spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 240: แปลก
จางเทีย อยู่ใน Castle of Black Iron ได้ไม่ถึงสองชั่วโมง สิ่งแรกที่เขาทำหลังจากที่ออกมาคือหามากรีดตัวเองทำแผลยาวกว่า 2 ซม.ที่นิ้วชี้ซ้ายของเขา เพื่อทดสอบผลของมัน ในตอนที่เขาเอามีดอกมา เลือดนั้นก็เริ่มไหลออกจากนิ้วของเขา
ด้วยการที่ชินกับการโดนฉีกโดยพวกหมาป่าใน Trouble-Reappearance Situations แน่นอนว่า จางเทีย ไม่ได้รู้สึกกลัวความเจ็บเล็กๆน้อยๆ เขาเอาเลือดจากนิ้วตัวเองมาดูใต้แสงโมไฟในห้องแล้วจ้องมันโดยไม่กระพริบตา
ถ้าในสถานการณ์ปกติแล้ว แผลแบบี้ต้องหยุดเลือดไหลอย่างน้อยสิบนาที จางเทีย อยากเห็นผลของการฟื้นฟูระดับต้นเพราะไส้เดือนนั้นไม่ชอบแสง ในตอนเย็นแล้วร่างกายนี้จะรักษาตัวเองได้เป็นสองเท่าซึ่งก็คือ 430% จางเทีย ไม่สามารถควบคุมความตื่นเต้นที่มีได้ในตอนที่รอผลทดสอบของมัน
หลังจากที่กรีดแผลที่นิ้วแล้ว จางเทีย ได้เช็คนาฬิกาดู 23.14.36
ตอนแรกเลือดได้หยดลงมาจากนิ้วช้าๆ จางเทีย พบว่าเลือดที่หยดลงมานั้นค่อยๆช้าลงอย่างเห็นได้ชัด สุดท้ายพวกมันก็เปลี่ยนเป็นเกล็ดเลือดและในที่สุดเมื่อมันเลือดไม่ไหลอีกต่อไป จางเทีย ก็ได้มองไปที่นาฬิกา 23.16.54
ใช้เวลา 2 นที 18 วินาทีเพื่อให้หยุดเลือดไหลซึ่งมันเร็วกว่าเกือบสี่เท่าของความเร็วปกติ อีกอย่างแล้ว จางเทีย รู้สึกว่าความเจ็บปวดเองก็หายไปเร็วกว่าเดิมอย่างมาก
ถ้าไม่ใช่เพราะตะโกนอยู่ใน Castle of Black Iron นานแล้ว จางเทีย อาจจะตะโกนมันออกมาอีกครั้งก็ได้
ตอนั้นเองก็ได้มีเสียงเคาะเบาๆลอยมาจากประตู
หลายวันมานี่ แฮนนา มาหาเขาเร็วขึ้น ตอนที่เธอมาหาเขาครั้งแรก มันคือตอนเที่ยงคืน เธอมาที่นี่เร็วขึ้นเรื่อยๆ ในเขตชนบทแบบี้ผู้คนมักจะนอนกันเร็ว ส่วนมากแล้วนอนตั้งแต่ 3-4 ทุ่ม ดังนั้นแล้วหลายวันมานี้ ยัยบ้านี่ถึงกับเข้ามาที่ห้อง จางเทีย ตอนเที่ยงคืน วันนี้เธอมาไวกว่าปกติเพราะมันยังไม่ถึงเที่ยงคืนเลย
จางเทีย เดาว่า ฮาเร่ และพี่ชายเธออาจะรู้เรื่องระหว่างเขากับเธอแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะทำท่าไม่รู้แต่ยังไงซะ แฮนนา ก็โตแล้วและไม่มีใครต้องมาเสียหายกับเรื่องนี้ด้วย
