ้มและเดินไปที่กองโอสถวิญญาณเพื่อดูอย่างใกล้ชิด และหลังจากที่เขาได้ยืดเส้นยืดสายเขาตรวจทีละชนิด
เขามองมันมากกว่า 3 ครั้ง หลังจากนั้นนิ้วมือของเขาก็บินเหมือนเขาเป็นนักมายากลที่เก่งที่สุดในการแสดงเวทมนตร์มหัศจรรย์
เขาจับคู่โอสถทั้งหมด 32 ชนิดใน 2 ลมหายใจ
ในการทำเป็นคู่หรือสามคู่ เขาจับรวมมันเป็น 13 คู่
"เสร็จอีกแล้วหรือ?" ผู้ตรวจสอบรู้สึกประหลาดใจที่เจี้ยงเฉินยกมือขึ้น ความเร็วก่อนหน้าของเจี้ยงเฉินในการระบุโอสถวิญญาณก็ได้ทำให้เขาตะลึงมากพอแล้ว
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการทดสอบครั้งนี้มันยากกว่าเดิม ไม่ใช่แค่เรื่องของการจำแนกโอสถเท่านั้น มันยีงใช้ความรู้ของตัวเองอย่างมาก
ผู้ตรวจสอบเองยังรู้สึกว่าเขาอาจจะทำไม่ได้เร็วเท่าเจี้ยงเฉิน
เจี้ยงเฉินพยักหน้าและเดินออกไป ผู้ตรวจสอบคาใจ แต่ท่าทางของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อเขาเข้ามาใกล้
การจับคู่เสร็จสมบูรณ์อย่างถูกต้องโดยไม่มีข้อผิดพลาดเลย
อีกด้านหนึ่ง เทียนฮงกำลังเกาศีรษะและใช้เวลาสักพักกว่าเขาจะทำเสร็จ ตอนที่เขาเดินออกไป เขาพบว่าเจี้ยงเฉินเดินนำออกไปก่อนแล้วอีกครั้ง
"ข้าแค่ต้องชนะอีกครั้งเดียว" เจี้ยงเฉินชูนิ้วขึ้นและยิ้มให้อย่างมีเล่ห์เหลี่ยม
เทียนฮงเศร้าสลด เขาทำทุกอย่างเหนือระดับปกติแล้ว ! เขาคิดว่าเขาจะสามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอนในครั้งนี้ อนิจจา ความเป็นจริงช่างโหดร้าย
"ให้ตายสิ เจ้าฝันถึงเรื่องการทดสอบครั้งนี้ใช่มั้ย" ในความเข้าใจของเทียนฮง เขาไม่อาจจินตนาการถึงสาวกสามัญที่แสดงความสามารถอย่างไร้เทียมทานเช่นนี้ เขาต้องคุ้นเคยกับโอสถวิญญาณมากขนาดไหนกันถึงมีความเร็วเช่นนี้?
เขาไม่สามารถคิดถึงเหตุผลอื่นใดได้อีกต่อไป
เจี้ยงเฉินหัวเราะเบา ๆ "ถึงข้าจะฝันถึงมัน ข้าก็ยังชนะ"
เทียนฮงพ่นลมทางจมูก "อย่าเพิ่งภูมิใจเกินไป มันยังไม่จบ !"
เพิ่งผ่านไป 2 การทดสอบเท่านั้น เหลืออีก 3 ครั้ง และเทียนฮงรู้สึกว่าเขายังคงมีความหวังที่จะพลิกสถานการณ์ที่เขาเสียเปรียบอยู่
หากเขาชนะการทดสอบที่เหลืออีก 3 ครั้ง มันก็คงจะเหมือนกับการเดินเล่นในสวนสาธารณะในตอนท้าย
"การทดสอบครั้งที่ 3 การระบุสูตรโอสถ มีอยู่ทั้งหมด 10 สูตร บางอย่างถูกต้องและบางอย่างผิดพลาด ไม่ต้องทำอะไรกับสูตรที่ถูกต้องและชี้ให้เห็นข้อผิดพลาดในสูตรที่ไม่ถูกต้อง"
"โปรดจำไว้ว่า เจ้าจะผ่านก็ต่อเมื่อระบุสูตรโอสถถูกต้องอย่างน้อย 6 สูตร การเดิมพันเป็นสิ่งหนึ่ง อย่ามัวแต่จดจ่อเรื่องความเร็วจนส่งผลให้ทำพลาด"
ผู้ตรวจสอบให้คำเตือนแบบนั้น
การระบุสูตรโอสถเป็นงานที่ละเอียดอ่อน ถ้าผู้เข้าแข่งขันรีบเร่งมากเกินไป มันง่ายมากที่จะทำผิดพลาด พวกเขาจะล้มตัวลงทันทีหากทำผิดพลาดต่ำกว่าหกในสิบส่วนและต้องสูญเสียถึง 5 คะแนน
เจี้ยงเฉินยิ้ม ความคิดของความล้มเหลวไม่เคยข้ามผ่านสมองของเขา
4 การทดสอยพื้นฐาน ทั้งเต๋าศิลปะการต่อสู้, ความแข็งแกร่งของหัวใจ, โอสถ, และทั้งหมดรวมกัน
เขามั่นใจมากที่สุดเกี่ยวกับโอสถ
แม้ว่าเขาจะมีความมั่นใจเท่า ๆ กันในด้านอื่น หากเขากล้าพูดว่าเขาเป็นที่ 2 ในเรื่องของโอสถเม็ด ไม่มีใครกล้าพูดได้ว่าพวกเขาเป็นอันดับ 1 !
