spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 224: เชฟวี่
ที่ด้านเหนือของบาปี โทนิคาสเป็นเมืองเล็กที่อยู่ในเขตชนบท นอกจากจะกว้างแล้วก็มีที่ดินที่ไม่มีเจ้าของมากมาย ในพื้นที่หลายร้อยตารางกิโลเมตรนั้นมีหมู่บ้านฟาร์ม จางเทีย เดาว่าย่าของเด็กนั่นก็น่าจะอยู่ที่นี่ด้วย
จางเทีย นั่งรถม้ามาที่เมืองโทนิคาส ในตอนที่เขามาถึง รถม้าสี่ล้อนี้เหมาะเพียงแค่การเดินทางในเมืองที่เป็นที่ราบ พวกมันไม่สามารถใช้เดินทางในป่าได้เพราะเส้นทางนั้นเต็มไปด้วยหลุมซึ่งเหมาะกับเกวียนมากกว่าแต่มันเคลื่อนที่ได้ช้ารึไม่ก็ขี่ม้าโดยตรงจะดีกว่า
หลังจ่ายเงินไปหลายทองแดง จางเทีย ก็ได้ลงจากรถม้าที่เมืองเล็กๆอย่างโทนิคาส เขาถามตำแหน่งของเชฟลี่จากบางคนในเมือง จากนั้นก็ได้เดินตรงไปเพราะมันห่างออกไปแค่ 2-3 กม.
คนในเมืองบาปีนั้นซื่อสัตย์และใจดี อีกอย่างแล้ว จางเทีย น่ะมีหนังสือรับรองตัวในกระเป่า เขาไม่ได้กลัวว่าจะมีการสร้างปัญหาแต่อย่างใด
ฟาร์มรอบๆน่ะอุดมสมบูรณ์ ชาวไร่หลายคนนั้นกำลังทำงานที่พื้นที่ตัวเองรอบๆบาปีนั้นเพิ่งจะหว่านเมล็ดพันธุ์เสร็จ
จางเทีย ได้ยินมาจากคนขับรถว่าเพื่อที่จะฉลองกับการเก็บเกี่ยวที่ดีในปี และก่อนที่การหว่านเมล็ดที่เสร็จแล้วจะมีงานเบียร์ เป็นเทศกาลที่คึกคัดที่สุดในบาปีเป็นประจำทุกปีซึ่งจะจัดในเดือนหน้า สาวๆทุกคนในเมืองจะมาเอาเบียร์ที่ตัวเองทำมาโชว์ สาวโสดที่ซึ่งสามารถทำเบียร์ได้ดีจะถือว่าเป็นดาวของคนทั้งเมือง ในสายตาผู้ชายในเมืองนี้แล้ว มันเป็นเรื่องมีความสุขที่สุดที่จะได้แต่งงานกับสาวเก่งแบบนี้
จางเทีย เดินไปตามทางไปเรื่อยๆแล้วชมทิวทัศน์รอบๆ ในเวลาเดียวกันเขาก็คิดถึงเรื่องการช่วยไส้เดือน นี่เป็นครั้งแรกแต่ไม่ใช่อย่างสุดท้ายที่เขาจะต้องปล่อยไส้เดือนแน่ เพื่อที่จะสร้าง Fruit of Redemption ให้สุกและทำให้ร่างกายเขาฟื้นให้เร็วที่สุด จางเทีย ต้องเตรียมตัวทำเรื่องนี้ในระยะยาว
คนที่มาจากที่อื่นหวังจะคิดซื้อไส้เดือนที่ปกติจะเอาเป็นอาหารให้ไก่และเป็ด นี่จะทำให้เกิดความสงสัยขึ้น ถ้าเขาไม่ต้องการให้พวกนั้นสนใจเขาและเขาต้องถอยกลับไป เขาต้องหาเหตุผลเหมาะๆเพื่อกล่อมพวกนั้น
เขาควรบอกพวกนั้นว่าเป็นความลับในการรักษาโรคในดินดีมั้ย ? เขากลัวว่าทุกคนจะคิดว่าเขาบ้า แล้วข้อแก้ตัวที่เขาจะใช้เพื่อปล่อยไส้เดือนพวกนั้นโดยคนอื่นไม่ต้องสงสัยคืออะไร ?