โดยเฉพาะเรื่องที่เกิดตอนกินข้าวแล้ว พี่สะใภ้ได้เห็นอะไรแปลกๆ เมื่อกินข้าวเสร็จ เธอก็แอบหยิกก้น แฮนนา และทำให้เธอแลบลิ้นออกมา การกระทำพวกนี้น่ะ จางเทีย เห็น
ก็อย่างที่คาดไว้ เมื่อเขาเปิดประตูออกมา แฮนนา ได้เข้ามากอดเขาพร้อมกับเอาสะโพกมาชนเขา กลิ่นหอมนั้นทำให้เขาแทบคลั่ง
จางเทีย รู้สึกว่า แฮนนา นั้นเร่าร้อนกว่าเดิมและคึกยิ่งกว่าแต่ก่อน
หลังจากนั้นสักพักทั้งสองก็แยกออกจากกันและ แฮนนา ก็ได้เห็นผลที่นิ้วของ จางเทีย
“ อ่ะ เกิดอะไรขึ้นกับนิ้วของนาย ? “
“ฉันเล่นกับมีดตะกี้และไม่ระวังเอง ! “
“ เอามาให้ฉันดูสิ ! “
เมื่อพูดจบเธอได้เอานิ้วของ จางเทีย เข้าไปปากแล้วเริ่มดูดมัน ไม่ต้องเดาเลยว่ามันก็ทำให้เขาคึกขึ้นมา
ในตอนที่เขาเห็นเธอจับนิ้วของเขาแล้วเอาใส่ปากพร้อมกับเลียไปมาแล้วมองมาที่เขา แม้ว่านิ้วของเขาจะไม่ได้มีเลือดไหลอีกต่อไปแต่ส่วนล่างของเขาเริ่มขยายแล้วแข็งขึ้นมา
ในตอนที่ จางเทีย เตรียมตัวจะจัดการกับเธอ เธอก็ได้หัวเราะออกมาแล้วจับไอ้จ้อนของเขาไว้และยั้งเขาไว้ก่อน
“ ใจเย็นๆ ตามฉันไปที่ห้องฉัน ฉันมีบางอย่างน่าสนใจให้ดู ... “ - แฮนนา หรี่ตาพร้อมกับจับไปที่ไอ้จ้อน
“ ไปห้องเธอ ? ”- จางเทีย ช็อกเล็กน้อย
“ นายไม่กล้ารึไง หนุ่มน้อย ? “ -แฮนนา จงใจมองแบบยั่วยุ
“ ไม่มีทาง... “
มีไม่กี่คนที่จะยอมรับว่าตัวเองขี้ขลาดในตอนนี้ ดังนั้นแล้ว จางเทีย เองก็ด้วย หลังจากที่พูดจบ เขาได้ดับโคมไฟก่อนที่จะแอบออกจากห้องตัวเองไปพร้อมกับ แฮนนา
เธอจับมือ จางเทีย เอาไว้แล้วเดินนำหน้า การเดินของทั้งคู่นั้นเบามาก ตอนนั้นเอง จางเทีย ก็เพิ่งเห็นว่า แฮนนา นั้นใส่กระโปรงที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อนแต่มันดูคุ้นนิดหน่อย
“ นั่นกระโปรงเธอเหรอ ?ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย “
“ พี่สะใภ้เอาให้ฉัน มันเป็นกระโปรงสำหรับผู้หญิงที่โตแล้ว มันคุ้นมั้ยล่ะ ? “
แฮนนา ลดเสียงลง ตาของเธอแสดงความตื่นเต้นออกมา ปากของเธอมาแตะที่หู จางเทีย ซึ่งทำให้เขาจั๊กจี้
