spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 218: กลับเข้าไป Castle of Black Iron อีกครั้ง
ในตอนที่ จางเทีย ออกจากแผนกมา เขาก็ได้รับหนังสือยืนยันอันใหม่ มีดาวเพิ่มขึ้นอีกอันบนบ่าเครื่องแบบเขาบ่งบอกว่าร้อยโทขั้นสอง จางเทีย ได้เลื่อนขั้นอย่างทางการเป็นร้อยโทขึ้นหนึ่ง อีกอย่างแล้วเขาได้รับเงินและเสบียงเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า เพราะแผลที่เขาได้รับจากการต่อสู้ เขาได้รับเงินมากถึง 71 ทอง บวกกับสมบัติที่เขาเก็บมาได้จากสนามรบ กระเป๋าตังของเขาซึ่งแทบไม่มีเงินตอนที่ออกจากแบล็คฮ็อตมานี้เริ่มบวมขึ้นอีกครั้งเพราะเขามีเงินรวมกันมากถึง 100 ทอง
ก็อย่างที่สุภาษิตว่าไว้ ‘ ชายที่แท้จริงน่ะไม่มีอำนาจส่วนชายทั่วไปไม่น่าจะมีเงิน ‘ จางเทีย รู้สึกว่าเขาเกิดมาเป็นชายทั่วไปเพราะเขาไม่ได้สนเรื่องอำนาจ ใครจะรู้ว่าทำไมเป็นแบบนั้น บางทีอาจเพราะเขาเคยจนมาก่อน แต่เมื่อใช้ชีวิตด้วยเงินที่เขามีแล้ว เขาก็รู้สึกวางใจขึ้นกว่าเดิม
ผู้การสกาโต้ ได้ให้พลตรีจากแผนกกิจการขับไปส่ง จางเทีย ไปยังที่ที่เขาจะทำงานเพื่อช่วยให้เขาจำเส้นทางได้
แผนกอุปกรณ์ทีม 9 นั้นจริงๆแล้วเป็นหน่วยซ่อมบำรุงอยู่ในด้านทิศตะวันออกของเมือง เพราะเมืองนี้ไม่มีกำแพง จางเทีย เลยไม่รู้ว่าฐานของแผนกนี้อยู่ในเมืองรึอยู่ด้านนอก
อาคารนี้ก็ไม่ได้ทำให้ จางเทีย รู้สึกอ้างว้างเพราะเขาเห็นอาคารมากมายรอบๆ พูดแบบมีขอบเขตแล้วพื้นที่นี่น่ะอยู่เขตชานเมือง ใกล้ๆกับพื้นที่นี้คือส่วนจอดยานและคลังเก็บของมากมาย
หน้าที่หลักของแผนกอุปกรณ์ทีม 9 นี้คือดูแลพาหนะของแผนก ดังนั้นแล้วอาคารนี้จึงมีพื้นที่อย่างน้อย 6667.7 ตรม. ครึ่งหนึ่งน่ะทำขึ้นมาจากแผ่นและกระเบื้องเหล็ก พาหนะมากมายถูกจอดอยู่ด้านในเพื่อให้พวกเขาดูแล
นอกจาก จางเทีย แล้วก็ยังมีคนในแผนกนี้กว่า 136 คน ส่วนมากไม่ใช่คนที่ปลดประจำการ ก่อนที่ จางเทีย จะมาถึงที่นี่ ตำแหน่งของหัวหน้านั้นได้ว่างมานานกว่า 5 เดือนแต่ทุกอย่างที่นี่น่ะทำงานได้อย่างปกติไม่มีข้อผิดพลาดเลยสักนิด
สำหรับหัวหน้าคนเก่านั้นเขามีปัญหาเรื่องสุขภาพและถึงวัยเกษียร เขาได้เกษียรก่อนที่กองทัพเขาเหล็กจะเข้าโจมตีพันธมิตร
หลังจากที่ได้รับข้อมูลต่างๆแล้ว จางเทีย ก็เข้าใจว่าตำแหน่งนี้ถือว่าเป็นตำแหน่งพิเศษ เขาไม่จำเป็นต้องลงไปซ่อมพาหนะ อีกอย่างแล้วก็ไม่มีปัญหาใหญ่ๆอะไรเกิดขึ้นในหน่วยนี้เพราะมันเกี่ยวข้องกับการซ่อม