โอสถทั้งสิบสูตรถูกวางไว้ตรงหน้าเขา
เขามองดูทีละสูตร ไม่มีสูตรใดที่ซับซ้อนมากนัก
มี 8 สูตรที่มีข้อผิดพลาด บางสูตรมีข้อผิดพลาดเล็กน้อยและบางสูตรก็มากเกินจะรับได้
เจี้ยงเฉินแยกสูตรโอสถที่ถูกต้องออกไป และเขาก็เริ่มเขียนแก้ไขอีก 8 สูตรที่เหลือ
เขาไม่ได้โอ้อวดให้ตัวเองอยู่เหนือระดับปกติ ในความเป็นจริงเขาใช้ภาษาที่ง่ายที่สุดในการชี้ความผิดพลาด
เขาทำการทดสอบเสร็จประมาณ 1 เค่อ
เห็นได้ชัดว่าเทียนฮงยังไม่เสร็จ มี 2 สูตรโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เขาไม่แน่ใจ เขาคิดเป็นเวลานานและแทบจะไม่สามารถบีบคำตอบได้ในตอนท้าย
เมื่อเจี้ยงเฉินมอบสูตรโอสถ แสงแห่งความแปลกใจกระพริบผ่านสายตาของผู้ตรวจสอบ เขาขมวดคิ้วและเขาก็ยิ่งตกใจมากขึ้นขณะที่อ่านไปเรื่อย ๆ
เขาคิดว่าอัจฉริยะสามัญอวดดีและมั่นใจในตัวเองมากไปจึงรีบส่งคำตอบให้เร็วที่สุด เขาคงตอบได้ไม่ดีเท่าไหร่
แต่เมื่อผู้ตรวจสอบได้ดูอย่างรอบคอบ คำตอบของเขาสมบูรณ์แบบด้วยคะแนนเต็ม
ผู้ตรวจสอบมองเจี้ยงเฉินอย่างมีความหมาย เขาตกใจสุดขีด นอกจากนี้เขายังได้มองเทียนฮงอย่างเห็นใจในเวลาเดียวกันและรู้สึกสงสารเขา
เมื่อเทียนฮงส่งคำตอบให้เขาอย่างกระตือรือร้น เขาสังเกตเห็นว่าผู้สอบมองเขาอย่างเห็นใจ ขณะที่เจี้ยงเฉินยืนอยู่ข้าง ๆ และยิ้มอย่างมีความหมาย
"เขา ... เร็วกว่าข้าอีกแล้วหรือ?"
ผู้ตรวจสอบหัวเราะ เขาพูดไม่ออกและพยักหน้า
"ไม่ต้องกังวล ถ้าเขาทำคะแนนไม่ได้ 6 ข้อล่ะ? เขาก็ยังไม่ชนะถ้าเขาไม่ผ่าน" เทียนฮงรู้สึกว่าเจี้ยงเฉินต้องรีบส่งคำตอบเร็วจนเกินไป เขาคงไม่เห็นข้อผิดพลาด การรีบเร่งเกินไปทำให้ต้องพ่ายแพ้
ผู้ตรวจสอบยังคงมีสายตาเห็นใจ "สูตรโอสถของเขาถูกต้องเต็มสิบส่วน โดยไม่มีข้อผิดพลาดสักข้อเดียว ขอข้าตรวจของเจ้า"
แรงระเบิดเกิดขึ้นในความคิดของเทียนฮงขณะที่เขากำลังสับสนวุ่นวาย
เขาแพ้อีกครั้งหรือ? เขาแพ้ทั้งสามการทดสอบได้อย่างไร?
