spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 232: ไม่คาดคิด
ในตอนที่ จางเทีย ได้ใช้สกิลผูกมัดในคลัง เขาก็รู้ว่าเขาทำสำเร็จเพราะผลของโซ่นั้นได้พุ่งเข้าใส่จิตใจของคนทั้ง 12 ในทีเดียว
ในบรรดาคนพวกนั้น คนที่ระดับสูงที่สุดคือระดับ 6 ส่วนต่ำที่สุดนั้นคือระดับ 2 ผลของสกิลนี้ก็มีตั้งแต่ 3-8 นาที ซึ่งขึ้นอยู่กับพลังวิญญาณของพวกนั้นกับ จางเทีย
ก่อนที่จะปล่อยสกิลออกมา จางเทีย ได้พนันว่าไม่มีคนที่อยู่สูงกว่าระดับ 7 อยู่ในคลังนี้ ในฐานะสายลับแล้ว พวกเขควรจะมีความฉลาดแทนที่จะเป็นพลังต่อสู้ ดังนั้นแล้วไม่น่าจะอยู่ในระดับสูงได้
สิ่งที่ จางเทีย กังวลมากที่สุดเกี่ยวกับพวกนี้คือเขาไม่มั่นใจว่าระดับสูงสุดของคนที่ถูกส่งมานั้นอยู่ที่ระดับเท่าไหร่
จางเทีย ไม่รู้ว่าคนพวกนี้ได้กินยาของราชวงศ์อาทิตย์ก่อนจะมาที่นี่และไม่คิดที่จะกลับมาไปเป็นๆรึเปล่า ดังนั้นแล้วเขาจึงเดาจากกฎพื้นฐานต่างๆ แต่อันที่จริงเพราะคนเหล่านี้น่ะต้องตายในภารกิจ ราชวงศ์อาทิตย์คงไม่ให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงมาด้วยแน่ ยังไงซะนักสู้ระดับ 6 ขึ้นไปนั้นก็ไม่ได้มีมาง่ายๆ
เขาคิดถูก ระดับสูงสุดของพวกนี้คือคนที่ต่อยเขาตะกี้ นักสู้ระดับ 6 ที่ซึ่งมีพลังคีต่อสู้แมงมุมดำ
ทั้งคลังนี้นิ่งสนิท นอกจาก จางเทีย แล้วคนที่เหลือทำได้แค่ขยับตาไปมา ไม่มีใครเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ในตอนที่พวกเขาโดนโซ่ผูกมัดนี้โจมตีใส่ ทุกคนก็ควบคุมร่างกายตัวเองไม่ได้ พวกเขายังมองเห็นได้,สัมผัสได้และคิดได้แต่ขยับไม่ได้
มันเกิดอะไรขึ้น ?
จางเทีย เข้าไปคว้าเอามีดจากชายที่ต้องการจะหลอกเขาตะกี้ ในเสี้ยววินาที ตาของชายคนนั้นก็เต็มไปด้วยความกลัวและช็อก เขาอยากจะพูดบางอย่างแต่ก็ไม่อาจจะเปิดปากได้ เขาได้แค่ยืนเฉยเหมือนไอ้โง่ที่ตาเบิกกว้างมองดู จางเทีย แย่งมีดไปจากมือ
หลังจากที่แย่งมีดไปแล้ว จางเทีย ก็ได้ยิ้มให้ชายคนนั้น –“ ไม่คิดเลยสินะ ? สิ่งที่พวกแกอยากทำน่ะไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับฉันเลย ดังนั้นแล้วฉันเลยไม่อยากฆ่าพวกแกแต่ตอนนี้แกอยากฆ่าฉัน ฉันเลยต้องขอโทษไว้ก่อน...”
