หน้าแรก > Castle of Black Iron
Chapter 211: การแก้แค้นและการตักตวง

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

Chapter 211: การแก้แค้นและการตักตวง

 

“ มีคนดีในหมู่โจร มีพวกแข็งแกร่งและฉลาดในหมู่สัตว์อสูรเวทย์แต่ถ้าประชากรในโลกมากเกินไป มันก็ไม่ผิดที่จะฆ่าทั้งกองทัพ มันต้องเป็น หมิวหลิง ของเทพแห่งแสง !  นี่น่ะคือเงื่อนไหขแรกในการเข้าร่วมกับเทพแห่งแสง เพื่อที่จะเป็น หมิวหลิง ได้ ต้องสละชีวิตเด็กบริสุทธิ์อายุต่ำกว่า 10 ปีด้วยเลือดและชีวิตให้กับเทพแห่งแสง ยิ่ง หมิวหลิ ระดับสูงมากเท่าไหร่ ยิ่งต้องสละชีวิตมากเท่านั้น  มีแค่ปิศาจและคนที่น่าเกลียดเท่านั้นที่ทำแบบนี้ได้  แม้ว่าชื่อของเทพแห่งแสงจะฟังดูดีแต่จริงๆแล้วมันเป็นบาป ! “ - นี่คือสิ่งที่ ดอนเดอร์ อธิบายให้กับ จางเทีย ฟัง

บางทีเพราะทหารของแคมป์เหล็กโลหิตยังไม่ได้ตัดหัวมันออกทันที มันจึงมีความหวังเล็กๆในหัว  มันกล้าที่จะพูดถึงกฎของมนุษย์ต่อหน้าเจ้าหน้าที่แคมป์เหล็กโลหิตเพื่อหวังว่าตัวเองจะรอด

แต่ทุกคนน่ะก็แค่มองการกระทำของมันด้วยความเย็นชา แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ฆ่ามันทันทีรึกระทืบมันจนตายแต่ถ้าทำแบบนั้นไป มันง่ายเกินไปที่จะจบชีวิตไอ้บัดซบนี่

หลังจากนั้นสักพักพวกเขาก็ได้เอาม้าห้าตัวออกมา

เมื่อเห็นแบบนั้น หน้าของ หมิวหลิง ก็ได้ซีดสนิทพร้อมกับกรีดร้องออกมาโหยหวนมากกว่าเดิม ตอนนั้นเองมันก็เริ่มเปลี่ยนท่าทีขอร้องของมันทันที

“ อ่า..ไม่...ได้โปรด ให้ข้าตายไวๆเถอะ.. “

“ เพราะคำสั่งของแก แกรู้มั้ยว่ามีกี่คนที่ต้องตายที่นี่ในสองวันนี้ ? แกรู้มั้ยว่ามีกี่คนของแคมป์เหล็กโลหิตที่โดนฆ่า ? แกรู้มั้ยว่าแกสั่งตัดหัวคนไปเท่าไหร่ ? และตอนนี้แกยังอยากจะตายง่ายๆอยู่อีกเหรอ ? “ – รินฮาท มองไปที่อีกฝ่ายด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ – “ ฉันบอกแกได้เลยว่ามันจะเจ็บปวดอย่างมาก ส่วนมันจะเร็วหรือไม่นั้นมันก็ขึ้นอยู่กับแก !”  - หลังจากที่พูดจบ รินฮาท ก็ได้โบกมือแล้วพูดด้วยสีหน้าที่เย็นชา  - “ มัดมัน ... “

เมื่อได้รับคำสั่ง ทหารก็ได้รีบเอาเชือกไปผู้กับหัวและแขนขาของมันก่อนจะไปมัดกับม้า

นี่เป็นครั้งแรกที่ จางเทีย จะได้เห็นคนฉีกเป็นชิ้นๆด้วยม้าห้าตัว  การตายอันโหดร้ายนี้ยากที่จะได้เห็นแม้แต่ในอาณาจักรนอแมนเองก็ตาม

หัวหน้าของแคมป์เหล็กโลหิตได้สั่งให้ฉีก หมิวหลิง ที่ซึ่งสั่งให้ตัดหัวของทหารอาณาจักรนอแมน เพื่อส่งคำเตือนไปยังผู้ที่กล้าจะมาท้าทายสิทธิของอาณาจักรนอแมนและกองทัพอันทรงเกียรติ – ทหารของอาณาจักรนอแมนน่ะโดนฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ !

ในหมู่บ้านนี้ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะฆ่าคนทั้งสองพันด้วยกองทัพแค่พันคน ก่อนที่แคมป์เหล็กโลหิตจะได้ล้อมทุกคนไว้ ก็ได้มีทหารของกองทัพปีกแสงกว่า 70-80 คนหนีไปได้เมื่อรู้ว่าสถานการณ์คงไม่เข้าข้าง หลังจากที่กลับไปที่ฐานแล้ว พวกเขาก็รายงานสิ่งที่เกิดขึ้นให้กับหัวหน้าของกองทัพปีกแสง ดังนั้นแล้วแคมป์เหล็กโลหิตมั่นใจว่ากองทัพปีกแสงจะเข้าใจว่าพวกเข้าต้องการที่จะสื่ออะไร

...

หลังจากที่โดนมัดกับม้ากว่าหนึ่งนาที ไอ้อ้วนได้โดนฉีกออกเป็นห้าส่วน  หลังจากนั้นทั้งห้าส่วนก็ได้ถูกลากออกจากหมู่บ้านนี้ไป

ตอนแรก จางเทีย คิดว่าเขาคงอ้วกที่ได้เห็นแบบนี้ เพราะนี่มันโหดร้ายกว่าการที่ตัดคนออกเป็นสองส่วน  ฉากนองเลือดในสนามรบนั้นทำให้เขาอึดอัดแต่เมื่อเห็นชายคนนี้ดิ้นรนด้วยความเจ็บปวดและร้องออกมาทุรนทุรายจนกระทั่งโดนฉีกออกเป็นห้าส่วน  จางเทีย ก็ได้แต่รู้สึกเย็นชาในใจ

‘ สำหรับคนแบบนี้ เราควรทำแบบนี้แหละ ! ‘ จางเทีย บอกกับตัวเอง ‘ ทหารกว่า 200 คนของแคมป์เหล็กโลหิตได้รับบาดเจ็บและโดนฆ่าในการต่อสู้วันนี้ซึ่งหมายความว่าจำนวนแคมป์เหล็กโลหิตตอนนี้ได้ลดลง 1 ใน 6  ครึ่งหนึ่งของการสูญเสียนั้นเป็นเพราะไอ้ห่านี่ ถ้ามันยุแหย่กองทัพเขาเหล็กและยั่วยุล่ะก็ ฉันจะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ‘

หลังจากที่ส่งคำเตือนสุดท้ายไปแล้ว กู๊ดเดียน ก็ได้มองไปที่นาฬิกา – “ เรามีเวลา 40 นาทีที่จะทำความสะอาดสนามรบและเก็บของของเรา  เราจะออกจากที่นี่ใน 40... “

...

ทุกคนแยกย้ายทันที ตอนนั้นเอง หลิวซิง ก็ได้ดึงแขนของ จางเทีย เอาไว้แล้ววิ่งไปที่สนามรบ

“ เราจะทำอะไร ?  “ - จางเทีย ถามออกมา

“ ไปเก็บของกัน ?  “

“ ไม่ใช่ว่านั่นทหารควรจะทำงั้นเหรอ ? ไม่ใช่ว่าของที่เก็บมาต้องส่งคืนงั้นเหรอ ? “  - จางเทีย ถามออกมาด้วยความสงสัย เมื่อคิดถึงกฎกองทัพที่พี่ชายเขาบอกมา

“ ใครบอกนายกัน ? “ - ร้อยโทขั้นหนึ่งหลิวซิง ยังคงเดินหน้าต่อไปพร้อมกับอธิบายให้ จางเทีย ฟัง – “ ในกองทัพเขาเหล็ก แม้แต่ทั้งอาณาจักรนอแมน ของทุกอย่างที่ได้จากการต่อสู้น่ะไม่จำเป็นต้องส่งคืน นายไม่รู้เรื่องนี้งั้นเหรอ ? “

