หน้าแรก > Castle of Black Iron
Chapter 201: แก้แค้น

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

Chapter 201: แก้แค้น

 

ไม่นานมานี้ตลาดสัตว์ในทางใต้ของเมืองนั้นดูคึกคักกว่าเดิม เทียบกับแต่ก่อนแล้วที่เดียวที่ขายดีคือสัตว์เลี้ยง ทุกวันนี้ส่วนขายม้าเริ่มคึกคักกันมากขึ้นเพราะหลายคนในเมืองนั้นเริ่มคิดถึงรถม้าส่วนตัว นอกจากนี้ระบบลำดับชั้นเองก็กลายเป็นที่ยอมรับมากขึ้นและเริ่มที่จะส่งผลต่อชีวิตประจำวันของคนในทุกด้าน

ในตลาดการค้า ไม่นานมานี้มีข่าวว่าเขตขายม้านั้นได้แยกออกจากตลาด  นี่น่ะเป็นเรื่องที่มีคนต้องการที่จะลงทุนให้ตลาดนี้มากกว่าเดิมเพื่อให้พอกับความต้องการของคนในเมืองในอนาคต

ในอาณาจักรนอแมน นอกจากกองทัพและรถสาธารณะแล้ว มีแค่ทหารเท่านั้นที่ใช้พานหะส่วนตัวได้ในพื้นที่สาธารณะ สำหรับคนรวยหลายๆคนและนักธุรกิจในเมืองน่ะล้วนแต่เป็นคนธรรมดา เมื่อกองทัพเข้ามามันก็จบ พวกเขาน่ะต้องเก็บรถไว้ที่บ้านเท่านั้น

บางคนเศร้า ส่วนพวกชาวไร่ชาวนาน่ะต่างก็ดูพอใจอย่างมาก

มีฟาร์มหลายแห่งในเมืองซึ่งตอนนี้ธุรกิจกำลังเติบโต ในเวลาเดียวกันนั้นพวกชาวนาที่ซึ่งรู้จักวิธีดูแลม้า,ขับรถม้า  มันจะหมายความว่าชาวนาหลายคนที่ซึ่งทำได้แต่งานไร่นั้นจะได้รับโอกาสที่จะมาทำงานในส่วนล่างของเมือง

ถ้าพวกคนรวยนั้นมีได้แค่รถม้าต้องการที่จะซื้อรถ พวกเขาก็ต้องจ้างคนงานอย่างน้อยสองคน,คนขับรถหนึ่งคนและคนดูแลม้าอีกคน นอกจากนี้พวกเขายังต้องซื้อมาอย่างน้อยสองตัวและรถม้าที่ซึ่งตรงตามข้อกำหนดของอาณาจักรนอแมน อีกอย่างแล้วพวกเขาต้องสร้างบ้านให้ม้าและใช้เงินดูแลพวกม้าทุกวัน

การขับรถม้านั้นซับซ้อนกว่าการขับรถ ดังนั้นหลายคนที่ซึ่งเตรียมตัวจะเปลี่ยนวิธีการเดินทางก็เริ่มต้องเศร้า แต่แม้ว่าจะไม่เต็มใจแต่พวกเขาก็ต้องทำมันเพราะพวกเขาไม่กล้าที่จะแสดงความไม่พอใจออกมา

เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าระบบนี้มันแคร่งคัดมาแค่ไหน แม้แต่นักธุรกิจในอาณาจักรนอแมนก็ไม่กล้าทักท้วง นี่ไม่ต้องพูดถึงพวกนักธุรกิจหยิบย่อยหรอก ดังนั้นแม้ว่าจะไม่พอใจการเปลี่ยนแปลงนี้แต่ก็ยังมีคนจำนวนมากที่ดีใจกับมัน จริงๆแล้วพวกหลังน่ะเยอะกว่าพวกแรกอยู่มาก

ถ้าต้องการใช้รถส่วนตัว วิธีก็ง่ายๆ เมื่อคุณมีส่วนร่วมกับอาณาจักรนอแมนมากพอและได้กลายเป็นทหาร คุณจะมีโอกาสได้รถส่วนตัวไป ถ้านักธุรกิจต้องการที่จะเป็นทหารแม้แต่ระดับต่ำสุด คุณต้องจ่ายไปอย่างน้อย 1600 ทองเป็นภาษีรึการบริจาค

