spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 225: ปล่อยไส้เดือน
“ เขาเป็นใครน่ะปู่ ? “
ในตอนที่ จางเทีย และ ฮาเร่ กำลังมองกองมูลสัตว์และดินอยู่นั้นก็ได้มีเด็กสาวคนหนึ่งเดินเข้ามาหาพวกขาจากสนามหญ้าด้านหลังบ้าน ฮาเร่ พร้อมกับเหยือกนมในมือ
เธอม้วนแขนเสื้อขึ้น เธอสวมเสื้อสีขาวที่ปักลายเอาไว้และกระโปรงสีฟ้าซีด ด้านนอกเสื้อนั้นคือเสือกันเปื้อนที่คลุมตั้งกระโปรงของเธอ นี่คือวิธีแต่งตัวของสาวๆในบาปีและพันธมิตรอันดามัน
สาววัย 18-19 ปีดูแก่กว่า จางเทีย เล็กน้อย เธอสวยอย่างมาก เธอมัดผมสีทองของเธอห้อยออกมาทั้งสองข้าง หน้าแดงๆของเธอและตาคู่สวย อีกอย่างเสื้อผ้าของเธอก็บ่งบอกได้ถึงส่วนโค้งเว้าได้เป็นอย่างดี
สาวชาวบ้านนี้มีรูปร่างน่าทึ่งกว่าสาวๆในกลุ่มกุหลาบเพราะการพัฒนาที่ดีกว่า อีกอย่างแล้วพวกเธอก็ถือว่าสวย
แค่มองแว็บเดียว จางเทีย ก็ละอายเล็กน้อย สาวคนนั้นถือเหยือกนมมาดูกระปรี้กระเปร่าและมีความสามารถ เธอน่ะคือวัวนมชัดๆ วัวนมแบบนี้น่ะเป็นที่เตะตา จางเทีย สุดๆ
“ แฮนนา นี่แขกของเรา เขาจะมาซื้อไส้เดือน ! “ – ฮาเร่ อธิบาย
“ ซื้อไส้เดือน ? “ – ด้วยการที่เพิ่งเค้นนมวัวมา แฮนนา ได้ถือเหยือกนมเดินเข้ามาหาพวกขา ในเวลาเดียวกันเธอก็มองไปที่ จางเทีย หลายรอบก่อนจะพูดออกมาตรงๆ – “ นายคงโกหก ! “
“ แน่นอนว่าไม่ ฉันเจรจากับปู่ของเธอแล้ว เงินสดด้วย ! “ - จางเทีย ยิ้มพร้อมกับมองไปที่หน้าอกไซต์ G ซึ่งใหญ่กว่าของ ชาราโปว่า และ อลิซ ตัดสินจากตาอันคมกริบที่ได้มาจากสาวๆแล้ว จางเทีย ตัดสินขนาดของเธอได้เลย
‘ นี่แหละวัวนมตัวจริง ‘ จางเทีย แอบกลืนน้ำลาย
“ นายรวยรึไง ? ทำไมต้องซื้อของที่คนไม่ต้องการด้วย ? “
“ ฝันและความเชื่อน่ะวัดด้วยเงินไม่ได้หรอก !”
