spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

Chapter 197: วัยเด็กอันบ้าบิ่น

จางเทีย แทบไม่เชื่อว่าความสุขเรื่องเซ็กส์ของเขาจะมาถึงเร็วขนาดนี้ จากวันนี้เป็นต้นไปอีก 7 วันนับจากนี้ เขาแทบไม่ออกจากตึกเลย แต่ละวันมักจะมีสาวๆมาหาเขาที่ห้อง 7-8 คน เป็นอย่างน้อย  10 กว่าคนนี้มากที่สุด พวกเธอพากันมาเป็นกลุ่ม

จางเทีย รู้สึกว่าเขาน่ะคือชาวสวนและราชาหมาป่า ในหุบเขานั้น ในตอนที่ฝูงหมาป่าหอนใส่พระจันทร์ เขายืนอยู่ด้านบนและเป็นเจ้าของตัวเมียทุกตัวในหุบเขา

แองเจล, ซูซาน, ฟิโอน่า , ชาว่า, เฮเรน่า, โดริส, แอนนา, อิสเซล, กาโบ, เจนนิเฟอร์, อิสเบลล่า, จูเลีย, ลูซี่ , แมรี่, บาบาร่า, แคโรไลน์, เวนด็,ลิลลี่....

สาวๆ 80 คนของกลุ่มกุหลาบต่างก็พากันมาที่นี่ ในช่วงหลายวันที่ผ่านมาภายใต้การปล่อยน้ำของ จางเทีย ทุกคนต่างก็เปลี่ยนจากเด็กสาวเป็นผู้หญิงเต็มตัว มีหลายวันในช่วงนั้นที่ จางเทีย ไม่ต้องใส่เสื้อผ้าทั้งวัน นอกจากเข้าห้องน้ำ แต่ละวินาทีที่เขาใช้นั้นมีแต่เอากับเอา.....

ผ้าปูเตียงในห้องนั้นต้องเปลี่ยนทุกวัน

ระหว่างวันที่ผ่านมาเขารู้สึกเหมือนว่าเขาอยู่ในสวรรค์ ตึกเล็กๆนี่คือปราสาทของเขา กลุ่มกุหลาบนั้นประกอบไปด้วยสาวสวยจากโรงเรียนหญิง พวกเธอช่วยให้เขาได้รับประสบการณ์ที่ดีในวันหยุด

ในวันที่สามตั้งแต่ที่ราชาได้เดินทาง แองเจล และสาวๆคนอื่นนั้นกลายมาเป็นกลุ่มแรกที่เข้ามาในปราสาทของเขา หลังจากนั้นก็มีคนมาอีกเรื่อยๆ ล้วนแต่เป็นหน้าใหม่ วิธีที่สาวๆใช้นี้ทำให้ จางเทีย  พอใจอย่างมาก

เขาน่ะเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆอย่างมาก แม้แต่คนที่มีทักษะที่สุดยอดอย่าง ชาราโปว่า และ ซูซาน ซึ่งใช้มันกับ จางเทีย ในวันแรก ไม่นานทุกอย่างก็ถูกสอนไปให้คนอื่น ในวันที่สี่ ในห้องน้ำ จางเทีย ได้ทำลายสถิติ - สาวๆทั้ง 12 คนโลมเลียเขาพร้อมกัน

ตอนแรก จางเทีย รู้สึกว่าเขาน่ะเป็นชาวสวนแต่หลังจากนั้นเขารู้สึกว่าเขากลายเป็นนักเดินทางที่คอยโปรยป้อนข้าวให้นกพิราบในลาน  นกพิราบนั้นชอบนักเดินทางที่มีอาหารมากมายและอาหารที่นักเดินทางได้โปรยออกมาไปทั่ว

สาวๆน่ะเป็นทั้งดอกไม้และนกพิราบ !

