spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
บทที่ 357: สถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก
การปรบมือเป็นเหมือนคลื่นน้ำ ไหลมาเป็นระลอกคลื่น ไม่หยุดเป็นเวลานาน
เจี้ยงเฉินไม่ได้คิดว่าจะมีภาพเช่นนี้เกิดขึ้นเช่นกัน เมื่อเขาเดินลงมาจากสังเวียน เขาเห็นหลิวเวิงไคและอ้วนลู่กำลังปรบมืออย่างตื่นเต้น ใบหน้าของพวกเขาแดงด้วยอารมณ์ความรู้สึกราวกับว่าพวกเขาต้องการจะตบมือจนกว่าแขนจะหลุด
"สุดยอดไปเลยศิษย์พี่ภูผา ! "
"เราภูมิใจในตัวท่านมาก ! "
ขอบตาของหลิวเวิงไคมีสีแดง,เห็นได้ชัดว่าเขาอารมณ์อ่อนไหวจนร้องไห้ออกมา อ้วนลู่ก็แอบเช็ดน้ำตาที่ซ่อนอยู่ที่หางตาด้วยแขนเสื้อของเขา
"ศิษย์พี่ภูผา ดูสิ ! ความยุติธรรมได้รับการสนับสนุนอย่างมากในขณะที่แทบจะไม่มีใครอยู่ข้างความอยุติธรรม การที่นิกายตะวันม่วงโกงการแข่งขันทำให้ทุกคนที่นี่โกรธแค้นมาก ในที่สุดการกระทำที่กดขี่ข่มเหงเช่นนี้จะไม่ได้รับการยอมรับจากสาธารณชน ! ไห่เทียนนำความหายนะลงมาให้กับตัวเอง! " หลิวเวิงไคเกือบจะตะโกนในสภาพที่ดีใจสุดขีด และหลอดเลือดที่คอของเขาก็สั่นเหมือนหนอนที่เดินทางผ่านโคลน
แท้จริงแล้วสิ่งที่หลิงเวิงไคพูดเป็นสิ่งที่ผู้เข้าแข่งขันส่วนใหญ่กำลังคิด
แม้ว่าผู้เข้าแข่งขันเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นอัจฉริยะของนิกายและพวกเขาไม่ได้ต้องการเห็นสาวกสามัญโดดเด่นมากเกินไปหรือดูคนอื่นยิ่งใหญ่ต่อหน้าต่อตา แต่พวกเขายังคงมีเหตุผลอยู่บ้าง
เมื่อคนที่อิจฉาเริ่มตระหนักว่าศักยภาพและความแข็งแกร่งของสาวกสามัญคนนี้สูงกว่าคนอื่น ๆ มาก พวกเขาจึงค่อย ๆ ยอมรับ
และเมื่อนิกายตะวันม่วงเริ่มโกงการจับคู่การแข่งขัน สิ่งต่าง ๆ ก็แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว
หากพวกเขาโกงการท้าประลองได้ตามต้องการแล้ว จะมีประโยชน์อะไรให้อีกสามนิกายต้องแข่งขัน? พวกเขาจะแข่งขันกันได้อย่างไร?