จางเทีย นึกถึงโรงเรียนผู้พิทักษ์ที่เป็นโรงเรียนที่บูชาแผ่นดิน คำสอนของโรงเรียนนี้เองก็รวมไปถึงการดูแลทุกอย่างของแผ่นดินและปล่อยให้พวกนั้นฟื้นคืนอย่างสมดุล ผู้ศรัทธาของโรงเรียนนั้นรักดอกไม้และต้นหญ้า แน่นอนว่าพวกเขาก็ต้องรักสัตว์ตัวเล็กๆ เขาอาจจะสามารถใช้เรื่องนี้ได้ ย่าเทเรซ่า เคยบอกเขาว่าผู้ศรัทธาของโรงเรียนนี้น่ะได้ปล่อยสัตว์ที่ถูกขังไว้,เป็นทาสรึกำลังจะโดนฆ่า
‘ บางทีฉันอาจจะต้องใช้กฎป่าเถื่อนอีกครั้ง ‘ จางเทีย พึมพำในใจ
หลังจากที่เดินไปที่เส้นทางข้างๆสวนกว่า 1 กม. ก็ได้มีเสียงล้อของเกวียนดังขึ้นมา เขาหันกลับไปดูและพบว่าเกวียนนั้นค่อยๆมุ่งหน้าที่เขา เกวียนนั้นมีกองฟางแห้งมาด้วย คนขับคือชายวัย 60 ปีที่ใส่หมวกฟางและใส่เสื้อผ้าลินินสีขาว เพราะเส้นทางข้างๆไร่นั้นแคบอย่างมาก เมื่อเห็นเกวียนขี่เข้ามา จางเทีย ก็รีบหลบไปยืนข้างๆเพื่อให้ทาง
“ ไอ้หนู นายมาทำอะไรที่นี่ ? “ – ชายชราถามด้วยคามกระตือรือร้นเมื่อเห็น จางเทีย เดินอยู่คนเดียว
“ เชฟวี่ ! “
“ โฮ่โฮ่ ถ้านายจะไปนั่นก็ขึ้นเกวียนมา ฉันเองก็จะไปเชฟวี่เหมือนกัน ! “ – ชายชราได้หยุดวัวลง
จางเทีย ยิ้มกลับและปีนขึ้นไปบนเกวียนแล้วนั่งลงบนกองฟาง เขากับชายชรามุ่งหน้าสู่เชฟวี่
“ ไอ้หนู นายดูไม่เหมือนคนที่อยู่ในเชฟวี่เลย นายไปที่นั่นทำไม ไปหาเพื่อนรึญาติ ? “ - ชายชราถาม
“ อื้อม ผมเพิ่งมาอยู่บาปีได้สั้นๆ ผมได้ยินมาว่าหลายครอบครัวในเชฟวี่น่ะเลี้ยงไส้เดือน ดังนั้นแล้วผมเลยอยากไปดูที่นั่น ! “ – เมื่อตระหนักได้ว่าชายชราอาจจะเป็นคนเมืองนั้น จางเทีย ก็ใช้แผนป่าเถื่อนของเขาทันที
“ ไส้เดือน ? ทำไมล่ะ ? “ - ชายชราถามออกมาด้วยความสงสัย – “ไม่ใช่ว่าพวกมันมีไว้แค่ให้อาหารไก่กับเป็ดหรอกเหรอ ? “
“ การใช้งานที่ดีที่สุดของไส้เดือนน่ะไม่ใช่เป็นอาหารสัตว์ ! “ - จางเทีย เผยสีหน้าใสซื่อออกมา – “ ถ้าผมปล่อยพวกมันในป่า พวกมันจะทำให้ดินมีสารอาหารมากกว่าเดิมในตอนที่ถึงฤดูใบไม้ผลิ ประโยชน์จากเรื่องนี้ก็ดินจะมีสารอาหารเพิ่มขึ้นและพร้อมที่จะปลูก สิ่งมีชีวิตเล็กๆน่ะคือของขวัญจากกายา แม่ของแผ่นดิน ! “
ในตอนที่ได้ยินแบบนั้น เขาก็แสดงสีหน้าตะลึงออกมา เขามองไปที่ จางเทีย อีกครั้ง – “ เจ้าคือผู้ศรัทธาของโรงเรียนผู้พิทักษ์งั้นเหรอ ? “
