หน้าแรก > Castle of Black Iron
Chapter 206: มาถึงคารัวล์

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

Chapter 206: มาถึงคารัวล์

 

หลังจากที่ออกจากเมืองแบล็คฮ็อตมา พวกเขาก็ได้เดินทางกันมาอีกสองวันจนกระทั่งรถไฟของกองทัพนั้นมาถึงเขตคารัวล์เช้าวันที่สาม

จางเทีย ตื่นขึ้นมาจากฝัน จากตอนที่เขาขึ้นรถไฟมา เขาทำแค่สามอย่าง อย่างแรกเลยคือนอน, สองคือฆ่าสัตว์อสูรใน Trouble-Reappearance และอย่างที่สามคือจำลองลูกคิดสองอันพร้อมกันเพื่อฝึกคิดเลขในใจ เทียบกับสาวๆน่ารักๆแล้ว มันน่าเบื่อจริงๆที่จะต้องมาอยู่กับพวกคนแก่ตัวเหม็นพวกนี่

พวกคนอื่นเล่นไพ่  พวกที่หัวรุนแรงหน่อยที่ซึ่งอยากผ่านพ้นจุดคอขวดของทักษะหมัดเหล็กโลหิตไปนั้นฝึกฝนท่าทางต่างๆเงียบๆ  ในทางกลับกันพวกรักสงบส่วนมากนั้นหลับตารึไม่ก็ขัดอาวุธเตรียมพร้อมกับสงครามที่จะมาถึง

ระหว่างไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ รถไฟนั้นหยุดเพียงแค่สามครั้งบนสถานีเล็กๆตามทางเพื่อเติมถ่านและน้ำ หนึ่งชั่วโมงในแต่ละครั้ง ด้วยกฎที่เคร่งคัดแล้วไม่มีทหารคนไหนก้าวเท้าออกจากรถไฟ

รถไฟที่มีทหารทั่วไปนั้นเต็มไปด้วยควัน สวนรถไฟที่มีพวกเจ้าหน้าที่นั้นอยู่นิ่งเหมือนแทนไม่ได้วิ่งฝ่าลมไปเลย

ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ จางเทีย นอนอย่างเดียว นอกจากกินข้าวแล้วเขาไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นเลยสักนิด

...

“ ตื่น ร้อยโทขั้นสองจางเทีย เรามาถึงคารัวล์แล้ว ... “

เพราะยังคงฝันหวาน จางเทีย ได้ถูกปลุกขึ้นมาโดยร้อยโทที่นอนอยู่ชั้นบนเขา เขาลืมตาขึ้นมาและพบว่ารถไฟนั้นหยุดแล้ว ข้างนอกนั้นเสียงดัง  เขายื่นหัวออกไปดูนอกหน้าต่าง  จางเทีย มองไปด้านนอกแล้วพบว่ามันกำลังจะเช้า สถานีนั้นเต็มไปด้วยคนที่ใส่ชุดสีแดงและของเป็นกองๆ

จางเทีย ลุกขึ้นทันทีและใส่เสื้อผ้ากับรองเท้า หลังจากที่ตาสว่างเขาก็ได้ไปที่ขบวนโรงอาหารซึ่งตอนนี้ถูกใช้เป็นห้องประชุมของแคมป์เหล็กโลหิตชั่วคราว

ในตอนที่ จางเทีย มาที่โรงอาหารนั้น เจ้าหน้าที่ยศร้อยโทขั้นหนึ่งที่ซึ่งไม่ได้อยู่ที่แคมป์เหล็กโลหิตก็รีบออกไปอีกขบวนทันที

ในนาทีต่อมาการประชุมกองทัพครั้งแรกก็ได้เริ่มขึ้นในโรงอาหารตอนที่แคมป์เหล็กโลหิตได้มาถึงที่คารัวล์แล้ว

...

แผนที่ของเขตคารัวล์นั้นถูกห้อยไว้ที่กำแพง ตรงกลางแผนที่นั้นคือเมือง ด้านใต้และเหนือนั้นจับจองด้วยเครื่องหมายสีฟ้าและแดงโดยมีเมืองคั่นกลาง  พลตรีกู๊ดเดียน ได้ถือปากกาเอาไว้แนะนำสถานการณ์ต่างๆรอบๆคารัวล์ในทุกๆภาษา

“ ตอนนี้ทั้งกองทัพของเราและปีกแสงนั้นได้มารวมตัวกันในเขต 50 กม.จากคารัวล์ เมืองนั้นยังคงเป็นเหมือนเดิมอยู่ ที่ทางทิศใต้ตั้งชื่อว่าเขตสีฟ้าในแผนที่นั้นคือกองทัพปีกแสง ส่วนทางทิศเหนือที่เป็นสีแดงน่ะคือกองทัพเขาเหล็กของเรา สถานที่ที่เราอยู่นั้นห่างจากคารัวล์ไป 87 กม. เราอยู่ที่นี่... “ - กู๊ดเดียน ชิ้ไปที่เมืองที่ชื่อคาริคที่อยู่ด้านหน้าของเขตสีแดงบนแผนที่