สาวๆที่มาใหม่ที่นี่น่ะเป็นดอกไม้ ส่วนคนที่มาที่นี่ซ้ำน่ะเป็นนกพิราบ

ดอกไม้น่ะหุบอยู่จำเป็นต้องให้เขาไปรดน้ำ ส่วนนกพิราบน่ะกล้าหาญ ไม่กลัวที่จะโดนรดน้ำใส่แต่พวกเธอน่ะคอยร้องหาแล้วบินเข้ามาหาเขาแทน ราวกับอยากให้เขาป้อนอาหารให้อีก

นี่น่ะถือเป็นอาทิตย์ที่มีความสุขซึ่ง  จางเทีย จะไม่มีทางลืมไปตลอดชีวิต

สาวๆหลายคนนั้นหลง จางเทีย และเริ่มบูชาเขา เรื่องการบูชานี้ก็เกี่ยวข้องกับการผลิต คนที่มีอำนาจน่ะล้วนแต่ได้รับการบูชา

เพราะบางอย่าง จางเทีย ไม่ได้รู้สึกเหนื่อยเลย อย่างมากไม่กี่นาทีไอ้จ้อนของเขาก็กลับมาแข็งอีกรอบและเริ่มรดน้ำไปทั่วทุกที่ จนสาวๆนั้นไม่ไหวเอา

ในบรรดาสาวๆในกลุ่มกุหลาบ จางเทีย นั้นได้ชื่อใหม่ว่า -  เจ้าแห่งสัตว์ประหลาด

ไม่ใช่อัศวินแต่เป็นเจ้า , เจ้าแห่งสัตว์ประหลาด ถ้าเอาชื่อใน Castle of Black Iron มารวมอยู่ด้วยแล้ว จางเทีย คงต้องถูกเรียกว่า เจ้าแห่งสัตว์ประหลาด  ว่าเขาจะถูกเรียกแบบนั้นตอนที่อยู่บนเดียงเท่านั้นแต่ จางเทีย ก็ยังคงพอใจอย่างมาก

 สาวๆกลุ่มแรกที่เรียกจางเทีย แบบนั้นคือ ฮิลติน่า ที่ซึ่งเป็นคนแรกที่บูชา จางเทีย ใช้เวลาแค่สองวันที่จะเปลี่ยนสาวๆจากดอกไม้ให้เป็นนกพิราบแต่ ฮิลติน่า นั่นอาการหนัก เธอติดเขามากที่สุด

เพราะ ฮิลติน่า ปราสาทของ จางเทีย เลยเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย ปกติแล้วสิ่งที่สาวๆทำนั้นไม่นานจะถูกเลียนแบบโดยสาวคนอื่นที่ซึ่งจะทำคล้ายๆกัน

ฮิลติน่า นั่นติด จางเทีย มากกว่า แพนโดร่า เสียอีก

อย่างประมาทความกล้าและความคิดของผู้หญิง – นี่คือสิ่งที่ จางเทีย สรุปมาได้

แต่ช่วงเวลาความสุขมักจะต้องมาถึงจุดจบ

...

วันนี้แม่ของ จางเทีย ที่ซึ่งไม่เห็นลูกชายคนเล็กมานานกว่าอาทิตย์นั้นรู้สึกเบื่อและได้มาหาเขา

ในไม่กี่วันที่ผ่านมาแม่ของเขาได้ยินเรื่องเกี่ยวกับเขา ผู้คนบอกว่าลูกชายของเธอนั้นโดนลอบฆ่าและวางยาพิษจนเกือบตาย ทุกคนบอกแบบนั้น ดังนั้นแล้วเธอจึงเป็นห่วง เมื่อจำได้ตอนที่เขาอยู่นอกบ้านได้ เธอก็ตระหนักได้ว่าเขายังไม่ได้ลงมาจากรถ นอกจากนี้แล้วเสียงและสีหน้าก็ดูไม่ปกติ เธอจึงเริ่มกังวลขึ้นมา

เพราะเรื่องที่คารัวล์ บรรยากาศในเมืองเลยตึงเครียดเล็กน้อย เธอคิดถึงลูกชายมาก แม่ได้ไปที่แคมป์และถามหาเขา  หลังจากที่รู้ว่าเขาได้พักไปหลายวัน เธอก็รีบไปที่โรงพยาบาลและได้คำตอบว่าเขาออกไปแล้ว ดังนั้นแล้วเธอจึงรีบไปที่โมเน็ตอเวนิว

ในสายตาของแม่แล้วตอนนี้เขาไม่อยู่ในแคมป์รึบ้าน เขาต้องซ่อนอยู่ที่นี่แน่

ก่อนหน้านี้ จางเทีย ได้ให้กุญแจตึกให้กับพ่อแม่ไว้ ดังนั้นแล้วจึงง่ายที่จะเปิดเข้ามา

ก่อนที่จะเปิดประตูห้องพัก เธอยังกังวลเรื่องแผลของ จางเทีย  ถ้าลูกชายนั้นรักษาตัวอยู่แล้วเธอควรทำยังไง ? เพราะนี่คือเรื่องวิกฤตสำหรับครอบครัวจาง เขาไม่น่าจะโกหกพ่อแม่ของเขา เธอควรโทษเขาที่ไม่บอกความจริงกับเธองั้นเหรอ ?