“ นั่นจริงเหรอ ? “ - จางเทีย ช็อก

“ แน่นอน แคมป์เหล็กโลหิต ซึ่งน่าจะเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากที่สุดและมีอัตราการเสียชีวิตสูงที่สุดควรที่จะได้รับการดูแลพิเศษ ! “ – หลิวซิง พูดขึ้นมาแล้วเริ่มวิ่ง – “ ของน่ะจะถูกแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนที่เก็บกับของส่วนตัว  ส่วนที่เก็บนี้จะถูกแบ่งโดยแคมป์เหล็กโลหิตให้มีประโยชน์ที่สุด ส่วนของส่วนตัวนั้นจะเป็นของคนๆนั้นไป  แม้แต่ผู้การก็ไม่อาจจะมาเอาไปได้ !  ของที่เก็บมาได้นั้นเป็นของกองทัพที่เรากำจัดลงได้ ของมีค่าต่างๆและวัตถุดิบที่ศัตรูยึดครองเอาไว้  หลังจากจบการต่อสู้แต่ละครั้ง ของที่เก็บมาได้ส่วนหนึ่งนี้จะถูกแบ่งให้ไปกับผู้เสียชีวิตในการต่อสู้นี้  ถ้าไม่มีส่วนเก็บ เงินที่ให้สำหรับผู้เสียชีวิตก็จะเอามาจากของส่วนตัวที่เก็บมาซึ่งก็คือของที่นายเก็บมาจากศัตรูที่นายฆ่า  ครั้งนี้เราควรที่จะส่งเงินทั้งหมดที่เราเก็บมาได้เพื่อเป็นเงินให้กับผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บไป “

“ แล้วของที่เก็บได้ส่วนตัวของ หัวหน้ารินฮาท หลังจากที่เขาระเบิดศัตรูเป็นชิ้นๆล่ะ ? “

หลิวซิง หัวเราะออกมา – “ แบบนั้นก็นอกซะจากหัวหน้าน่ะออกไปค้นศพทีละชิ้นๆ ถ้าเขาเจออะไรที่เป็นของชายคนนั้น พวกมันก็จะเป็นของเขา  หัวหน้ารินฮาท น่ะไม่ทำแบบนั้นหรอก นายไม่เห็นพวกบ้านั่นวิ่งไว้กว่าเสือรึไง ? ชายที่ซึ่งสามารถสร้างพลังคีต่อสู้บนฟ้าได้ไม่ใช่คนธรรมดาหรอก  เขาน่ะเป็นนักสู้ระดับ 9  มันต้องมีบางอย่างดีๆอยู่กับเขาแน่  ใครก็ตามที่หาเจอก็จะได้มันไป ! “

‘ เหี้ย ! ‘ จางเทีย เองก็รีบวิ่งเข้าไปในสนามรบเช่นกัน ...

...

หลิวซิง ได้อธิบายกฎการแบ่งของในแคมป์เหล็กโลหิตในตอนที่พวกเขาวิ่ง หลังจากผ่านเรื่องราวต่างๆมาเป็นร้อยปี แคมป์เหล็กโลหิตของอาณาจักรนอแมนได้มีกฎการแบ่งของที่เคร่งคัด ทุกคนต้องทำตามกฎ

เอาเวลานี้เป็นตัวอย่าง  นอกจากการฆ่าเจ้าหน้าที่กว่า 10 คน   จางเทีย เองก็ได้ฆ่าทหารไปจำนวนมาก ตามกฎการแบ่งของแล้ว สมบัติส่วนตัวของทหารพวกนั้นที่ จางเทีย ได้ฆ่าไปนั้นไม่ได้เป็นของเขาอีกต่อไปแต่กลับกันมันจะเป็นของทหารในหน่วย 3  ในฐานะเจ้าหน้าที่ จางเทีย ทำได้แค่เก็บของส่วนตัวที่ของคนที่อยู่ในระดับเจ้าหน้าที่ที่เขาฆ่าเท่านั้น

