spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 207: การต่อสู้ครั้งแรก
การยึดโซลาเน็ตและการฆ่าทหารของราชวงศ์อาทิตย์ที่นั่นเป็นงานสองอย่างที่มีความยากต่างกัน ในสายตาของคนตัดสินใจแล้ว มันไม่มีคำถามเลยว่าแคมป์เหล็กโลหิตของทีม 39 นั้นจะทำเรื่องนี้สำเร็จหรือไม่รึการที่จะทำได้นั้นต้องเสียไปเท่าไหร่
เพราะกองพันของกองทัพเขาเหล็กนั้นโดนกลุ่มทหารของราชวงศ์อาทิตย์ฆ่าตายในโซลาเน็ต หัวของพวกเขาโดนตัดออกและกองศพให้แห้งตาย กองทัพเขาเหล็กที่เข้ามาเสริมนั้นต้องตัดหัวทหารศัตรูทุกคนในเขตนี้และกองมันทิ้งไว้ด้วย
นี่น่ะเป็นเรื่องง่ายๆ ไม่สำคัญว่ามีกี่คนที่ต้องเสียสละ ยังไงพวกเขาก็ต้องทำงานนี้ให้สำเร็จ
โดยทั่วไปแล้วผู้ดูแลของทั้งสองนั้นสู้กันเพื่อแย่งชิงคารัวล์ มันแสดงให้เห็นได้โดยการทะเลาะกันของผู้การและการต่อสู้ระหว่างทหารจำนวนมาก
นี่น่ะเป็นครั้งแรกที่กองพันของกองทัพเขาเหล็กนั้นโดนราชวงศ์อาทิตย์โจมตีในเขตต่อสู้ เพื่อที่จะทำแบบนี้ได้ ทหารของราชวงศ์อาทิตย์จำนวนมาต้องเข้าล้อมและโจมตีโดยมีจำนวนคนมากกว่าสองเท่าเพื่อที่จะให้มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากองทัพเขาเหล็กได้
ตอนนี้ข้อได้เปรียบคือทหารของราชวงศ์อาทิตย์นั้นมีจำนวนมากกว่าในเขตคารัวล์ แม้ว่าจะเป็นการต่อสู้ขนาดเล็กระหว่างสองกองพันแต่กลุ่มไหนที่มีจำนวนทหารมากกว่าก็ต้องได้เปรียบและเอาชนะได้
สิ่งที่เกิดขึ้นในโซลาเน็ตนั้นเป็นแค่จุดเริ่มต้นของปัญหาที่อาณาจักรนอแมนต้องเผชิญหน้าในคารัวล์
ดังนั้นแคมป์เหล็กจึงต้องต่อสู้กับทหารเหล่านั้น ด้วยวิธีนี้พวกเขาจะได้เพิ่มกำลังใจให้กับทั้งทีมได้
การฆ่าล้างนั้นแตกต่างจากการยึดครอง แผนต่อสู้เองก็ต้องทำการปรับไปด้วย
พลตรีกู๊ดเดียน ได้ตัดสินใจที่จะให้แคมป์เหล็กโลหิตเข้าโจมตีจากทางใต้ของโซลาเน็ตแทนที่จะเป็นทางทิศเหนือ หลังจากที่วนรอบแล้ว แคมป์เหล็กโลหิตจะทำการโจมตีด้านหลังศัตรูเพื่อตัดทางหนีไอ้พวกบัดซบราชวงศ์อาทิตย์ที่ซึ่งยึดโซลาเน็ตไว้ตอนนี้
แผนนี้มันง่าย, ดุดัน,และเด็ดขาด เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีทางทิศใต้ กองทัพราชวงศ์อาทิตย์ในโซลาเน็ตจะทำได้แค่ต่อสู้กับแคมป์เหล็กโลหิตด้วยความสิ้นหวัง ไม่มีโอกาสที่พวกนั้นจะหนีไปทางเหนือได้ เพราะภูมิประเทศ พวกนั้นยังคงต้องเจอกับความยากลำบากในการหนีไปทางทิศตะวันตกรึตะวันออก
