spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 214: หน่วยปีกดำ
จางเทีย เคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วขว้างหอกไปอีกสามอันตามหอกเล่มแรกไป
เพราะนี่มันเร่งด่วนเกินไป แม้แต่ จางเทีย เองก็ไม่ได้ยินเสียงระเบิดของลมจนกระทั่งหอกของเขาไปโดนเป้าหมาย
ตอนนั้นเขาไม่ได้มีเวลาที่จะมาเลือกเป้าหมายเลยสักนิด ไม่นานหลังจากที่เขาขว้างหอกเข้าใส่สี่คนด้านหน้า คนที่ห้าก็ได้พุ่งเข้ามาหาเขาอย่างกับผี
ศัตรูนั้นเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วมากๆ
เสียงระเบิดของลมนั้นไม่ใช่แค่ทำให้คนในแคมป์ตื่นแต่ยังทำให้พวกเงานั่นพุ่งเข้ามาต่อด้วย
“ ฆ่าพวกมันให้หมด ! “
หลังจากที่ตะโกนออกมาแล้ว จางเทีย ก็มองไปที่ร่างตรงหน้าเขาและฟันมันลงไปด้วยดาบในมือขวา เมื่อเห็นการโจมตี ชายคนนั้นได้ดึงอาวุธตัวเองออกมากันดาบเอาไว้ ในตอนที่ จางเทีย ทำลายอาวุธคู่ต่อสู้ เขาก็ได้สับชายคนนั้นออกเป็นสองท่อนทำให้เลือดอาบไปทั่วตัวเขา
ตอนนั้นก็มีอีกคนที่พุ่งเข้ามา จางเทีย ใช้ดาบปักเข้าไปที่หัวใจอีกฝ่ายทันที
ในเสี้ยวพริบตาที่ จางเทีย คิดว่าชายคนนี้ตายไปแล้วแต่เขาไม่คิดว่าชายคนนั้นยังพุ่งมาหาเขาต่อได้ แม้ว่าจะโดนดาบของ จางเทีย แทงทะลุแต่เขาก็ยังคงฟันเข้าใส่หัวของ จางเทีย ด้วยดาบของตัวเองพร้อมกับยิ้มออกมา
หัวของคนๆนั้นมีหมวกที่เหมือนกับกะโหลกเผยให้เห็นแค่ดวงตาที่บ้าคลั่ง
ถ้า จางเทีย ไม่เคยเห็นความตายนับไม่ถ้วนใน Trouble-Reappearance ซึ่งทำให้เขามีทักษะการต่อสู้ที่แข็งแก่รงและความสามารถทางจิตใจที่สูงกว่าเดิมแล้วเขาอาจจะตายเลยก็ได้
นี่เป็นครั้งแรกที่ จางเทีย ดายเห็นชายที่ฟันเข้าใส่เขาทั้งๆที่หัวใจโดนแทงทะลุ
จางเทีย กลัวขึ้นมาแล้วเตะออกไป ท่านี้คือท่าของทักษะหมัดเหล็กโลหิต เขาได้เตะไปที่ท้องน้อยของอีกฝ่ายทำให้อีกฝ่ายกระเด็นออกไป ผลก็คือมีหลายคนที่ล้มลงไป ตอนนั้นเองดาบของอีกฝ่ายก็เกือบตัดจมูกของ จางเทีย
เขาเหงื่อชุ่มตัวขึ้นมาทันที
ในเสี้ยวพริบตา รินฮาท ก็ได้พุ่งออกมาพร้อมกับพลังคีต่อสู้ของตัวเองที่ระเบิดออกมาด้วย รินฮาท ได้พุ่งผ่านไปแล้วต่อยชายตรงหน้าระเบิดออกเป็นชิ้นๆ