หลิวซิง พูดว่านี่คือสิ่งที่เจ้าหน้าที่ของอาณาจักรนอแมนควรจะมี    รินฮาท นันก็ทำแบบนั้นด้วยเพราะเขาไม่ได้อยากจะออกไปค้นหาร่างกายของเหยื่อที่เขาได้ฉีกเป็นชิ้นๆ

หัวหน้ารินฮาท  เขาไม่สนใจของของคนที่อ่อนแอกว่าเขา  ถ้าหัวหน้าชอบบางอย่างในคนๆนั้น  หมัดสุดท้ายของเขาแน่นอนว่าต้องเบากว่านี้ ยกตัวอย่างเช่นเขาแค่ต้องระเบิดหัวชายคนนั้นทิ้งแทนที่จะระเบิดทิ้งทั้งตัว

เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ซึ่งสามารถฆ่าศัตรูได้มากมายในสนามรบ ดังนั้นแล้วการเพิ่มอัตราการรอดและได้รับของและเงินมากกว่าเดิมให้ลูกน้องนั้นแน่นอนว่าต้องได้รับความชอบจากลูกน้องไปอีก ไม่ต้องเดาเลยว่าในตอนนี้มีคนจำนวนมากนั้นยอมสละตัวเองเพื่อปกป้องเจ้าหน้าที่ของพวกเขา

นี่แหละคือสังคมที่แบ่งปันและถูกต้อง

นี่ก็เป็นส่วนเกี่ยวข้องกันกับนักธุรกิจที่แบ่งปันผลประโยชน์แต่ไม่ใช่ความถูกต้อง ในตอนที่ภัยพิบัติมาถึง คู่ค้าก็มักจะหนีเหมือนกับนกแตกรัง

บอกได้เลยว่ามันเป็นความฝันลมๆแล้งๆที่จะอาศัยแค่ความถูกต้องโดยไม่แบ่งปันผลประโยชน์

ดูจากการแบ่งของในแคมป์เหล็กโลหิต  จางเทีย ได้รับข้อมูลเชิงลึกมามากมาย บอกได้ว่าการแบ่งของนี้นั้นมาจากจักรพรรดิที่เป็นคนก่อตั้งอาณาจักรนอแมนขึ้นมา

ตอนนี้หลังจากที่ศพทั่วทั้งโซลาเน็ตถูกจัดการ สมาชิกแต่ละคนของแคมป์เหล็กโลหิตก็ได้เก็บเงินของตัวเองไป  เกราะ,อาวุธ,สมบัติและอุปกรณ์พิเศษบนศพล้วนแต่มีค่า  บางคนที่เชี่ยวชาญถึงกับเปิดปากของศพเพื่อเช็คดูว่ามีฟันทองอยู่ข้างในรึเปล่า ไม่มีใครรังเกียจมันเลยสักนิด

จางเทีย เห็นว่าของส่วนตัวของศพศัตรูที่โดนพวกที่ตายไปฆ่านั้นจะถูกเก็บไว้โดยคนพิเศษ  เพราะของพวกนั้นจะถูกเปลี่ยนเอาไปเป็นเงินแล้วส่งให้กับสมาชิกครอบครัวของพวกที่ตายโดยเป็นค่าตอบแทน

ตอนนี้ไม่มีอะไรมีค่าหลงเหลืออยู่เลย

ในตอนที่ จางเทีย ได้มาถึงสนามรบ  ชายคนี้ซึ่งโดน รินฮาท ระเบิดตัวออกมาก็ถูกจัดการเสร็จแล้ว ไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่แม้แต่เส้นผม  หลังจากที่ถอนหายใจออกมา จางเทีย ก็รู้ตัวว่าเขามาช้าเกินไป ดังนั้นแล้วเขาจึงทำได้แค่เก็บจากศพที่ตัวเองฆ่า

สิ่งแรกที่ จางเทีย ได้มาคือม้าสองตัว ม้าสองตัวนั้นถูก กู๊ดเดียน เอาไปใช้งานแบกของและทหารที่ได้รับบาดเจ็บไป

