spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 215: แผลร้ายแรง
ในตอนที่ จางเทีย ได้สติ เขาก็จำได้ถึงฉากสุดท้ายในจิตใจ --- พลังคีต่อสู้สีฟ้าที่ระเบิดออกมาตรงหน้าเขา ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็โดนรุมเข้าโจมตี เกราะของเขาแตกเป็นเสี่ยงๆ หลังจากที่กระอักเลือดออกมาและเกือบที่จะหมดสติ จางเทีย ก็ได้ยินเสียงคำรามอย่างหงุดหงิดของ รินฮาท หลังจากที่เห็นดาบและหอกที่ขว้างเข้ามาใส่เขา จางเทีย ก็หมดสติไป...
‘ ฉันตายแล้วเหรอ ? ‘
แล้วคนอื่นในแคมป์เหล็กโลหิตล่ะ ?
หลังจากที่ฟื้นขึ้นมาเป็นครั้งแรก จางเทีย จำสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้นิดหน่อย เขารู้สึกหมดแรง ร่างกายของเขาเหมือนจะหายไปราวกับถูกลากลงไปในบ่อดำลึก จางเทีย ไม่รู้สึกอะไรเลย
...
ในตอนที่เขาตื่นมาเป็นครั้งที่สอง เขารู้สึกว่าร่างกายของเขานั้นถูกแช่อยู่ในถัง มันหนักและแน่นอย่างมากราวกับไม่มีพื้นที่ว่างรอบตัว ร่างกายของเขายังรู้สึกได้ถึงท่อที่สอดเข้ามานับไม่ถ้วน มีคนอยู่ข้างเขาหลายคนพร้อมกับเสียงรองเท้าที่เสียดสีกับพื้นดังไปมาเข้ามาในหูเขา
บางคนกำลังคุยกันอยู่ข้างๆเขา...
“ ปาฏิหาริย์ ? อย่าบอกนะว่าไม่ใช่ปาฏิหาริย์ หมอ ฉันอยากให้เขามีชีวิตต่อ เขาน่ะคือเจ้าหน้าที่ที่ดีที่สุดของอาณาจักรนอแมนและคือฮีโร่ของแคมป์เหล็กโลหิต...นี่ยาระดับสูงของฉันเอง นายต้องทำให้เขารอดไม่ว่าจะเสียอะไรไปก็ตาม นี่คือคำสั่ง ฉันพูดชัดเจนแล้วนะ.. “
“ ครับ นายพล... “
เสียงรองเท้าหนังที่เสียดสีกับพื้นหายไป หลุมดำเข้าโจมตีเขาอีกครั้ง จางเทีย พยายามที่จะไม่หมดสติแต่ไม่กี่วินาทีเขาก็จมอยู่ในหลุมดำนั่นอีกครั้ง
...
ในตอนที่เขาตื่นขึ้นมาเป็นครั้งที่สาม จางเทีย รู้สึกว่าเขาโดนปล่อยจากกระป๋องแต่เขาก็ยังคงไม่ได้รู้สึกอะไรรอบๆตัว
ที่ที่เขาอยู่นั้นเงียบอย่างมาก เขาอยากจะลืมตาขึ้นแต่ก็ทำไม่ได้ หลังจากที่ลองดูอยู่หลายรอบเขาก็ไม่ได้มองเห็นแสงใดๆเลย ในที่สุดหลังจากที่พยายามมานับครั้งไม่ถ้วนเขาก็พอขยับมือได้และไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงกรี๊ดขอบผู้หญิง ...
