spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 235: นักเลงกระจอกและลูกน้อง
บิลลิส นั่งยองๆรอที่ข้างสวนหน้าบ้าน ตาของเขาแดงกล่ำ หน้าซีด เข้าตัวสั่นไปทั่วและมีน้ำค้างบนเสื้อผ้าของเขา ดูจากลักษณะของเขาแล้ว นักเลงคนนี้ต้องรออยู่ที่นี่มาทั้งคืน เพราะนี่เป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง ว่าเขาจะอายุแค่ 30 กว่าๆแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับ บิลลิส ที่จะอยู่ข้างนอกทั้งคืน
ในตอนที่เขาเห็น จางเทีย เดินลงมาจากบันได บิลลิส ก็ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปหา เขาคุกเข่าลงทันทีพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา
“ ฉันจะทำตามคำสั่งของนายทุกอย่างนับจากนี้และจะทำอะไรก็ตามที่นายต้องการให้ฉันทำ ! “
เมื่อคืน บิลลิส ไม่กล้าที่จะกลับบ้านตัวเอง เขาซ่อนอยู่ที่นี่ทั้งคืน ก่อนหน้านี้เขาคิดจะกลับไปแต่ถ้าเขาออกจากที่นี่ไปแล้ว เขาไม่รู้ว่าเขาจะไปที่ไหนได้และเขาสามารถทำอะไรในตอนนั้นได้บ้าง
ถ้าเขาอยู่ในบาปีต่อ บิลลิส รู้ว่าเมื่อคนพวกนั้นที่ซึ่งเขาได้หักขาไปหายดีแล้ว สิ่งที่รอเขาอยู่นั้นคือความตาย หลังจากที่คิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว บิลลิส พบว่าชีวิตของเขาจบลงตั้งแต่ที่เขาหยิบกระบองมาเมื่อคืนแล้ว เจ้าหน้าที่คนนี้ที่ซึ่งผลักเขาลงในนรกนั้นคือคนเดียวที่เป็นความหวังสุดท้ายของเขา
แม้ว่าคนๆนี้จะฆ่าเขาตอนไหนก็ได้แต่เด็กคนนี้ก็ทำให้เขามีชีวิตอยู่ได้ เขาน่ะไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
หลังจากที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้แล้ว เขากลัวอย่างมาก พวกนักเลงน่ะใช้อาวุธเพื่อฆ่าคนแต่ จางเทีย ใช้แค่ปาก แน่นอนว่า บิลลิส รู้ว่าใครน่ะเด็ดขาดกว่า
“ ดูเหมือนว่านายจะไม่ได้โง่ นายคิดมาดีแล้วใช่มั้ย ? “ - จางเทีย ถาม
ในตอนที่ จางเทีย อ้าปาก บิลลิส ก็ได้แสดงท่าทีกลัวยิ่งกว่าเดิม มันกลับเป็นว่าชายคนนี้รู้อยู่แล้วว่าเขาต้องทำอะไร เขาฝืนกลืนน้ำลายลงไปแล้วพยักหน้า
“ งั้นก็ตามฉันมา ! “
จางเทีย เดินไปที่ถนนพร้อมกับ บิลลิส ที่ตามมาติดๆ
...