“ เขตช่องแคบสีเทาที่ล้อมรอบคารัวร์บนแผนที่นั้นยาว 75 กม.กว้าง 124 กม. ในเขตภูเขาและที่ซึ่งมีการต่อสู้ที่ดุเดือดที่สุดระหว่างเรากับปีกแสง ตอนนี้หลายกองทัพทั้งสองฝั่งนั้นได้ถูกส่งไปยังเขตนี้ การปะทะนั้นเกิดขึ้นทุกวัน  ตอนนี้เราได้รับคำสั่งมาจากหัวหน้าทีมว่าเราต้องชิงพื้นที่นี้มาให้ได้เร็วที่สุด  เราน่ะมีกองพันอื่นก่อนหน้านี้แต่เมื่อคืนกงอทัพนั้นได้ขาดการติดต่อ ปกติแล้วมันจะหมายความว่ากองทัพนั้นน่ะได้ตายไปแล้ว .. .”  - กู๊ดเดียน ลาสงเส้นจากคาริคไปยังที่ที่เรียกกว่าโซลาเน็ตในเขตสีเทา เพราะพวกเขาเข้าใจเส้นพวกนี้ พวกเขารู้ว่าโซราเน็ตน่ะเป็นเมืองที่สร้างอยู่บนเนินเขา

กู๊ดเดียน ลากเส้นและวงกลมขึ้นมาและบอกคนอื่นๆต่อ – “ หน้าที่ของเราคือยึดที่นี่มาให้ได้อีกครั้ง อีกอย่าง เราต้องเดินหน้าต่ออีกสองอาทิตย์ในเขตนี้ซึ่งมีพื้นที่อย่างน้อย 100 ตร.กม. และทำลายฐานของศัตรู 3 ฐาน ในอีกสองอาทิตย์นี้เราจะโจมตีครั้งใหญ่เข้าใส่กองทัพของราชวงศ์อาทิตย์ในเขตนี้  ในงานนั้นเราพึ่งได้แค่พลังของตัวเองและประมาท  14 วันให้หลังเราถึงจะกลับไปที่ปราสาทหมายเลข 4 ของกองทัพเขาเหล็กใกล้ๆกับคารัวล์ได้เพื่อพัก มีคำถามมั้ย ? “

ทุกคนส่ายหน้า ยกเว้นแค่ จางเทีย ที่ซึ่งรู้สึกว่าหัวของเขาหมุนเพราะนี่คือสงครามครั้งแรกของเขา ไม่คาดคิดเลยว่าในตอนที่พวกเขามาถึงคารัวล์ ยังไม่ทันได้จิบน้ำ พวกเขาก็ได้รับงานแล้วไม่เหลือเวลาให้ทำอย่างอื่นเลย

“ ดี  แผนที่จะถูกส่งไปให้แต่ละทีม ถ้าไม่มีปัญหาอะไร พวกนายมีเวลาห้านาทีเพื่อเตรียมตัว หลังจากนั้นเราจะลงจากรถไฟและเตรียมเดินทาง ! “

เจ้าหน้าที่ทุกคนลุกขึ้นยืนและไปมองหมายงานให้กับทีมตัวเอง

ในห้านาทีต่อมา จางเทีย ได้เอาเกราะเบาแบบ B ที่อาณาจักรนอแมนผลิตขึ้นมาใส่เป็นครั้งแรก มันเป็นแผ่นอัลลอยที่แทบจะปกป้องส่วนที่สำคัญที่สุดหมด

นอกจากใส่เกราะและเอาอุปกรณ์เหมือนเจ้าหน้าที่คนอื่น  จางเทีย ยังได้เอาซองหอกที่หนักกว่า 100 กก.และดาบยักษ์ของเขาไปด้วย

ไม่ใช่แค่เจ้าหน้าที่ แม้แต่ทหารเองก็ยังเตรียมพร้อมเสร็จในห้านาที

เวลาสงครามนั้นคือเวลาที่จะแสดงประสิทธิภาพอันสูงส่งของแคมป์เหล็กโลหิตออกมา จากทหารคนแรกที่ได้รับสั่งให้เปิดประตูของขบวนรถและโดดลงไป ทุกคนกว่าพันคนในแคมป์นั้นล้วนแต่ยืนประจำกันเป็นทีมในสถานี ทุกอย่างเสร็จสิ้นในสองนาที

ตอนนี้แคมป์เหล็กโลหิตนั้นเหมือนกับสัตว์ที่ดุร้ายซึ่งเพิ่งเผยสัญชาตญาณฆ่าออกมา ทุกคนต่างก็ถืออาวุธและสวมเกราะ พวกเขาต่างก็เงียบพร้อมกับโคจรพลังคีในร่าง

...

“ อ่า แคมป์เหล็กโลหิต  นั่นไงแคมป์เหล็กโลหิต.. “
ในตอนที่แคมป์เหล็กโลหิตโผล่มาที่สถานี ทหารและเจ้าหน้าที่ในสถานีก็มองด้วยความตะลึงกับกอทัพที่แข็งแกร่งแบบนี้

“ ทีมไหน ? “

“ ฉันได้ยินมาว่าของทีม 39 !”