ทหารนั้นแบ่งออกเป็นเจ็ดระดับ ระดับที่ต่ำที่สุดคือพลทหารพาราซอล สูงขึ้นมาคือ พลทหารโอ๊ก, เมเปิล,สนและทหารระดับสูงคือ ลิลัค, โรสบัด,โรส แต่ละระดับนั้นก็มีสิทธิที่แตกต่างกันไป

ใบโอ๊กที่อยู่บนหนังสือยืนยันของ จางเทีย บ่งบอกว่าเขาอยู่ในระดับโอ๊กซึ่งถือว่าเป็นร้อยโทขั้นสอง ในอาณาจักรนอแมน ทหารต้องเสียสละตัวเองเพื่อประเทศมักจะได้รับความเคารพมากกว่าพวกที่คอยเอาแต่บริจาคเงิน

ถ้านักธุรกิจได้กลายเป็นทหารระดับพาราซอล ระดับที่ต่ำที่สุดด้วยการให้เงินนั้นต้องการที่จะเลื่อนขั้นไปอีก นอกจากต้องจ่ายเงินที่มากกว่าเดิมหลายเท่าตัวแล้ว เขาต้องตรงตามข้อกำหนดหลายอย่าง ยกตัวเอย่างเช่นเขาต้องไม่มีคดี อีกอย่างเขาต้องเป็นต้นแบบที่ดีในสังคม เขาควรที่จะทำกิจกรรมสังคมและช่วยเหลือผู้อื่น

หลังจากที่มีครบตามข้อกำหนดแล้ว เขาต้องเก็บรวบรวมลายเซ็นของคนธรรมดา 300 คนเป็นอย่างน้อยและส่งให้ทำการตรวจสอบก่อนที่จะได้เลื่อนขั้นมาเป็นระดับโอ๊กได้

ทหารระดับโอ๊กนั้นมีสิทธิมากกว่าทหารระดับพาราซอล

เจ้าหน้าที่ระดับต่ำที่สุดของอาณาจักรนอแมนจะถูกเลือกโดยระดับต่ำสุดคือระดับโอ๊กรึไม่ก็มาจากครอบครัวที่มาจากทหารระดับโอ๊กโดยตรง คนธรรมดาและทหารระดับพราราซอลนั้นไม่มีสิทธิที่จะเป็นเจ้าหน้าที่ได้

ระบบลำดับชั้นได้กำหนดอย่างเคร่งคัดและดูแลประเทศ ด้วยการทดสอบมาเป็นร้อยปี ทำให้รากฐานของอาณาจักรนอแมนนั้นทรงพลังและมั่นคงมากกว่าเดิม

หนังสือ ‘ บทบาทของคำสั่ง ‘ ได้นั้นบ่องบอกถึงเรื่องรากฐานของอาณาจักรนอแมน หนังสือนี้น่ะเป็นที่พูดถึงกันมากที่สุดในเมือง มันกลายเป็นหนังสือที่ขายดีที่สุดแล้ว

เขานั่งอยู่ที่ม้านั่ง  จางเทีย ได้ยินเสียงคนบางคนที่ขายของและพูดเรื่องร้อนแรงที่สุดในตอนนี้ หลังจากที่ลองฟังดูแล้วก็พบว่ามันเป็นเรื่องปะทะกันระหว่างอาณาจักรนอแมนและราชวงศ์อาทิตย์ในคารัวล์

จากที่พวกนั้นคุยกัน  จางเทีย รู้มาว่าเจ็ดครอบครัวของสมาคมเหมืองได้ตระหนักถึง ‘ สัญญาสงบศึก ‘ รางวัลก็คือพวกผู้อาวุโสของทั้งเจ็ดครอบครัวน่ะได้รางวัลอยู่ในฐานะทหารระดับโรสบัด