“ นี่คือหน่วยปีกดำของกองทัพปีกแสง ระวังตัวด้วย มีแค่การตัดหัวพวกมันและทำลายระบบประสาทที่สันหลังเท่านั้นที่จะฆ่ามันได้ .. “ - รินฮาท ตะโกนออกมา เสียงของเขาดังก้องไปทั่วทั้งแคมป์
หน่วยปีกดำ ? เหี้ย ! จางเทีย เคยได้ยินถึงสัตว์ประหลาดพวกนี้มาก่อน พวกมันคือกองทัพสุดยอดของราชวงศ์อาทิตย์แต่ไม่เหมือนกับแคมป์เหล็กโลหิต พวกมันทำการบ่มเพาะตัวเองโดยอาศัยยาลับซึ่งทำให้พวกมันกลายเป็นเครื่องจักรฆ่าคนซึ่งลืมความเจ็บปวดและความตายไป คนพวกนี้น่ะน่ากลัวอย่างมากในสนามรบ
จางเทีย ไม่คิดมาก่อนเลยว่ากองทัพปีกแสงนั้นจะใช้หน่วยปีกดำมารับมือกับแคมป์เหล็กโลหิต เขาเองก็ยังสับสนถึงเรื่องที่พวกนี้เจอแคมป์นี้ด้วย
เมื่อเห็นศัตรูกว่าสามพันคนแห่เข้ามาจากทุกทิศทุกทาง จางเทีย ก็รู้สึกเหมือนหมดหนทางในใจ ศัตรูของเขาคือยักษ์ที่ซึ่งมีแค่ดวงตาที่เผยออกมาให้เห็นผ่านหมวก ตาพวกนั้นน่ะเผยความต้องการฆ่าออกมา แม้ว่าในตอนที่พวกตัวเองโดนฆ่าไปมากมาย พวกนั้นก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว
ตาของทหารเหล่านี้น่ะดูบ้าคลั่ง อีกอย่างแล้วเกราะเองก็ดูน่ากลัว มันไม่เหมือนกับเกราะทั่วไป มันเหมือนกับโครงกระดูกที่คอยปกป้องไว้แค่หัวและคอ,สันหลังและข้อต่ออื่นๆโดยไม่สนส่วนอื่นๆของร่างกาย พวกมันยังคงยืนอยู่ได้โดยไม่สนบาดแผลใดๆซึ่งนั่นคือส่วนที่ทหารคนอื่นนั้นกลัวมากที่สุด
การทำงานของเกราะกระดูกนี้ก็เพื่อปกป้องโครงสร้างร่างกายและเพิ่มความยากในการทำลายข้อต่ออีกทั้งยังระบบประสาทที่สันหลังด้วย สำหรับทหารพวกนี้แล้วที่ซึ่งไม่รู้จักความเจ็บปวด ตราบใดที่โครงสร้างร่างกายถูกปกป้องเอาไว้ พวกมันก็จะทำการฆ่าต่อไป
หลังจากที่ จางเทีย ตัดหัวศัตรูไปอีกหลายคน เจ้าหน้าที่คนอื่นของแคมป์ก็ได้มาถึงและรั้งสัตว์ประหลาดเหล่านั้นได้ทันก่อนที่พวกมันจะพากันแห่เข้าไปในแคมป์
หลังจากนั้นทหารคนที่เหลือของแคมป์ก็ได้มาถึงด้วยและได้เริ่มการต่อสู้ภายใต้แสงจันทร์
