spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 228: นักเล่นแร่แปรธาตุและตำรวจลับ
“ ดีที่รู้ว่านายไม่เป็นไร ! “
ไม่ว่าจะจริงรึเปล่าตอนที่ จางเทีย เห็นสีหน้ากะล่อนของ ปิปิง แล้วเขาก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาและไม่อีคติกับอีกฝ่าย จางเทีย เก่งอย่างมากกับการติดต่อกับคนแบบบนี้ตั้งแต่ที่เขาอยู่ร้านของชำ ดังนั้นเมื่อเขาเห็น ปิปิง เขาก็ไม่ได้เหนียมอายเช่นกัน เขายื่นมือไปจับที่ไหล่ของ ปิปิง และพาเดินเข้าออฟฟิศ
เพราะเขาได้เป็นหัวหน้าหน่วยเมื่อสองอาทิตย์ก่อน นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ จางเทีย เข้ามาในออฟฟิศของหน่วยนี้
ออฟฟิศนั้นแต่งแบบสไตล์ทหาร -- โต๊ะ,โซฟา, ตู้, ลิ้นชักและมีภาพของพาหนะห้อยอยู่ที่กำแพง ไม่มีการตกแต่งอื่นนอกจากนี้แต่แม้ว่า จางเทีย จะไม่ได้มาที่นี่เลยแต่ออฟฟิศของเขาก็ยังคงสะอาด
เขาเดินเข้าไปในห้อง จางเทีย นั่งลงโซฟาทันทีแล้วมองไปที่ ปิปิง
“ งั้นไม่ต้องไร้สาระ ฉันรู้ว่านายคงได้รับแจ้งมาแล้ว บอกฉันว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนนี้.. “
ปิปิง นั้นตระหนักได้ว่าเจ้าหน้าที่คนนี้แตกต่างจากคนอื่นๆ ทำให้เขานั้นทำตัวง่ายกว่าเดิมแต่จริงๆแล้วเขาน่ะดูยุ่งยากกว่าเดิมมากกว่า เพราะเป็นลูกน้อง ปิปิง จึงชอบเจ้าหน้าที่แบบนี้ สิ่งที่ ปิปิง กลัวมากที่สุดคือชายคนนี้ไม่รู้เรื่องอะไรเลยแต่ยังอยากมากจัดการเรื่องในหน่วยนี้ ถ้ามีหัวหน้าแบบนั้นมาที่หน่วยนี้จริงๆ งั้นคงเป็นฝันร้ายของทุกคนที่นี่แน่
สิ่งที่ จางเทีย ไม่รู้ระหว่างสองอาทิตย์นี้คือเขาถึงกับได้รับคำชมจากคนที่นี่ด้วย พวกนั้นต่างก็รู้สึกว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่และหัวหน้าที่ดี
ก่อนจะบอกข่าวกับ จางเทีย ปิปิง ได้มองออกไปข้างนอกห้อง เมื่อแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครอยู่ที่นั่น เขาก็ปิดประตูแล้วเดินไปใกล้ จางเทีย อย่างกับโจร
“ ฉันมีเพื่อนที่แคมป์การป้องกันทางอากาศ เขาบอกว่าหลายคนโดนฆ่าเมื่อคืนนี้ คลังสำคัญของแผนกคลังได้ถูกระเบิดโดยยานของกองทัพปีกแสง ! “ - ปิปิง พูดออกมาเบาๆ
จางเทีย เริ่มสงสัย – “ มันเป็นระเบิดจริงๆเหรอ ? “
“ จริง ! “ - ปิปิง พยักหน้า – “ มีคนบอกว่านี่คือการแก้แค้นของราชวงศ์อาทิตย์ เพราะหลายวันก่อน ยานฉลามคลั่งได้โยนระเบิดแก๊สสีขาวลงไปในปราสาทที่สำนักงานพวกนั้นอยู่ในตอนเย็น หลายคนโดนฆ่าที่นั่น กำลังใจของราชวงศ์อาทิตย์เองก็ลดลง ดังนั้นพวกนั้นจึงเริ่มลงมือเมื่อคืนเพื่อเป็นการแก้แค้น ! “
จางเทีย ได้แต่รู้สึกหงุดหงิด แก้แค้นอีกแล้วเหรอ ?