หลังจากที่ลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดเธอก็ได้เปิดประตูห้อง จางเทีย  ก่อนที่จะเปิดมัน มีสองฉากแว๊บขึ้นมาในหัว หนึ่งคือ จางเทีย น่ะไม่อยู่ ถ้าเป็นแบบนั้นเธอจะตัดสินใจที่จะตีเขาถ้าเห็นเขาครั้งหน้า และอีกอันคือนอนอยู่ในห้องคนเดียว ถ้าเป็นอย่างหลังเธอจะกล่อมให้เขาไปบ้าน หลังจากหายดีแล้ว เธอค่อยจัดการเขาเรื่องนี้

แม้ว่าเธอจะคิดอะไรต่างๆนาๆมากมายแต่เธอไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นกับลูกชายตัวเอง..

มีน้ำพุอยู่ที่ลานกลางเมือง บนน้ำพุนั่นมีรูปปั้น เป็นเด็กชายโป๊อายุประมาณ 8-9 ปียืนถือไอ้จ้อนด้วยท่าทีหยิ่งง น้ำที่ไหลออกมาจากไอ้จ้อนนั้นไหลลงมาที่บ่อด้านล่าง มีรูปปั้นอื่นในสระอีก  --- ปลากลีบทองที่ซึ่งอ้าปากของมันรอบรับน้ำที่ไหลจากไอ้จ้อนเด็ก

รูปปั้นของน้ำพุนี่ทั้งสง่าและส่วยงาม มีทั้งเด็กและนางฟ้าและนี่ถือเป็นแลนมาร์คของเมือง  หลายคนชอบที่จะมาถ่ายรูปที่น้ำพุ แน่นอนว่าเมื่อเห็นเด็กน่ารักแบบนี้ถึงแม้จะโป๊ก็เถอะเ ไม่มีใครอายกับฉากที่เห็น เพราะเด็กน้อยน่ะใสซื่อและบริสุทธิ์

ในตอนที่แม่ จางเทีย เปิดประตูเข้าไป มันก็เหมือนกับว่าเธอเห็นรูปปั้นที่ลานกลางเมือง

จางเทีย ยืนอยู่โดยโป๊เปลือย  พร้อมกับรอยยิ้มโง่เง่าโดยมีสาวๆจำนวนมากนั้นรายล้อม เขาดูเหมือนเด็กชายที่เป็นรูปปั้นตั้งแต่หัวจรดเท้า มือทั้งสองข้างนั้นค้ำเอวของตัวเอง

ในตึกนี้ดูวุ่นวายไปหมด สาวๆกว่า 10 คนนอนอยู่ในห้องด้วยท่าทียุ่งเหยิง หัวต่างยุ่งเหยิง  เสื้อผ้าของสาวๆเกลื่อนไปทั่วห้องรับแขกจนถึงห้องนอน  ทั้งห้องตอนนี้เหมือนกับห้องแต่งตัวด้านหลังโรงละครของเมือง

“ กูกู ... “

แม่ของเขายืนอยู่นานเกือบห้านาที หลังจากที่ยืนยันว่าไม่ได้ตาฝาด เธอก็ตะโกนออกมาซึ่งทำให้ทุกคนในห้องอึ้ง

ในตอนที่กำลังให้อาหารสาวๆอยู่ จางเทีย ก็ได้หันกลับมา ในตอนที่เขาเห็นแม่มองดูเขาด้วยตาที่เบิกกว้างเพราะความช็อก ไอ้จ้อนของเขาก็หดลงทันที

จางเทีย ตัวสั่นและหน้าซีดทันที เขาเอามือปิดท้องน้อยและนั่งยองๆลง เขาอายและถามขึ้นมา – “ แม่ ทำไมแม่ถึงมาอยู่นี่ ? “

สาวๆหันกลับไปหาเสื้อผ้าของตัวเองแล้วทำให้ในห้องนั้นยุ่งเหยิง

ฉากตอนนี้น่ะน่าอายเกินไปที่จะให้พ่อแม่ได้เห็น  แม่ของ จางเทีย ปิดตาลงและเดินออกมาจากประตูและรอ...

สิบนาทีต่อมาหลังจากที่สาวๆแต่งตัวแล้วออกจากตึกไปด้วยการก้มหน้า

สาวๆบางคนถึงกับเดินไปไม่ได้ต้องพากันพยุงกันเองเดินออกไป

ตอนแรกในตอนที่สาวสองคนแรกออกไป แม่ของ จางเทีย น่ะหงุดหงิด แต่หลังจากจำนวนเพิ่มมาเป็นหก เธอก็เริ่มกังวลเกี่ยวกับ จางเทีย ในตอนที่มาถึงคนที่เก้า เธอก็แปลกใจ จากนั้นก็ได้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆและช็อก ด้วยจำนวนมากมายจนตอนนี้เธอเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกว่าไง

เพราะเคยผ่านเรื่องรักๆมาแล้ว แม่ของ จางเทีย จึงรู้สึกถึงเรื่องพวกนี้ ในฐานแม่แล้วเธอก็ปิดตาลง เธอยังได้กลิ่นของลูกชายจากตัวสาวๆพวกนี้ด้วย

รวมทั้งหมดแล้วสาวๆ 17 คนได้เดินออกไปจากตึก นับไปแล้วแม่ก็ต้องตัวชา นี่เป็นธรรมชาติของลูกชายเธองั้นเหรอ ? ทำไมเขาถึงได้สุดยอดขนาดนี้ ?

จนกระทั่ง 20 นาทีต่อมา จางเทีย ก็ได้ใส่เสื้อผ้าแล้วเดินออกมาจากห้องพร้อมกับก้มหน้าลง เขาเปิดประตูตึกและพบว่าแม่นั้นยืนรออยู่ข้างนอก จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปหาพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างสดใส

“ แม่ ! “

เธอหันหลังกลับมามองมาที่เขาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม

ตอนนั้นหน้าของ จางเทีย แดงกล่ำแต่เขาก็ดูแข็งแรงดีอย่างมาก เหมือนกับซาลาเปาที่เพิ่งทำขึ้นมา เขาดูไม่ป่วยรึอ่อนแอเลย เมื่อหาข้อตำหนิในตัวเขาไม่เจอ แม่เขาก็ได้ดีดหน้าผากเขาอย่างแรง หลังจากนั้นเธอก็หันหลังกลับแล้วเดินหนีไป

เมื่อรู้ว่าแม่ไม่ได้โกรธอีกแล้ว  จางเทีย ก็ยิ้มออกมากว้างกว่าเดิม

หลังจากที่แม่มาเช็คอาการแล้ว ชีวิตอันบ้าคลั่งของเขาก็ต้องจบลง ในตอนที่เขากลับมาบ้านในตอนบ่าย เขาโดนสอบสวน แน่นอนว่าพวกเขาต้องทำท่าโทษเขา หลังจากที่ จางเทีย ก้มหน้าลงและสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก พวกเขาก็มองข้ามเรื่องนี้ไป ในฐานะพ่อแม่แล้วพวกเขาเองก็รู้สึกอายที่ถามมากไป พวกเขาไม่ได้พูดต่อ ไม่ว่ายังไง เด็กผู้ชายก็ไม่ได้เสียหายอะไรกับเรื่องนี้

ในตอนที่กลับไปบ้าน  จางเทีย ได้กลับไปที่ห้องใต้หลังคาที่ซึ่งเขาได้เข้าไปใน Castle of Black Iron และเอาเงิน 4,000 ทองออกมา เขาเอาเงินนั่นใส่กระเป๋าแล้วทิ้งไว้ใต้เตียง

เขาแอบบอกพี่ชายเขาว่าเขาทิ้งบางอย่างไว้ที่ใต้เตียงตัวเองและบอกเขาว่าให้เอามันออกมาในตอนเย็น...

สุดท้าย จางเทีย ก็ได้กินมื้อเย็นและได้กลับออกไป

...