"มัน- เป็นไงบ้าง?" สมองอันน่าสงสารของเทียนฮงกำลังปั่นป่วน เขารู้สึกว่าเขาถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง
"อย่างไรก็ตาม เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนที่แข็งแกร่งก็มีคนที่แข็งแกร่งกว่าเสมอ เทียนฮง เจ้ายอมรับอย่างเต็มที่ในครั้งนี้หรือไม่? " ผู้ตรวจสอบหัวเราะ
มือขนาดใหญ่เท่าใบพัดของเทียนฮงเกาผมสีแดงของตัวเอง สีหน้าของเขาเศร้าสลดในขณะที่เขามองไปที่เจี้ยงเฉินและพูดพึมพำว่า "เจ้าคนประหลาด"
หลังจากหดหู่อยู่ชั่วครู่หนึ่ง เทียนฮงยิ้ม "ข้า เทียนฮง ไม่เคยยอมรับใคร แต่วันนี้ ข้ายอมแล้ว เจ้าเป็นคนแรกที่ข้ายอมก้มหัวให้ในเรื่องของโอสถวิญญาณ เอาล่ะ ! ข้าจะเรียกเจ้าว่าลูกพี่อย่างเต็มใจและบริสุทธิ์ใจ ข้า เทียนฮง ยินดีที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ ข้าจะเป็นลูกน้องและเป็นผู้ติดตามของเจ้าต่อจากนี้ไป ! "
"อย่างไรก็ตาม,การเดิมพันยังไม่สิ้นสุด! แม้ว่าข้าจะแพ้,ข้าก็จะทำอย่างรุ่งโรจน์ ข้าจะต่อสู้เพื่อแพ้ 2: 3 และจะไม่ยอมให้ตัวเองต้องแพ้ 0: 5 "
ยังมีการทดสอบอีก 2 ครั้งจากทั้งหมดอีก 5 ครั้ง เทียนฮงแพ้ไปแล้ว ถ้าเขาสามารถชนะใน 2 การทดสอบสุดท้าย อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องอับอายมากนัก
การสอบครั้งที่ 4 และครั้งที่ 5 เกี่ยวข้องกับการประยุกต์ใช้ในทางปฏิบัติซึ่งเป็นวิธีการกลั่นโอสถ
เทียนฮงมีข้อได้เปรียบน้อยกว่าในพื้นที่นี้ เจี้ยงเฉินยังได้ค้นพบว่าเทียนฮงชอบเล่นการพนันแต่ท่าทีของเขาในการพ่ายแพ้ไม่ได้แย่มากนัก
เจี้ยงเฉินจงใจยั้งมือของเขาและแกล้งแพ้ไปใน 1 การทดสอบที่เหลือ เขาทำอย่างประณีตและเป็นธรรมชาติมากไม่ทิ้งร่องรอยของหลักฐานไว้เลย
ด้วยคะแนนสุดท้าย 1: 4 เทียนฮงแพ้ก็จริงแต่เขาก็ไม่ได้พ่ายแพ้ทั้งหมด
ผู้ตรวจสอบดูเหมือนจะเดาอะไรบางอย่างได้ เขากลับไม่ได้พูดอะไร เขาให้คะแนน 25 คะแนนแก่อัจฉริยะทั้งสองคน
"เดิมพันวันนี้เป็นภาพที่น่าจดจำ ข้าหวังว่าการแสดงที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้จะเกิดขึ้นได้ทุกวันในด่านการทดสอบโอสถ" ผู้ตรวจสอบพูดด้วยอารมณ์อ่อนไหว
ถ้าเขาไม่ได้เป็นผู้รับผิดชอบการทดสอบนี้ เขาเกือบจะสงสัยว่าใครบางคนแอบทำให้เนื้อหาของข้อสอบรั่วไหลไปถึงหูของอัจฉริยะสามัญ
อย่างไรก็ตาม เขาเป็นคนสุ่มเลือกหัวข้อการทดสอบทั้งหมด ไม่ง่ายที่มันจะรั่วไหล ดังนั้นจึงตัดเรื่องการโกงออกไปได้เลย
"ลูกพี่ จะไปไหน? รอข้าด้วย! เฮ้ !” เทียนฮงเริ่มไล่ตามเจี้ยงเฉินเมื่อเขาเห็นว่าเจี้ยงเฉินกำลังจะจากไป
มีคนเดินเข้ามาขณะที่พวกเขาไปถึงประตู ชายคนนี้หยุดเมื่อเขาได้ยินเทียนฮงเรียกเขาว่าลูกพี่แล้วเริ่มหัวเราะอย่างแปลกประหลาด "เทียนฮง ในที่สุดเจ้าก็ยอมจำนน และเรียกข้าว่าลูกพี่แล้วหรือ?"