นอกจากนั้นของที่เหลือนั้นล้วนแต่เป็นสมบัติของเจ้าหน้าที่ 12 คนที่เขาฆ่าทิ้งไป

เกราะ,อาวุธและกระปั๋งล้วนแต่เป็นของ จางเทีย หมด  ลูกน้องของเขาได้มาช่วยเขาเก็บของจากศพ สำหรับของที่แบกไปด้วยไม่ได้รึทิ้งไว้ให้ศัตรูเอาไปใช้อีกไม่ได้แล้ว จากกฎการจัดการสิ่งของในแคมป์เหล็กโลหิตแล้ว หลังจากที่เก็บของพวกนี้มาแล้ว พวกเขาต้องไปลงทะเบียนมันก่อนที่จะหาที่ฝังมัน

สมาชิกทุกคนในแคมป์เหล็กโลหิตนั้นเก่งมากในการทำเรื่องแบบนี้ พวกเขาแบ่งออกเป็นพวกใช้แรงงานและทำความสะอาดซึ่งสุดท้ายก็ทำงานกันได้อย่างรวดเร็ว

ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหน เจ้าหน้าที่ก็ต้องรวยกว่าทหารธรรรมดาอย่างแน่นอน พวกเขาน่ะมีของดีๆกับตัวมากกว่า

หลังจากที่ทำการค้นอยุ่หลายศพ นอกจากกระเป๋าตังที่มีเงินแล้ว ในที่สุด จางเทีย ก็ได้เห็นนาฬิกาสีทองที่ฝังอัญมณีวงกลมสองอัน  มันมีเข็มทิศบอก อีกทั้งยังมีปฏิทินและตารางแสดงพิกัดซึ่งจะหมุนไปมาเอง เมื่อเห็นแบนั้น จางเทีย ก็รู้ว่านี่คือของระดับสูงซึ่งทำให้เขาอารมณ์ดีอย่างมาก

ในตอนที่เขาเห็นนาฬิกานั่น  จางเทีย ก็ตระหนักได้ว่าเขาน่ะยังไม่เคยมีนาฬิกาเลยตั้งแต่ที่เกิดมา ดังนั้นแล้วเขาจึงเก็บมันไว้โดยไม่ลังเล

เพราะเงินที่ถูกเก็บมานั้นเป็นค่าชดเชยสำหรับคนที่ตายและบาดเจ็บ เมื่อเห็นกระเป๋าตัง  จางเทีย ก็ไม่ได้แม้แต่เหลือบมองไปที่พวกมันแต่กลับขว้างมันไปให้ทหารข้างๆและขอให้อีกฝ่ายส่งมันให้กับผู้ดูแลที่ซึ่งรับหน้าที่ในการรวบรวมเงิน  จางเทีย ประมาณคร่าวว่ามันต้องมีอย่างน้อยหลายสิบทองข้างในกระเป๋านั่นโดยกะผ่านน้ำหนัก  เงินนั้นแทนความหวังดีที่ จางเทีย มีต่อคนที่ได้รับบาดเจ็บและตายไป  เพราะมันอยู่ในสนามรบ แม้แต่ว่าจะเป็นของเจ้าหน้าที่แต่เขาเองก็ไม่ได้เอาเงินเก็บเข้าตัวมากเท่าไหร่

นอกจากของพวกนี้แล้ว อาหารของพวกเจ้าหน้าที่ที่ตายไปก็น่าจะหลงเหลืออยู่  แคมป์เหล็กโลหิตนั้นไม่ได้มีเสบียง  พวกเขาเอาอาหารมาเพียงพอแค่อาทิตย์เดียว  จางเทีย ขว้างมันให้กับทหารในหน่วยเพื่อตัดปัญหาการอดยากของทหารหลายคน

ในศพของร้อยโทขั้นสองราชวงศ์อาทิตย์ จางเทีย ได้เจอมีดดีๆซึ่งมีสีดำสนิท  แม้ว่าจะไม่มีประกายเลยสักนิดแต่มันคมอย่างมากและมันใช้ง่ายกว่าอันเก่า  ชายคนนี้โชคร้ายจริงๆที่โดนหอกของ จางเทีย ฆ่าตายก่อนที่สองกองทัพจะสู้กัน  มีดของเขายังคงห้อยไว้ที่เอวยังไม่ได้ชักอออกมาเลยด้วยซ้ำ