จางเทีย มีความสุขอย่างมากในหลายวันที่ผ่านมา เขาไม่ได้เห็นแสงอาทิตย์เลยในช่วงนั้น เขาเหมือนกับเครื่องจักรที่ขยับไปมาตั้งแต่เช้าจรดเย็น เขาไม่ได้เดินออกมานอกประตูตึกเลย ตอนนี้เขารู้สึกว่าบรรยากาศในเมืองนั้นดูเหมือนจะตึงเครียดมากกว่าเดิม

สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือมีรถกองทัพขี่ไปมามากกว่าเดิม สีหน้าของทหารที่เดินไปมาก็เคร่งขรึมมากกว่าเดิมไปด้วย รถกองทัพได้ขับผ่านรางคอยรดน้ำเพื่อไม่ให้เกิดฝุ่นจนกางเกงของ จางเทีย เต็มไปด้วยโคลน

เขาเดินไปที่อเวนิวในเมือง จางเทีย สูดหายใจหลังจากที่ฝนตกซึ่งตอนนี้มีความเย็นนิดๆ เขาหลุดออกจากกองสาวๆและเริ่มรวบรวมสติ

เพราะเขายุ่งอยู่กับสาวๆหลายวันมานี้ เขาเลยยังทำหลายอย่างไม่สำเร็จ  บ้านใน Castle of Black Iron ก็ยังไม่ได้สร้างขึ้นมา ยีสต์เองก็ไม่ได้ใช้งาน ไอ้บัดซบ สมิหลา ก็ยังเป็นอิสระอยู่ เขายังไม่ได้ไปที่คลับรึไปหาคู่แค้นเก่า แมรี่

มีหลายอย่างที่เขาต้องทำก่อนที่เขาจะออกจากเมืองไป

...

ในตอนที่ จางเทีย เดินอยู่บนอเวนิว รถที่จอดกว่าสิบเมตรอยู่ข้างหน้าเขา มีไอ้ตัวเล็กผมเงาโผล่หน้าออกมาจากหน้าต่าง เด็กนั่นลังเลเล็กน้อย เขาคิดว่าจะทักทาย จางเทีย ดีรึเปล่า

ก่อนที่ไอ้ตัวเล็กจะได้อ้าปาก จางเทีย ก็ได้โบกมือให้ – “ มามะ ที่รัก ! “

เบเน็ต ยิ้มออกมาแล้วผลักประตูและลงจากรถตามมาด้วยบอดี้การ์ด ด้วยการที่ตื่นตัว บอดี้การ์ดมองมาที่ จางเทีย   ชุดกองทัพนั้นมีอำนาจอย่างมากในเมืองนี้

เมื่อเห็นชุดกองทัพ คนธรรมดานั้นต้องระวัง มันมีคำพูดว่าครอบครัวเกกรอรี่นั้นได้คุกคามร้อยโทขั้นสอง มันจึงเกือบเป็นเรื่องใหญ่ สุดท้ายแล้วเกกรอรี่จึงต้องเสียเงินอย่างมากในเรื่องนี้

ตอนนี้คนรวยในเมืองคนไหนที่กล้าจะทำตัวหยิ่งต่อหน้ากองทัพเขาเหล็ก ?

“ จางเทีย ! “

เบเน็ต เดินเข้ามาหาเขาด้วยท่าทีกังวเล็กน้อย เขาได้ยินเรื่องของ จางเทีย มาและรู้ว่า จางเทีย ไม่ใช่กระสอบทรายที่โดนอัดอีกแล้ว หลังจากที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับ จางเทีย  ครอบครัวของ เบเน็ต ก็คิดเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งสอง

แม้ว่าคนอื่นจะไม่รู้ว่าร้อยโทขั้นสองคนไหนที่ครอบครัวเกกรอเรี่ยนนั้นได้คุกคาม  เบเน็ต นั้นรู้ดี เทียบกับ เกกรอเรียนแล้ว  เบเน็ต นั้นจนกว่ามาก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีเงินพอที่จะไปคุกคาม จางเทีย ได้

จากตอนที่เมืองได้กลายเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรนอแมน  จางเทีย  เป็นแค่คนธรรมดาที่ได้เข้ากองทัพและกลายเป็นเจ้าหน้าที่ ในแวดวงเมือง จางเทีย น่ะเป็นที่รู้จักกันดีกว่าที่เขาคิดเอาไว้อีก