เขาเอามือซายตบลงไปที่ไหล่ของอีกฝ่าย จางเทีย สะบัดมีดไปที่อกด้านบนแทงเข้าใส่หัวใจ เมื่อตาของมันหมดแววแล้ว จางเทีย ก็วางมันไว้ที่พื้นโดยไม่ให้ส่งเสียงอะไรอีก
เพราะประสบการณ์ที่ได้ในแคมป์เหล็กโลหิต จางเทีย ไม่ลังเลยที่จะฆ่าคน เขาทำมันอย่างรวดเร็วเหมือนกับฆ่าไก่
หลังจากฆ่าไปหนึ่งคนแล้ว จางเทีย ได้เดินไปหาคนที่เพิ่งอัดเขา มันเป็นนักสู้ระดับ 6 เพียงคนเดียวในกลุ่ม เขาเอามือโอบไหล่อีกฝ่ายแล้วทำเหมือนกับที่ทำคนแรก จางเทีย จ้วงมีดเข้าที่อกของมันแล้วค่อยๆประคองมันให้นอนลงไปที่พื้น
ในนาทีเดียว จางเทีย ได้จบชีวิตของคนทั้งสิบสองในคลังด้วยวิธีเดียวกัน
เขาไม่คิดเลยว่าจะต้องมาฆ่าคนมากขนาดนี้กับการใช้สกิลผูกมัดครั้งแรก จริงๆแล้วเขาไม่ต้องการฆ่าพวกนี้ เขาฆ่าคนมากมายในสนามรบ ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าเขาจะอยู่สงบๆในเมืองแต่ไม่คาดคิดเลยว่าเขาต้องมาฆ่าคนอีกครั้ง ในยุคนี้หลายอย่างก็เกินควบคุม !
หลังจากฆ่าคนทั้งสิบสองในคลังเสร็จ จางเทีย ก็ถอนหายใจออกมา เขาเช็ดมีดไปบนเครื่องแบบของคนสุดท้าย จากนั้นก็แอบเดินไปรอบๆถังไม้ไปยังทางออกคลัง ในตอนที่เขาไปถึง เขาก็เห็นว่าคลังนี่คือชั้นสองของตึก ดังนั้นแล้วเขาจึงเดินลงไปที่ชั้นแรก
ด้วยท่าซ่อนดาบ เขาได้เหน็บมีดไว้ที่เอวและค่อยๆเดินลงไปโดยพิงกำแพง
ลังของกองอยู่ใต้บันไดเป็นกองๆ ส่วนรถมีที่มีเรื่องหมายของแผนกคลังกองทัพเขาเหล็กก็จอดอยู่ใกล้ๆ
...
คนสองคนในเครื่องแบบกองทัพกำลังยืนเฝ้ารถอยู่ ตาพวกนั้นมองไปที่ทางเข้าตึก ถ้าคนๆนั้นไม่โกหกเขา นอกจากสองคนนี้แล้วน่าจะมีอีกคนยืนเฝ้าอยู่ที่ทางออกรวมไปแล้วก็เท่ากับ 15 คนพอดี
ระยะห่างระหว่างทางเข้าตึกกับรถนั้นกว้างกว่า 10 ม. ประตูคนขับอยูที่ด้านขวา ถ้าเขาต้องการที่จะออกไป เขาต้องฆ่าสองคนที่อยู่ข้างๆรถโดยไม่ให้โดนยามด้านนอกจับได้ หลังจากที่คิดสักพักโดยอยูที่ตรงทางตึก จางเทีย ก็มีความคิดขึ้นมา
จงใจทำเสียง เขาเดินออกมาจากเงาที่ทางเข้าไปหาสองคนนั้นด้วยความเร็วปกติ
ในตอนที่สองคนนั้นเห็น จางเทีย ที่เดินออกมาจากทางเข้า พวกนั้นก็อึ้ง
“ ใช่รถคันนี้มั้ย ? มันดูดีนิ แต่มีบางอย่างแปลกๆกับมัน ฉันตกลงที่จะพาพวกแกไปที่หน่วยแต่ถ้าแกอยากทำว่าจะเอารถนี้ไปซ่อม แกต้องทำให้มันดูสกปรกก่อน... “
ราวกับว่าเขาไม่เห็นสองคนนั้นเลย จางเทีย ได้เดินไปหาสองคนนั้นและเริ่มตัดสินรถ
“ หยุด คนอื่นๆไปไหน ? “ - ทหารสองคนนั้นตื่นตัวทันที