ผู้การสกาโต้ นั้นได้จัดตำแหน่งที่ดีให้กับ จางเทีย จริงๆ
พลตรีได้เรียกรวมทุกคนทั้ง 136 คนในหน่วยมาทักทาย จางเทีย ในบรรดาพวกนั้นคนที่มีตำแหน่งสูงสุดคือร้อยโทขั้นสองโดยเขาเป็นรองหัวหน้า แน่นอนว่าเขาจะกลายเป็นผู้ช่วยของ จางเทีย เมื่อได้ยินพลตรีแนะนำตำแหน่งของ จางเทีย แล้วร้อยโทขั้นสองคนนั้นก็กังวลเล็กน้อย
“ ร้อยโทขั้นแรก จางเทีย ก่อนหน้านี้คือเจ้าหน้าที่ของแคมป์เหล็กโลหิตทีม 39 เพราะการกระทำของเขา เขาจึงได้รับเหรียญเหล็กโลหิตในเวลาแค่ครึ่งเดือนหลังจากที่มากถึงเขตต่อสู้คารัวล์ ! “
เมื่อเห็นสีหน้าแปลกๆ พลตรีจึงได้พูดต่ออีกประโยคทำให้ทั้ง 136 คนมีสีหน้าเคร่งขรึม เมื่อได้ยินประโยคสุดท้ายหลายคนก็ช็อกและกลืนน้ำลายตัวเอง เวลาเดียวกันสายตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความเคารพ
ทุกคนในกองทัพเขาเหล็กนั้นเข้าใจว่ามีคนแบบเดียวเท่านั้นที่อยู่ในแคมป์เหล็กโลหิตที่ซึ่งได้รับเหรียญนี่ --- นักฆ่าที่น่ากลัวซึ่งฆ่าศัตรูไปมากมายในสนามรบแต่คนที่ได้เหรียญนี่ทั้งๆที่มาถึงคารัวล์เพียงครึ่งเดือนนั่นหมายความว่าคนๆนี้ได้ฆ่าคนไปไม่น้อยกว่าคนที่ยืนอยู่ตรงนี้ในเวลาแค่เพียงครึ่งเดือน
เมื่อคิดแบบนั้นหลายคนก็เริ่มรู้สึกช็อกและรู้สึกได้ถึงรังสีฆ่าฟันที่มาจากเด็กน้อยผู้นี้ รังสีฆ่าฟันนี้คือพลังคีที่ดุดันราวกับเสือและหมาป่าซึ่งได้เข้าฆ่าผู้คนไปมากมาย นักสู้ที่แข็งแกร่งในแคมป์เหล็กโลหิตทุกคนจะมีรังสีแบบนั้น
หลังจากที่แนะนำ จางเทีย ให้กับพวกนั้นแล้ว พลตรีก็ได้หันไปหา จางเทีย และถามออกมา – “ ร้อยโทขั้นหนึ่ง จางเทีย นายต้องการจะบอกอะไรพวกนี้มั้ย ? “
จางเทีย มองไปที่ร้อยโทขั้นสองท้องโตที่ตอนนี้ตาเต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วน
“ เพราะทุกอย่างที่นี่ทำงานกันได้ดีอยู่แล้วก่อนที่ผมจะมา ผมหวังว่ามันจะเป็นแบบนั้นต่อไป พวกคุณทำงานของตัวเองต่อได้ “
เมื่อเห็นว่าทุกคนกำลังจะแยกตัว พลตรีก็ได้ยิ้มและคุยกับ จางเทีย – “ ร้อยโทขั้นหนึ่ง จางเทีย ฉันเห็นมันนะ ผู้การสกาโต้ น่ะชื่นชมนายอย่างมาก นั่นแหละว่าทำไมเขาถึงให้ตำแหน่งนี้กับนาย เมื่อนายอยู่ไปนานขึ้น นายจะพบว่าตำแหน่งนี้น่ะน่าสนใจอย่างมาก ! “
คำพูดของพลตรีเต็มไปด้วยคำใบ้ซึ่งทำให้ จางเทีย ซึ้งใจเล็กน้อยแต่มันไม่ใช่เวลาที่จะมาถามถึงรายละเอียด เขาต้องจัดการเรื่องที่นี่ก่อน
...