เรื่องนี้อธิบายว่าทำไมสาวๆของกลุ่มกุหลาบถึงได้เข้ามาหา จางเทีย  คนฉลาดหลายคนน่ะรู้ดีกว่า จางเทีย สำคัญแค่ไหนในตอนนี้ ในสายตาของ แองเจล และสาวๆคนอื่นๆแล้วพวกเธอรู้สึกถึงวิกฤตในใจของพวกเขาที่บอกว่าเขาอาจปกป้องตัวเองไม่ได้กับสงครามที่จะมาถึงแต่คนฉลาดบางคนน่ะเข้าใจในเรื่องการเมืองอย่างดี คิดว่า จางเทีย น่ะเป็นเจ้าหน้าที่กองทัพที่มีอนาคตที่สดใสและมีกองทัพที่แข็งแกร่งคอยหนุนหลังและยังมีอำนาจส่งผลให้ถึงครอบครัวรวยๆในเมืองด้วย

ถ้าพวกเธอสามารถนอนกับผู้ชายแบบนั้นได้และสร้างพันธะกับเขา มันต้องถือเป็นตำนานเกี่ยวกับพวกเธอในอนาคตได้ ทำไมจะไม่ล่ะ ? นี่แหละคือสิ่งที่สาวๆนั้นคิด

“ ผมนายนี่แย่จริงๆเลย ยุงน่ะคงมาฟักไข่ได้ ! “

หลังจากที่ จางเทีย พูดถึงทรงผมของ เบเน็ต   เบเน็ต ก็ผ่อนคลายขึ้นมาทนที  เขาพบว่า จางเทีย น่ะยังเป็นเหมือนเดิมและพวกเขาไม่ได้โกรธแค้นอะไรกัน

“ ฉันเองก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกัน  แต่แม่บอกฉันว่ามันดูเคร่งขรึมมากกว่า ด้วยลุคนี้แล้ว ฉันจะไม่โดนปฏิบัติแบบเด็กโดยการโดนลูบหัวอีก  มันก็ถือว่าดีสำหรับฉัน ฉันน่ะจะรับช่วงต่อครอบครัว ! “ – เบเน็ต ยิ้มออกมา

“ นายมีแม่ที่ฉลาด เธอพูดถูก ! “ - จางเทีย ยิ้มออกมา – “ ดี งั้นนายจะไปไหนต่อ คุณเบเน็ต ? “

เบเน็ต รู้สึกดีใจอย่างมากที่ได้คุยกับ จางเทีย เพราะคำพูดของเขานั้นไม่ได้น่าเบื่อเหมือนพวกมีอำนาจที่มักจะสั่งสอนบทเรียนรึแสดงสีหน้าเย่อหยิ่ง ในสายตา เบเน็ต แล้ว จางเทีย น่ะเหมือนกับเพื่อน เพื่อนที่ไม่เคยเมินเฉยสถานะเขาและเคารพเขา

“ ฉันจะไปที่ไอร่อนคลับ ! “

“ ไปกับฉันมั้ย ?  ฉันเองก็อยากลองเข้าไปดูข้างในคลับดู  ผู้จัดการแฮนซ์ เชิญฉันไปดูตอนฉันว่าง ! “

“ ดี ถือว่าเป็นเกียรติเลย ! “

จางเทีย ขึ้นไปที่รถของ เบเน็ต  แค่ไม่นานพวกเขาก็ได้มาถึงคลับ..

สิ่งที่ จางเทีย ไม่รู้คือหลังจากที่เข้ามาในคลับแล้ว รถนั้นไม่ได้จอดที่ลานจอดรถแต่ขับกลับไปที่บ้านด้วยความเร็วสูง บ้านที่เหมือนกับปราสาทในทางใต้ของเมือง

...

ในห้องสุดหรูหรา บอดี้การ์ดของ เบเน็ต และคนขับรถได้รายงานให้กับผู้หญิงคนหนึ่ง

“ มาดาม นายน้อยเจอกับ จางเทีย ระหว่างทางไปที่คลับ .. “

“ บอกรายละเอียกเกี่ยวกับการพบกัน ! “

เสียงที่ไร้อารมณ์แต่ดูน่าดึงดูดของผู้หญิงคนนั้นดังก้องไปทั่วทั้งห้อง