มันยากกว่าเดิมเป็นสองเท่าที่จะฆ่าสัตว์ประหลาดพวกนี้เมื่อเทียบกับทหารธรรมดา ดังนั้นแล้วสัตว์ประหลาดพวกนี้ที่ไม่รู้จักความเจ็บรึตายจึงเทียบเท่าได้กับทหารของแคมป์เหล็กโลหิต
ในตอนที่ทั้งสองฝั่งเข้าปะทะกัน แคมป์เหล็กโลหิตก็ได้มีคนตายมากมาย หน่วยปีกดำน่ะไม่ได้อ่อนแอกว่าแคมป์เหล็กโลหิตเลยและน่ากลัวยิ่งกว่าเมื่ออยู่ในสนามรบ พวกมันไม่กลัวความเจ็บรึความตายเลยสักนิดและไม่ลังเลที่จะฆ่าศัตรูไม่ว่าจะต้องเสียอะไรไปก็ตาม ในบรรดาคนในแคมป์แล้วแม้แต่คนที่ใจแข็งก็ยังต้องลังเลในตอนที่วิกฤต
นี่คือการต่อสู้ที่โหดร้ายมากที่สุดตั้งแต่ที่ จางเทีย ได้เข้าแคมป์เหล็กโลหิต เขาไม่รู้ว่าเขาได้ฆ่าคนไปเท่าไหร่ เขารู้แค่ว่าทหารพวกนี้น่ะมีมารับไม่ถ้วนแห่กันมาจากทุกทิศทาง
วิธีที่ง่ายที่สุดในการฆ่าสัตว์ประหลาดพวกนี้คือการตัดหัวแต่หลังจากที่ตัดหัวแล้ว จางเทีย จะตัวชุ่มไปด้วยเลือดทั่วทั้งตัว
จางเทีย ได้แผลเล็กน้อยและรู้สึกว่าเขาเริ่มใจเย็นลงมาบ้าง
เทียบกับแคมป์เหล็กโลหิตแล้วคู่ต่อสู้นั้นมีเยอะไป
สู้แค่ 20 นาที ดาบสองมือของ จางเทีย ก็เริ่มมีรอยขีดข่วนเต็มไปหมด นี่ก็เพราะก่อนที่เขาจะตัดหัวพวกนั้น เขาต้องทำลายเกราะของมันก่อน แม้ว่าดาบสองมือนี้จะแข็งแก่รงแต่เมื่อเจอกับการฆ่านับไม่ถ้วนนี้ ในที่สุดมันก็ได้เผยข้อเสียของมันออกมา
ในที่สุดหลังจากที่ตัดหัวทหารคนหนึ่งได้ครึ่งเดียว ดาบสองมือก็หักออกเป็นสองส่วนและไร้ประโยชน์ทันที
ด้วยการที่คอยังติดอยู่กับไหล่ ชายคนนั้นได้ใช้ดาบตัวเองฟันเข้าใส่ จางเทีย
จางเทีย ยกดาบที่เหลือขึ้นมากัน หลังจากนั้นเขาก็ได้คว้าเข้าที่ข้อมือของชายคนนั้นแล้วหักทิ้งก่อนจะจับไปที่หมวกของอีกฝ่ายแล้วบิดส่วนที่เหลือออกให้กขาดจากกัน
ทหารคนอื่นของหน่วยปีกดำนั้นพุ่งเข้าใส่ จางเทีย ในเวลาเดียวกัน เฟโอ ก็ได้ฆ่าฝ่ายตรงข้ามมาเรื่อยๆและเข้ามาใกล้ จางเทีย เขาใช้ขวานยักษ์ตัวเองกวาดเข้าใส่ทหารพวกนั้น ผลก็คือทหารแต่ละคนโดนตัดออกเป็นสองท่อนแล้วกระเด็นออกไป
“ ฮาฮา ดาบนายดูเหมือนจะรับมือพวกนี้ไม่ได้นะ ไปเอาดาบประจำของนายมาสิ.. “
แม้ว่าจะรู้ว่ามันหมายถึงดาบยักษ์แต่ จางเทีย ก็ยังรู้สึกสลดอยู่ดี เมื่อเห็นชายหัวล้านโบกขวานยักษ์ตัวเองไปมา จางเทีย ก็ได้กระทืบพื้นแล้ววิ่งไปที่เต็นท์ตัวเอง