เมื่อเห็นพลตรีขับรถออกไป ร้อยโทขั้นสองก็ยิ้มออกมาให้กับ จางเทีย เมื่อเห็นของในมือ จางเทีย เขาก็รีบยื่นมือออกมาตั้งใจจะช่วย
เมื่อมองไปตอนแรก จางเทีย คิดถึงเจ้าของร้านที่ขายของในตลาดมืดที่สถานีในเมืองแบล็คฮ็อต
เมื่อเห็นว่าชายอีกคนต้องการที่จะประจบเขา จางเทีย ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เขาโยนของไปใส่มือชายคนนั้น อย่าสุภาพกับคนแบบนี้เกินไป ถ้าคนแบบนี้ประจบคุณ คุณควรที่จะสุภาพกับเขา ไม่อย่างนั้นแล้วมันจะคล้ายกับการที่อีกฝ่ายทำตัวสุภาพแต่คุณกลับถุยน้ำลายใส่หน้าอีกฝ่าย
ก็อย่างที่คาดไว้ เมื่อเห็น จางเทีย โยนกระเป๋าให้เขา ชายคนนั้นก็ยิ้มกว้างกว่าเดิมและประกายตรงจมูกก็สว่างขึ้นอีก
“ ร้อยโทขั้นสอง นายชื่ออะไร ? “
“ หัวหน้า ฉัน ปิปิง ! “ - หลังจากที่มองดู จางเทีย ดีๆแล้วเขาก็พูดต่อ - “ นายอยากไปดูรอบๆรึไปออฟฟิศเพื่อเช็กเอกสารและหนังสือบัญชี ? “
“ ไม่จำเป็น ฉันพอใจกับทุกอย่างที่นี่ เพราะฉันเพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาวันนี้ ฉันเลยยังไม่มีที่อยู่ นายหารถให้ฉันสักคันแล้วพาฉันไปดูรอบๆเพื่อหาที่พักก่อน ! “
หลังจากที่บอกว่าอยู่โรงพยาบาลมานาน ด้วยการได้รับการดูแลจากทุกคน จางเทีย ก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปตรวจสอบ Castle of Black Iron
เมื่อได้ยินคำสั่งของ จางเทีย ปิปิง ก็ดีใจยิ่งกว่าเดิมและรีบเก็บของ จางเทีย แล้วเดินออกไป – “ รอสักครู่ ฉันจะไปเอารถก่อน ! “
เพราะทั้งเมืองนี้น่ะเกือบไม่มีค่ายทหาร สถานที่ที่ใช้งานได้และส่วนสาธารณะเลยโดนกองทัพเข้าใช้งานไป นอกจากทีม 21 ซึ่งได้เข้ามายึดค่ายทหารไปและมีเจ้าหน้าที่บางคนทีอยู่ในหอ เจ้าหน้าที่ส่วนมากของแผนกคลังต้องเช่าบ้านด้วยตัวเอง เพราะที่นี่ถือเป็นที่ของอาณาจักรนอแมนแล้ว แน่นอนว่าทหารน่ะไม่สามารถเข้าไปรบกวนพลเมืองได้
ในเวลาไม่ถึงนาที ปิปิง ก็ได้เอา SUV มาจอดต่อหน้า จางเทีย เขาเปิดประตูรถออกมาแล้วก็ไปนั่งที่นั่งข้างๆ หลังจากนั้น ปิปิง ก็ได้ขับรถออกไป
“ หลังจากนี้ฉันคงไม่ค่อยได้มาที่นี่ ทุกอย่างในหน่วยก็ทำเหมือนแต่ก่อน พลตรีที่เพิ่งออกไปบอกกับฉันว่าตำแหน่งหัวหน้าน่ะน่าสนใจมาก งั้นนายก็จัดการทุกอย่างที่นี่ให้ฉัน ฉันไม่อยากให้นายเสียความสนุกของนายไป ฉันไม่อยากโดนปฏิบัติเหมือนคนโง่ด้วย ในตอนที่ฉันเห็นนาย ฉันก็รู้จักนายดีแล้ว อย่าทำให้ฉันผิดหวัง ! “
จางเทีย พูดตรงๆออกมา หลังจากที่อยู่ในแคมป์เหล็กโลหิตมาสักพัก เขาไม่ได้มีอารมณ์จะมาเสียเวลากับเรื่องเล็กน้อยพวกนี้ มีแค่คนที่เคยเฉียดตายมาก่อนที่จะเข้าใจทหาร ด้วยการที่เจอเรื่องเฉียดตายมา เรื่องอื่นๆน่ะไร้สาระ
ปิปิง ไม่คิดเลยว่า จางเทีย จะพูดตรงแบบนี้ มือของเขาสั่นเล็กน้อยก่อนที่จะรวบรวมสติตัวเองได้ เขากลัวยิ่งกว่าเดิม
“ เชื่อใจฉันได้เลยหัวหน้า ฉันจะไม่ทำให้นายผิดหวัง ! “
“ ดี ! “
“ หัวหน้า นายต้องการที่อยู่แบบไหน ? ฉันอยูที่นี่มาหลายเดือนและคุ้นกับถนนและซอยทุกเส้น ! “ – ปิปิง พูดต่อด้วยความกระตือรือร้น
“ เพราะฉันยังไม่แข็งแรงเลยต้องอยู่ในที่เงียบๆ ดังนั้นแล้วมันไม่ควรที่จะวุ่นวายเกินไป.. “
“ โอ้ งั้นฉันพอรู้จักที่ที่นายน่าจะชอบ... “
...