บางครั้งสงครามระหว่างสองประเทศและสองกองทัพนั้นไม่ได้แตกต่างจากการทะเลาะกันของเด็ก 3-5 ขวบเลย เมื่อนายต่อยฉันก่อน ฉันก็จะเตะคืน ไม่มีใครอยากเสียเปรียบแต่เมื่อเทียบกับการทะเลาะกันของเด็ก การแก้แค้นนี้น่ะน่ากลัวว่ามากและทำให้คนมากมายต้องตาย
หลังจากที่หัวของคนกองทัพเขาเหล็กถูกตัด คนของแคมป์เหล็กโลหิตก็ต้องตัดหัวอีกฝ่ายเพื่อเป็นการแก้แค้น เพราะหน่วยทางอากาศของกองทัพเขาเหล็กได้ใช้ระเบิดเข้าใส่สำนักงานของอีกฝ่าย อีกฝ่ายก็ใช้ยานบินเข้ามาในเมืองบาปีแล้วโยนระเบิดใส่คลังของกองทัพเขาเหล็ก
จางเทีย รู้สึกว่าบางทีปราสาทที่แนวหน้านั้นได้เตรียมรับมือกับการโจมตีของกองทัพปีกแสงไว้แล้ว จากนั้นเนื่องจากพวกเขาหาโอกาสไม่ได้ กองทัพปีกแสงเลยขยายแนวการต่อสู้มาถึงด้านหลังของกองทัพเขาเหล็กและเข้าโจมตีส่วนที่สำคัญที่สุด เนื่องด้วยการขนส่งที่จำกัด คลังนี้จึงการันตีได้ว่าเป็นหนึ่งในส่วนที่สำคัญของกองทัพเขาเหล็ก
“ ยานถูกจัดการรึยัง ? “
หลังจากที่ถามไป จางเทีย รู้สึกเหมือนคนโง่ ถ้ายานของคู่ต่อสู้นั้นโยนระเบิดลงมาซึ่งห่างจากแนวหน้าถึง 100 กม.และออกไปโดยไม่ได้รับความเสียหายอะไร สงครามคงไม่ยืดเยื้อขนาดนี้
“ เรียบร้อยแต่นั่นแหละคือปัญหา ! “
“ ทำไม ? “
“ มีคนบอกว่าหน่วยป้องกันทางอากาศของเราน่ะโจมตีโดนยานพวกนั้น ดังนั้นแล้วมันจึงตกอยู่ห่างไป 20 กม.ทางใต้ของเมืองบาปีแต่เมื่อกองทัพของเราไปถึงที่นั่น นอกจากคนตายในยานแล้ว ส่วนที่เหลือได้หายไปหมด นี่คือปัญหาใหญ่ ตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าคนที่เหลือในยานนั้นไปไหน “ – ปิปิง ถอนหายใจออกมา
“ เราหาศพเจอไม่มากที่ยานนั้นซึ่งหมายความว่าคนอื่นนั้นได้หนีออกไป นี่น่ะคือปัญหาใหญ่เนื่องจากไม่มี่ใครู้ว่าพวกนั้นหนีไปที่ไหน ถ้ามีคนของพวกนั้นแอบมาที่เมืองนี้แล้วพาพวกนั้นหนีไปได้จะไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ถ้าคนพวกนั้นมีระเบิดอีก พวกนั้นต้องยิงเข้าใส่รัฐสภาของเมืองนี้แน่ ! “
เมื่อได้ยินแบบนั้น จางเทีย ก็เข้าใจว่าทำไมบรรยากาศในเมืองถึงได้ตึงเครียด นี่น่ะไม่ใช่แค่เพราะเกิดระเบิดขึ้นเมื่อคืนแต่มันได้ยินยันถึงคู่ตอสู้ที่อันตรายที่แอบอยู่ที่ไหนสักที่ในเมือง แม้ว่าจะใส่ชุดกองทัพอยู่แต่เขาก็ยังต้องส่งหนังสือยืนยันตัวให้เจ้าหน้าที่ดูถึงสามครั้งในตอนที่เดินทางมาที่นี่
เพื่อที่จะจับคนที่หนีไปเหล่านั้นทหารทุกคนในทีมที่ประจำการในเมืองบาปีต่างก็เดินไปทั่วทุกถนน พวกเขาเริ่มตรวจสอบทุกคนที่เดินผ่านไปมา ด้วยการทำแบบนั้นแม้ว่าพวกเขาจะจับพวกอันตรายไม่ได้แต่อย่างน้อยก็จำกัดการเคลื่อนไหวพวกนั้นได้ ก่อนที่จะจับรึฆ่าพวกนั้นได้ นี่คือวิธีเดียวที่จะจัดการกับพวกนั้น