“ พวกเขาจัดเครื่องแบบตัวเองอยู่ชั้นบน สำหรับทหารทั่วไปแล้วเครื่องแบบพวกเขาน่ะสะอาดเกินไป ถ้าแกอยากดูเหมือนทหารที่กลับมาจากสนามรบรึทีมขนส่ง นี่น่ะจะทำให้เกิดเรื่อง ดังนั้นแล้วพวกเขาเลยบอกให้ฉันมาข้างล่างก่อน เสือผ้าแกก็ควรที่จะสกปรกด้วยนะ... “
คำพูดของ จางเทีย และแผนการที่คลาดเคลื่อนทำให้สองคนนั้นอึ้งเล็กน้อย พวกเขารู้สึกว่าคำพูดของ จางเทีย มีเหตุผลและ จางเทีย คงไม่อาจฆ่าคนด้านบนได้ด้วยตัวคนเดียว ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงเริ่มลดการระวังตัวไปบ้าง
ในตอนที่เขาอยู่ห่างจากพวกนั้น 7 ม. จางเทีย ก็ได้ถอนหายใจออกมาและทำให้สองคนนั้นตัวแข็งทื่อด้วยโซ่ผูกมัด ผลก็คือพวกนั้นทำได้แต่มองเขาด้วยความกลัว
“ อีกคนไปไหน ? เร็วเข้า เรียกเขามา เราจะออกกันแล้ว ถ้าสายเกินไป การตรวจสอบการเข้าจะยิ่งยากกว่าเดิม .. “ - จางเทีย ตั้งใจตะโกนออกมาดังๆแล้วเดินผ่านทหารสองคนนั้นไป เขาเดินไปที่ประตูคลังแล้วตะโกนออกมาอย่างหมดความอดทน – “ เร็วเข้า มานี่ หลังจากที่เตรียมตัวแล้วเราจะได้ไป ! “
หลังจากพูดจบแม้ว่าใจเขาจะเต้นรัวแต่ จางเทีย ก็ทำท่านั่งลงอย่างใจเย็นที่โต๊ะตรงหน้าทหารที่ตัวแข้งทื่อสองคน ดูเหมือนว่ารออีกคนให้เข้ามาหา
ด้วยการเปิดประตูของคลัง ทหารอีกคนที่ฝ้าด้านนอกก็เห็นทหารสองคนยืนอยู่ข้างๆ จางเทีย โดยยังปลอดภัยอยู่
จางเทีย แค่นั่งเฉยๆรออีกคนเข้ามาหา จากผลของสกิลผูกมัดใส่ทหารสองคนนั้น เขามีเวลาเหลือ 8 นาที เขาไม่เชื่อว่าอีกคนจะไม่เข้ามาข้างในในตอนที่เห็นประตูเปิดอยู่และคนด้านในก็เรียกให้เตรียมตัว
พูดโดยทั่วไปแล้วคนเฝ้านี้น่ะมักจะต้องอยู่ในที่ที่ซ่อนไว้อย่างดี เทียบกับการหาคนๆนั้นแล้วต้องเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยง มันจะฉลาดกว่าที่ จางเทีย จะให้อีกฝ่ายออกมาเอง
แน่นอนหลังจากนั้นไม่ถึงครึ่งนาที ก็ได้มีหัวหนึ่งโผล่ออกมาจากประตูด้านข้างโรงกลั่น แม้ว่าจะสงสัยเล็กน้อยแต่เมื่อเห็น จางเทีย นั่งอยู่บนเก้าอี้แล้วมีทหารอีกสองคนข้างๆเขา คนที่เฝ้าก็ผ่อนคลายลงแล้วเดินเข้ามาหา
ในตอนที่เขามาถึง คนเฝ้านั้นยังถือหน้าไม้พร้อมกับลูกดอกที่เตรียมยิง เมื่อเห็นมันอยู่ในมืออีกฝ่าย จางเทีย ก็เหงื่อชุ่มไปทั่วตัว ถ้าเขารีบวิ่งออกไป เขาคงกลายเป็นศพไปแล้ว
การตัดสินใจของ จางเทีย น่ะถูกต้อง สกิลผูกมัดน่ะไม่ใช่มีไว้เพื่อฆ่าอย่างเดียว โดยเฉพาะในตอนวิกฤตแล้วเมื่อต้องใจเย็น,รวบรวมความกล้า,และรวบรวมข้อมูลทั้งหมด แม้ว่ามันจะเสี่ยงแต่การตัดสินใจของเขาก็ช่วยชีวิตเขาไว้ได้อีกครั้ง