10 กว่านาทีต่อมา ปิปิง ได้พา จางเทีย มายังซอยที่อยู่ข้างๆแม่น้ำซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของเมือง บรรยากาศที่นี่ผ่อนคลายอย่างมาก ถนนของซอยนี้ปูด้วยหินกรวด ในทั้งสองด้านของถนนนั้นมีบ้าน 3-4 ชั้นและตึกต่างๆ บ้านและตึกเหล่านี้ล้วนแต่ต่างจากในเมืองแบล็คฮ็อต
ที่นี่น่ะคือที่สงบและถือว่ามีสภาพแวดล้อมที่ดี
ในตอนที่รถของ จางเทีย ขับไปในซอยนั้นแล้วเริ่มลดความเร็วลง เด็ก 8-9 ขวบบางคนก็วิ่งไล่ตามรถโดยไม่มีท่าทีกลัวคนแปลกหน้า
เพราไม่มีคนตายในเมืองนี้ตอนที่โดนยึดและพฤติกรรมที่ดีของทหาร ทำให้พวกเขามีชื่อเสียงในด้านดี พลเมืองนั้นไม่ได้กลัวทหารเลย
“ นายต้องเอาเงินให้ แร็บบี้ สักหน่อย แล้วฉันจะบอกนายทุกย่างที่นายอยากรู้ ! “ - เด็ก 8-9 ขวบคนหนึ่งที่มีกระบนหน้าวิ่งเข้ามาหา จางเทีย และวิ่งไล่ตามรถมาแล้วมาแนะนำตัวเอง
จางเทีย บอกให้ ปิปิง จอดรถ ไม่นานหลังจากนั้นรถก็จอด แร็บบี้ เองก็หยุดวิ่งด้วย
“ ฉันอยากเช่าบ้าน นายรู้มันยว่าฉันจะหาบ้านดีๆได้จากไหน ? “ - จางเทีย ถาม
“ ฉันรู้ทุกอย่างที่นี่ นอกจากโรงแรงเบียร์แล้ว มีบ้านมากกว่า 20 หลังให้เช่าในซอยข้างๆ ทุกคนน่ะเต็มใจให้เช่า... “
จางเทีย หยิบเงินหนึ่งเงินออกมาแล้วดีดให้เด็กน้อย เด็กน้อยที่ชื่อ แร็บบี้ เองก็รับเอาไว้ได้ดี
“ ขึ้นรถ ! “
จางเทีย มองไปที่ที่นั่งเบาะหลัง เด็กน้อยรีบกระโดดขึ้นรถทันทีโดยสายตาเขาแสดงความชื่นชมออกมา
...