ทั้งสองคนเดินลงบันไดแล้วเดินไปตามทางเดินตรงนั้น ในความมืดนั้นพวกเขาได้เดินขึ้นชั้นบนอีกรอบ เมื่อเห็นก้นของเธอตรงหน้าเขาส่ายไปมา จางเทีย ก็จำได้ถึงสิ่งที่เห็นตอนมื้อเย็น ลมหายใจเข้าหนักหน่วงขึ้นราวกับจะคลั่ง
ในตอนที่พวกเขาไปถึงบันไดขั้นสุดท้ายของชั้นสอง พวกเขาก็ตกใจกับเสียงไอของ ฮาเร่ ในห้องข้างๆ ในความมืดนั้นพวกเขาได้หยุดและกลั้นหายใจ ตอนนั้นเอง จางเทีย เริ่มกังวลขึ้นมายิ่งกว่าตอนที่เขาแอบเข้าโจมตีฐานของกองทัพปีกแสงเป็นครั้งแรก
หลังจากที่รออยู่นาน พวกเขาก็ไม่ได้ยินเสียงอย่างอื่นจากห้องนั้นอีก พวกเขาเริ่มเดินไปที่ห้อง แฮนนา อีกครั้ง แม้ว่ามันจะเสี่ยงแต่ในที่สดุพวกเขาก็มาถึงเส้นชัย จางเทีย ปิดประตูเบาๆและถอนหายใจออกมา
แฮนนา เปิดไฟในห้องและปรับให้แสงมันสลัว ห้องนี้เต็มไปด้วยกลิ่นหอมพิเศษที่มักจะมีในห้องนอนของผู้หญิง
แฮนนา ไม่ได้พูดอะไรแค่ดึงมือ จางเทีย ไปที่กระจกที่แขวนตรงกำแพงห้อง หลังจากที่ย้ายกระจกออกจากกำแพงแล้ว เธอก็ถึงแท่งเล็กๆออกมาเผยให้เห็นรอยแตกเล็กๆข้างใน
“ มาสิ มาดูด้านใน !” - เธอเรียก จางเทีย ด้วยความตื่นเต้น
จางเทีย นั้นได้ยินเสียงแปลกๆแต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปดู
ผ่านรูนี่นเขาเห็นห้องของพี่ชายและพี่สะใภ้ พวกเขากำลังจัดการกันอย่างเมามัน พี่สะใภ้ได้กางขาออกและก้มลงเล็กน้อย เธอถูกมัดกับหัวเตียง ปากมีผ้ามัดไว้ พี่ชายของเธอนอนอยู่ด้านบนและจัดการพี่สะใภ้พร้อมกับขยำก้นไปด้วยทำให้หน้าอกและก้นนั้นสั่นระรัว
ห้องนั้นมันสว่างอย่างมาก ส่วนรูนี่น่ะอยู่ข้างๆตู้เสื้อผ้าไม่ไกลจากพวกนั้น ภายใต้แสงไฟจากห้องนั้น จางเทีย และ แฮนนา เห็นทุกอย่างชัดเจนทั้งเหงื่อบนตัวของพี่ชายและได้ยินเสียงแปลกๆอย่างชัดเจน
หลังจากดูอยู่นาน จางเทีย ก็เริ่มรู้สึกห้าแดงและปากเริ่มแห้ง มันคือสิ่งที่น่าสนใจที่ แฮนนา บอกเขา....
...
หลังจากที่อยู่ห้อง แฮนนา มากว่าสี่ชั่วโมง จางเทีย ก็แอบออกจากที่นั่นกลับไปยังห้องตัวเอง ตอนนั้นไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาทำอะไรกันในห้องของ แฮนนา ยกเว้นทั้งคู้
...
วันต่อมา จางเทีย ได้ตื่นตามปกติ หลังจากนั้นเขาก็เริ่มสัมผัสความรู้สึกสดชื่นในจิตใจและความกระปรี้กระเปร่าหลังจากที่เขาฟื้นตัวมาเต็มที่แล้ว เขาดีใจอย่างมากจนยิ้มกว้างออกมา จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นและพบว่านี่มัน 8 โมงแล้วซึ่งไม่ได้สายเกินไป
จากนั้นเขาก็ได้มองไปที่แผลที่นิ้ว แค่คืนเดียว แผลนี่ก็เกือบหายแล้วเหลือแค่รอยราวกับว่ามันโดนเฉือนมาเมื่อหลายวันก่อน เมื่อเห็นแบบนั้น จางเทีย ก็ยิ่งดีใจกว่าเดิม
มื้อเช้านั้นคือนมกับขนมปัง ในตอนที่เขากินมื้อเช้า จางเทีย ได้มองไปยังพี่ชายและพี่สะใภ้อีกครั้ง เขารู้สึกแปลกๆในใจ พี่ชายและพี่สะใภ้นี่ดูเป็นคนธรรมดา จางเทีย ไม่คิดว่าทั้งคู่จะมีรสนิยมที่หนักหน่วงแบบนั้น
บางทีมันอาจเป็นเกมที่น่าสนใจที่ทั้งคู่ชอบเล่น ดังนั้นแล้วมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคนอื่นแต่พวกขาอาจไม่คิดว่าตั้งแต่ที่พวกเขาแต่งงานกันมา มีรู้อยู่ที่กำแพงด้วย ดังนั้นด้วยการทำกิจกรรมของทั้งคู่ทำให้หายปีต่อมาเด็กน้อยใสซื่อคนหนึ่งได้โดนทำลายไป
ในตอนที่ จางเทีย คิดเรื่องนี้ เขาไม่ได้ยินคนอื่นพูดกันในโต๊ะ
“ นายได้ยินที่พี่ชายฉันถามตะกี้มั้ย ?”
แฮนนา ที่นั่งตรงข้ามเตะ จางเทีย ที่ใต้โต๊ะ
“ อ่า โทษที ฉันคิดเรื่องอื่นอยู่น่ะ ! “
“ พี่ชายฉันถามว่านายต้องการคนช่วยมั้ยวันนี้ ชาวบ้านน่ะค่อนข้างว่างกันนาน ! “
แฮนนา กรอกตาใส่ จางเทีย
“ โอ้ มีละแวกบ้านไหนรอบๆเชฟวี่ที่เลี้ยงไส้เดือนรึเปล่า ? “ – จางเทีย ถามพี่ชาย
“ ส่วนมากที่เลี้ยงก็อยู่ในหมู่บ้านนี้แต่ก็ยังมีบ้านใกล้ๆกับหมู่บ้านที่เลี้ยง น่าจะ 20-30 บ้านได้ ! “ – พี่ชายตอบหลังจากที่คิดสักพัก
“ นายรู้จักพวกนั้นมั้ย ? “
“ แน่นอน ฉันโตมาที่นี่ตั้งแต่เกิด ฉันจะไม่รู้จักพวกนั้นได้ไง ! “
“ นายคิดว่าคนพวกนั้นจะขายให้ฉันหมือนนายรึเปล่า ? “
“ ตราบใดที่นายจ่ายเท่าในเชฟวี่ ฉันคิดว่าไม่มีใครปฏิเสธหรอก ! “
“ ดี งั้นเอางี้เป็นไง ฉันจะจ่ายให้นาย 6 เงิน นายช่วยฉันซื้อไส้เดือนในหมู่บ้านใกล้ๆและปล่อยมันในป่าเหมือนที่เราทำในเชฟวี่ได้มั้ย ? “
“ หกเงินต่อวัน ? “
พี่ชายตาเบิกกว้างและมือของเขาก็สั่น
“ อื้ม 6 เงินต่อวันและนายเป็นตัวแทนฉัน ! “
“ แล้วเงินที่ซื้อไส้เดือนกับจ้างคนล่ะ ? “
“ ฉันจะจ่ายให้นาย 25 เงินต่อบ่อและคนช่วย ! อีกอย่างฉันจะจ่ายให้นาย 6 เงินต่อวันในฐานะตัวแทน ! “ - จางเทีย ตอบกลับ