ก่อนหน้านี้พวกเขาอาจคิดว่าการกำจัดสาวกสามัญอาจทำให้พวกเขาสมปรารถนาที่จะได้รับชัยชนะจากการแข่งขัน แต่ความเกลียดชังที่มีต่อการละเมิดกฎและการกระทำที่น่ารังเกียจ เช่น การโกงการแข่งขันอย่างเปิดเผยคือความเชื่อมั่นจากความลึกซึ้งของจิตใจและเรื่องของหลักการ
ถ้าแม้แต่หลักการยังถูกเปลี่ยนแปลง ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะมีการแข่งขันต่อไป
เป็นเพราะความเกลียดชังต่อนิกายตะวันม่วงที่ดึงหัวใจของพวกเขาทั้งหมดเอียงไปทางเจี้ยงเฉิน
เมื่อพวกเขาได้เห็นเจี้ยงเฉินจัดการไห่เทียนอย่างน่าอัศจรรย์ พวกเขารู้สึกว่าได้แก้แค้น รู้สึกปลดปล่อย ฉะนั้นจึงปรบมือเสียงดังดั่งที่เกิดขึ้น
นี่คือการแสดงพลังอำนาจของนิกายตะวันม่วง และการประท้วงถูกปล่อยออกมาจากส่วนลึกของจิตใจของพวกเขา
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ ภายใต้อำนาจเผด็จการของหัวหน้าชูหยู่ พวกเขาอาจจะไม่ได้ทำเช่นนั้น แต่ตอนนี้นางสูญเสียลูกศิษย์ 2 คนในคราเดียว นางจึงตกใจจนขาดสติในตอนนี้
ผู้ฝึกฝนบ่มเพาะสามัญคนนี้ได้ทำให้หัวหน้าชูหยู่ประหลาดใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขากระชากนางลงมาจากแท่น ทำให้นางดูไม่น่าเกรงขามและไม่น่าเคารพต่อหน้าผู้เข้าแข่งขันคนอื่น
เมื่ออำนาจของนางถูกสอบสวน การล่มสลายจะรวดเร็วขึ้น
อาจกล่าวได้ว่าเจี้ยงเฉินทำให้อำนาจของหัวหน้าชูหยู่แตกสลายทีละนิด
ตอนนี้นางสงบลงแล้ว
นางวางนิ้วใต้จมูกของไห่เทียนและค้นพบว่าเขาไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว
“อ่า ....” หัวหน้าชูหยู่หันหลังกลับมาและกรีดร้อง น้ำค้างแข็งระยิบระยับอยู่บนใบหน้าของนาง มีหมอกขาวแพร่กระจายด้วยความเร็วสูงรอบสภาพแวดล้อมอย่างน่าทึ่ง
"ไอ้สัตว์โง่ เจ้าทำร้ายศิษย์ของข้าถึง 2 คน คนหนึ่งตาย ส่วนอีกคนต้องพิการ ดี,ดี,ดีมาก ! "
หัวหน้าชูหยู่ยิ้มกัดฟันขณะที่ความโกรธแค้นของนางเริ่มแผ่ขยายไปพร้อมกับรัศมีส่องแสงจ้าไปยังเจี้ยงเฉินผ่านทางอากาศ
"หัวหน้าชูหยู่ ท่านกำลังทำอะไรอยู่?"
ผู้ตรวจสอบคนอื่นรู้สึกตื่นตระหนกอย่างมาก พวกเขาค้นพบว่าหัวหน้าชูหยู่มีอาการแรกของคนที่กำลังจะเป็นบ้า ได้โปรดเถอะ ท่านเป็นหัวหน้าผู้ควบคุมพื้นที่ส่วนนี้ ท่านกำลังจะโจมตีผู้เข้าแข่งขันหรือ?
ผู้ตรวจสอบคนอื่นไม่ได้ยุยงเพิ่ม เมื่อพวกเขาเห็นท่าทางของหัวหน้าชูหยู่ พวกเขาจึงกระโดดออกไปเพื่อหยุดนาง
"เจ้าต้องการที่จะหยุดข้ารึ?" น้ำค้างแข็งปกคลุมทั่วใบหน้าของหัวหน้าชูหยู่
"หัวหน้าชูหยู่ แม้ว่าท่านจะเป็นหัวหน้าผู้ควบคุม เราก็จะไม่นั่งเฉย ๆ โดยปล่อยให้ท่านอาละวาดในที่สาธารณะ" ผู้ตรวจสอบรายอื่นพูดขึ้น
ท่านกำลังล้อข้าเล่นใช่ไหม มันน่าอายมากพอสำหรับท่านที่จะโกงการแข่งขัน และตอนนี้ท่านต้องการใช้กำลังจัดการผู้เข้าแข่งขันอีกหรือ? ถ้าเราปล่อยให้ท่านทำตามที่ต้องการ การแข่งขันในพื้นที่ส่วนปฐพีคงกลายเป็นเรื่องตลกมหึมา?
"อย่ามาขวางทางข้า !" หัวหน้าชูหยู่ตะโกนขณะที่นางส่งแสงไปข้างหน้าอีกครั้ง
"หัวหน้าชูหยู่ กลับตัวกลับใจซะ อย่าทำผิด เรียกสติกลับมาได้แล้ว !"
"การโกงการแข่งขันและละเลยกฎ,และตอนนี้ท่านยังต้องการที่จะทำร้ายผู้เข้าแข่งขันในที่สาธารณะอีกด้วย. ท่านไม่เคารพกฎ ! เราควรรายงานเรื่องนี้ต่อบรรพบุรุษของเรา"
"ใช่ เราต้องประท้วงเรื่องนี้ ถ้าเรื่องนี้ยังคงดำเนินต่อไป พื้นที่ส่วนปฐพีคงกลายเป็นเรื่องตลก"
หัวหน้าชูหยู่หัวเราะอย่างเย็นชา “ประท้วง? เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวการประท้วงหรือ? แล้วยังไง? พวกเจ้าคิดว่าข้าสนใจสถานะผู้ควบคุมพื้นที่ส่วนปฐพีงั้นรึ? "
"หลีกไปให้พ้นทางข้า ไม่อย่างนั้นอย่ามาโทษข้าว่าไม่มีเมตตา !" ความโกรธแค้นของหัวหน้าชูหยู่เกินการควบคุม ดูเหมือนว่านางกำลังจะเป็นบ้า
ผู้ตรวจสอบคนอื่น ๆ มองหน้ากันด้วยการตัดสินใจที่แน่วแน่
ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดออกมารวมตัวกัน
"ถ้าท่านต้องการทำตามที่ต้องการ เชิญเลยและเริ่มฆ่าพวกเราทุกคน !!"
"ใช่ พื้นที่ส่วนปฐพีไม่ใช่สถานที่ที่ท่านเป็นผู้ปกครองสูงสุด ท่านคิดว่าจะสามารถหยุดปากของเราทั้งหมดโดยการฆ่าคนหรือ? "
"ทุกคนลุกขึ้นยืนและประณามนาง !"
"ใช่ สตรีที่ยึดอำนาจเหนือกว่าคนนี้ได้ลำเอียงต่อนิกายตะวันม่วงเสมอ คนประเภทนี้สมควรได้เป็นหัวหน้าผู้ควบคุมหรือ? ข้าทนกับนางมานานพอแล้ว ! "
สีหน้าของทุกคนดุเดือด การแสดงออกของพวกเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ความโกรธที่กำลังจะระเบิด
เจี้ยงเฉินไม่ได้คิดว่าเรื่องนี้จะทวีความรุนแรงขึ้นในระดับนี้ เขาถอนหายใจเงียบ ๆ เอ๋ หญิงแก่คนนี้ทำให้สวรรค์และผู้คนบนแผ่นดินโกรธ
และข้าคิดไปว่าข้าไม่ค่อยเป็นที่นิยมในฐานะผู้ฝึกฝนสามัญ
เมื่อเทียบกับนาง ข้าเป็นเหมือนเทพจริง ๆ !
เจี้ยงเฉินค่อนข้างพอใจที่สถานการณ์เป็นเช่นนี้ เขาไม่ใช่คนที่ชอบความทุกข์ทรมานของคนอื่น แต่เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างแปลกประหลาดที่ได้เห็นหัวหน้าชูหยู่ถูกประณามต่อหน้าธารกำนัล
เขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนที่โดดเด่นและนางทำผิดกฎอย่างเปิดเผย นี่เป็นเรื่องที่อาจทำให้ฝูงชนโกรธได้อย่างง่ายดาย
เมื่อสิ่งต่าง ๆ ได้พัฒนาขึ้นถึงจุดนี้ บทบาทของเขาในฐานะบุคคลที่มีปัญหาไม่สำคัญอีกต่อไป
สถานการณ์ปัจจุบันเป็นเรื่องที่ฝูงชนทุกคนประณามผู้ควบคุม
"ศิษย์พี่ภูผา ท่านเห็นนี่ไหม? นี่คือเสียงร้องของผู้คน ผู้หญิงคนนี้กดขี่ข่มเหงมากเกินไปและในที่สุดนางทำให้ทุกคนเกลียดชังนาง"
"การเลือกนางให้เป็นหัวหน้าผู้ควบคุมเป็นความผิดพลาดอันยิ่งใหญ่จริง ๆ "
อ้วนลู่และหลิวเวิงไคกำลังยืนอยู่ด้านข้าง ชี้นิ้วไปที่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น พวกเขามีความสุขที่ได้เห็นฉากดังกล่าว บรรดาผู้ที่ชอบดูการแสดงไม่เคยกลัวว่าการแสดงจะรุนแรงแค่ไหน
ความคิดของพวกเขายิ่งเกลียดชังมากยิ่งขึ้นเมื่อมันเกี่ยวกับนิกายตะวันม่วง จากนิกายทั้งสี่ นิกายตะวันม่วงอวดใหญ่อวดโตเสมอและทำให้ตัวเองเป็นหัวหน้าของสี่นิกาย
สถานการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน
ฝูงชนเพียงพอที่จะผลักดันผนัง !
แม้กระทั่งผู้ที่กำลังดูการแสดงอยู่ในขณะนี้ก็อดไม่ได้ที่จะมีส่วนร่วม เพราะพวกเขาเหลือทนกับหัวหน้าชูหยู่
เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้คิดว่าสถานการณ์จะพลิกผันเลวร้ายกว่าเดิมอย่างกะทันหัน นางมักจะมีความเห็นสูงเกี่ยวกับตัวเองและคิดว่าตัวเองเป็นเทพธิดาในใจของผู้เข้าแข่งขัน
นางไม่เคยคิดว่านางจะกลายเป็นศัตรูของทุกคนในทันที !
เสียงโห่ร้องตะโกนด้วยคำว่า "หญิงแก่" ผสมเข้ากับการด่าทอทำให้นางตกใจอย่างมาก
ข้า? หญิงแก่รึ?
สำหรับคนที่บูชาและหลงใหลในตัวเองอย่างหัวหน้าชูหยู่ด้วยความมั่นใจมากที่สุดในการปรากฏตัวของนาง การที่มีคนเรียกนางว่าหญิงแก่ทำร้ายนางมากกว่าการฆ่านางเสียอีก !
พูดกันตามตรง แม้ว่าหัวหน้าชูหยู่จะมีชื่อเสียงประมาณหนึ่งร้อยปีมาแล้วและนางมีอายุมากกว่าสองร้อยปี นางได้รักษารูปลักษณ์ของนางเป็นอย่างดี นางดูราวกับว่าอยู่ในวัยสามสิบตอนนี้ และสำหรับผู้ฝึกฝนบ่มเพาะในระดับของนาง กระบวนการของร่างกายของนางค่อนข้างมีประสิทธิภาพและแข็งแกร่ง ทำให้ดูเหมือนว่าไม่มีความแตกต่างระหว่างร่างกายของนางกับของคนหนุ่มสาว
ดังนั้นถึงแม้ว่าหัวหน้าชูหยู่จะดูเหมือนความงามที่หนาวจัดและนำเสนอหน้าตาอันหรูหราและสง่างาม แต่จริง ๆ แล้วนางปรารถนาที่จะได้รับความสนใจของคนหนุ่มและกระหายที่จะได้รับความรักจากพวกเขา
ถึงขั้นที่ว่าสาวกส่วนใหญ่ของนางเป็นผู้ชาย
อย่างไรก็ตาม คนอื่น ๆ มักไม่รู้ถึงความคิดของนาง
เมื่อนางได้ยินคนอื่นวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็น "หญิงแก่" นางโกรธมากจนแทบจะสั่น นางเป่านกหวีดยาว ใบหน้าที่สวยงามของนางบิดเบี้ยว นางกรีดร้องเหมือนหญิงบ้าตะโกนบนท้องถนน "ทุกคนพยายามที่จะก่อกบฏหรือ?"
เสียงดังออกไปข้างนอกเหมือนเสียงฟ้าร้องขณะที่มีแสงที่ไม่มีรูปแบบเจิดจ้าและกระแทกออกไปข้างนอก ทำให้ผู้เข้าแข่งขันรอบตัวนางสั่นเพื่อไม่ให้ใครสามารถยืนอยู่ได้และร่างกายของพวกเขาก็จะหนาวขึ้น
เมื่อหัวหน้าชูหยู่สูญเสียการควบคุมอารมณ์ มันก็ยังคงเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างมากกับระดับการฝึกฝนบ่มเพาะของนาง
อย่างไรก็ตาม ในหลายร้อยคน ยังคงมีสาวกอื่น ๆ 300-400 คน ไม่นับสาวกของนิกายตะวันม่วง จะมีใครกล้าลุกขึ้นสู้มั้ย?
เมื่อเห็นว่าหัวหน้าชูหยู่กำลังพยายามควบคุมพลังอันมหาศาล พวกเขาเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและเริ่มร้องตะโกน
"พยายามที่จะข่มขู่เราด้วยกำลังรึ?"
"นางเป็นแค่คนหนึ่งคนที่กำลังพยายามปราบพวกเราทั้งหมด?"
"ทุกคน เราต้องประณามนาง ! เราจะปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน ถ้านางไม่ถูกปลดออก! "
"ถูกต้อง เราต้องประท้วงขับไล่นาง ! เราต้องยืนคำร้องเรียน ! เราทุกคนจะหยุดการแข่งขันประท้วง หากนางยังคงเป็นผู้ควบคุม ! ทำไมนางไม่เลือกผู้ชนะจากนิกายตะวันม่วงไปเลยล่ะ ! "
"ใช่ เรารับไม่ได้อีกต่อไป! ข้าเพิ่งพูดไปว่ามีบางอย่างผิดปกติเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว 5 ตำแหน่งที่ได้รับคัดเลือกให้ไปยังพื้นที่ส่วนนภาเป็นสาวกของนิกายตะวันม่วง พวกเจ้าเชื่อหรือว่าไม่มีการโกงเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย? "
"ใช่ ในฐานะผู้ควบคุม นางโกงเพื่อประโยชน์ของตัวเองและเพื่อชำระแค้นส่วนตัว ! นางใช้อำนาจในเรื่องส่วนตัว ! "
"ฮ่าฮ่า นางผิดเองที่หยิบหินมาโยนใส่เท้าของตัวเอง นางต้องสูญเสียลูกศิษย์ถึง 2 คนในเวลาใกล้เคียงกัน "
เมื่อความขุ่นเคืองของฝูงชนถูกกระตุ้นขึ้นมา การที่จะระงับความรู้สึกนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้ควบคุมคนอื่นได้ติดต่อกับกลุ่มคนชั้นสูงในนิกายของพวกเขาอย่างรวดเร็ว
"เจ้าว่าอะไรนะ? มีเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงในพื้นที่ส่วนปฐพีและผู้เข้าแข่งขันประท้วงไล่หัวหน้าชูหยู่รึ? " ประมุขของนิกายตะวันม่วง อาวุโสฉีเค่อตะลึงมากเมื่อเขาได้ยินเรื่องนี้
"บรรพบุรุษ นี่อาจเป็นเรื่องเท็จ?" ประมุขฉีเค่อรีบถามด้วยความลังเล
ใบหน้าของบรรพบุรุษนักล่าตะวันมืดลงเพราะเขารู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจของเขาในตอนนี้ เขาไม่สามารถส่งคนอื่นมาดูแลการสอบในพื้นที่ส่วนปฐพีได้
ตำแหน่งสำหรับผู้ควบคุมถูกแบ่งเท่าเทียมกันระหว่างสี่นิกาย นิกายตะวันม่วงถูกมอบหมายให้ดูแลพื้นที่ส่วนปฐพี
บรรพบุรุษนักล่าตะวันอยากจะให้รางวัลกับหัวหน้าชูหยู่เพราะนางเป็นคนเจอหลงยู่ซื่อ เขาจึงปล่อยให้นางสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองและเพิ่มบารมีให้กับนาง
เขาไม่คิดเลยว่าชูหยู่จะปล่อยให้มีเรื่องโกลาหลถึงขั้นนี้
ผู้เข้าแข่งขันได้จัดตั้งกลุ่มเพื่อประณามนางต่อสาธารณชน นางทำผิดร้ายแรงอะไรถึงมีเรื่องเลวร้ายเช่นนี้?
"ฉีเค่อ ไปกับข้า ไปดูกับตาว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น ข้าเชื่อว่าพวกนิกายอื่นจะไม่ปล่อยโอกาสนี้หลุดมือ พวกเขาต้องกำลังต่อว่าด่าทอนิกายของเรา! "
เสียงของบรรพบุรุษนักล่าตะวันแฝงไปด้วยความสลดใจ