“ กองทัพเขาเหล็กมีระเบิดมั้ย ? “
คำว่าระเบิดนั้นทำให้ จางเทีย มีหลากหลายคำถามให้เขาสนใจ
“ มี แต่ระเบิดของกองทัพน่ะเป็นของสำคัญ เพราะพวกมันหายากและยังมีค่ามากด้วย ระเบิดทุกอย่างและการใช้งานมันน่ะต้องได้รับอนุญาติจากหัวหน้าทีมกองทัพเขาเหล็ก ในทั้งอาณาจักรนอแมน ระเบิดทุกลูกน่ะอยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลจักรพรรดิ มีนักเล่นแร่แปรธาตุแค่สองคนที่สามารถผลิตระเบิดได้ในอาณาจักรนอแมนซึ่งสองคนนั้นก็เป็นรัฐมนตรีที่ซื่อสัตย์ด้วย ! “
จางเทีย เพิ่งเคยได้ยินเรื่องนักเล่นแร่แปรธาตุในตำนานนี้ มีคำพูดในหนังสือที่เขาอ่านมาไม่กี่วันก่อน ไม่ว่าจะเป็นตำนานรึความจริง นักเล่นแร่แปรธาตุน่ะหายากกว่าคนทำยาเป็นสิบเท่า มันเป็นเพราะความลึกลับ,ความร่ำรวยและความน่ากลัวของอาชีพนั้นในยุคนี้
แม้ว่าหลายเมืองของพันธมิตรจะมีคนทำยาอย่าง เอเบียน แต่ทั้งในพันธมิตรนั้นไม่มีนักเล่นแร่แปรธาตุเลยสักคน นักเล่นแร่แปรธาตุน่ะใช้เวลาทั้งชีวิตไปกับการจัดการหินแปลกๆและคริสตัล ตราบใดที่พวกเขามีหินรึคริสตัล พวกเขาจะสามารถเปลี่ยนมันให้เป็นสมบัติที่ใช้ต่อสู้,บ่มเพาะ, รักษาโรค,แม้แต่พัฒนาคุณสมบัติของเหล็กและเครื่องจักรได้
หลังจากที่ผ่านกระบวนการต่างๆแล้ว คริสตัลและหินมากมายจะมีค่ามากกว่าเดิมถึงหมื่นเท่ารึอาจจะมีค่ามากกว่าทอง เพราะคนพวกนั้นสามารถเปลี่ยนหินให้เป็นทองได้จริงๆ พวกเขาถูกเรียกว่านักเล่นแร่แปรธาตุ มันไม่ใช่แค่คำอธิบายเดียวของอาชีพพวกนั้นแต่ยังเป็นคำชื่นชมด้วย
นักเล่นแร่แปรธาตุน่ะคือกลุ่มคนเดียวที่สามารถพผลิตระเบิดขึ้นมาได้ คนๆเดียวเมื่อกลายมาเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุจะไม่ต้องสนเรื่องเงินอีกต่อไป ถ้าเอาอาณาจักรนอแมนเป็นตัวอย่าง เมื่อนักเล่นแร่แปรธาตุคนใดในประเทศสามารถสร้างระเบิดขึ้นมาได้ เขาจะได้แต่งงานกับชนชั้นสูง ด้วยความสัมพันธ์นันจะทำให้เขาได้สร้างประโยชน์ให้กับอาณาจักรนอแมนในด้านกองทัพ
นักเล่นแร่แปรธาตุนั้นมีชื่อเล่นว่าคนสร้างสมบัติ, สมบัติเคลื่อนที่, ระเบิดมนุษย์ และยังอาวุธข้ามกาลเวลา ดูเหมือนว่าจะเพราะชื่อเล่นสุดท้ายนั้นได้บอกถึงทั้งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก่อนภัยพิบัติ หลายประเทศในสมาคมแบล็คซอนอยากมีนักเล่นแร่แปรธาตุที่สามารถสร้างระเบิดขึ้นมาเพราะมันคือสัญลักษณ์ของความมีอำนาจและฐานะที่แข็งแกร่ง
พันธมิตรเองก็เคยเสนอให้กับนักลเนแร่แปรธาตุด้วยตำแหน่งหัวหน้าและเงินจำนวนมากแต่โชคร้ายที่มันล้มเหลว
...