แค่สิบวินาที จางเทีย กับดาบยักษ์ก็ได้ฆ่าคนมาเรื่อยๆ ด้วยความสลดที่มีเขาได้เปลี่ยนมันเป็นเสียงคารามพร้อมกับแผ่รังสีต้องการฆ่าออกมาจากดาบเขา
เพื่อจัดการทหารพวกนี้ ดาบยักษ์ดูเหมือนจะเป็นอาวุธที่ดีที่สุด
ตอนนั้น รินฮาท เองก็โดนศัตรูเข้าล้อม เขาก็เหมือนกับสิงโต แต่ละท่าของเขานั้นทำให้เกิดเลือดกระจายออกมาและศพที่ขาดเป็นชิ้นๆ
หลังจากที่มองไปที่ รินฮาท จางเทีย ก็ได้กัดฟันแน่และได้ขว้างหอกที่เหลือไปยังทิศทางนั้นเข้าโจมตีคอของสัตว์ประหาดที่เข้าล้อม รินอาท อยู่ ในตอนที่ปลายหอกแทงทะลุคอพวกนั้น มันก็ได้สร้างรูขนาดใหญ่ที่กระดูกสันหลังพวกมัน
หลังจากใช้หอกจนหมด จางเทีย ได้วางซองหอกลง หลังจากที่ปลดภาระออกไปแล้ว เขาก็ได้คำรามออกมาเหมือนเสือ เขาโบกดาบด้วยมือทั้งสองข้างแล้วฆ่าศัตรูที่อยู่ตรงตำแหน่งของ รินฮาท ไปมากมาย
แหวนพลังบนนิ้วของเขานั้นได้เข้ามามีบทาบาทอย่างมากในการฟื้นฟูแรงให้ได้เร็วกว่าเดิม แม้ว่าความเร็วในการฟื้นฟูนั้นจะเพิ่มแค่ 4% แต่ในสนามรบแล้วชัดแล้วว่ามันพัฒนาแรงของ จางเทีย ขึ้นอย่างมาก
ด้วยดาบยาวกว่าสองเมตร จางเทีย ได้เหวี่ยงมันไปมาและฆ่าจนรอบๆตัวเขากลายเป็นพื้นที่ว่างเปล่า เขาไม่ได้สนใจอะไรมาก ความสง่างามไม่ใช่เรื่องสำคัญที่นี่ มีแค่ต้องตัดหัวพวกนี้เขาถึงฆ่าพวกมันได้ ไม่ต้องคำนวณเหมือนแต่ก่อน จางเทีย ก็ฟันดาบยักษ์ของตัวเองไปรอบตัว พวกคนรอบตัวนี้รับมือได้ง่ายกว่าพวกหมาป่าเจ้าเล่ห์อีก
เมื่อถือดาบยักษ์นี้แล้ว จางเทีย ไม่ใช่คู่ปรับของพวกสัตว์ประหลาดนี้อีกต่อไป ด้วยการสะบัดมันเบาๆ เขาก็จัดการพื้นที่กว่า 7-10 ตร.ม.ได้จนมีแขนขากระเด็นไปทั่ว
จางเทีย กลายเป็นเพชฌฆาตที่น่ากลัวที่สุดในสนามรบ
เมื่อเห็นร้อยโทมัมมี่ทำได้ดีดังเดิม กำลังใจของแคมป์เหล็กโลหิตก็เพิ่มขึ้นมาอีกครั้ง
จางเทีย ฆ่าไปพวกที่เข้าล้อม รินฮาท เอาไว้ไปเรื่อยๆเหมือนกับเครื่องบดถนน
เมื่อเห็น จางเทีย รินฮาท ได้หัวเราะออกมา ทั้งคู่หันหลังชนกันแล้วเข้าปะทะกับกองทัพของอีกฝ่าย
แต่ครั้งนี้มีศัตรูจำนวนมากแห่มาที่แคมป์ของพวกเขา จำนวนนั้นมากกว่าคนในแคมป์ถึง 2-3 เท่า แม้ว่า จางเทีย และ รินฮาท จะจัดการพวกนี้ได้ง่ายๆแต่ทหารธรรมดานั้นพบเจอกับความลำบากในการจัดการคู่ต่อสู้ และถ้าทหารธรรมดานั้นทนไม่ได้ ไม่ว่า รินฮาท กับ จางเทีย จะแข็งแกร่งแค่ไหน พวกเขาก็จะต้องโดนล้อมและพ่ายแพ้ไปแน่
“ ดูเหมือนว่าผู้การของกองทัพปีกแสงจะเกลียดเรามาก พวกนั้นต้องคลั่งในตอนที่เราจัดการแยกชิ้นส่วนของ หมิวหลิง หน่วยปีกดำน่ะไม่ค่อยใช้คนมากขนาดนี้ออกมาในครั้งเดียว.. “ – ในตอนที่เขาต่อยให้สัตว์ประหลาดพวกนั้นฉีกเป็นชิ้นๆ รินฮาท ก็ยังมีอารมณ์มาคุยกับ จางเทีย
เหงื่อเริ่มผุดที่หน้าผากของเขา จางเทีย กรอกตาใส่
‘ ไร้สาระน่า ตัดสินจากจำนวนที่มากกว่าคนในแคมป์แล้ว คุณก็น่าจะรู้ว่าพวกมันกะจะจัดการเราให้หมดในครั้งนี้ สำหรับหน่วยปีกดำแล้ว พวกนี้ไม่ได้หาได้ทั่วไปเหมือนกะหล่ำปลีข้างทางซะหน่อย ‘
พวกเขาคงได้แต่โทษตัวเองที่ทำให้คนเกลียดมากไป
จางเทีย แค่ฟันต่อโดยไม่พูดอะไร
หลายวินาทีต่อมา เมื่อไม่ได้ยินการตอบกลับ ในที่สุด รินฮาท ก็เลิกล้อเล่น – “ ดูทาง 7 นาฬิกา 150 ม. มีบางคนอยู่ที่นั่น... “
หลังจากที่ตัดคู่ต่อสู้ออกเป็นสองส่วน จางเทีย ก็ได้เปลี่ยนตำแหน่งกับ รินฮาท หลังจากนั้นเขาก็ได้มองที่ที่ได้ยินมา ด้านหลังกองทหารนี้ จางเทีย เห็นบางคนใส่ชุดที่ต่างออกไปอยู่ที่เนินเขา พวกนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยปีกดำ ในบรรดาพวกนั้นมีชายแก่ใส่ชุดขาวแปลกๆผมหงอก เขาดูเหมือนกำลังเป่าของแปลกๆในปากพร้อมกับมองมายังสนามรบ
มันแปลกเกินไป คนนั้นดูเหมือนจะเล่นดนตรีแต่กลับไม่ได้มีเสียงอะไร ทหารทุกคนในหน่วยปีกดำน่ะก็แปลกที่เงียบขนาดนี้เผยให้เห็นแต่ความบ้าคลั่ง
“ เข้าใจแล้ว ! “ - จางเทีย ดึงดาบกลับมาแล้วฟันไปที่สัตว์ประหลาดสองตัวให้ขาดเป็นชิ้น
“ นายเอาหอกนายจัดการไอ้แก่นั่นได้มั้ย ? “ - รินฮาท ถาม
“ มันไกลเกินไป ถ้าผมเข้าไปได้อีก 50 ม. มันก็เป็นไปได้ ! “ - จางเทีย ยังคงฟันพร้อมกับพูด รินฮาท– “ ถ้าอย่างนั้นฉันคิดว่าเราคงไม่สามารถไปใกล้ 50 ม.ในทางนั้นได้แล้ว “