“ ได้ ! “ – พี่ชายตกลงทันที เขารู้สึกอายขึ้นมาเล็กน้อยและเกาหัว – “ ไม่ใช่ว่า 6 เงินต่อวันนี่มันมากไปหน่อยเหรอ ? “
“ ไม่มากหรอก ครั้งนี้นายน่ะคือหัวหน้า นายสมควรได้รับมันแล้ว ! “
จากหลักการแล้วแน่นอนว่า จางเทีย จะไม่ได้ไปปล่อยไส้เดือนด้วยตัวเอง อีกอย่างแล้วครั้งนี้เขาต้องการลองดูว่าเขาจะได้ประโยชน์จากการปล่อยไส้เดือนโดยการจ่ายเงินอย่างเดียวรึเปล่า
ถ้ามันได้ผล เขาจะมีแหล่ง Fruit of Redemption ที่กว้างขึ้นอย่างมาก บางครั้งแม้ว่าเขาจะอยู่ไกล เขาก็ยังควบคุมและให้คนอื่นทำแทนเขาได้ ไม่อย่างนั้นแล้วมันคงง่ายที่จะทำให้ร่างกายมีการรักษาระดับกลางโดยการปล่อยไส้เดือน 160 ล้านตัว
หลังจากที่อยู่ในเชฟวี่มานาน เขาปล่อยไส้เดือนไปแค่ 10 ล้านตัว นอกจากเงินแล้ว เขาอาจจะต้องหาเชฟวี่ที่สองในพันธมิตรรึแม้แต่ในสมาคมแบล็คซอน
ถ้าเขามาที่เชฟวี่หนึ่งครั้งต่อปี มันจะใช้เวลาอย่างน้อย 16 ปีในการไปถึงเป้าหมายแลเนื่องจากสงครามศักดิ์สิทธิ์กำลังจะมาถึง มีแต่พระเจ้าเท่านั้นว่าโลกเหลือไม่กี่ปีแล้วนี่ไม่ต้องคิดถึงเรื่อง 16 ปีหรอก
บางทีมันก็เหมือนกับที่ ดอนเดอร์ ได้บอกเขาไว้ หลายอย่างในโลกนี้น่ะไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราแต่ขึ้นอยู่กับโอกาส ถ้าไม่มีมันแม้ว่าจะมีพรสวรรค์แต่ก็ไปไม่ถึงเป้าหมาย จางเทีย ได้พบโอกาสนี้ในเชฟวี่ซึ่งทำให้เขาขอบคุณมันไปชั่วชีวิต สำหรับโอกาสแบบนี้ที่จะมีอีกนั้นมันก็คงขึ้นอยู่กับโชค
หลังจากที่เจรจารายละเอียดต่างๆแล้ว จางเทีย ได้เอาเงินหนึ่งทองออกมาแล้วเอาให้กับพี่ชาย ปล่อยให้เขาไปทำตามคำสั่ง
หลังจากนั้น จางเทีย ก็นึกบางอย่างได้ – “ มีใครขายด้วงทองคำในบาปีมั้ย ? “
“ ด้วงทองคำ ? “ - พี่ชายของเขาตกใจและ ฮาเร่ ก็ได้มองมาที่ จางเทีย – “ มันเป็นแค่แมลงที่เด็กๆเล่น ใครกันจะขายมัน ? ถ้านายต้องการ นายจ่ายให้คนไปหามันก็ได้ ฉันคิดว่านายน่าจะได้มัน ! “
“ ฉันแค่สงสัย ! “
เมือได้ยินคำอธิบายแบบนั้น จางเทีย ก็ยอมแพ้กับความคิดนี้ สิ่งที่พี่ชายพูดนั้นจริง นอกจากจะมีประโยชน์กับไม่กี่คนแล้ว ใครกันจะเลี้ยงมันมาขายให้คนอื่น ? อีกอย่างถ้าเขาจ่ายเงินให้คนจับมันและค่อยปล่อยมัน จากฎของ Fruit of Redemption แล้ว มันคงไร้ประโยชน์
เพราะเขาได้ร่างกายฟื้นฟูระดับต้นมาแล้ว เขาไม่ควรที่จะโลภเกินไป หลังจากนี้ถ้ามีโอกาส เขาจะเห็นเองว่าเขาจะหาปล่อยพวกด้วงทองคำได้รึเปล่า ถ้าเขาได้รับผลดีมากมายในทีเดียว เขาคิดว่าพระเจ้าคงทนไม่ไหว
...