จางเทีย แอบถอนหายใจออกมา
“ วิคเตอร์ กับคนอื่นไปไหน ? “ – คนเฝ้าถามออกมาด้วยท่าทีสบายๆ เขาเริ่มสงสัยในตอนที่มาถึง
จางเทีย ไม่รู้ว่าใครคือ วิคเตอร์ แต่เขารู้ว่าต้องเป็นคู่หูของชายคนนี้
“ พวกนั้นแต่งตัวอยู่ชั้นบน .. “
ตอนนั้นเองคนเฝ้าก็มองไปที่ทหารสองคนที่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆ จางเทีย เพราะ จางเทีย น่ะสนใจสีหน้าของคนเฝ้า ในตอนที่เห็นสีหน้าของมันเปลี่ยนไป จางเทีย ก็ได้โยนโต๊ะตรงหน้าตัวเองเข้าใส่ ในเสี้ยววินาที จางเทีย ก็เห็นธนุที่แทงทะลุโต๊ะหนาๆและหยุดอยู่ตรงหน้าผากเขา
จางเทีย กลิ้งตัวไปกับพื้น ในเวลาเดียวกันคนๆนั้นก็ได้ดึงมีดออกมาแล้วพุ่งเข้าใส่ จางเทีย ผลก็คือระยะห่างระหว่างทั้งสองคนลดลงมาเหลือ 7 ม.
จางเทีย รู้สึกเย็นขึ้นมานิดๆที่หว่างคิ้วตัวเอง....
ในตอนที่มันพุ่งเข้ามาแล้วตกลงไปที่พื้น...
ตอนนั้นทั้งโรงกลั่นก็กลับสู่ความสงบอีกครั้ง...
จางเทีย หอบออกมาอย่างรุนแรง สองวินาทีตะกี้นั้นถือว่าเป็นการต่อสู้ที่หนักหน่วย ถ้าเขาช้าไปนิดเดียวรึโต๊ะไม่หนาพอ ผลลัพธ์คงออกมาคนละเรื่อง
หลังจากที่หอบอยู่หลายครั้ง จางเทีย ก็ยืนขึ้น จากนั้นเขาได้เดินไปหาคนที่ล้มลงกับพื้น เขาไม่สนใจสายตาที่แสดงอาการช็อกออกมา จางเทีย ดึงมีดตัวเองออกมาแล้วแทงเข้าที่อกอีกฝ่าย ตาของมันแทบจะถลนแล้วกระอักเลือดออกมาจากปากและไม่ขยับตัวอีกต่อไป
จากนั้นเขาก็ได้เดินไปหาทหารอีกสองคนที่โดนสกิลมัดเอาไว้และค่อยๆมองไปที่หน้าพวกนั้นสักพัก หลังจากที่มองอยู่ไม่นาน ในที่สุดเขาก็เจอปัญหา พวกนี้ตามแทบถลนแต่ไม่กระพริบตาเลยสักนิด ! อีกอย่างแล้วมีความกลัวอยู่ในสายตาพวกนี้ด้วย เมื่อมองดูมันสักพัก คนที่ระวังจะรู้สึกได้ถึงความผิดปกติที่ใบหน้าพวกนี้
‘ ขอบคุณพระเจ้า ‘’’
จางเทีย ถอนหายใจออกมา
หลายวินาทีต่อมาก็ไม่มีใครมีชีวิตอยู่อีกนอกจาก จางเทีย หลังจากที่แต่งตัวแล้ว เขาก็ได้แอบหนีออกมาจากที่นั่น
แม้ว่าเงิน 2000 ทองนี้จะเป็นเงินจำนวนมากแต่ จางเทีย น่ะไม่ได้บ้าพอที่จะทำเงินโดยการบอกความลับตัวเอง ตอนนี้เขาไม่ได้ขาดเงินเลยสักนิด ถ้าเขาถูกถามว่าฆ่าคนมากแบบนี้คนเดียวได้ยังไงทั้งๆที่เป็นคนพิการที่ซึ่งยังไม่หายดีแล้วเขาจะตอบยังไง ? บอกว่าเขากิน Fruit of Judgment รึบอกว่าพวกสายลับมันโง่และยืนเฉยๆให้เขาแทงจนตายงั้นเหรอ ?