หลังจากที่เงียบอยู่สักพัก รินฮาท ก็ได้พูดขึ้นมา –“ ถ้าฉันทำให้นายไปไกลจากตรงนี้ได้ 50 ม.ล่ะ ? “
“ งั้นผมก็ฆ่าไอ้แก่นั่นได้ ! แต่คุณจะส่งผมไปยังไง ? “
“ ฉันจะขว้างนายไป ! หลังจากที่นายเขวี้ยงหอกไป นายจะโดนทหารธรรมดาล้อมและอาจจะมีพวกนักสู้ระดับสูงล้อมนายด้วยซึ่งอาจทำให้นายตาย ! ดังนั้นฉันคงไม่บังคับให้นายทำแบบนั้น นายต้องตัดสินใจเอง.. “
จางเทีย เงียบ - “ หน่วยปีกดำนี่จะถอยมั้ยหลังจากที่ผมฆ่าไอ้แก่นั่นไป ? “
“ ถอยสิ ทหารหน่วยปีกดำน่ะได้รับคำสั่งจากชายคนนั้น เครื่องดนตรีแปลกที่ชายคนนั้นเป่าก็เพื่อสั่งการทหารพวกนี้ เพราะมันเป็นความถี่สูง เราเลยไม่ได้ยินแต่ทหารเหล่านี้น่ะดูเหมือนจะได้ยินมัน พวกมันน่ะทำตามเสียงดนตรีนั่น ! “
“ แล้วถ้าพวกมันไม่ถอยกลับไปในคืนนี้ล่ะ ? “
“ งั้นทุกคนในแคมป์ก็จะตายก่อนจะเช้า ชัดแล้วว่าพวกมันมีคนเยอะกว่าเรา พี่น้องเราบางคนก็หมดแรงแล้ว กองทัพปีกแสงน่ะคิดจะฆ่าเราทั้งหมด ! “
พวกเขายังคงคุยกันด้วยเสียงเบาๆพร้อมกับสู้ต่อ
จางเทีย ลังเลยใจอยู่นานกว่านาที ด้วยการที่โดนล้อมพวกเขาเลยไม่ได้พูดอะไรออกมาเลยสักคำ ..
“ ผมจะทำ ! “ - จางเทีย พูดขึ้นมา เขาคิดจะยอมตายแล้ว
เขาต้องทำมัน
พี่น้องแคมป์เหล็กโลหิตเคยสู้ให้เขาครั้งหนึ่งในเมืองแบล็คฮ็อต ดังนั้นแล้วตอนนี้เขาก็ไม่ควรที่จะถอย ถ้าเขาถอยก็จะไม่มีใครรอด การฆ่าชายคนนั้นคือโอกาสเดียวที่จะช่วยแคมป์เหล็กโลหิตให้รอดคืนนี้ไปได้
“ ดี ! “
“ ผมมีสาวมากมายในเมือง ถ้าผมตายและคนอื่นรอด บอกพวกเขาให้ปกป้องผู้หญิงของผมตอนที่พวกเขากลับไปที่เมืองด้วย ! “
“ ได้ ! “ - รินฮาท ไม่ได้พูดอะไรไปมากกว่านี้
หลังจากที่บอกสิ่งที่ต้องการแล้ว จางเทีย ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เขากัดฟันแน่นเพื่อสู้..หลังจากนั้นกว่าสิบวินาที เขาก็ได้คว้าหอกเล่มหนึ่งไว้ หลังจากที่สะบัดมันไปครั้งหนึ่ง มันก็ได้ตัดหัวของทหารตรงหน้าเขาทิ้ง
ในตอนที่เขาปล่อยดาบยักษ์ตัวเองลง จางเทีย ก็ถือหอกตัวเองไว้ในมือขวาซึ่งปกติเขาใช้มือข้างนี้ขว้าง รินฮาท คำรามออกมาแล้วต่อยออกมาด้วยท่าต่อสู้ที่สุดยอดโจมตีศัตรูรอบๆ หลังจากนั้นเขาก็จับเอวของ จางเทีย แล้วขว้างอีกฝ่ายออกไปเหมือนกับขว้างหอก