สำหรับ จางเทีย เอง เพราะเขาได้สร้างแรงลับขึ้นมาได้ เขาจึงโดน ผู้การลิปนิซ รับตัวเข้ามาและโชคดีที่กลายเป็นหนึ่งในแปดครอบครัวที่ได้รับรางวัลเป็นระดับทหารในเมืองระหว่างที่กองทัพโดนควบคุมอยู่ แม้ว่าเขาจะอยู่แค่ระดับโอ๊กแต่แค่นี้มันก็ดีพอแล้ว

บนพื้นตรงหน้า จางเทีย มีกรงไม้ไผ่ที่ซึ่งบรรจุด้วงอยู่หลายกรง เขาได้ซื้อมันมาจากเด็กเมื่อเช้านี้ตอนที่เขามาที่นี่ มีมากกว่า 30 ตัวซึ่งคิดเป็นเงิน 12 เงิน

ด้วงน่ะถือว่าเป็นด้วงที่น่ารัก ตัวผู้น่ะมีเขาที่หัวซึ่งทำให้มันดูน่ารัก  จางเทีย เคยจับได้สองตัวตอนยังเด็ก ด้วงพวกนี้น่ะไม่ได้แพงแต่ไม่ได้ง่ายที่จะจับได้เป็นๆ ต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะจับมันได้  เด็ก 11-12 ปีที่อาศัยอยู่ด้านนอกเมืองน่ะตื่นเต้นอย่างมากในการจับมันมาขาย

จางเทีย นั่งอยู่ตรงหน้าร้านตาของเขามองไปที่ด้วยในกรงตรงหน้าพร้อมกับรอให้ สมิหลา มาหา

ครั้งนี้ จางเทีย ดูเหมือนนักผจญภัยอายุได้ 20 กว่าปีซึ่งดูแก่เล็กน้อย นอกจากนี้เขายังสวมหมวกและนอนพิงต้นไม้พร้อมกับเศษฟางในปาก เมื่อเห็นเขาแล้ว คนจะคิดว่าเขาเป็นเหมือนคนอื่นทั่วไป

...

ตกบ่าย ในที่สุด สมิหลา ก็ได้มาพร้อมกับบอดี้การ์ดทั้งสอง

สมิหลา เดินวนในตลาดแต่ได้ด้วงมาแค่ 30 ตัว  จำนวนมันไม่พอสำหรับภารกิจในวันนี้  มันจึงเริ่มกังวลเล็กน้อย แต่ละครั้งมันจะได้กำไรจากการซื้อของพวกนี้ เมื่อมันทำตามหน้าที่แล้ว เอเบียน จะให้รางวัลมันนิดหน่อยแต่ถ้ามันทำงานไม่ได้ตามที่ต้องการ มันก็ไม่กล้าพอที่จะไปหา เอเบียน    สิ่งที่ สมิหลา นั้นกลัวที่สุดคือ เอเบียน จะคิดว่ามันไร้ประโยชน์และเริ่มไม่พอใจมัน

ในตอนที่กังวลอยู่นั้น มันก็เห็นเด็กหนุ่มอายุกว่า 20 ปี --- จางเทีย นั่นเอง -- -และด้วงทองในกรงซึ่งวางไว้ที่พื้น

ในตอนที่มันมาถึงตรงหน้า จางเทีย  มันไม่ได้ถามราคาก่อนที่จะสั่งให้คนของมันแบกกรงขึ้นและโยนด้วงเหล่านั้นลงในกรงของชายกำยำ

“ นายทำอะไร ? “ - จางเทีย ถามด้วยเสียงทุ้มๆด้วยสีหน้าที่หงุดหงิดและคายฟางออกมา

“ ฉันอยากได้ด้วงทองของนายทั้งหมด ! “ – เมื่อมองมาที่เสื้อผ้าของ จางเทีย  สมิหลา ก็แสดงอาการดูถูก

“ นายเอามันไปโดยไม่ถามราคาเลยเนี้ยนะ ? “ - จางเทีย ถาม

“ ห๊ะ ! “ - สมิหลา ฮึดฮัดออกมาด้วยความเย็นชาแล้วมองไปที่ จางเทีย ราวกับมองขอทาน – “ แกมาที่นี่ครั้งแรกรึเปล่า ? แกไม่รู้เหรอว่าฉันเป็นใคร? “