จางเทีย น่ะไม่ต้องการให้เป็นที่สังเกต ดังนั้นเขาจึงแอบออกมาจากที่นั่น !
หลังจากที่ออกจากคลังแล้ว จางเทีย ไม่รู้ว่าในตึกตรงข้ามมีชายผมเทา,ชุดดำ,พร้อมถุงมือยืนอยู่ในห้องมืดมองไปที่เขาที่กำลังหนีออกไปที่จากลานของคลัง สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดอยู่ภายใต้สายตาของชายคนนี้...
15 นาทีต่อมา จางเทีย ก็ได้ออกจากโรงกลั่น ชายคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าต่างโบกมือไปมาและได้มีกลุ่มคนชุดดำโผล่เข้าไปในโรงกลั่นอย่างกับผีที่ปรากฏตัวในความมืด
...
ไม่มีใครในโลกที่คาดเดาทุกอย่างได้ จางเทีย ไม่คิดว่าเขาจะโดนลักพาตัว คนที่ลักพาตัวเขาไปนั้นก็ไม่คิดเช่นกันว่าคนเกือบพิการแบบเขาจะมีไพ่ตายน่ากลัวแบบนี้ อีกอย่าง จางเทีย น่ะไม่ได้คิดว่าตอนที่เขาออกจากโรงกลั่น การเคลื่อนไหวของเขาทุกอย่างถูกคนอื่นจับตามองเพราะคลังนี้โดนเฝ้าระวังมาหลายวันแล้ว
คนผมเทานั้นไม่คิดว่าจะได้เห็นอะไรดีๆกับการที่เขาเฝ้าระวังที่นี่ไว้ ตามแผนของเขาแล้วพวกสายลับพวกนี้น่ะก็แค่เครื่องมือซึ่งถูกใช้ไว้ตบหน้าคนและทำให้หัวหน้าตัวเองพอใจ ตั้งแต่เริ่มเขาน่ะเข้าใจอย่างดีเลยว่าพวกนี้มีแผนอะไรต่อ ตั้งแต่วันที่สามที่เขาได้มาถึงบาปี พวกนี้ก็อยู่ภายใต้ควบคุมของเขาหมด
กองทัพเขาเหล็กอาจจะเก่งเรื่องการต่อสู้แต่พูดถึงเรื่องวิธีจัดการกับหนูพวกนี้ ช้างอย่างกองทัพเขาเหล็กน่ะคงไม่ได้เก่งเท่าไหร่ แม้ว่าพวกเขาจะเปลี่ยนเมืองให้เป็นสนามรบได้แต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าหนูพวกนี้เก่งเรื่องซ่อนตัวมากแค่ไหน
แผนการที่ดีที่สุดคือเมื่อสาบลับพวกนี้ได้ทำให้เมืองวุ่นวาย พวกชุดดำจะจับพวกมันส่งให้กับ นอดินเบิร์ค ซึ่งจะทำให้พวกเขาดูน่าสนใจสำหรับพวกคนตำแห่งใหญ่โตได้อีกมาก ก็เหมือนกับแมลงสาบบนเค้กรึหนูบนลูกบอล !
นี่แน่ะคือวิธีการเป็นไปของโลก ไม่ว่าคุณจะชอบมันหรือไม่ หลายคนต้องเจอกับเรื่องฉุกเฉินอื่นๆ
ไม่ว่ามันจะส่งผลยังไงก็คงมีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้....