หลังจากกินมื้อเช้าเสร็จ จางเทีย ได้ใช้โอกาสนั้นบอกกับ แฮนนา ว่าเขาต้องกลับเมืองและอยู่ที่เมืองหลายวัน
“ นายมีเมียอยู่ในเมืองรึไง ? “
แฮนนา มองมาที่ จางเทีย ด้วยสีหน้าแปลกๆ
“ ไม่ ! “
จางเทีย ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงถามแบบนี้
“ โกหก ! “ – เธอพองแก้ม – “ ทำไมนายต้องไปวันนี้ด้วย หลังจากที่ฉันบอกนายว่าประจำเดือนกำลังจะมาน่ะเหรอ ? นายคิดว่าฉันคงทำให้นายพอใจไม่ได้สินะ? “
จางเทีย หมดคำพูด เขาไม่รู้จะอธิบายกับ แฮนนา ยังไงว่าเขาหายดีแล้ว หลังจากที่หายดีแล้วเขาต้องไปจัดการบางอย่างในบาปีก่อน
แฮนนา น่ะเร่าร้อนอย่างมากเมื่อวานนี้ เมื่อคืนหลังจากที่ จางเทีย ทำกับเธออยู่หลายครั้ง เธอก็บอกเขาว่าเธออยากทำแบบนี้อีกหลายวันก่อนที่จะประจำเดือนจะมา ดูเหมือนว่าผู้หญิงหลายคนจะเป็นแบบนี้และมันทำให้มีความต้องการมากกว่าเดิมทั้งก่อนและหลังประจำเดือน รวมถึงพี่สะใภ้ของเธอด้วย
แฮนนา บอกว่าประจำเดือนของเธอจะมาวันนี้ จางเทีย เลยบอกเธอว่าเขาจะไปเมืองวันนี้ด้วย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงเข้าใจผิด
...
สุดท้ายหลังจากที่ปลอบเธอแล้ว จางเทีย ก็ได้ออกจากเชฟวี่ไปยังเมืองโทนิคราส เขาเดินทางต่อไปที่บาปีด้วยรถม้า
เพราะบางอย่าง บรรยากาศในบาปีนั้นไม่ได้ผ่อนคลายแต่ตึงเครียดมากก่วาเดิม ในตอนที่ จางเทีย ออกจากโทนิคาส เขาได้เจอกับทหารสองคน เขาโดนหยุดตรวจ คนขับรถบอกว่านี่เป็นเพราะพวกสายลับของราชวงศ์อาทิตย์น่ะยังไม่โดนจับ ตั้งแต่ระเบิดเมื่อสองอาทิตย์ก่อน คนพวกนั้นก็หายไป ทำให้เมืองตกอยู่ในความตึงเครียด
‘ ไม่ใช่ว่าฉันฆ่าคนพวกนั้นไปแล้วรึไง ?ไม่ใช่ว่าศพอยู่ที่คลังโดนคนอื่นเจอแล้วเหรอ ? มันเป็นแบบนี้ได้ไง... ‘
จางเทีย มองผ่านหน้าต่างออกไปดูสีหน้าเคร่งขรึมของทหารที่เดินทางกันเป็นทีม
‘ ถ้าศพพวกนั้นยังไม่โดนพบ ฉันควรส่งจดหมายไปให้แผนกเพื่อจบบรรยากาศที่ตึงเครียดนี่ดีมั้ย ? ‘
เมื่อคิดแบบนั้น จางเทีย ก็บอกให้คนขับเปลี่ยนทาง...
ครึ่งชั่วโมงต่อมาพวกเขาก็ได้มาอยู่ที่ถนนชานเมือง จางเทีย ที่นั่งอยู่ในรถนั้นเห็นว่าคลังที่เขาออกมาในคืนนั้นโดนเผาซึ่งมันทำให้สีหน้าของเขาตอนนั้นหม่นลงทันที....