ในตอนที่ จางเทีย มาถึงฐานที่อยู่ในป่า กว่า 30 กม.จากบาปี ยานซึ่งได้รับการโจมตีกระจายไปตามพื้น ยานซึ่งใช้ระเบิดเข้าโจมตีเมืองนี้มีสีดำ
ตัวห้องนั้นสูงกว่า 15 ม. ตอนนั้นยานเดิมน่ะยาวกว่า 50 ม.ได้ถูกเปลี่ยนเหลือแต่โครง สำหรับส่วนที่คลุมยานนั้นคือถุงอากาศ นอกจากที่เหลืออยู่น้อยนิด ส่วนที่เหลือนั้นต่างก็โดนเผาและกระจัดกระจายตามพื้น ศพที่ใส่ชุดเครื่องแบบสีฟ้านั้นนอนอยู่ข้างในตัวยานโดยนอนอยู่ในท่าทางต่างๆ
กลุ่มทหารชุดแดงได้เข้าปิดกั้นที่เกิดเหตุ มีกลุ่มคนที่มองหาบางอย่างในศพทหารที่ตายไปพร้อมกับเจ้าหน้าที่ของอาณาจักรนอแมน ทหารรอบๆมองไปที่ถุงมือของคนพวกนั้นด้วยสีหน้าแปลกๆ
คนที่ใส่ถุงมือนี้คือตัวละครหลักในเรื่องที่สกปรกที่สุดของอาณาจักรนอแมน พวกเขาคือตัวแทนของความเย็นชาและบ้าเลือด ถ้าทหารคือเสือ กลุ่มคนพวกนี้ก็จะเป็นนกแร้งที่กินเนื้อเน่าและงูที่พ่นพิษออกมา
คนพวกนี้มาจากแผนกที่มีอำนาจของอาณาจักรนอแมนโดยไม่เกี่ยวกับกองทัพ ---หน่วยสั่งการ คนพวกนนี้น่ะคือตำรวจลับโดยรับคำสั่งจากหน่วยเท่านั้น
ในนอดินเบิร์ค ทุกคนรู้ว่านายอำเภอ นอดินตัน หัวหน้าของตำรวจลับกับมาแชล หลินเชงเจียง นั้นไม่ถูกกัน
นอกจากหัวหน้าของทั้งคู่ ไม่มีใครเลยที่ชอบพวกเขา
เพราะการระเบิดเมื่อคืนนี้ คนพวกนี้เลยโผล่มาที่เมืองบาปีเพื่อสืบสวนบางอย่าง เหตุการณ์นี้อยู่ในเขตปกครองของกองทัพเขาเหล็กแต่คนที่ใส่ถุงมือพวกนี้ต้องการที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องเพราะสองเหตุผล
อย่างแรก การระเบิดนั้นคือเรื่องพิเศษที่เป็นภัยต่อชาติ ด้วยการเกิดระเบิดขึ้นมา หน่วยสอบสวนระเบิดทุกคนในอาณาจักรต่างก็ได้รับคำสั่งจากหน่วยจัดการ
อย่างที่สองตามกฎของอาณาจักรนอแมน กองทัพเขาเหล็กน่ะปกครองพื้นที่ภายใน 100 กม.จากแนวหน้า เพราะบาปีนั้นอออกนอกระยะไปแล้ว แม้ว่าเหยื่อในการระเบิดนี้จะเป็นกองทัพเขาเหล็กแต่หน่วยจัดการนั้นก็ยังมีสิทธิที่จะเข้าตรวจสอบ
เพราะหน่วยจัดการของนอดินเบิร์คได้ส่งแจ้งเตือนไปให้กองทัพเขาเหล็ก พวกเขาเลยคาดว่าพวกนี้จะทำงานร่วมกับตำรวจลับในการสอบสวนการระเบิดครั้งนี้ ดังนั้นเมื่อพวกนี้มาที่บาปี แม้ว่าจะไม่เต็มใจแต่เจ้าหน้าที่กองทัพเขาห,ก็ต้องกระจายตัวมาที่นี่เพื่อช่วยคนพวกนี้ด้วยสีหน้าที่เย็นชา อีกอย่างแล้วพวกเขาควรที่จะรายงานเรื่องราสวล่าสุดและการค้นพบต่างๆของกองทัพเขาเหล็กให้คนพวกนี้รู้ด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืนบ้าง