“ นิ้วเขาขยับ นิ้วเขาขยับ ! “
เสียงกรี๊ดของเธอนั้นแสดงให้เห็นถึงความแปลกใจอย่างมาก ในตอนที่เธอพูดคำนั้นซ้ำ ผู้หญิงคนนั้นก็ได้วิ่งออกไป
แค่เพียงสิบวินาทีก็ได้มีเสียงรองเท้าจำนวนมากเข้ามาในห้องอีกครั้ง
“ ความดันเลือดกำลังเพิ่มขึ้น.. “
“ ชีพจรเริ่มดีขึ้นประมาณ 40 ครั้งต่อนาทีและเริ่มจะมากกว่าเดิมแล้ว.. “
“ เทพต่อสู้อวยพร ร้อยโทหอกในที่สุดก็กลับมามีชีวิตแล้ว ! “
“ ขอบคุณพระเจ้า .. “
บางคนถึงกับเริ่มสะอื้นออกมาด้วยความดีใจ ทุกคนในห้องต่างก็ถอนหายใจกันออกมา ห้องนั้นเต็มไปด้วยเสียงถอนหายใจดังไปทั่ว
“ เร็วเข้า ไปรายงานให้ นายพลสวาซ เรารอที่จะประกาศเรื่องนี้ไม่ได้ เจ้าหน้าที่ที่กล้าหาญที่สุดถูกเราช่วยไว้ได้ ... “
เสียงนั้นดังขึ้นมาด้วยความโล่งอกเล็กน้อย
ครั้งนี้ จางเทีย ไม่ได้หมดสติอีกต่อไปแต่เขากลับเหมือนเป็ดที่ลอยน้ำ หลังจากนั้นสักพักเขาก็รู้สึกอยากนอนเพราะความอ่อนแอนั้นเล่นงานเขา ดังนั้นแล้วเขาจึงต้องหลับไป
...
จางเทีย ไม่รู้ว่าตัวเองหลับไปนานแค่ไหนแต่เมื่อเขาตื่นขึ้นมาอีกรอบ ร่างกายของเขาที่เหมือนหายไปหลายวันได้กลับมาหาเขาอีกครั้งพร้อมกับความเจ็บปวด
บางครั้งความเจ็บปวดก็คือของขวัญที่อย่างน้อยก็บอกเขาว่าเขายังมีชีวิตอยู่
ก่อนหน้านี้ จางเทีย ได้เจอกับความเจ็บปวดนี้หลายรอบใน Trouble-reappearance มันคล้ายกับความรู้สึกที่โดนฉีกเป็นชิ้นๆโดยพวกหมาป่าเมื่อเขาล้มเหลว
ตอนนี้ จางเทีย รู้สึกว่าเขากำลังโดนแบบนั้นอยู่
เพราะความเจ็บปวดอันรุนแรงนี้ทำให้เขานั้นได้แต่ร้องออกมา
จากนั้นก็ได้มีเสียงรองเท้าจำนวนมากเข้ามาในห้อง
ในอีกความหมายคือมีคนเข้ามามากกว่าเดิม
“ เขาได้สติแล้ว นี่ถือเป็นสัญญาณที่ดี.....”
“ นี่บ่งบอกว่าร่างกายเขากำลังจะฟื้นตัว... “
“ ฉันเสนอให้ฉีด SPC ให้เขา.. “
“ ฉันเห็นด้วย ! “
ไม่กี่วินาทีแขนของ จางเทีย ก็เย็นสนิทราวกับถูกแทงด้วยเข็ม หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกว่าความเย็นแผ่ไปทั่วร่างกาย ความเจ็บปวดของเขานั้นเริ่มทุเลาลงทันที
จางเทีย จึงลืมตาออกและเจอผู้คนมากมายที่มองมาที่เขาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เกือบทุกคนนั้นมองเขาด้วยสายตาที่กังวล
บอกจริงๆแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่ จางเทีย โดนคนแปลกหน้าไม่รู้จักมองด้วยสายตาเป็นห่วงจำนวนมากแบบนี้
หมอได้ฉีดยาเข้าที่แขนของเขา ในตอนที่เขาเงยหน้าขึ้นและเห็น จางเทีย ลืมตา มือของเขาแทบกระตุกจนเกือบจะทำให้เข็มตกลงไปที่พื้น