เขาไปกินอาหารเช้าที่โรงแรมในซอยนั้น เขายังสั่งอาหารให้กับ บิลลิส และเหล้าอีกแก้วเพื่อให้อุ่นขึ้นมา นี่ทำให้ บิลลิส รู้สึกสงบขึ้น แม้ว่าเขาจะนั่งที่โต๊ะเดียวกันแต่ บิลลิส ทำตัวเชื่อฟังราวกับเด็กประถม เขาไม่กล้าที่จะส่งเสียงตอนกินรึดื่มเลย
จางเทีย ยังคงกินอาหารเช้าของตัวเองต่อไปโดยไม่พูดอะไรออกมา เขาไม่ได้มองไปที่ บิลลิส หลังจากกินข้าวเสร็จเขาก็ได้เช็ดปากและวางมีดกับซ้อมตัวเองลง
เมื่อเห็น จางเทีย ทำแบบนั้น บิลลิส ที่ซึ่งกำลังเคี้ยวอาหารอยู่ก็ไม่กล้าที่จะส่งเสียงและรีบกลืนมันลงไปก่อนจะวางมีดกับซ้อมตัวเอง เขาเอามือวางไปที่หัวเขาและรอฟังคำพูดของ จางเทีย
จางเทีย น่ะอายุน้อยกว่าเขาครึ่งหนึ่งแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเด็กนี่แล้ว บิลลิสร น่ะเชื่อฟังราวกับกระต่างที่อยู่ต่อหน้าเสือ
“ ชื่อ... “
“ ชื่อฉันคือ บิลลิส “
ในตอนที่ จางเทีย อ้าปาก บิลลิส รีบตอบไปทันทีเพราะกลัวว่าจะทำให้ จางเทีย ไม่พอใจ
“ อื้ม ! “ - จางเทีย มองไปที่อีกฝ่าย – “ ไอ้บ้านั่นจ่ายพวกนายเท่าไหร่เพื่อให้มาอัดฉัน ? “
“ 2...2 ทอง ! “
เมื่อพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน บิลลิส ก็เริ่มลุกลี้ลุกลน เขารู้ว่าพวกนักเลยที่ ไบซ์ พามานั้นไม่กล้าที่จะคุกคามเจ้าหน้าที่ ไบซ์ นั้นถือว่าโชคร้ายเพราะไม่รู้สถานะของ จางเทีย ก่อนที่จะลงมือหาเรื่องเขา ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นเป็นบทเรียนที่หนักหนาอย่างมาก
“ สองทอง ? “ - จางเทีย อึ้งเล็กน้อย มีนักเลงมากว่าสิบคนเมื่อคืนนี้ พวกนั้นยอมเสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อเงินสองทองเนี้ยนะ ?
เมื่อคิดแบนั้นเขาก็เห็นความเห็นของเขาต่างจากแต่ก่อนโดยเฉพาะเรื่องเงิน
สองทองนั้นถือเป็นเงินจำนวนน้อยสำหรับ จางเทีย ตอนนี้แต่มันถือว่าเป็นเงินจำนวนมากสำหรับคนที่อยู่ในสถานะล่างสุดของสังคม แน่นอนพวกเขาจะตกลงที่จะอัดใครก็ตามเพื่อเงิน 10 เงิน จำนวนเงินนี่ไม่ใช่น้อยๆเลยสำหรับคนในหมู่บ้านเชฟวี่รึนักเลงพวกนี้
ไม่ใช่ว่าเขาเองก็ดีใจอย่างมากเหรอเหรอที่ได้เงิน 2 เงิน มาหลังจากที่โดนไอ้อ้วนและคนอื่นๆในองค์กรตัวเองอัดเอาเมื่อหลายเดือนก่อน ? ตอนนั้นเขาได้เงินไปโรงเรียนไม่กี่ทองแดงเอง
เพราะเขาเริ่มคิดถึงชีวิตแต่ก่อน จางเทีย จึงอึ้งเล็กน้อย ตอนที่เขาพูดขึ้นอีกครั้งมันก็ผ่านมากว่าครึ่งนาทีแล้ว