หัวหน้าของคนพวกนี้ใส่ถุงมือสีแดงและชุดคลุมสีดำเป็นพลตรี ชายวัยกว่า 30 ปีที่มีผมขาวและดวงตาที่ดูโหดร้ายอย่างกับหมาป่า
“ พลตรี หลังจากที่กองทัพของเรามาถึง เราได้กันที่เกิดเหตุและมันยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง บนพื้นที่หางออกไปกว่า 500 ม.ที่ยานตก ทหารของเขาได้พบกับรอยล้อซึ่งมุ่งหน้าไปทางใต้ เดาว่าน่าจะเป็นของพวกที่หลบหนี เรา.. “
ชายผมเทาที่ซึ่งตรวจสอบศพอยู่นั้นยิ้มออกมาอย่างเย็นชา ในเวลาเดียวกันเขาก็ยกมือขึ้นขัดการรายงานของทหาร
“ ไม่จำเป็นต้องพูด ฉันเดาได้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นต่อไป คนของพวกแกพบรถกว่า 10 กม.ห่างออกไปแต่ไม่มีใครอยู่ด้านใน จากนั้นแกก็ได้หาที่มาของรถและรู้ว่ารถนั่นได้โดนขโมยจากบาปีไปเมื่อหลายวันก่อน หลังจากนั้นแกก็คิดว่าคนพวกนั้นหนีไปทางทิศใต้ ถูกมั้ยทหาร ? “
กัปตันเผยสีหน้าแปลกใจออกมาและถาม – “ คุณรู้ได้ยังไง ? “
“ ยินดีด้วยกัปตัน แกทำสำเร็จที่ปล่อยกลุ่มคนอันตรายไป ตอนที่แกไปสนใจรถที่ขับไปทางใต้นั่น พวกที่เหลืออยู่ได้หนีไปทางทิศเหนือ ถ้าแกเปลี่ยนทางแล้วไล่พตามพวกมัน เราคงไม่ต้องมาอยู่ที่นี่ สายลับของราชวงศ์อาทิตย์ที่ซึ่งซ่อนอยู่ในบาปีคงรู้ว่าจะหลอกแกยังไง... “
ชายผมเทาพูดออกมาตรงๆ หน้าของกัปตันนั้นแดงจนเขาพูดอะไรออกมาไม่ออก ในขณะที่พลตรีซึ่งอยู่ในทีม 21 เหมือนกันก็อยากจะเถียงต่อ
“ พลตรีแฟนก้า ทหารของเราได้พยายามอย่างดีที่สุดแล้ว ด้วยการตรวจสอบเล็กน้อย นายยืนยันได้ยังไงว่าคนพวกนั้นหนีไปทางทิศเหนือแทนที่จะเป็นทิศใต้ ? “
“ แน่นอนว่าฉันทำได้ ! “ - พลตรีแฟนก้า จากหน่วยสั่งการพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเย็นชา
เขาถอดถุงมือออกแล้วชี้นิ้วชี้ออกมา ตรงหน้าเจ้าหน้าที่ทีม 21 เขาได้ยั่งยองๆแล้วชี้ไปที่กะโหลกของศพ
จากนั้นเขาก็ได้จิ้มเข้าไปในหัวควานไปมาก่อนจะดึงออกมาพร้อมกับน้ำสีขาวแดงของสมอง เขาเอามันเข้าปากตัวเองแล้วค่อยชิมรสชาติมันพร้อมกับหลับตาราวกับกินอาหารสุดอร่อย
แม้ว่าเจ้าหน้าที่ทีม 21 จะชินกับการเห็นศพ แต่เมื่อเห็นการชิมสมองคนตายแล้ว หน้าของเขาก็ซีด พวกเขารู้สึกรังเกียจและขนลุกโดยเฉพาะรอยยิ้มแปลกๆที่ แฟนก้า ยิ้มออกมาตอนที่ชิมสมอง
หลังจากนั้นสักพัก แฟนก้า ก็ลืมตาแล้วเลียนิ้วตัวเองราวกับกำลังอร่อยกับรสชาติสมอง