มันไม่ใช่เรื่องปกติในห้องผู้ป่วย หมอทุกคนตื่นเต้นอย่างมากแต่ไม่มีใครพูดอะไร พวกเขาทำได้แค่มองหน้ากันด้วยความตื่นเต้น
มีแค่ชายวัยห้าสิบปีตรงหน้าเตียง จางเทีย ที่สูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะก้มตัวลงมา จากนั้นเขาก็ได้ถามเบาๆ – “ นายพูดได้มั้ย นายรู้สึกยังไงบ้าง ? “
“ ขอ...ขอบคุณ ! “ - จางเทีย พยายามพูดออกมา
เขารู้ว่าถ้าไม่ใช่เพราะหมอพวกนี้ เขาคงตายไปแล้ว ดังนั้นคำแรกที่เขาอยากจะพูดเมื่อฟื้นคือขอบคุณหมอทุกคนในห้อง
หลังจากที่ยืดตัวขึ้นมาแล้ว หมอได้สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วหันหลังกลับไปบอกหมอคนอื่นในห้อง – “ขอบคุณ เขาขอบคุณเราทุกคน ! “
หมอและพยาบาลทุกคนต่างก็ยิ้มออกมา
จางเทีย ขยับปากต่อและพูดประโยคที่สองออกมา – “ แล้วพะ....เพื่อนแคมป์เหล็กโลหิต...พะ...พวกเขารอดกันกี่คน ? “
เพราะ จางเทีย เพิ่งฟื้นมา คำพูดของเขาจึงได้ยินกันทั่วห้อง
“ 562 คนได้กลับมา พวกเขากำลังรักษาตัวกันอยู่.. “
เมื่อได้ยินแบบนั้น ตาของ จางเทีย ก็เริ่มชื้น อีกความหมายของข้อมูลนี้คือมีคน 657 คนของแคมป์เหล็กโลหิตได้ตายลงไปในคืนนั้น เพราะกองทัพที่แข็งแกร่งเหมือนเหล็กเกือบจะฆ่าทุกคน เด็กหนุ่มจำนวนมากถูกฉีกเป็นชิ้นๆและล้มลงไปกับพื้น นี่คือความโหดร้ายของสงคราม
เพราะเขาไม่รู้ว่าคนที่เขารู้จักกี่คนที่เขาจะไม่ได้เจออีก ตาของ จางเทีย เริ่มชื้น เขาร้องไห้ออกมาโดยไม่ได้ส่งเสียงใดๆ
น้ำตาของฮีโร่นั้นทำให้ผู้คนสะเทือนใจมากที่สุด อารมณ์ที่แท้จริงสามารถทำให้จิตใจของคนสั่นเครือได้มากที่สุด ดังนั้นแล้วตอนนั้นหมอและพยาบาลหลายคนจึงรู้สึกเศร้าไปด้วย
...
ในบ่ายวันแรกหลังจากที่ตื่นมา จางเทีย ได้รู้อย่างมากมายว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงที่เขาหมดสติ หลายอย่างนั้นเป็นสิ่งที่เขาไม่คาดคิดอย่างมาก
อย่างแรกเลยคือตั้งแต่เขาถูกแบกกลับมาจากสนามรบ เขาอยู่ในอาการโคม่ากว่าสองอาทิตย์ วันนี้เขาได้ลืมตาขึ้นมาเป็นครั้งแรก
อย่างที่สองคือระหว่างช่วงนั้น ร้อยโทหอก จางเทีย ได้กลายเป็นที่รู้จักกันดีในกองทหารที่เจ็ดของกองทัพเขาเหล็กในทีม 39 แม้แต่ ชวาซ ผู้จัดการกองทหารและพลตรีก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา
ระหว่างช่วงที่เขาอยู่ในโคม่า พลตรีชวาซ ถึงกับมาที่นี่เพื่อเยี่ยมเขาด้วย เพื่อที่จะรักษาบาดแผลเขา ชวาซ ถึงกับเอายาระดับสูงส่วนตัวมารักษาเขาด้วย