ในแผนที่เขาคิดมา คำพูดและการกระทำของเขาน่ะสมบูรณ์แบบซึ่งไม่มีใครหาข้อผิดพลาดได้เลย
“ แฮนนา เด็กนี่น่ะคือผู้ศรัทธาของโรงเรียนผู้พิทักษ์... “ - ฮาเร่ ที่ยืนอยู่ใกล้ๆตอบแทน
คำโกหกนี่น่าเชื่อถือจริงๆ ยังไงซะสิ่งมีชีวิตนี่ก็มีอยู่แทบทุกที่และแทบไม่มีคนโง่คนไหนที่อยากจะซื้อมัน
เมื่อได้ยินแบบนั้น ตาของ แฮนนา ก็แสดงความสนใจในตัว จางเทีย เล็กน้อย เมื่อเห็นว่าหลานสาวเขาสนใจในตัวเด็กผมดำ ฮาเร่ ที่ซึ่งเคยผ่านเรื่องรักใคร่มาก็รีบบอกให้ แฮนนา ไปทำงาน
“ แฮนนา เธอรีดนมวัวเสร็จแล้วเหรอ ? เร็วเข้า เอานมไปในครัวก่อนที่มันจะร้อน ถ้าเก็บไว้นานเกินไปมันจะไม่อร่อย “
ฮาเร่ ไม่ต้องการที่จะขายหลานสาวด้วยเงินไม่กี่เงิน ก่อนที่จะได้โดนผู้ชายหลอกเอา ผู้หญิงน่ะต้องสนใจในตัวผู้ชายคนนั้นตั้งแต่แรก ดังนั้น ฮาเร่ จึงไม่ต้องการเสี่ยงที่จะให้ไอ้เด็กนี่ทำให้ แฮนนา ท้องก่อนที่จะหนีไป แม้ว่าเด็กนี่จะเป็นผู้ศรัทธาแต่มันก็ไม่ได้มีข้อห้ามไหนที่ไม่ให้ผู้ศรัทธาทำคนท้อง
แฮนนา ถือเหยือกนมแล้วหันหลังกลับก่อนจะมองมาที่ จางเทีย อีกครั้ง
เมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะไป จางเทีย ก็พูดเรื่องไส้เดือนต่อกับ ฮาเร่ ฮาเร่ เดินไปที่เอาฟางที่ปิดออก จากนั้นก็ใช้ไม้ควานเพื่อเปิดดินออก จางเทีย เห็นไส้เดือนกว่าสิบตัวใต้มูลสัตว์พวกนั้น มันหดตัวแล้วรีบกลับไลงไปในดินทันที
ไส้เดือนพวกนี้น่ะอ้วนและแข็งแรง ถ้า จางเทีย ไม่ได้มาที่นี่เพื่อซื้อมัน พวกมันจะเป็นอาหารของไก่และเป็ด
“ มีไส้เดือนกี่ตัวในบ่อนี่ ? “ - จางเทีย ถาม
“ อย่างน้อยก็แสน ไม่มีใครนับหรอก เอาจริงๆแล้วการเกิดของพวกมันน่ะไวอย่างมาก ด้วยการที่มีความสามารถในการผลิตที่สูง ไส้เดือนแต่ละตัวจะวางไข่ 3-4 ครั้งต่อปี ให้กำเนิดลูกมาเป็นสิบๆในแต่ละครั้ง ดังนั้นแล้วหนอนจะให้กำเนิดมากว่าแสนตัวในหนึ่งปี ฉันก็เอาพวกนี้แหละไปให้อาหารไก่กับเป็ด ตราบใดที่เพิ่มของเสียและขี้วัวลงไป มันก็จะให้ลูกในไม่กี่วัน ดังนั้นแล้วฉันเลยไม่เคยเห็นว่าจำนวนมันจะลดลง ! “
“ คุณมีพาหนะมั้ย ? ผมแบกบ่อไส้เดือนแหละมูลสัตว์ไปในป่าแล้วฝังมันด้วยมือไม่ได้ ! “