“ สมองคนพวกนี้น่ะรสชาติขม มันเป็นผลของยาราชวงศ์อาทิตย์ในตอนที่ใช้กับผู้คน พวกคนที่รับมันไปจะสามารถใช้ร่างกายของตัวเองออกมาได้ดีกว่าเดิมในเวลาอันสั้น พวกเขาจะมีจิตใจที่กระจ่างแม้ว่าจะมีชีวิตอยู่ไม่นานก็เถอะ มีแต่พวกยอมตายเท่านคั้นที่ได้รับยานี่ไป หลังจากที่รับมันไปแล้ว ในกองทัพราชวงศ์อาทิตย์ พวกเขาน่ะมีเป้าหมายแค่อย่างเดียว – ความตายแทนที่จะเป็นการหนี คนพวกนี้จะได้รับโทษตายถ้าพวกมันหนีกลับไป ก่อนที่เราจะมาถึง พวกมันไม่ได้เตรียมตัวที่จะกลับไปแบบมีชีวิต ดังนั้นแล้วพวกมันจึงหนีไปทางทิศเหนือแทน ถ้าพวกมันหนีไปทางใต้ พวกมันก็จะติดกับกองทัพที่แนวหน้าของพวกแกแต่ถ้าพวกมันหนีไปทางเหนือ พวกมันจะทำความเสียหายได้มากกว่านี้อีกเยอะ ในบาปี พวกมันมีสายลับมารับไว้ อีกอย่างยานที่ตกในทางตอนใต้ก็เพื่อสร้างภาพลวงตาให้พวกแกคิดว่าพวกมันจะหนีไปทางใต้...”
“ นี่ก็ยังเป็นการคาดเดาอยู่ดี “ - พลตรีของทีม 21 ยังคงเถียงแต่หน้าซีดลงไปเล็กน้อย
“ คนในยานน่ะตายตอนที่ยานตก พวกคนที่หนีต้องได้รับบาดเจ็บ บางทีอาจจะหนักด้วย เพราะพวกนั้นรับการรักษาไม่ได้ตอนที่หนี แม้ว่าจะแข็งแรงรึอึดแต่แผลพวกนั้นน่ะต้องแย่ลงในตอนที่เคลื่อนที่ พวกมันจะเป็นตัวเกะกะของคนอื่น จากสไตล์ของราชวงศ์อาทิตย์แล้ว พวกที่ได้รับบาดเจ็บหนักจะโดนฆ่า เมื่อเราไปสำรวจตามทิศเหนือพร้อมกับหลีกเลี่ยงเส้นทางหลักแล้วล่ะก็เราน่าจะเจอบางอย่าง ... “ - แฟนก้า มองไปที่เจ้าหน้าที่ทีม 21 ด้วยสายตาคมกริบเผยให้เห็นรอยยิ้มยั่วยุ – “ แกเก่งเรื่องสู้ในสนามรบแต่ฉันไม่ได้มาที่นี่เพื่อเป็นครูสอนความฉลาดของแก ฉันหวังว่าถ้าฉันพูดจริง ก่อนที่จะเจอพวกนั้นแกจะไม่มายุ่งกับการลงมือของฉันในเมืองนี้ เพราะเวลาฉันมีค่า อย่างมาก ฉันไม่ต้องการจะมาเสียเวลาในเมืองนี้ด้วยเรื่องเล็กๆน้อยๆ “
เจ้าหน้าที่ทีม 21 ได้แต่เก็บความไม่พอใจของตัวเองแล้วมองหน้ากับอีกฝ่ายแล้วพยักหน้า
“ เหี้ย ถ้าไม่ใช่เพราะคำสั่งคงไม่อยากมีใครอยู่กับคนพวกนี้ “ – พวกเขาพึมพำในใจ
20 นาทีต่อมา ในป่าทางเหนือห่างออกไปจากที่ยานตก 5 กม. พวกเขาได้พบกับศพแรก มันถูกฝังอยู่ในดินแต่มันไม่ได้ถูกฝังมานานเกินไปและถูกจัดการในตอนเย็นตะกี้ แม้ว่าคนของราชวงศ์อาทิตย์จะฝังมันไว้อย่างดีแต่ แฟนก้า ก็ยังหามันพบ
ในอีกที่ห่างไปไม่ถึง 2 กม.จากที่แรก พวกเขาก็เจอกับศพที่สอง...