“ ใช่ ผมอยู่ในเมืองแบล็คฮ็อตมาก่อนตอนที่ผมได้ทำสัญญากับโรงเรียน ผมน่ะคือผู้ศรัทธาของโรงเรียนผู้พิทักษ์ ! “ - จางเทีย ยิ้มออกมา
ชายชราลังเลไปสักพัก – “มันก็จริงที่มีคนเลี้ยงไส้เดือนในหมู่บ้านเชฟวี่และรอบๆหมู่บ้านด้วย นายพูดถูก แต่มันอาจจะยากที่จะกล่อมพวกนั้นให้มอบไส้เดือนให้นายเพราะนายพูดแบบนั้นแต่นายน่าจะไปลองดู บางทีอาจมีคนอยากทำแบบนั้นก็ได้ ! “
“ แน่นอนว่าผมคงไม่ให้เขามอบให้มาฟรีๆหรอก ไม่ว่ายังไงไส้เดือนนั่นก็มีคุณสมบัติของพวกมัน ดังนั้นผมวางแผนที่จะซื้อมันเพื่อปล่อยมันเป็นอิสระ ! “
“ ซื้อ นายหมายถึงซื้อสิ่งไร้ประโยชน์แบบนั้นน่ะเหรอ ? “ – ชายชราอึ้งยิ่งกว่าเดิม
“ แน่นอน แม้ว่าผมจะเป็นผู้ศรัทธาแต่ไม่มีใครที่บอกให้เรานึกถึงคุณสมบัติของคนอื่นรึการสนับสนุนพวกเราเองโดยให้คนอื่นต้องเสียหายรึขาดทุนเพื่อสิ่งที่ถูกต้องหรอก ! “
เมื่อได้ยินคำพูดของ จางเทีย หลังจากนั้นไม่นานชายชราก็เริ่มรู้สึกละอายทีละนิดๆ เขาถาม จางเทีย ออกมาเบาๆ – “ เอิ่ม..ถ้านายอยากซื้อ นายต้องการเท่าไหร่ล่ะ ? ฉันเองก็เลี้ยงไส้เดือนนั่นด้วย ! “
จางเทีย ไม่คิดเลยว่าเขาจะเจอคนเลี้ยงไส้เดือนได้เร็วแบบนี้ มันถือว่าเป็นโชคดีจริงๆ
“ คุณคิดว่าผมต้องจ่ายค่าไส้เดือนที่พวกเขาเลี้ยงเท่าไหร่ ? “ - จางเทีย ถามชายชรา
“ ถ้านายจ่ายได้สัก 20 ...ไม่สิแค่ 18 เงินสำหรับหนึ่งบ่อ ฉันเดาว่าคนส่วนมากคงยอมขายของไร้ประโยชน์พวกนั้น ! “
หน้าของชายชราแดงเล็กน้อย เขารู้สึกอึดอัดกับการต่อราคากับเด็กใจดีสำหรับสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีใครต้องการซื้อมันมาก่อน
‘ เขาถือว่าเป็นคนน่ารักใช้ได้เลย ‘ จางเทีย ยิ้มในใจ
“ งั้นผมจะจ่าย 21 เงินต่อบ่อ.. “ - จางเทีย ทำสีหน้าเคร่งขรึมและแสดงความสงสารออกมา – “ ตราบใดที่ผมส่งพวกมันกลับไปหากายา แม่ของแผ่นดินได้และสามารถทำให้แผ่นดินนี้อุดมสมบูรณ์กว่าเดิม ผมไม่สนเรื่องเงินเลยสักนิด “
เมื่อได้ยินแบบนั้น ชายชราก็ยิ่งอายมากกว่าเดิมอีก
เกวียนยังคงเดินหน้าไปเรื่อยๆ หลังจากที่ออกจากเส้นทางนั้นแล้วถนนก็เริ่มกว้างขึ้นพอให้เกวียนสองคันผ่านได้พร้อมกันแต่สภาพถนนนั้นก็ยังไม่ดี จางเทีย ที่นั่งอยู่บนเกวียนได้คุยกับชายชราและเรียนรู้เรื่องอื่นๆมากมาย
