spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 204: ข้อตกลง
หลังจากที่ออกจากบ้าน จางเทีย ไปที่บ้านเด็กกำพร้า เขาได้บริจาค 200 ทองให้ที่นั่น นั่นเป็นเงินบริจาคก้อนใหญ่ที่สุดที่ที่นั่นเคยรับมา ในตอนที่ จางเทีย กลับไป เด็กๆทุกคนได้ร้องเพลงของโรงเรียนผู้พิทักษ์ให้กับเขาและมาส่ง จางเทีย ส่วนย่านั้นได้จูบที่หน้าผากของเขา
ในสายตาเด็กๆแล้ว จางเทีย น่ะเป็นเพียงพ่อพระนอกจากย่า
หลังจากที่ทำการบริจาคไปแล้ว จางเทีย ก็ได้กลายเป็นคนไม่มีเงินอีกรอบ เขามีเงินเหลือแค่ไม่กี่ทอง
...
คืนนี้สาว 84 คนในเมืองได้รับกล่องของขวัญที่ห่อมาอย่างดีที่ จางเทีย ได้ให้ร้านส่งไปให้พวกเธอ
แต่ละคนได้รับดอกไม้,ชุดชั้นในและเพชร บนการ์ดนั้น จางเทีย ได้เขียนคำพูดลงไป
“ xxx ฉันจะออกจากเมืองพรุ่งนี้ ขอบคุณที่ทำให้ฉันมีความสุข ฉันจะจำเธอไปตลอด โปรดยกโทษให้ฉันด้วยที่ให้เธอไม่ได้มากกว่านี้ ---- จางเทีย ! “
ระหว่างช่วง 7-8 วันที่อยู่กับสาวๆ ในที่สุด จางเทีย ก็เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว เขาพัฒนาขึ้นมามากกว่าเดิมจากเด็กเหลือขอที่ไม่รู้แม้แต่วิธีช่วยตัวเอง
เพราะสาวๆเขาถึงได้รู้ชื่อร้านเพชรที่ดีที่สุดในเมือง ยี่ห้อชุดชั้นในที่ดีที่สุด, ร้านกาแฟที่ดีที่สุด, ร้านเสื้อผ้าที่ดีที่สุด , ร้านทำผมและอื่นๆอีกมากมาย
สาวๆในกลุ่มกุหลาบนั้นบอกได้ง่ายๆว่าที่ไหนดีที่สุดและของไหนดีที่สุดในเมืองเหมือนกับที่พวกเธอสามารถอธิบายได้ว่าเพชรที่พวกเธอได้ไปนั้นมีค่ามากแค่ไหน
สาวๆหลายคนมาจากครอบครัวธรรมดาแบบ จางเทีย มีไม่กี่คนที่มีฐานะการเงินดี ไม่มีเลยสักคนที่รวยเท่า เบเน็ต เพราะความต่างทางครอบครัว มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะมีชุดชั้นในยี่ห้อนี้ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีเพชรจากร้านนี้
เพื่อที่จะได้ใส่ชุดชั้นในยี่ห้อนี้และเพชรจากร้านนี้ได้ทั้งๆที่ยังเด็กและสวยนั้นคือความฝันของสาวๆหลายคนในกลุ่มกุหลาบ
สำหรับคนมากมาย ฝันแบบนี้มันเกินตัวแต่ จางเทีย ไม่ได้คิดอะไรมาก เขาแค่รู้สึกว่าโชคดีที่ก่อนจะออกจากเมืองไป เขาสามารถทำอีกอย่างให้สาวๆมีความสุขได้
นี่อาจจะเป็นความทรงจำสุดท้ายที่เขาทิ้งไว้ให้
...
ไม่มีการ์ดทักทายบนกล่องของ แพนโดร่า, อลิซ และ เบเวอร์รี่ เพราะ จางเทีย ได้สลักคำพูดที่อยากจะบอกไว้ที่แหวนพวกเธอแล้ว
เพราะไม่มีคนอยู่ที่บ้าน อลิซ ของขวัญจึงถูกเอากลับไป ถ้าจำเป็นเธอจะได้รับมันอีกทีในวันพรุ่งนี้
...
หลังจากทำเรื่องทุกอย่างเสร็จ จางเทีย ก็รู้สึกผ่อนคลายลงอย่างมาก ก่อนที่จะออกจากเมือง เขาได้ทำทุกอย่างที่เขาทำได้แล้ว แม้ว่าเขาจะตายในสนามรบแต่เขาก็ไม่รู้สึกเสียใจเลยสักนิด
เขาฆ่าคนที่สมควรตายไปแล้ว..
จางเทีย รู้สึกว่าเขาได้โยนภาระที่แบกไว้ทิ้งไปแล้ว
...