แต่กลยุทธ์นี้ถูกล่วงรู้ แคมป์เหล็กโลหิตเองก็จะต้องอันตรายอย่างมาก เมื่อเข้าไปในเขตกองทัพศัตรูและไม่สามารฆ่าพวกนั้นได้ในทีเดียว ถ้ามีศัตรูโผล่มาด้านหลังพวกเขา แคมป์เหล็กโลหิตจะโดนล้อมและคงทำได้แต่ตอบโต้ไปตามสถานการณ์
แน่นอนว่าการมาของแคมป์เหล็กโลหิตในทางทิศใต้ของโซลาเน็ตนั้นจะทำให้ศัตรูต้องตกใจแต่ในเวลาเดียวกันแคมป์เหล็กโลหิตเองก็เอาตัวเองไปเสี่ยงด้วยซึ่งอาจจะโดนศัตรูปิดทางได้ง่ายๆ
แผนนี้ดูเหมือนจะบ้าเพราะมีผู้พันไม่กี่คนที่บ้าพอจะโดดเข้าไปอยู่ในวงล้อมศัตรูแต่ ผู้พันรินฮาท น่ะคือคนบ้า ในตอนที่ กู๊ดเดียน เสนอมันมา รินฮาท ก็ได้รับมันมาโดยไม่ลังเล
เพราะพวกเขาต้องยึดที่นี่ เมื่อแคมป์เหล็กโลหิตมาถึงในสถานที่เป้าหมาย พวกเขาก็ได้เดินไปอีกกว่า 10 กม.บนถนนที่อยู่บนภูเขา
ในที่สุดในตอนที่พระอาทิตย์เริ่มฉายแสงลงมาที่โซลาเน็ต สมาชิกกว่าพันคนของแคมป์เหล็กโลหิตก็ได้มาถึงที่ใกล้ๆกับเนินเขาทางทิศเหนือของโซลาเน็ตและแอบซุ่มอยู่ที่นั่นเงียบๆ
สถานที่ตรงนี้ห่างจากโซลาเน็ตไป 1 กม. หลังจากที่เดินหน้ากันมากกว่า 30 กม. แคมป์เหล็กโลหิตก็ได้ทำการแอบซุ่มอยู่ที่ทางเข้าของโซลาเน็ตเอาไว้
พวกเขาได้ซ่อนตัวอยู่ในป่า แม้ว่าพวกเขาจะมีเป็นพันคนแต่พวกเขาก็ไม่ได้ส่งเสียงเลยสักนิด ทุกคนต่างก็นั่งยองๆกับพื้น,พักผ่อน, ดื่ม,และกินเพื่อฟื้นฟูแรงกลับมาให้ได้มากที่สุด
พวกเขามีเวลา 20 นาทีในการพักฟื้นตัว
ในที่สุดพวกเขาก็เริ่มสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จางเทีย ดึงเนื้อแห้งออกมาจากเสื้อและเริ่มกินมันลงไป ในขณะเดียวกันตาของเขาที่เบิกกว้างนั้นก็ได้มองไปยังหมู่บ้านเล็กๆด้านบนเนินเขาซึ่งก็คือโซลาเน็ต
ตอนนั้นมีควันหลายสายลอยออกมาจากหมู่บ้านดูเหมือนว่านี่จะเป็นควันที่มาจากบ้านหลายหลังซึ่งไหม้มาตลอดคืน หลังจากที่ยึดโซลาเน็ตได้แล้ว ราชวงศ์อาทิตย์ได้เผาบ้านหลายหลังเพื่อยึดครองทุกสิ่ง ดังนั้นบ้านจึงไหม้ไปตลอดคืนกลายเป็นคบไฟขนาดใหญ่
จากนั้นก็ไม่มีพลเมืองอยู่อีกต่อไป ก่อนที่กองทัพของทั้งสองกลุ่มจะเผชิญหน้ากัน พลเมืองรอบๆคารัวล์ได้หนีไปทุกทิศทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นคารัวล์, ทางใต้รึทางเหนือ ไม่มีใครต้องการที่จะอยู่ในการต่อสู้ครั้งนี้