เพราะ จางเทีย คิดว่าโรงแรมนั้นคงเต็มไปด้วยคนที่เดินทางไปมา ในที่สุดเขาก็เลือกที่จะเช่าบ้านซึ่งเจ้าของบ้าเองก็เป็นครอบครัวธรรมดา
มันเป็นบ้าน 4 ชั้น เจ้าของนั้นคือคู่รักอายุกว่า 60 ปี พวกเขาไม่ได้มีลูกและอาศัยอยู่ที่ชั้นหนึ่ง ชั้นสองถูกเช่าไปแล้วโดยคู่รักที่มีลูกชาย 4-5 ขวบ ชั้นสามนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งเช่าไปและชั้นสี่ว่าง ดังนั้น จางเทีย จึงอาศัยอยู่ในชั้นที่สี่
ห้องนี้ถูกทำความสะอาดอย่างดี ทุกอย่างดูเข้ากันหมด สองห้องนอน, ห้องนั่งเล่น,ครัว,ห้องน้ำ เพราะบ้านนี้สร้างขึ้นมาจากอิฐและหิน มันจึงมีเตาไฟในห้องนั่งเล่นที่ซึ่งจุดไฟเพื่อให้ความอบอุ่นได้
ค่าเช่าชั้นสี่ก็ 16 เงินต่อเดือนไม่รวมค่าน้ำ ปิปิง จ่ายเงิน 2 ทองให้ จางเทีย เป็นค่าเช่าปีหนึ่งและค่าน้ำ หลังจากที่ จางเทีย ได้ตัดสินใจที่จะอยู่ที่นี่ รองหัวหน้าก็ได้ขับรถออกไปและได้ซื้อของใช้มาให้เขา เขาน่ะถือว่าเป็นคนที่ทำตามคำสั่งดีทีเดียว
ทั้งบ่ายหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล จางเทีย ยุ่งอยู่ตลอด: รายงานตัว, จัดงานให้ลูกน้อง,เช่าบ้าน เมื่อได้เวลามื้อเย็น เขาก็กินเนื้อย่างกับ ปิปิง ในโรงแรมใกล้ๆ ในตอนที่ จางเทีย ได้กลับมาที่บ้านเช่า มันก็มืดแล้ว
เสียงไวโอลินดังขึ้นมาจากห้องเจ้าของบ้าน ไม่มีทางเลยที่รู้ว่าใครเล่น เสียงเด็กร้องดังมาจากห้องที่ชั้นสองส่วนคนเช่าที่ชั้นสามนั้นไม่อยู่
เขากลับไปที่ห้องตัวเอง จางเทีย ไม่ได้จุดตะเกียง หลังจากที่ล็อคห้องแล้วแล้วดึงม่านลง เขาก็ปิดม่าน เขานั่งอยู่ที่โซฟาข้างๆเขาเตาผิงในห้องนั่งเล่น
นี่มันก็นานแล้วที่ จางเทีย รู้สึกเหนื่อยแบบนี้ เขาอ่อนแออย่างมากจนเขาต้องหอบหายใจตอนที่เดินขึ้นมาที่ชั้นสี่ ในตอนที่เขามาถึง จางเทีย ก็รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย ร่างกายของเขาแย่กว่าที่เขาคิดเอาไว้ มันแย่กว่าคนธรรมดาอีก เขาน่ะไม่สามารถต้านทานลมได้ ไก่ตาบอดคงเป็นคำที่เหมาะกับเขา
เพราะเขาไม่ได้เข้าไป Castle of Black Iron มากกว่าหนึ่งเดือน แม้ว่าเขาจะสามารถเข้าไปได้ในตอนนี้แต่ จางเทีย ลังเลและกลัวขึ้นมาเล็กน้อย เขาน่ะกำลังเถียงกันในใจ สำหรับเขาตอนนี้แล้วต้นไม้ใน Castle of Black Iron น่ะคือความหวังของเขา
จางเทีย รู้ว่ามันน่าตลกที่จะหวังว่ามันจะเป็นทางแก้ปัญหาได้ในตอนที่เขาเจอปัญหาใดๆ มันเกือบเป็นวิธีการแก้ปัญหาโง่ๆ เพราะผลที่เขาได้รับจะส่งผลต่อผลไม้ที่สร้างมา มันไม่เคยให้ผลไม้ไหนออกมาโดยไม่มีเหตุผล
จางเทีย ได้แต่หวังว่าต้นไม้นั้นจ่ะให้โอกาสเขาได้ฟื้นตัวได้
หลังจากที่นั่งอยู่ในบ้านมืดๆอยู่นาน ในที่สุด จางเทีย ก็ได้กัดฟันแน่น เขาตายไปแล้วครั้งหนึ่ง ไม่มีอะไรน่ากลัวกว่าความตายแล้ว
หลังจากที่เพ่งไปที่ประตูตรงหว่างคิ้ว จางเทีย ก็ได้หายไปจากห้องนั่งเล่น
----- ยินดีเจ้าของปราสาทผู้หล่อเหลาและวิเศษสู่ Castle of Black Iron !