เมื่อเห็นของดีๆ แน่นอนว่า จางเทีย ต้องเอามันมาเป็นของตัวเองโดยไม่ลังเล

นอกจากของพวกนั้นแล้ว  จางเทีย ยังเจอสร้อยนิกายเทพแสงและหนังสือ ‘ สรรเสริญนายท่าน ’ ซึ่งใช้ล้างสมองคนโดยราชวงศ์อาทิตย์  สำหรับของพวกนี้น่ะเป็นของพรีส แน่นอนว่า จางเทีย จะไม่เอามัน

บนร่าง 20 กว่าร่าง จางเทีย ได้พบสร้อยคอที่มีจี้รูปหัวใจ  เขาเปิดมันดูและพบกับสาวสวยอายุได้ 20 ปี สาวคนนี้ยิ้มได้สวยงาม เมื่อดูแบบนั้นสักพัก จางเทีย ก็ถอนหายใจออกมาแล้วเก็บมันไว้ใกล้ๆกับหน้าอกของเจ้าหน้าที่คนนั้น

สำหรับไอ้ยักษ์ที่ จางเทีย ได้ฆ่าไป นอกจากคทาเขี้ยวหมาป่าแล้วและเกราะครึ่งตัว  จางเทีย ไม่เจอเงินแม้แต่เหรียญเดียว เมื่อมองไปที่ท้องของมัน จางเทีย ก็รู้สึกได้ว่าไอ้บ้านี่มันกินเยอะเกินไปหน่อย

ชายคนนี้เอาแต่มองฟ้าด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย

“ งั้นก็ต้องต้องคิดอะไรมาก แย่ที่สุดครั้งหน้าที่เราสู้กัน แกก็หัดฉลาดกว่านี้หน่อย ครั้งหน้าแกก็ค่อยทำตัวหน้าไม่อายบ้าง.. “

เมื่อพูดจบ จางเทีย ก็เอามือไปปิดตาให้ไอ้ยักษ์นั่น  หลังจากได้รับคำสัญญาของ จางเทีย แล้ว หน้าของไอ้ยักษ์ก็ดูเหมือนจะผ่อนคลายลงไป

ในตอนที่ จางเทีย กำลังจะลุกขึ้น เขาก็ได้เห็นบางอย่างเล็กๆที่ล่างแขนของไอ้ยักษ์  มันคือปลอกนิ้วเหล็ก ไม่รู้ว่ามันใช้กับนิ้วกลางรึนิ้วชี้  ในตอนที่ จางเทีย เห็นปลอกนิ้วนั้น เขาก็นึกได้ถึงนักสู้ทีมีพลังต่อสู้คีที่มีแมงป่องเลือดที่ซึ่งโดน รินฮาท จัดการไป

เมื่อรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างบนนิ้ว  จางเทีย ก็ได้เก็บมันขึ้นมา

ภายใต้ปลอกนิ้วนั้นคือแหวน มันเป็นแหวนเงินธรรมดา ทันใดนั้นหัวใจของ จางเทีย ก็เต้นรัวในตอนที่เขาถอดแหวนออกมาจากนิ้วที่ขาด

เขาถือแหวนนั้นไว้  จางเทีย ยืนยันได้ว่ามันไม่ได้ทำมาจากเงินแต่มันหนักกว่าทองสองเท่า ความหนาแน่นของเงินน่ะน้อยกว่านี้ มีหินสีเขียวสองก้อนขนาดเท่ากับนิ้วก้อยฝังอยู่ที่แหวน   จางเทีย เองก็สับสนเกี่ยวกับแหวนนี่

แหวนนี้ทำให้เขารู้สึกว่ามันแพงและยังลึกลับ...