บอกได้เลยว่าคารัวล์ตอนนี้นั้นมีคนเป็นจำนวนแสนๆคนแล้ว
หมู่บ้านเล็กๆนี้เต็มไปด้วยทหารกองทัพปีกแสงที่ซึ่งใส่ชุดสีฟ้า หลายคนนั้นเพิ่งจะตื่นแล้วไปล้างหน้าที่แม่น้ำซึ่งอยู่ห่างออกไป
แม้จะไม่มีประสบการณ์ในการต่อสู้ จางเทีย ก็ประมาณได้ว่าคงต้องมีทหารกองทัพปีกแสงกว่า 2500-3000 คนในโซลาเน็ต
เพราะมีถนนหลักเพียงเส้นเดียวที่ทอดไปสู่หมู่บ้าน แผนการโจมตีจึงง่ายดายอย่างมาก แคมป์เหล็กโลหิตแค่ต้องแห่กันเข้าไปในหมู่บ้านโดยใช้ถนนเส้นนี้และฆ่าทุกคนที่ใส่ชุดสีฟ้า กุญแจในการเอาชนะคือความเร็ว พวกเขาไม่ควรให้เวลาศัตรูได้ตั้งตัว
หลังจากที่กินเนื้อแห้งสองชิ้นและดื่มน้ำสองอึก จางเทีย ก็พักอีก 5 นาที เขารู้สึกว่าร่างกายของเขาได้ฟื้นตัวแล้ว พวกเขาไม่ได้กินอะไรมาก ที่พวกเขาทำก็เพราะกันไว้เผื่อมันส่งผลในการต่อสู้ที่จะมาถึงก็เท่านั้น
การเดินทัพด้วยอุปกรณ์ที่หนักกว่าครึ่งตันนั้นก็เป็นการทดสอบสำหรับร่างกาย จางเทีย ถ้าต้องเดินอีก 10 กม. จางเทีย รู้ว่าเขาคงไม่ไหว การที่มีของหนักขนาดนี้แบกไปด้วยมันไม่ใช่เรื่องตลกเลยสักนิด ต้องขอบคุณที่โซลาเน็ตนั้นอยู่ไม่ไกลและ จางเทีย ก็ได้ถอนหายใจออกมา
แม้ว่าดาบยักษ์จะเป็นอาวุธที่เอาไว้ใช้อวดได้แต่ในสนามรบแล้ว จางเทีย รู้สึกว่ามันเหมือนกับการสร้างรังไหมรอบตัวเขาไปแทน
สองอาทิตย์ต่อมาในตอนที่แคมป์เหล็กโลหิตกำลังจะเติมเสบียง เขาได้คิดที่จะเปลี่ยนอาวุธในการต่อสู้ ถ้าเขาต้องหนีรึต้องเดินทางไกล ดาบนี่น่ะจะสร้างภาระให้เขาอย่างมาก
จางเทีย ได้ตัดสินใจ เขารู้สึกว่านี่เป็นกฎแรกที่เขาเข้าใจตั้งแต่ที่เขาโดดลงมาจากรถไฟ อย่าตบหน้าตัวเองจนต้องกล้ำกลืนความพยายามเพื่อทำให้ตัวเองดูอ้วน ถ้าไม่งั้นคุณจะเจ็บตัวและขาดทุนอย่างมาก
ในไม่ถึงสองนาทีหลังจากที่ จางเทีย ได้ตัดสินใจ เขาก็ได้เรียนรู้กฎข้อที่สอง – ไม่มีใครรอจนกว่าที่เขาจะเตรียมพร้อม
เวลาที่สัญญาไว้ให้พักผ่อนก่อนการโจมตีคือ 20 นาทีแต่ไม่ถึง 10 นาทีหลังจากที่พวกเขาพักแล้ว ทีมทหารทีมหนึ่งก็ได้วิ่งออกมาจากหมู่บ้านแห่มาที่ที่แคมป์เหล็กโลหิตซ่อนตัวอยู่
คนประมาณ 500-600 คนนั้นแห่มาที่พวกเขา แน่นอนว่านี่มันไม่ใช่เพราะพวกนั้นพบว่าแคมป์เหล็กโลหิตซ่อนตัวอยู่แต่พวกเขาพร้อมที่จะออกจากโซลาเน็ตแล้ว