“ แน่นอนว่ามี ฉันน่ะมีรถเข็นไม้ที่ใช้ไว้แบกขี้วัวและดิน ถ้านายทำเองไม่ได้ นายก็หาคนช่วยสักสองคน ฉันจะหาคนช่วยให้นายสองคนได้ถ้านายจ่างฉัน 2 เงินต่อวัน ! “
“ ได้ ! “ – หลังจากที่คิดสักพัก จางเทีย ก็ดึงกระเป๋าตังออกมาและนับ 25 เงินก่อนจะส่งมันให้กับ ฮาเร่ – “ 21 เงินค่าไส้เดือน 1 เงินค่ายืมรถเข็นและเครื่องมือ ส่วนที่เหลืออีก 3 ก็ค่าคนช่วย คุณหาคนจากในหมู่บ้านก็ได้ ! “
ฮาเร่ รับเงินไปแล้วยิ้มออกมาทันที หลังจากนั้นสักพักก็ได้มีรถเข็นที่มีกลิ่นขี้วัวพร้อมกับชายหนุ่มโผล่มาตรงหน้า จางเทีย ชายหนุ่มคนนี้คือหลานของ ฮาเร่ พี่ชายของ แฮนนา
เขาไม่คิดว่าบ่อไส้เดือนนี่จะมีค่าถึง 21 เงิน อีกอย่างแล้วเขาสามารถทำเงินได้ 3 เงินวันนี้ แม้ว่าจะให้ยืมพลั่วสองอันก็ทำเงินให้เขา 1 เงินแล้ว พี่ชายของ แฮนนา และสมาชิกครอบครัวนี้ดีใจกันอย่างมาก
คนใจดีมักจะได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหน
ในตอนที่เครื่องมือได้ถูกขนออกมา จางเทีย และพี่ชายคนนั้นได้เริ่มทำงาน พงกเขาเริ่มย้ายกองฟางออกจากบ่อ หลังจากนั้นพวกเขาก็ตักหนอนออกมาจากบ่อแล้วย้ายมันใส่ลงไปในถังไม้
จางเทีย ตื่นเต้นอย่างมาก เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่ามันจะราบรื่นแบนนี้
ด้วยสภาพร่างกายที่แย่กว่าแต่ก่อน จางเทีย ทำงานได้แค่ 3 นาทีก่อนที่จะหอบออกมาอย่างรุนแรง เขาใช้จอบเป็นตัวค้ำ จางเทีย พักอยู่ใกล้ๆส่วนพี่ชายนั้นก็เริ่มดูมีแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
“ ฮี่ฮี่ นายน่าจะพักล่ะดีละ ฉันทำงานคนเดียวได้ ! “
เมื่อเห็นท่าทีอ่อนแอของ จางเทีย พี่ชายคนนั้นก็ได้หัวเราะออกมา เขาขยับจอบตัวเองให้เร็วขึ้นไปอีก ในไม่กี่นาทีถังไม้นั้นก็เต็มไปด้วยขี้วัวและดิน อย่างน้อยมันก็มีไส้เดือนหมื่นตัว
เมื่อเห็นไส้เดือนเหล่านั้นจะเลื้อยออกมา จางเทีย ก็รีบเอาฟางไปปิดเพื่อไม่ให้มันโดนแสง
“ เราจะไปไหนกัน ? “ - พี่ชายได้ถาม จางเทีย
“ ฉันไม่คุ้นกับภูมิประเทศ ถ้านายรู้สึกว่าที่ไหนเหมาะสำหรับจะให้พวกไส้เดือนอยู่ นายก็พาฉันไปได้เลย ! “