“ ฉันไม่สน ถ้าอยากได้ของก็ต้องจ่ายเงิน  ! “

“ แน่นอนว่าฉันจ่ายแน่ ! “ - เมื่อพูดจบ สมิหลาย ได้นำเงินเหรียญเงินออกมาจากเสื้อและโยนให้ จางเทีย หลังจากนั้นก็หันหลังกลับเดินหนีไปพร้อมกับลูกน้อง

เดินไปได้ไม่กี่ก้าว จางเทีย ก็ตามพวกนั้นทัน – “ นายจ่ายมาแค่ 8 เงิน มันไม่พอ  ด้วงทองของฉันน่ะมีค่าอย่างน้อย 16 เงิน ... “

เมื่อได้ยินแบบนั้น สมิหลาย และลูกน้องก็หันกลับมาพร้อมกัน

“ เพื่อน ฉันไว้หน้าแกแล้วนะ แกก็น่าจะรับมันไว้สิ  มีแค่ฉันที่รับซื้อด้วงพวกนี้ มีแค่เด็กที่เล่นสัตว์พวกนี้ ฉันไว้หน้าแกแล้วไงที่จ่ายให้แก 8 เงิน ! “ - หน้าของ สมิหลา เคร่งขรึมขึ้นมา

จางเทีย โยนเงินกลับให้ สมิหลา – “ นี่เงินนาย เอาด้วงฉันมา 23 ตัวทั้งหมด ฉันไม่ขายมัน ! “

สมิหลา นั้นไม่ได้เก็บเงินนั้นไว้แต่มองไปที่ลูกน้องข้างๆ ในตอนที่ จางเทีย เอื้อมมือออกมาเพื่อจับกรงของ สมิหลา ลูกน้องนั้นก็ผลักเขาออกไปแล้วพยายามกดเขาลงที่พื้น

“ เพื่อน ถ้าแกยังทำตัวโง่แบบนี้ ฉันจะอัดแก เร็วๆ เอาเงินไปแล้วไปจากที่นี่ซะ  ! “ - สมิหลา ด่าออกมา หลังจากนั้นมันก็ได้หันหลังกลับทิ้งชายกำยำสองคนอัด จางเทีย

เมื่อเห็นการทะเลาะกันก็ได้มีหลายคนเริ่มเข้าไปใกล้ จางเทีย

“ เพื่อน ช่างเถอะ คนพวกนี้น่ะเก็บดวงทองให้กับ อาจารย์เอเบียน นายคุกคามเขาไม่ได้หรอก  เอาเงินที่พื้นแล้วไปเถอะ ! “ - บางคนที่ใจดีเริ่มกล่อมเขา

จางเทีย อึ้งนั่งลงกับพื้นสักพัก ดูเหมือนว่าจะผิดพลาดอย่างมาก หลังจากนั้นเขาก็ตะโกนออกมาอย่างดังแล้วกระโดดขึ้นจากพื้น เขาไล่ตาม สมิหลา ไป ระหว่างทางเขาได้ดึงมีดออกมาจากเสื้อซึ่งทำให้คนรอบๆนั้นกลัว พวกเขาไม่คิดว่า จางเทีย จะใจเด็ดถึงขนาดนี้

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมานั้นเกิดขึ้นเร็วมาก

ในตอนที่ สมิหลา ได้ยินเสียงตะโกนของ จางเทีย เขาก็เห็น จางเทีย พุ่งเข้ามาพร้อมกับมีด ในเสี้ยววินาที  จางเทีย ได้เหวี่ยงมีดเข้าที่หัวใจของ สมิหลา หลังจากนั้นเขาก็จับกรงแล้วหนีไปทันที..

จนกระทั่ง จางเทีย ห่างออกไปได้สิบเมตร ลูกน้องนั่นก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อเห็นตัวของ สมิหลา ล้มลง พวกเขาก็รีบไล่ตาม จางเทีย ทันที

จางเทีย ยังคงวิ่งไปที่เนินเขาทิศใต้ของเมือง เขาวิ่งเร็วอย่างมาก หลังจากที่วิ่งตามเขามาตอนแรกห่างไม่เกิน 50 ม. ชายกำยำกัดฟันวิ่งต่อแต่ก็เห็นเงาของเขาห่างออกไปเรื่อยๆซึ่งสุดท้ายก็ได้หายไปในป่า...