บิลลิส มองไปที่ จางเทีย ด้วยความกังวลเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะรำคาญ
“ ไม่ต้องกังวล ฉันแค่นึกถึงเรื่องเก่าๆ ! “ - จางเทีย ยิ้มพร้อมกับปลอบ – “ นายรู้มั้ยว่าฉันอยากให้นายทำอะไรตอนนี้ ? “
“ ไม่ ...ฉันไม่รู้ ! “ - หลังจากที่พูดจบ บิลลิส ก็ได้อ้อนวอนอีกครั้ง – “ ฉันจะทำทุกอย่างตามที่นายต้องการ ! “
“ ไปหา ไบซ์ และเอาค่าตอบแทนของนายกลับมา ! “
“ อ๊า... “ - บิลลิส อ้าปากกว้าง เขาไม่คิดว่า จางเทีย จะสั่งให้เขาทำแบบนี้
“ แต่จำนวนเงินน่ะไม่ใช่ 2 ทองแต่เป็น 20 ทอง นายไปหา ไบซ์ แล้วบอกเขาว่านี่คือราคาสำหรับหาคนมาอัดฉัน ฉันได้ส่งนายมา ดังนั้นแน่นอนแล้วว่าเขาจะให้เงินนาย ! “
จางเทีย จิบน้ำนิดหน่อย
บิลลิส พยายามที่จะใจเย็น เขาฝืนกลืนน้ำลายลงไป – “ นายอยากให้ฉันเอาเงินนี่กลับมาให้นายงั้นเหรอ ? “
จางเทีย ฝืนยิ้มและมองด้วยท่าทีดีใจไปที่อีกฝ่าย – “ นายคิดว่าฉันเป็นแบบจะกำจัดใครเพราะใช้เรื่องนี้รึว่าฉันต้องใช้เงินเร่งด่วนขนาดนั้นเลยรึไง ? “
“ ไม่ ไม่ แน่นอนว่าไม่ ฉันแค่...ฉันแค่... “
เพราะเขากังวลเล็กน้อยจึงมีเหงื่อผุดออกมาเต็มหน้าผาก
จางเทีย ขัดขึ้นมา – “ ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันรู้ว่านายจะพูดอะไร ฉันไม่ต้องการเงินนั่น นั่นมันสำหรับนาย นายจะไปเอาเงินนั่นแล้วหาเพื่อนนายที่ขาหักเมื่อคืน เงินนั่นคือค่ารักษาพวกเขา บอกพวกนั้นว่านายทำงานให้ฉันและให้พวกเขาทำตามคำสั่งนาย นายต้องการให้ฉันสอนเรื่องง่ายๆอีกรึเปล่าล่ะ ! “
บิลลิส หน้าแดงขึ้นมาแล้วคิดถึงเรื่องบางอย่างจนทำให้เขาหน้าหม่นลงไปอีกครั้ง – “ งั้นฉันจะจัดการกับบะ...บอสยังไง ?”
“ บอส ? “
“ ฉันหมายถึงคนที่พุ่งเข้าไปหานาย คนที่มีห่วงที่จมูก เขาคือบอสของเรา เขาชื่อ... “
เมื่อเห็น จางเทีย หรี่ตาลง บิลลิส ก็ลดเสียง ในที่สุดเขาก็ไม่กล้าที่จะมองไปที่ตาของ จางเทีย...
จางเทีย ไม่พูดอะไรแค่มองไปที่ บิลลิส ที่ซึ่งตอนนี้ดูร้อนรนราวกับว่านั่งอยู่บนเข็ม ภายใต้การมองนี้อยู่สักพัก บิลลิส ก็กัดฟันแน่นและลุกขึ้นยืน
“ ฉันรู้ว่าต้องทำอะไรต่อไป.. “
หลายนาทีต่อมา บิลลิส ได้ออกจากโรงแรมไป ก่อนหน้านี้ จางเทีย ได้บอกอีกฝ่ายเรื่องวิธีติดต่อแบบลับๆและบอกอีกฝ่ายให้รวบรวมข่าวเกี่ยวกับสายลับและคนของราชวงศ์อาทิตย์ในบาปี