เทียนฮงกระพริบตา คนไร้ยางอายคนนี้คือใคร?
เมื่อเขามองหน้าคนที่อยู่ตรงหน้าเขา เทียนฮงเริ่มแช่งเสียงดังว่า "ไสหัวไปให้พ้นหน้าข้า! ฝันงี่เง่าต่อไปเถอะ ! ข้านะหรือเรียกเจ้าว่าลูกพี่?! เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร? "
เจี้ยงเฉินก็หยุดชั่วคราวเมื่อเขาเห็นคนที่เข้ามาใหม่ เขาก็รู้จักชายคนนี้ เหล็กต้าฉี ทายาทของตระกูลเหล็กแห่งนิกายพฤกษาสวรรค์
เพื่อนคนนี้อยากจะก่อปัญหากับเจียงเฉินในราชอาณาจักรนภาจันทร์และเขาก็ถูกฉีกขาดออกไปแทน เพื่อนคนนี้เป็นกระเป๋าเงินที่เดินได้ในสายตาของเจี้ยงเฉิน
ดังนั้นเมื่อเขาคิดถึงความทรงจำที่มีความสุขเหล่านี้ในการโกงตระกูลเหล็ก เขาจึงไม่ได้มองเหล็กต้าฉีด้วยสายตาที่หงุดหงิด ใครจะไม่ชอบคนที่มอบของขวัญฟรี ๆ ?
เจี้ยงเฉินหวังอย่างยิ่งว่าโอกาสดังกล่าวน่าจะเกิดขึ้นบ่อยกว่านี้ ตระกูลเหล็กร่ำรวยมากเกินไปพวกเขาเกือบจะว่ายในกองทรัพย์สมบัติ
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ลืมตัวตนปัจจุบันของเขา เขาเป็นอัจฉริยะพิลึกผู้มีหัวใจดั่งภูผา ไม่ใช่เจี้ยงเฉิน
เห็นได้ชัดว่าเหล็กต้าฉีไม่เห็นอัจฉริยะสามัญอยู่ในสายตา เขาเหลือบมองเจี้ยงเฉินเพียงแว่บเดียวและจ้องหน้าเทียนฮง
เหล็กต้าฉีหัวเราะร่า "เมื่อสักครู่เจ้าไม่ได้เรียกข้าว่าลูกพี่รึ? นอกเหนือจากเราจากนิกายเดียวกันที่นี่ ใครกันที่มีค่าควรเป็นลูกพี่ของเจ้า"
เหล็กต้าฉีแก่กว่าเทียนฮงไม่กี่ปีและทั้งคู่เป็นอัจฉริยะของนิกาย
อย่างไรก็ตาม สมรรถนะของเทียนฮงดีกว่าเหล็กต้าฉีจริง ๆ แต่เหล็กต้าฉีเกิดมาในตระกูลที่มีหน้ามีตา เขาจึงได้รับสิ่งอำนวยสะดวกมากมาย
หลังจากที่เขาถูกเจี้ยงเฉินจับตัวเมื่อคราวก่อน หลังจากที่เขากลับบ้าน ปู่ของเขาเหล็กหลงกักตัวเขาไว้และสั่งให้เข้าสู่การกักตนบ่มเพาะ เหล็กต้าฉีจึงพัฒนาฝีมือไปไม่น้อย
หลังจากออกจากการกักตนบ่มเพาะแล้ว เขาก็พัฒนาระดับจากอาณาจักรปราณจิตวิญญาณที่ 5 ไปถึงระดับที่ 6 จุดสูงสุดของอาณาจักรปราณจิตวิญญาณปฐพี
ดังนั้นเขาจึงมีความเชื่อมั่นค่อนข้างสูงต่อหน้าเทียนฮง
แม้ว่าเขาจะเป็นลูกหลานโดยตรงของตระกูลเหล็กแห่งนิกายพฤกษาสวรรค์ เขาไม่ได้มีผู้รับใช้หรือผู้ติดตามที่มีคุณภาพมากนัก
คนเช่นซูยี่เป็นลูกน้องที่ดีที่สุดของเขา
อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบกับเทียนฮงแล้วซูยี่มีฝีมือด้อยกว่า ดังนั้นเหล็กต้าฉีจึงต้องการที่จะดึงเทียนฮงเข้าเป็นพวก และให้ผู้ติดตามคนนี้ให้คำแนะนำแก่เขา