ลูกน้องสองคนนั้นก็เข้าป่าไปด้วยและได้ค้นหาสักพักแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เส้นผม พวกเขาได้แต่สลดและกลับไปที่ที่ สมิหลา โดนฆ่า  หลังจากนั้น สมิหลา ก็ไม่ได้แสดงวี่แววว่ามีชีวิตอยู่เลย

ในตอนที่พวกนั้นวิ่งไล่ตาม จางเทีย ไป พวกคนที่มุงดูอยู่ก็ได้จากไปไม่สนที่จะมอง สมิหลา ที่นอนอยู่ที่พื้น

แม้แต่ลูกน้องเองก็รู้สึกว่ามันสมควรโดน เมื่อเห็นชายกำยำสองคนกลับมาด้วยสีหน้าที่หงุดหงิด คนในตลาดหลายคนก็เริ่มดีใจกันขึ้นมา

“ สมิหลา ไอ้บัดซบนี่ควรตายนานแล้ว ! “

“ นี่แหละ เด็กจีนนั่นวิ่งเร็วชะมัด ! “

“ ฉันได้ยินมาว่าคนจีนของอาณาจักรนอแมนไม่ใช่คนที่จะมามีเรื่องด้วยได้ง่ายๆ “

“ แน่นอน พวกบัดซบน่ะสมควรโดนแล้ว ! “

ในบรรดาคนดูในตลาด มีแค่คนที่ขายข่าวเท่านั้นที่หน้าซีดในตอนที่เห็น สมิหลา นั้นตาย จากที่คนพูดกัน เขารู้ว่าคนที่ฆ่า สมิหลา คือคนที่จ่ายเงินให้เขาแต่ตอนนี้เขาไม่คิดจะยอมรับว่ามีคนถามเขาเรื่อง สมิหลา

‘ นี่เป็นการทะเลาะกันเพราะราคาที่ไม่แฟร์ นั่นแหละ ! ฉันไม่เคยเห็นเด็กจีนนั่นมาก่อน ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย ! มันน่ากลัวที่มีการฆ่ากันในตลาด ! ‘ ชายคนนั้นบอกตัวเองสองรอบ

ไม่นานผู้ดูแลก็ได้เข้ามาเพื่อทำการสืบสวน  เขาบันทึกการตายของ สมิหลา และเรื่องราวที่เกิดขึ้น  ฆาตกรนั้นถือว่าทำได้ดี ใช้เวลากว่าชั่วโมงกว่าผู้ดูแลจะจัดการเสร็จ ในที่สุดเขาก็ปล่อยชายกำยำสองคนแบกศพของ สมิหลา กลับไป

ตามที่ผู้เห็นเหตุการณ์บอกมา ฆาตกรคือนักสำรวจจีนอายุ 20 กว่า ไม่มีใครรู้ชื่อเขา,รู้ว่ามาจากไหน, เขาอยู่ที่ไหน รึเขาเป็นเพื่อนกับใคร จากคำอธิบายแล้ว แม้แต่ฆาตกรเองก็ยังดูแปลกๆ

อีกอย่างแล้วในตอนที่ฆ่า เขาได้วิ่งหนี ไม่มีใครรู้ว่าเขากลับไปที่เมืองรึเปล่า เพราะแบบนั้นจึงไม่มีใครสนใจที่จะสอบสวนต่อ จริงๆแล้วพวกเขาไม่มีเวลาไปตามหาเขาที่ป่า อย่างมาก็ทำได้แค่ส่งคำเตือนไปในเมืองให้สนใจนักสำรวจจีนอายุ 20 กว่าๆที่ตรงตามคำอธิบาย

ไม่นานหลังจากที่ศพของ สมิหลา โดนขนไปที่คฤหาสน์ข้างๆแม่น้ำไลวิน  อาจารย์เอเบียน ที่ซึ่งมีชื่อเสียงอย่างดีในเมืองก็รู้ว่า สมิหลา นั้นโดนฆ่า...

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.