มีลวดลายพิเศษบนแหวนนี่ ดูเหมือนว่าจะเป็นอักษรบางอย่างที่เขาไม่รู้จัก เมื่อดูรูปแบบของตัวอักษรแล้ว หัวใจของเขาก็เต้นรัวพร้อมกับที่เขาได้แผ่พลังวิญญาณเข้าไปในแหวนเหมือนกับที่แผ่ไปยังจุดชีพจรของเขา

------ แหวนพลังงาน มันสามารถฟื้นฟูแรงกายได้ 4% จากเดิมเมื่อใช้มัน  การเปิดใช้งานจะทำให้ผู้ใช้มีพลังมากกว่าเดิม  ไอเท็มนี้ถูกสร้างขึ้นมาโดยรูนมาสเตอร์ แอนดาเรียล

นี่คือข้อความที่อยู่ในแหวน เมื่อใช้พลังวิญญาณใส่เข้าไปข้างใน ข้อความนี้จะทำงานโผล่ขึ้นมาในจิตใจของคนเราเหมือนกับเทปที่บันทึกคำพูดต่างๆไว้ก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติ

‘ เหี้ย ‘

จางเทีย แทบจะสะดุ้ง ‘ อุปกรณ์รูนพวกนี้น่ะปกติแล้วคนธรรมดาจะไม่มีตามคำพูดของ ดอนเดอร์ ไม่ใช่รึไง ? ‘

‘ ฉันรวยแล้ว.. ‘ ความคิดนั้นแว็บขึ้นมาในหัวของ จางเทีย....

20 นาทีต่อมา แคมป์เหล็กโลหิตก็เริ่มที่จะออกจากโซลาเน็ต  ในตอนที่พวกเขาเดินทางกันออกมา  จางเทีย ก็ได้มีดมาอีกเล่มเหน็บไว้ที่เอว,นาฬิกา,และแหวนที่อยู่นิ้วกลางซ้าย  นอกจากของพวกนี้แล้วไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย ดาบยักษ์และซองหอกยังคงอยู่กับตัว ด้วยของหนักๆพวกนี้แต่ละก้าวที่เดินนั้นยิ่งกินพลังงานเขาอย่างมาก

ตอนนั้น  จางเทีย ได้ใช้พลังงานทั้งหมดใส่ตัวเอง เขาพบว่าถึงแม้น้ำหนักนั้นจะไม่ได้เบาลงเลยสักนิดแต่แรงของเขาชัดเจนแล้วว่าฟื้นฟูเร็วขึ้นกว่าแต่ก่อน ถ้าเขาทำการเปรียบเทียบจริงๆแล้ว เขาจะรู้ว่าเขาฟื้นฟูเร็วขึ้นกว่าเดิม 4% นี่เป็นผลดีของแหวนนี่ มันทำให้เขาเหนื่อยช้าลงไป

ไม่ว่ายังไงก็ตามแหวนนี่น่ะจะทำให้เขาเพิ่มโอกาสรอดได้อย่างมาก

จางเทีย ไม่คิดเลยว่าเขาจะได้รับของแบบนี้มาในการต่อสู้ เขาอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเขาได้อุปกรณ์แบบนี้มาเพิ่ม เขาก็จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆและมีโอกาสมากกว่าเดิมที่จะรอดกลับไปเมืองแบล็คฮ็อต

เพราะการต่อสู้ในวันนี้ จางเทีย มีการพัฒนาในด้านทักษะดาบ เขาพบว่าการสะบัดดาบไปมาด้วยท่าหมัดของหมัดเหล็กโลหิตนั้นเข้ากับดาบยักษ์นี่  ในสนามรบถ้าเขาใช้ดาบยักษ์เป็นเหมือนฝ่ามือยักษ์แทน เขาก็จะส่งแรงออกไปใส่ศัตรูได้มากกว่าเดิม

อีกอย่างแล้วในตอนที่เขาใช้หอกพวกนี้ จางเทีย รู้สึกว่ามันพุ่งออกไปไวกว่าแต่ก่อนแต่พวกมันดูเหมือนจะถึงขีดจำกัดทางด้านความเร็วของพวกมันเพราะพวกมันเจอกับบาเรียอากาศที่ไม่สามารถมองเห็นดได้

บาเรียพวกนี้คือกำแพงเสียงที่ซึ่งวัตถุที่บินในอากาศจะต้องเจอเมื่อพุ่งออกไปด้วยความเร็วเสียง.....

...

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.