สิ่งที่สามที่ไม่คาคคิดคือเขาไม่ได้มีโอกาสไปที่คารัวล์ก่อนที่จะต้องออกมาจากแนวหน้า โรงพยาบาลที่เขานอนอยู่นี้อยู่ที่บาปี เมืองเล็กๆห่างจากเขตสงครามของคารัวล์กว่า 120 กม. บาปีนั้นถือเป็นหนึ่งใน 17 เมืองของพันธมิตรซึ่งโด่งดังเรื่องธัญพืชและเบียร์ดำ
แคมป์เหล็กโลหิตของทีม 39 กำลังพักฟื้นอยู่ที่ปราสาทแนวหน้า เพราะบาดแผลรุนแรงของเขาจึงทำให้มีโอกาสน้อยนิดที่เขาจะกับไปที่แคมป์เหล็กโลหิตได้อีก
เพราะแผลของเขา แม้ว่าหมอกจะไม่ได้บอก จางเทีย เกี่ยวกับพวกมัน แต่เขาก็รู้สึกได้ว่ามันแย่อย่างมาก แม้ว่าเขาจะตื่นขึ้นมาแล้วแต่เขาก็ยังคงขยับไม่ได้ ด้วยการที่มีถุงฉี่อยู่ที่ไอ้จ้อนของเขา ทำให้เขารู้สึกอึดอัดอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อมือเขามีสายน้ำเกลือต่อเข้าไป ของเหลวที่เข้ามาในร่างกายเขาได้ออกผ่านทางงไอจ้อนทำให้ จางเทีย รู้สึกอึดอัด
ทุกวันพยาบาลจะมีหน้าที่ในการดูแล จางเทีย และช่วยเขาในการนวดตัว เธอบอกว่านี่จะเป็นการกระตุ้นเส้นเลือดที่หลังของ จางเทีย
มันเป็นครั้งแรกที่เขาโดนนวดในชีวิตแต่ จางเทีย ไม่ได้รู้สึกดีใจเลย เขากลับรู้สึกว่าร่างกายของเขามีปัญหาใหญ่กว่าแต่ก่อน
จางเทีย สลดอย่างมาก คนที่ซึ่งสามารถโดดไปได้ทุกที่และสามารถวิ่งได้เร็วกว่าหมาป่านั้นต้องมานอนอยู่ที่เตียงแบบนี้
สิ่งเดียวที่ทำให้ จางเทีย สบายใจคือแม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บแต่เขาก็มองเห็น Castle of Black Iron ในจิตใจได้ อีกอย่างแล้วพลังงานวิญญาณสีทองที่ไหลเวียนในสมองเขาก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นมาเป็นดังเดิม
ห้าวันต่อมาหลังจากที่เขาฟื้น ในที่สุดถุงฉี่ก็โดนถอดออก ตอนนั้นแม้ว่าเขาจะไม่มีแรงแต่เขาก็พอช่วยตัวเองโดยการพิงกำแพงแล้วลุกขึ้นจากเตียงได้
ในวันเดียวกันในที่สุด จางเทีย ก็รู้อาการตัวเอง หมอไม่ได้บอกเขาแต่เลขาของ ชวาซ ที่ซึ่งมาที่นี่ได้บอกเขา
เลขาของ ชวาซ ได้เอาเหรียญเหล็กโลหิตมาให้ จางเทีย และคำสั่งเลื่อนขั้นให้เขาเป็นร้อยโทขั้นหนึ่งและข่าวที่ จางเทีย กลัวที่สุด
“ ผมขอโทษด้วย ร้อยโทขั้นหนึ่ง จางเทีย ด้วยการวินิจฉัยจากหมอที่ดีที่สุดในกองทัพ คุณไม่น่าจะกลับไปแคมป์เหล็กโลหิตได้อีก พลตรีชวาซ นั้นซาบซึ้งกับความสามารถในสนามรบของคุณอย่างมาก คุณกลับไปในสนามรบไม่ได้อีกเพราะปัญหาทางสุขภาพ พลตรีจึงย้ายคุณไปแผนกคลังของกองทัพและจัดเตรียมงานที่เหมาะกับคุณไว้ให้ หลังจากที่แผลคุณหายดี คุณไปที่แผนกนั้นในเมืองบาปีได้เลย “
หน้าของ จางเทีย ซีดไปทันที