ในตอนที่ จางเทีย คิดว่า รินฮาท คงปล่อยทหารพวกนี้ไปเผื่อจะได้ไปเรียกกองทัพใหญ่มา รินฮาท ก็ได้สั่งการออกมา – “ เตรียมสู้ ฆ่าพวกมันให้หมด ! “
เพราะคำสั่งคือฆ่าทหารกองทัพปีกแสงที่ยึดครองโซลาเน็ตให้หมดทุกคน ผู้พันรินฮาท จึงไม่คิดที่จะปล่อยให้ใครมีชีวิตกลับไป
หลังจากที่ได้รับคำสั่ง กลุ่มทหารที่มีหน้าไม้ก็ได้เคลื่อนที่ไปทั้งสองข้างเส้นทางภูเขาและหรี่ตาไปมองทหารและม้าของอีกฝ่าย
เพราะแบบนั้นนี่จึงเป็นการต่อสู้แรกของ จางเทีย เขากังวลเล็กน้อยและต้องฝืนกลืนน้ำลายถึงสองรอบ
ตอนนั้นก็ได้มีมือหนึ่งมาวางไว้ที่ไหล่ของเขา เขาหันกลับไปมองและพบว่าเป็น เฟโอ ที่นั่งยองๆอยู่ด้านหลังเขา
“ ตอนที่การต่อสู้เริ่ม กลุ่มสามจะตามนายไปและนายก็แค่ตามฉันมา ไม่ต้องกลัว... “
จางเทีย พยักหน้า
ทีมทหารและม้านั้นยังคงเดินหน้าเข้ามาอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ระยะห่างพวกนั้นกับ จางเทีย คือ 1 กม.
พวกนั้นคือทหารของกองทัพปีกแสง ที่ด้านหน้าคือทหารม้าที่ถือธงอยู่ ทหารสวมเกราะนั้นตามมาพร้อมกับอาวุธในมือโดยมีสี่คนต่อแถว สุดท้ายก็ได้มีกลุ่มทหารที่เหมือนกับแนวหน้าแต่พวกนี้มีเกราะที่ดูสง่ากว่า พวกเขาดูเหมือนเป็นเจ้าหน้าที่ชั้นสูงของกองทัพนี้
กองทัพองราชวงศ์อาทิตย์มีคน 300 คนต่อหน่วย ส่วนกองทัพอาณาจักรนอแมนนั้นมี 5 คนต่อหน่วย ทั้งสองกองทัพนั้นต่างกันอย่างมากในหลายด้าน ทหาร 500-600 คนและม้านั้นถือว่าเป็นกองพันของกองทัพปีกแสง
ทีมทหารไม่คิดว่าพวกเขาจะโดนซุ่มโจมตีหลังจากที่ออกจากโซลาเน็ต ในตอนที่ลูกธนูถูกยิงออกมาจากป่าทั้งสองข้างทาง ทหารครึ่งหนึ่งก็ได้รับบาดเจ็บและได้ร้องออกมาทันที
“ ฆ่าพวกมันให้หมด ! “
ผู้พันรินฮาท คือคนแรกที่ได้พุ่งออกไปจากป่าเหมือนกับเสือที่ดุร้าย แค่หมัดเดียวที่เขาต่อยไปยังทหารม้าที่ซึ่งไม่สามารถคุมม้าได้ก็ทำให้อีกฝ่ายนั้นกระเด็นออกไปจนไปชนให้พวกของชายคนนั้นหลายคนต้องตกลงไปที่พื้น
ทหารของแคมป์เหล็กโลหิตกระโดดออกมาจากป่าด้วยแบ่งทีมทหาร 500-600 คนนั้นออกเป็นหลายๆส่วน
อาวุธหลักในการต่อสู้ของ เฟโอ คือขวานสองคมซึ่งเหมือนกับล้อ ในตอนที่ชายหัวล้านนี้ได้โบกขวานของเขา เขาดูเหมือนนักล่าซึ่งจะฆ่าทหารของราชวงศ์อาทิตย์ทันทีที่เขาไปถึงตัว
ในเสี้ยวพริบตา เฟโอ ก็ได้สร้างเส้นทางโชกเลือดยาวกว่า 10 ม.ตรงหน้า จางเทีย ...