ในที่สุดพี่ชายคนนั้นก็ได้พา จางเทีย ไปที่ข้างแม่น้ำทางทิศใต้ของหมู่บ้าน แม่น้ำถูกขุดขึ้นมาเมื่อหลายปีก่อน ด้านล่างมีทางลาดลง มีต้นไม้หลายต้นถูกปลูกไว้ข้างแม่น้ำ ไกลออกไปอีกนิดเป็นสวนผัก หลายคนน่ะได้กองผักเน่าเอาไว้ใกล้ๆกับแม่น้ำซึ่งปกคลุมไปด้วยวัชพืชมากมาย จางเทีย ได้ตัดสินใจว่าสภาพแวดล้อมที่นี่แหละเหมาะกับการให้ไส้เดือนอยู่รอดได้
เขาเปิดดินใกล้ๆทางลาดออกโดยใช้จอบและเช็คดู เขาพบว่าดินนั่นอ่อนและมีไส้เดือนอยู่หลายตัว ในตอนที่ จางเทีย ขุดลงไป มีหนอนหลายตัวในดินที่พยายามหลบแสงอาทิตย์
สำหรับไส้เดือนที่อาศัยอยู่ในบ่อมาก่อนและมีโชคชะตาที่จะต้องเป็นอาหารแล้ว ที่นี่แม้ว่าจะไม่ใช่สวรรค์แต่ก็เกือบถือได้ว่าเป็นสวรรค์ย่อมๆได้
ตอนนี้ จางเทีย ได้คิดที่จะปล่อยมันไว้ที่นี่ การทำทีละขั้นตอนน่ะง่ายที่สุด เขาได้ร่วมมือกับพี่ชายคนนั้นแล้วขุดหลุมลึกกว่า 30-40 ซม. จากนั้นพวกเขาก็ได้เอาไส้เดือนที่เอามานั้นเทลงไป หลังจากนั้นก็เอาดินไปคลุมด้านหน้าดินเอาไว้ทำให้มันพร้อมให้ไส้เดือนจะไปอยู่ได้
การปลดปล่อยไส้เดือนนี่เป็นงานง่ายๆ ใช้เวลาเกือบทั้งวันกว่าทั้งสองคนจะย้ายไส้เดือนในบ่อของ ฮาเร่ ได้แค่ 95% สุดท้ายก็มีส่วนดินและมูลสัตว์ในบ่อซึ่งมีพื้นที่ 7-8 ตร.ม.เหลืออยู่ ตามคำอธิบายของ ฮาเร่ แล้ว พวกมันเหลือไว้เพื่อจะเอาไว้ผลิตใหม่ แค่เพิ่มมูลสัตว์กับของเสียลงไป บ่อนี้ก็จะเต็มไปด้วยไส้เดือนอีกครั้งในเวลาไม่ถึงปี
ทั้งวัน จางเทีย และพี่ชายคนั้นได้เข็นรถไปมาอยู่หลายรอบ ตอนนั้นเองข้อความที่ว่า จางเทีย น่ะซื้อไส้เดือนก็กระจายไปทั่วทั้งหมู่บ้าน ผลก็คือชาวสวนทุกคนรู้ว่าผู้ศรัทธาของโรงเรียนผู้พิทักษ์ได้มาที่นี่ เขาต้องการที่จะปล่อยไส้เดือนที่พวกเขาเลี้ยงกันมาในป่า คนนี้ไม่ใช่แค่ผู้ศรัทธาแต่ยังใจดีให้เงิน 25 เงินกับครอบครัว ฮาเร่ ในวันนี้ มันน่าชื่นชมสำหรับคนแถวนี้ที่ทำเงินได้มากขนาดนี้ในวันเดียว ไส้เดือนพวกนี้มีค่าขึ้นมาขนาดนั้นได้ยังไง ?
เพราะความใจดีของเขาทำให้ จางเทีย ได้รับการต้อนรับอย่างดีในบ้าน ฮาเร่ เขากินมื้อเที่ยงและมื้อเย็นที่นี่แต่เพราะเขาน่ะอยากรีบกลับไปเช็ค Fruit of Redemption หลังจากที่กินมื้อเย็นเสร็จ เขาก็ไม่ได้อยู่ที่บ้าน ฮาเร่ ต่อ เขากลับไปที่บ้านเช่าของเขาแทน
“ นายอยากได้ไส้เดือนเพิ่มมั้ย ? ฉันก็เลี้ยงไว้เหมือนกัน ..”
“ บ่อฉันน่ะตัวใหญ่กว่า ฮาเร่ อีก มันมีไส้เดือนมากกว่า ฮาเร่ ด้วย ฉันอยากได้แค่ 20 เงินพอ.. “
“ ฉันต้องการแค่ 19 เงิน ! “
เมื่อเห็นผู้คนเถียงกันรอบตัว จางเทีย ก็รู้สึกอึ้งและตะโกนออกมาดังๆโดยยืนอยู่บนเกวียน - “ เงียบด้วย ! “
ทุกคนเงียบลงทันทีแล้วมองมาที่ จางเทีย ที่ซึ่งยืนอยู่บนเกวียน เพราะ จางเทีย น่ะเป็นเจ้าหน้าที่ของแคมป์เหล็กโลหิต ตั้งแต่ที่เขาออกจากสนามรบมาเขาได้มีบุคลิกที่มั่นคงซึ่งแน่นอนว่าช่วยให้เขาควบคุมสถานการณ์ได้
“ กลับบ้านไปก่อน ผมจะกลับมาในอีกไม่กี่วัน ผมอยากได้ไส้เดือนของทุกคน ไม่ต้องกังวล ผมจะกลับมาซื้อของทีละบ้านๆ ผมจะซื้อแค่ไส้เดือนที่พวกคุณเลี้ยงไว้ในบ่อ สำหรับพวกที่มีตามธรรมชาติ ผมไม่ซื้อ ราคาก็เท่ากับที่ ฮาเร่ ได้วันนี้ ! “
เมื่อได้ยินแบบนั้นทุกคนก็กลับไปกันอย่างพอใจ
แฮนนา ยืนอยู่นอกบ้านมองดู จางเทีย ที่ยืนอยู่บนเกวียนคอยกล่อมให้คนกลับบ้านด้วยคำพูดแค่ไม่กี่ประโยค ตาของเธอเริ่มเป็นประกายมากกว่าเดิม
จางเทีย ไม่รู้ว่าเด็กจีนสุดหล่อคนนี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับพวกกำยำที่อยู่ในหมู่บ้าน สาวๆหลายคนน่ะได้หลงเสน่ห์เขา สิ่งที่เขาทำในหมู่บ้านนี้ทำให้สาวๆหลายคนสนใจเหมือนกับที่ แฮนนา สนใจ
...
ในตอนที่ จางเทีย ได้กลับมาที่บ้านเช่า มันก็ดึกแล้ว เสียงของไวโอลินยังดังออกมาจากห้องเจ้าของที่ชั้นแรก เสียงของเด็กดังมาจากชั้นสองและชั้นสามยังคงว่างเปล่า ส่วนที่ประตูห้อง จางเทีย มีกระดาษแปะเอาไว้
“ ขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ ขอบคุณที่ดูแลฉัน ถ้าฉันทำเสื้อผ้านายเปื้อน นายเอามันลงมาวางที่ประตูห้องฉันได้ ฉันจะซักมันให้เอง --- ลินดา “
‘ ดูเหมือนว่าเธอจะชื่อ ลินดา และเธอมาที่นี่เพื่อพบฉัน ! ‘
จางเทีย แทบจะลืมเรื่องเล็กน้อยนี่ไปเลย เพราะเธอน่ะเมา มันไม่จำเป็นที่เขาจะโกรธเธอ เขายิ้มออกมาแล้วฉีกกระดาษออกพร้อมกับเปิดประตูแล้วเดินไปข้างใน
ในตอนนั้นหัวใจของ จางเทีย ก็เต้นรัวราวกับน้ำร้อนเดือด เขาพยายามที่จะควบคุมสติตัวเอง
‘ อดทนไว้ ‘ เขาเตือนกับตัวเองอีกครั้ง
เพราะเขาเสียเหงื่อไปมากในวันนี้และงานในวันนี้ก็ไม่สะอาด จางเทีย น่ะยังคงเต็มไปด้วยกลิ่นของเสีย ก่อนที่เขาจะเข้าไปใน Castle of Black Iron เขาได้ใช้เวลากว่า 10 นาทีเพื่ออาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า
...
---- ยินดีต้อนรับเจ้าของปราสาทสุดหล่อเหลาและวิเศษสู่ Castle of Black Iron !
ในตอนที่คำพูดนี้ค่อยๆหายไป จางเทีย ก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะเดินไปที่ต้นไม้
ต้นไม้เล็กนี้รึกฎของกรรมนั้นไม่ได้ทำให้ จางเทีย ผิดหวัง ตอนนั้นกิ่งตรงกลางต้นไม้นั้นมีผลไม้ห้อยอยู่สองผล
สองผลนี้คือ Fruits of Redemption ทั้งคู่ อันหนึ่งมีสีเชียวซีด ส่วนอีกอันเป็นสีชมพู พวกมันเหมือนกับลูกพีช อันหนึ่งสุกแล้ว ส่วนอีกอันนั้นยังไม่สุก
อันสีเขียวซีดนี้คือแรงของด้วงทองคำซึ่งยังไม่สุก จางเทีย ไม่ได้สนใจอะไรมันมาก เขากลับเอื้อมมือออกไปหาผลสีชมพูแทน
----- Fruits of Redemption จากคำขอบคุณของไส้เดือนได้สุกแล้ว การใช้ : เก็บและกินโดยตรง เตือน : ผลไม้นี้เอาออกจาก Castle of Black Iron ไม่ได้ หลังจากที่เด็ดไป 12 ชม. พลังงานและความอดทนของมันจะลดลง
---- ผลไม้นี้สามารถฟื้นฟูบาดแผลของคุณได้ 1.3%
ด้วยเงินแค่ยี่สิบกว่าเงิน จางเทีย ได้พัฒนาสภาพร่างกายตัวเองได้ 1.3% หลังจากที่อ่านจบ จางเทีย ก็อึ้ง จากนั้นเขาก็ได้หัวเราะออกมาดังๆ ตอนนั้น จางเทีย เข้าใจว่าเงินน่ะสำคัญอย่างมาก แม้ว่ามันจะไม่ใช่มาตรฐานไว้วัดทุกสิ่งแต่ถ้าไม่มีไส้เดือน ไม่ว่าเขาจะใช้เงินไปมากแค่ไหนเขาก็ไม่อาจฟื้นฟูร่างกายของตัวเองได้
บางทีมันก็คล้ายกับชนิดของคนก่อนเกิดภัยพิบัติ คนในยุคนี้น่ะใช้เงินเพื่อวัดทุกอย่าง เขาได้ปล่อยไส้เดือนกว่า 7-8 หมื่นตัวในวันนี้ แม้ว่าชีวิตพวกนั้นจะมีค่าแค่ไม่กี่เงินในสายตาคนอื่นแต่พวกเขาไม่รู้เลยว่าทุกชีวิตน่ะเป็นการแสดงออกถึงผู้สร้างซึ่งวัดด้วยเงินไม่ได้ ในสายตาของผู้สร้างแล้วหญ้าที่มีชีวิตและไส้เดือนน่ะอาจจะมีค่ามากกว่าปราสาทก็ได้
พวกคนรวยๆควรที่จะถูกตัดสินโดยคนอื่นรึสายตาของผู้สร้างรึเปล่า ? ในอีกความหมายคนรวยน่ะควรที่จะรวยจากมุมมองทั้งด้านจิตใจและการคิดถึงผู้สร้าง !
ความกระจ่างพวกนี้น่ะแว็บขึ้นมาในหัวของ จางเทีย
Fruit of Redemption ได้ทำให้คนเรารู้สึกแปลกใหม่ที่ทำให้รูขุมขนนั้นขยายตัวออกเพราะความตื่นเต้น หลังจากที่เก็บผลไม้แล้วกินมัน มันก็เริ่มที่จะแผ่ไปทั่วตัวเขาเหมือนกับโดนหนอนชอนไช จางเทีย รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าที่ที่เขาอึดอัดแต่ก่อนนั้นเริ่มสงบายขึ้นเมื่อความรู้สึกอุ่นๆนี้ไหลผ่าน
มันดีที่กินผลไม้นี้ ในระหว่างตอนนั้น จางเทีย รู้สึกเหมือนกับมีมือเล็กๆนับไม่ถ้วนที่กำลังนวดเขาอยู่ทั้งด้านในและด้านนอก เขาเคลิบเคลิ้มไปกับมันจนแม้ว่าจะหมดผลของมันแล้วเขาก็ยังนั่งอยู่ที่พื้นและสนุกกับความทรงจำเมื่อตะกี้อยู่นานก่อนจะยืนขึ้น
หลังจากที่ยืนขึ้นแล้ว จางเทีย ได้ลองขยับดูเพื่อทดสอบสภาพร่างกาย แม้ว่ามันจะเพิ่มขึ้นมาแค่ 1.3% แต่ จางเทีย ก็รู้สึกดีกว่าแต่ก่อนนิดหน่อย เพราะสภาพร่างกายเขาแย่อย่างมาก แม้ว่าจะเพิ่มขึ้นมาแค่ 1.3% แต่เขาก็ยังรู้สึกว่ามันพัฒนาอย่างชัดเจน
ตราบใดที่เขายังปล่อยไส้เดือนอยู่ เขาจะฟื้นตัวกลับมาเป็นคนปกติได้ในเวลาไม่กี่เดือน
จางเทีย ถอนหายใจออกมา....