“ อ่า ! นั่นใช่แคมป์ที่ไอ้บ้า รินฮาท ดูแลรึเปล่า ? “ – อีกคนอุทานออกมา

“ เยี่ยมเลย แคมป์เหล็กโลหิตต้องสั่งสอนบทเรียนพวกนั้นได้แน่ ! “ - บางคนตื่นเต้นขึ้นมา

เมื่อได้ยินสิ่งที่พวกนั้นพูดคุยกัน  จางเทีย ก็รู้มากว่า รินฮาท น่ะเป็นที่รู้จักกันดีในกองทัพเขาเหล็ก

“ ใครกันที่ถือไอ้ของน่ากลัวนั่นแล้วยังแบกกองหอกอีก ? “

“ ฉันไม่รู้แต่เขาดูโหดชะมัด ! “

จางเทีย ไม่คิดว่าแค่ยืนเฉยๆในหมู่ทหารจะทำให้ตัวเองกลายเป็นที่สนใจมากขนาดนี้แต่มันเป็นครั้งแรกที่เขาเข้าร่วมสงคราม จางเทีย น่ะได้แต่รู้สึกกังวลในใจ เขาไม่ได้รู้สึกอยากอวดเลย

“ เดินหน้าได้ ! “ - ไม่นาน รินฮาท ก็ได้ตะโกนออกมา ทุกคนในแคมป์เริ่มเดินหน้าออกไปจากสถานี

ในตอนที่พวกเขาออกมาจากสถานีได้  จางเทีย ก็เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงถูกสั่งให้เดินไปที่โซลาเน็ต  ที่เมืองแนวหน้านี้ที่ซึ่งพวกเขาได้ลงจากรถไฟ อาคารกว่าครึ่งนั้นโดนทำลาย กระเบื้องและกำแพงที่พังมีให้เห็นทั่วทุกที่

อาคารนั้นถูกเผา ส่วนถนนก็ถูกทำลาย ผลก็คือรถเกราะไอน้ำนั้นแสดงบทบาทมันได้ดีในที่ราบและการโจมตีเป็นกลุ่มนั้นได้ไร้ประโยชน์ในเขตภูเขาที่ล้อมรอบคารัวล์เอาไว้

เมืองนั้นเต็มไปด้วยทหารที่ใส่ชุดแดง มันไม่แปลกสำหรับคนแคมป์เหล็กโลหิตซึ่งเดินออกมาจากสถานี หลังจากที่กองทัพของแคมมป์เหล็กโลหิตเดินออกมาจากสาถนี่ได้ ไม่นานพวกเขาก็ได้ออกจากเมืองและได้เข้าไปในป่าในอีกไม่กี่นาทีต่อมา

โซลาเน็ตนั้นห่างจากที่นี่ไปอย่างน้อย 25 กม.

สิ่งเดียวที่ จางเทีย ตระหนักได้ตอนนี้คือมันโง่อย่างมากที่เอาดาบยักษ์นี่มาเป็นอาวุธหลัก ดาบยักษ์พร้อมมกับหอกที่หลังรวมกับอุปกรณ์อื่นๆที่มีทำให้ จางเทีย น่ะแบกของกว่าครึ่งตัวไว้กับตัว และทั้งหมดนี้ต้องแบกวิ่งไปกว่า 25 กม.ก่อนจะต้องเขาสู่สงคราม  แม้ว่า จางเทีย จะมีแรงของหมาป่าเก้าตัวแต่เขาก็ยังรู้สึกเหนื่อยนิดๆเพราะน้ำหนักของมัน ยังไงซะการแบกของหนักๆน่ะก็ไม่ใช่เรื่องที่หมาป่านั้นโดดเด่น

แต่ตอนนั้น จางเทีย ต้องกัดฟันแน่นและทนไปอีกทั้งยังต้องรวบรวมความกล้า

ก่อนที่กองทัพจะเข้าไปยังเขตภูเขาก็ได้มีกองทหารม้าขี่มาจากด้านหลังและเอาเอกสารที่มีคำสั่งมาให้ รินฮาท ที่ซึ่งอยู่ด้านหน้าสุดของกองทัพ หลังจากนั้นทหารม้าก็ได้ขี่ออกไปอย่างรวดเร็ว

“ ตามรายงานของหน่วยสอดแนมของเรา พวกบัดซบราชวงศ์อาทิตย์น่ะได้สับหัวทหารของเราในโซลาเน็ตแล้วและกองพวกนั้นในสนามรบ ไม่มีใครรอด ตามคำสั่งสุดท้ายที่ได้รับมา อีกทั้งหน้าที่ล่าสุดของเรา เราจะฆ่าพวกห่านั่นที่ยึดโซลาเน็ต อย่าให้พวกมันหนีไปได้ .. “ - รินฮาท ตะโกนออกมาพร้อมกับแผ่พลังคีออกมาด้วย

“ ฆ่าพวกมันให้หมด ! “

“ ฆ่าพวกมันให้หมด ! “

ทุกคนต่างก็เดือดดาลขึ้นมาทันที...

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.