หลังจากที่ผ่านเรื่องเมื่อคืนมา จางเทีย พบว่าอำนาจที่เขามีนั้นยังคงอ่อนแอ่เมื่ออยู่ในบาปี ที่นี่น่ะไม่เหมือนกับเมืองแบล็คฮ็อตที่ซึ่งเขามีเพื่อนและพี่น้องมากมายที่ดูแลกันได้ในตอนฉุกเฉิน ถ้าไม่ใช่เพราะ คุณกรีน ที่แอบมาเตือนเขา เขาคงอาจโดนนักเลงพวกนั้นอัดไปแล้ว
ดูจากความสามารถของพวกนั้นเมื่อคืนแล้ว ในบรรดานักเลงพวกนั้น มีสองคนที่อยู่ในระดับ 2, หนึ่งคนระดับ 3 ส่วนคนอื่นๆนั้นระดับ 1 หมด เรื่องก่อนหน้านี้ทำให้เขาไม่มีโซ่ผูกมัดพอและจากสถานการณ์ตอนนั้นแล้วเขาอาจะได้แผลถ้าเขาโดนพวกนั้นล้อมเอา
เมื่อรู้สึกถึงวิกฤต จางเทีย ได้จัดการทำแผนเมื่อคืน พวกนี้อาจจะไม่ได้ช่วยเขามากแต่ถ้าพวกนี้เป็นลูกน้องเขาได้ พวกนี้อาจจะช่วยเขาได้มาก ในตอนฉุกเฉินลูกน้องพวกนี้อาจใช้ไปตอนไหนก็ได้เพื่อที่จะกันไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้อีก
พวกนี้ต่างก็เป็นคนไม่มีงานทำคอยหากินเหล้าและเที่ยว พวกเขาเป็นคนชนชั้นล่างของเมืองและเอาตัวรอดโดยรับจ้างแก้ปัญหาเล็กๆให้คนอื่น ชีวิตของพวกนี้อยู่ในสภาพที่แย่อย่างมากเพราะพวกเขาทำได้แค่ช่วยไม่ให้ตัวเองอดตาย พวกนี้น่ะเป็นนักเลงที่สู้เพื่อเงินแค่ไม่กี่ทองแดงและโดนฆ่าไป
สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้มันคือธุรกิจที่จ่ายเงินแค่ 2 ทอง มันเป็นเงินที่พวกเขาหาได้ในเวลาครึ่งปี เงินที่พวกนั้นได้อาจจะไม่พอสำหับ จางเทีย ซื้อไส้เดือนในหมู่บ้านเชฟวี่ด้วยซ้ำ
เขาแค่ต้องเอาเงิน 2-3 ทองให้พวกนั้นต่อเดือนเพื่อให้พวกนั้นเชื่อฟังคำสั่งเขาทุกอย่าง แม้ว่าพวกนี้จะเป็นนักเลงชั้นต่ำแต่แน่นอนว่าพวกนี้ต้องทำงานให้กับเขาเพื่อเงินแค่ 2-3 ทอง ไม่ว่ายังไงก็ตามเขาก็ไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินอยู่แล้ว
...
บรรยากาศในเมืองนั้นยังไม่ดูผ่อนคลาย จำนวนของทหารลาดตระเวนที่เดินไปมานั้นไม่ได้น้อยกว่าเมื่อวานนี้ จางเทีย คิดว่าบางทีสิ่งที่เขาได้ทำลงไปกับสายลับพวกนั้นเมื่อคืนนี้อาจจะจังไม่ถูกพบ
เขาลองไปดูรอบๆในหน่วยอีกครั้ง เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาคุยกับ ปิปิง รึเรียนรู้การซ่อมรถด้วยการถอดชุดเครื่องแบบแล้วนอนลงกับพื้น จางเทีย รู้สึกว่าเขาได้เรียนรู้เพิ่มขึ้นมาอย่างมาก
เมื่อเจอกับเจ้าหน้าที่แบบนี้ที่ชอบเรียนรู้โดยไม่กดขี่คนอื่นและยังเข้ากับคนอื่นได้ดี พวกช่างในหน่วยต่างก็เข้ามารุม จางเทีย และสอนเรื่องต่างๆให้กับเขา วันนี้ จางเทีย ได้เรียนรู้มากกว่าที่หลายคนใช้เวลาเป็นเดือนๆเรียนรู้ในโรงเรียนซะอีก