ชายชรานั้นชื่อ ฮาเร่ ชาวสวนของเชฟวี่ หลายคนในหมู่บ้านน่ะเลี้ยงไส้เดือนจริงๆ แม้แต่ครอบครัวที่อยู่รอบๆหมู่บ้านก็เลี้ยงด้วย ผู้คนเลี้ยงมันเพราะสองเหตุผล อย่างแรกเลยคือเลี้ยงง่าย อย่างที่สองถ้าไส้เดือนถูกใช้เลี้ยงไก่รึเป็ด พวกมันจะประหยัดค่าอาหารขึ้นอย่างมาก
หลังจากที่เดินทางมาได้กว่าสิบนาที ในที่สุด จางเทีย ก็ได้มาถึงเชฟวี่ซึ่งมีบ้านเกินร้อยมานิดหน่อย คนนอกไม่กี่คนจะมาเยี่ยมหมู่บ้านนี้บ้าง โดยเฉพาะคนแบบ จางเทีย ที่ซึ่งเป็นเด็กจีน เขานั่งอยู่บนเกวียน เมื่อเข้ามาในหมู่บ้านพร้อมกับ ฮาเร่ เขาก็เป็นที่สนใจของคนหลายๆคน
“ เฮ้ ฮาเร่ เด็กจีนนั่นใครกัน ? ใช่คนของ แฮนนา รึเปล่า .. “ – บางคนตะโกนถามออกมาข้างๆถนน
“ ไปให้พ้นเลย.. “ - ฮาเร่ เริ่มหมดความอดทนแล้วฟาดแส้ลงไป เขาไม่ได้อธิบายว่า จางเทีย มาที่นี่เพราะอะไร ในตอนที่มีคนน้อยรอบตัวเขา เขาจะกังวลและหันกลับมาถามและพูดขึ้น – “ เอิ่ม..ไส้เดือนของข้า.. “
“ ไม่ต้องกังวล ผมจะซื้อไส้เดือนของคุณก่อนจะดูของคนอื่น ! “
หลังจากที่ทำงานที่ร้านชำมาหลายปี จางเทีย มีสายตาที่คมกริบ แน่นอนเขารู้ว่า ฮาเร่ นั้นห่วงเรื่องอะไร แม้ว่าคนในบาปีนั้นจะเป็นคนเรียบง่ายและซื่อสัตย์แต่พวกเขาก็ยังต้องยอมแพ้เงิน โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกลแบบนี้ มันก็เหมือนกับที่อื่น นอกจากขายธัญพืชที่ได้มาแล้ว ผู้คนมีโอกาสน้อยที่จะทำเงินเพิ่ม
จางเทีย ไม่นานก็เห็นที่ที่ซึ่ง ฮาเร่ ได้เลี้ยงไส้เดือนเอาไว้
มันเป็นบ่อเล็กๆที่สร้างด้วยอิฐซึ่งลึกกว่า 30 ซม. มีพื้นที่กว่า 7-8 ตร.ม. บ่อเล็กๆนี่มีตาข่ายกันอาไว้เผื่อว่าเป็ดกับไก่จะเข้ามากิน มันมีฟางคลุมเอาไว้เพื่อกันไม่ให้แสงแดดส่องเข้ามา ด้านล่างฟางก็จะเป็นกองขี้ของสัตว์ต่างๆและดิน
นี่แหละคือวิธีที่คนเลี้ยงไส้เดือนขึ้นมา หลังจากที่กองพวกนี้รวมกันกับของเสียแล้วเอาฟางคลุม พวกเขาไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องอาหารสำหรับไก่และเป็ดอีกต่อไป
จางเทีย รู้ว่านี่คือความหวังสุดท้ายของเขาและปฏิหารย์ในการฟื้นฟูนั้นอยู่ที่กองของเสียพวกนี้
นี่เป็นครั้งแรกที่รู้สึกได้ถึงของความสุดยอดของการจัดการของแต่ละชีวิต