ภายใต้ตะเกียงตามถนน เขาเดินไปตามท้องถนน ที่ตรงประตูของโรงเรียนแห่งที่เจ็ดไปยังสถานีที่ซึ่งเขามองดู มิสไดน่า อยู่ไกลๆหลายครั้ง
มันคือที่ที่ มิสไดน่า รอรถเพื่อกลับบ้านทุกวัน ก่อนหน้านี้ จางเทีย ทำได้แต่ซ่อนในตรอกด้านหลังเพื่อแอบดูเธอ เขาน่ะแอบชื่นชมรูปร่างของเธอมากว่าสามปี คืนนี้ จางเทีย กล้าพอที่จะเดินออกมาเป็นครั้งแรก เขายืนอยู่ตรงที่ที่เธอนั้นยืนมาโดยตลอด
มันเป็นค่ำคืนที่ลึกซึ้ง มีคนไม่กี่คนตามท้องถนน รถบัสหยุดวิ่งไปแล้ว ไม่มีใครในสถานีนอกจาก จางเทีย แสงหม่นๆส่องประกายทอดเงาของ จางเทีย ออกมา มันดูเหมือนว่าถนนนั้นกำลังจะมีความมืดครอบงำไปทั้งหมด
เขายืนอยู่คนเดียว จางเทีย หลับตาลงและสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขาเหมือนได้กลิ่นที่คุ้นเคยในตอนที่เธอเดินผ่านเขาไปตอนที่ขึ้นรถ
ดอนเดอร์ ได้บอกไว้ว่าในยุคนี้ ถ้าผู้ชายอยากโตเป็นผู้ใหญ่ เขาควรที่จะทำสี่อย่าง --- เอา, ฆ่าคน, และเข้าคุกและเป็นทหาร
ในไม่กี่เดือนที่ผ่านมา จางเทีย ได้ทำทุกอย่างที่ ดอนเดอร์ พูดไว้หมดแล้ว ตอนนี้เขาเป็นผู้ใหญ่แล้วและเขาก็เข้าใจว่าคำโกหกนั้นได้ทำให้เขามีความหวังไม่รู้จบ
...
“ หวังสูงสุดของฉันคือหนึ่งในนักเรียนกลายเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งรึคนที่มีอำนาจที่สามารถปกป้องมนุษย์ได้ จากนั้นฉันจะแต่งงงานกับเขา... “
...
“ นัดของฉันกับทุกคนน่ะคือตอนที่พวกนายแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องฉันได้ แล้วให้ฉันแต่งงานกับพวกเธอ ตกลงมั้ย ? “
...
“ คุณอยากตกลงแบบนี้กับผมจริงๆเหรอ ? “
...
เสียงของสาวสวยในห้องเรียนนั้นยังคงก้องในหู จางเทีย ข้อตกลงที่ทำให้เขาตื่นเต้นอย่างมาก จนกระทั่งตอนนี้เขาถึงได้เข้าใจว่าคำโกหกนั้นมันสวยงามเพียงใด
มิสไดน่า เป็นครูของเขา ครูที่ดีที่สุดในหัวใจ เธอน่ะเป็นเจ้าของชีวิตตัวเองและไม่ได้เป็นของเขา ไม่ว่าเธอจะแต่งงานกับเขารึเปล่า ต่อหน้าเธอ จางเทีย เป็นได้แค่เด็กที่ซึ่งแอบตามเธอและซ่อนในตรอกข้างๆกับสถานทีและจูบเธอในความคิด
ในสถานีเล็กๆนี้ คนตัวเล็กๆแบบนี้ยอมที่จะเสียสละและถูกฝังไปตลอดกาล
...
จางเทีย ไม่รู้ว่าเขายืนอยู่ตรงนั้นนานแค่ไหน เขาเลือกที่จะจำทุกอย่างเกี่ยวกับ มิสไดน่า จริงๆแล้วเขากลัวว่าหลังจากที่ออกจากเมืองพรุ่งนี้แล้วมันจะเป็นการจากไปตลอดกาล เขากลัวว่าวันหนึ่งเขาจะจดจำเธอไม่ได้อีกต่อไป เขากลัวว่าวันหนึ่งเขาจะลืมหน้าตาของเธอ
บางทีในวันที่เขาออกจากโรงเรียน เขาควรที่จะรวบรวมความกล้าไปถ่ายรูปกับเธอ
จางเทีย รู้สึกเสียดายในใจ
เขาไม่มั่นใจว่าถนนไม่มีคนตั้งแต่เมื่อไหร่...
เขาไม่มั่นใจว่าฝนนั้นตกหนักตั้งแต่เมื่อไหร่....