ด้วยความเร็วนี้ เขารู้ว่าเขาจะฟื้นตัวได้เต็มที่ มันเหมือนกับปาฏิหาริย์ในเวลาแค่ 3-4 เดือน บางทีในตอนที่เขาฟื้นตัวได้เต็มที่ การปรับปรุงของแคมป์เหล็กโลหิตก็อาจจะยังไม่สมบูรณ์ ยังไงซะการสูญเสียของแคมป์เหล็กโลหิตก็เยอะจริงๆในครั้งนี้
ถ้าเขาฟื้นตัวได้เต็มที่ เขาจะกลับไปที่แคมป์เหล็กโลหิตเหรอ ? ในตอนที่เขาคิดแบบนั้น จางเทีย ก็ลังเลในใจ เขารู้ว่าถ้าเขากลับไปแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นหลังจากที่โดนตัดสินแล้วว่าเป็นคนพิการโดยหมอหลายคนเพราะอาการของเขา งั้นเขาก็จะกลายเป็นที่รู้จักกันทั่วทั้งกองทัพเขาเหล็ก เขากลัวว่าถ้าเขาทำแบบนั้น หลายคนจะเริ่มสงสัยในคำโกหกของเขาที่โดนฟ้าผ่ามา ไม่ว่าจะฉลาดแค่ไหน เขาก็ไม่อาจจะทำแบบนั้นได้
กองทัพเขาเหล็กนั้นไม่ใช่เมืองแบล็คฮ็อต ถ้าเขาทำให้คนอื่นสงสัย จางเทีย ไม่มั่นใจว่าเขาจะเก็บความลับเรื่อง Castle of Black Iron ได้รึเปล่า
จางเทีย สงสัยกับคำถามตัวเองจริงๆแต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เขาก็สลัดมันออกจากหัว ไม่ว่ายังไงเมื่อเขาฟื้นตัวได้เมื่อไหร่รึแคมป์เหล็กโลหิตกลับมา มันก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยตั้ง 3-4 เดือน เขาไม่จำเป็นต้องคิดเรื่องนั้นในตอนนี้
เมื่อคิดแบบนั้น จางเทีย ก็ผ่อนคลายลง
เพราะเขามีเวลาว่างพอในคืนนี้ อย่างแรกเลยเขาจึงทำการบ่มเพาะใน Castle of Black Iron สักพัก จากนั้นก็สร้างโซ๋ผูกมัดโดยใช้พลังวิญญาณของเขา หลังจากนั้นเขาก็ได้เริ่มฝึกคิดเลขในใจโดยใช้ลูกคิดสองอันพร้อมกันเพื่อฟื้นฟูพลังวิญญาณเล็กน้อย หลังจากที่ทำทั้งหมดแล้วเขาก็รู้สึกพอใจอย่างมากและหลับไป
หลังจากนั้น จางเทีย ก็กลายเป็นคนโด่งดังที่สุดในหมู่บ้านเชฟวี่....