ไม่มีใครรู้ว่าสองคนนี้ต้องการทำอะไร
จางเทีย คือหอกที่ รินฮาท ขว้างออกมา ส่วนเขาเองก็ถือหอกเอาไว้ด้วย ในเสี้ยวพริบตา เขาก็ได้บินไปไกลกว่า 50 ม. ส่วนชายที่อยู่ไกลออกไปนั้นตัวแข็งทื่อเพราะความช๊อก
จางเทีย มองที่เป้าหมายแล้วล็อคเป้าไปที่ชายแก่แล้วขว้างหอกออกไปตอนที่อยู่กลางอากาศ
ครั้งนี้ระยะ 100 ม.เหมือนไม่ได้ไกลเลยสักนิด ในตอนที่หอกออกจากมือ จางเทีย แล้ว มันก็ได้แทงทะลุอกของชายคนนั้นพร้อมกับเสียงระเบิดที่ดังขึ้นตามมา
ชายแก่ก้มหน้าลงไปมองรูที่หน้าอกตัวเองด้วยท่าทีไม่เชื่อ ขลุ่ยตกลงจากปากเขา ไม่นานเขาก็ล้มลงไปที่พื้น...
ตอนนั้นเองทหารของหน่วยปีกดำก็ยืนนิ่งไปสักพัก...
“ ฆ่าเขาซะ ! “ – บางคนที่ยืนอยู่ที่เนินคำรามออกมาอย่างหงุดหงิด เสียงของพวกเขานั้นดังก้องไปทั่วทั้งสนามรบ พลังฉีต่อสู้สีฟ้าระเบิดออกมาทันที...
จางเทีย ทำได้แต่ปกป้องหัวตัวเองก่อนที่จะหล่นลงมากระแทกทหารมากมาย หลังจากกลิ้งตัวอยู่หลายรอบและโดนโจมตีจากหลายคน เขาก็เริ่มเวียนหัว
ตอนนั้นเขาจำความรู้สึกในตอนที่เขากระโดดลงไปในหลุมของงูกินทองได้
ทั้งสนามรบหยุดนิ้งก่อนจะปะทุขึ้นมาอีกครั้ง...
เจ้าหน้าที่ทุกคนของกองทัพปีกแสงที่ซึ่งดูใจเย็นที่ซึ่งได้เข้าล้อม รินฮาท เอาไว้ พวกนั้นทุกคนล้วนแต่พุ่งเข้าหา จางเทีย พร้อมกันหมด..
‘ เหี้ย.. ‘
จางเทีย ระหนักได้ว่าตอนนั้นชีวิตเขาคงจะจบในไม่ช้า เทียบกับตอนนี้แล้ว การต่อสู้โชกเลือดตะกี้น่ะเป็นแค่การอุ่นเครื่อง...
ตอนนั้นเอง จางเทีย นอนอยู่ที่พื้นไม่มีอาวุธใดๆนอกจากมีดแต่มีดนั้นดูเหมือนจะไร้ประโยชน์เมื่อสู้กับทหารหน่วยปีกดำ
เมื่อเห็นข้อเท้าของฝ่ายตรงข้าม จางเทีย ก็จับเข้าไปที่ข้อเท้าสองคนด้วยมือคนละข้าง เขาไม่สนว่าสองคนนั้นจะตายรึเปล่า เขาก็แค่เหวี่ยงพวกนั้นไปมาเหมือนกับกระบองฟาดคนรอบๆ
ความกล้าหาญของ จางเทีย ทำให้ทั้งสนามรบต้องช็อกอีกครั้ง ...
ตอนนั้นก็ได้มีพลังคีต่อสู้สีฟ้าและอาวุธนับสิบเหวี่ยงเข้ามาใส่เขา.....