เขาไม่มั่นใจว่าเขายืนอยู่คนเดียวนานแค่ไหนในตอนที่ แพนโดร่า มายืนอยู่ตรงหน้าเขา
เมื่อมองไปที่ร่างกายเธอและหน้าซีดที่ซึ่งเปียกเพราะฝน จางเทีย ก็รู้สึกเจ็บ เขากอดเธอไว้แล้วถอดเสื้อนอกตัวเองคลุมให้ หลังจากที่เช็ดน้ำที่หัวของเธอแล้ว เขาก็รีบเอาเสื้อคลุมหัวเธอกก่อนที่จะจับมือเย็นๆของเธอมาถู
“ เธอรู้ได้ไงว่าฉันอยู่นี่ ? “ - เขาถามออกมา
แพนโดร่า หัวเราะออกมาแล้วมองไปที่สีหน้ากังวลของ จางเทีย – “ นายบอกฉันถึงสิ่งที่นายมักจะทำ ฉันเดาว่าคืนนี้นายจะมานี่ ฉันเลยมานี่ไง ! “
จางเทีย อายเล็กน้อย เขารู้สึกเหมือนเด็กที่โดนแม่จับได้ เขาทำท่ามองไปที่ แพนโดร่า และอุ้มเธอขึ้น – “ แล้วเธอล่ะ ทำไมเธอถึงได้มาคนเดียว นี่มันดึกแล้วนะ ! “
แพนโดร่า ยิ้มออกมา และยกมือขึ้นหยิบกล่องที่ใส่แหวน แม้ว่าเธอจะตัวเปียกโชกแต่กล่องนั่นยังคงแห้งอยู่ไม่มีน้ำเลยสักหยด
“ ฉันได้ของขวัญมาแล้วรู้ว่านายต้องออกจากเมืองพรุ่งนี้ ฉันเลยอยากให้นายใส่แหวนให้ฉัน ! “
เพราะบางอย่างเมื่อเห็นรอยยิ้มของเธอ จางเทีย จึงอยากร้องไห้ เขาไม่ได้พูดอะไรแต่จับกล่องและเอาแหวนสีดำออกมา หลังจากนั้นเขาก็จับมือ แพนโดร่า ขึ้นมา
มือขวาของ แพนโดร่า นั้นขาวและสง่า ตอนที่เธอแบมือ จางเทีย ต้องการที่จะสวมไปใส่นิ้วกลางแต่ในตอนที่เขาจะทำแบบั้น เขาก็เห็น แพนโดร่า ส่ายหน้า ยืดนิ้วนางมาให้ หลังจากนั้นเธอก็มองมาที่ จางเทีย ด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์ สายตาของเธอนั้นเหมือนมีคำพูดอยู่ไม่รู้จบ
มีความต่างอย่างมากกับความหมายของนิ้วที่ใส่แหวน
จางเทีย และ แพนโดร่า มองหน้ากัน ทั้งโลกตอนนี้ได้หยุดนิ่งให้ทั้งคู่
เมื่อเห็นเธอแบมือให้เขา จางเทีย ก็รู้สึกราวกับว่า แพนโดร่า นั้นนอนอยู่บนเตียงและเปิดขารอให้เขาเข้าไป
เขาจำวันนั้นได้ วันที่ แพนโดร่า ไม่ได้พูดอะไรแต่กลับมองมาที่ จางเทีย ด้วยตาที่เป็นประกายเต็มไปด้วยคำพูดทั้งความกล้าและความคาดหวัง
ในตอนที่ แพนโดร่า อ้าขารึแบมือตรงหน้าเขา จางเทีย รู้สึกว่าเธอน่ะสวยเป็นพิเศษซึ่งทำให้เขาใจเต้นรัว
“ ฉันจะตาย ! “ - จางเทีย พูดขึ้นมาด้วยท่าทีเคร่งขรึม
“ ฉันรู้ ! “ – แพนโดร่า มองผ่านน้ำตาตัวเองออกมา – “ วันหนึ่ง ฉันก็จะตายด้วย ฉันแค่ต้องการข้อตกลงกับนายตอนที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ ตอนที่ฉันสวยเหมือน มิสไดน่า ถ้านายยังมีชิต ฉันขอแทนที่เธอแล้วแต่งงานกับนายได้มั้ย ? “
จางเทีย ร้องไห้ออกมาทันที
เขาดึงมือเธอเข้ามาและจูบมัน หลังจากนั้นเขาก็สวมแหวนลงบนนิ้วนางของเธอ
ทั้งคู่ยิ้มให้กัน หลังจากนั้นก็กอดกันแน่และเริ่มจูบอย่างบ้าคลั่งในสถานีที่เงียบสงัดพยายามปาดน้ำตาออกจากหน้าของอีกฝ่าย
...
ฝนยังคงตกไปเรื่อยๆและ จางเทีย ได้กอด แพนโดร่า เอาไว้พร้อมกับนั่งที่ม้านั่งในสถานี้ เขาบอกเรื่อง มิสไดน่า ให้เธอฟัง แพนโดร่า เองก็พิงไปที่อกเขาฟังอย่างตั้งใจ
ในช่วงดึก ฝนก็ได้หยุดลง จางเทีย อุ้ม แพนโดร่า ขึ้นและพาเธอกลับไปที่ตึกเขา หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เริ่มทำกันโดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุด