spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 192: เติบโตจากความเจ็บปวด
หลังจากที่โดนตบอย่างแรง ชายคนนั้นเกือบจะสลบไป ปากของเขาเต็มไปด้วยเลือด ผู้หญิงข้างๆนั้นอึ้ง ตอนนั้นเอง ดั๊ก กับ แบร์ลี่ ก็ได้วิ่งเข้ามา
หลังจากที่ตบเสร็จ จางเทีย ได้ผลักชายคนนั้นไปที่พื้นทำให้ชายคนนั้นตะโกนออมกา แต่เมื่อเขาเห็น จางเทีย ในชุดเครื่องแบบ เขาก็หยุดร้องทันที ตาเขามองไปที่ จางเทีย และสับสนว่าทำไมเจ้าหน้าที่ถึงได้เข้ามาในบ้านได้
เพราะ แบร์ลี่ และ ดั๊ก นั้นรู้จักแม่ ชอร์วิน พวกเขาจึงเดินมากระซิบกับเธอ หลังจากที่มองไปที่ จางเทีย แล้ว เธอก็ได้วพยักหน้าแล้วเดินออกจากห้องไปพร้อมกับเช็ดน้ำตา
ดั๊ก ปิดประตูลงหลังจากนั้น
พ่อเลี้ยงนั้นอายุกว่า 50 ปี หัวล้านไปครึ่งหนึ่ง เพราะเป็นคนห่ามๆหยาบคาย เขาถึงกับไม่โกนหนวด ในตอนที่มองไปที่ตาเขาแล้วจะรู้สึกว่ามันเหมือนกับหนู ยังไงก็คงอยากอัดไอ้บ้านี่
เขานอนอยู่ที่พื้น เมื่อเห็นเด็กสามคนยืนล้อมไว้ ชายคนนั้นก็ร้องออกมาด้วยความกลัว
“ แก...พวกแกต้องการอะไร.. ดั๊ก, แบร์ลี่ ฉันรู้จักแก....พวกแกต้องการอะไร ? “
“ ไอ้เหี้ยนี่ ! “ – ดั๊ก ที่หงุดหงิดเตะเข้าที่ท้องพ่อเลี้ยง พ่อเลี้ยงถึงกับตัวงอแล้วร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
หัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความโกรธ แบร์ลี่ และ ดั๊ก นั้นได้ยินคำพูดทั้งหมดของชายคนนี้ พวกเขาแทบไม่เชื่อว่ามีคนแบบนี้บนโลกด้วย เขาน่ะเทียบกับสัตว์ไม่ได้ด้วยซ้ำ พวกเขาคิดไม่ออกเลยว่า ชอร์วิน ทนอยู่มานานได้ยังไง
แบร์ลี่ และ ดั๊ก อัดเขาอีกครั้งจนกระทั่งชายคนนั้นได้แต่ร้องโอดโอยออกมา
“ ฉัน...ฉันจะไปฟ้องหน่วยกองทัพ ! “ – ชายคนนั้นพูดซ้ำออกมา
เมื่อได้ยินแบบนั้น จางเทีย ก็ยิ้มให้มัน - “ แบร์ลี่ ดั๊ก หยุด ถ้าพวกนายอัดมันต่อ มันได้ตายแน่ คนแบบมันที่มีความคิดร้ายต่ออาณาจักรนอแมนและกล้าที่จะโจมตีเจ้าหน้าที่ มันง่ายที่จะจบชีวิตมัน ฉันอยากเห็นมันโดนแขวนคอ มันต้องดูดีแน่ๆ ! “
มันมองไปที่ จางเทีย ด้วยความกลัวและถามออกมา - “ คะ....คุณพูดอะไร ? “
จางเทีย ไม่สนใจแล้วมองไปที่ แบร์ลี่ – “ นายได้ยินที่ชายคนนี้ด่าอาณาจักรนอแมนและกองทัพเขาเหล็กมั้ย ? “
เพราะความเข้าใจกัน ในตอนที่เขาได้ยิน จางเทีย แบร์ลี่ ก็รู้ว่า จางเทีย ต้องการจะทำอะไร
“ ชายคนนี้ด่าอาณาจักรนอแมน บอกว่าพลเมืองน่ะเป็นไอ้บัดซบ เขายังบอกว่าสมาชิกของกองทัพเขาเหล็กควรจะโดนแขวนคอ ! “
ในตอนที่ แบร์ลี่ เปิดปากพูด เขาก็เพิ่มโทษถึงตายให้กับชายคนนี้ หลังจากที่พูดจบ เขาก็ได้แตะ ดั๊ก ที่ยังอึ้งแล้วยักคิ้วให้ ดั๊ก พยักหน้าทันที – “ ใช่ๆ ฉันก็ได้ยินเขาพูดแบบนั้น ! “
จางเทีย ถอนหายใจออกมา – “ ก่อนหน้านี้ฉันกะมาที่นี่เพื่อคุยกับเพื่อน ฉันไม่คิดเลยว่าจะเจอคนที่อคติกับอาณาจักรนอแมน ในฐานะเจ้าหน้าที่แล้ว ฉันจึงรีบวิ่งเข้ามาในห้องนี้แต่ชายคนนี้กลับเริ่มโจมตีฉันทันทีที่เห็น ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอัดมัน ! “
“ ฉัน...ฉันงั้นเหรอ ? “ – หน้าของชายคนนั้นเริ่มซีด
จางเทีย นั่งยองๆลงตรงหน้าชายคนนั้นแล้วใช้มือตบของอีกฝ่ายมาตบที่อกตัวเองราวกับตบยุงก่อนจะปล่อยมันไปแล้วยืนขึ้น
หลังจากนั้น จางเทีย ก็ได้ถาม แบร์ลี่ - “ นายเห็นเขาโจมตีฉันมั้ย ? “
“ ใช่ เราเห็นเขาต่อยนาย ! “ – แบร์ลี่ ตอบทันที
“ ถ้างั้นฉันจะจับตาดูเขาไว้เผื่อว่าเขาจะหนี นายสองคนไปข้างนอกไปหาทหารที่เดินลาดตระเวน บอกพวกนั้นว่าฉันจับคนที่อคติอาณาจักรนอแมนแล้วพาพวกทหารมาที่นี่ ! “
หลังจากพูดจบ จางเทีย ก็ได้ดึงเอาหนังสือยืนยันตัวตนออกมาและพูดขึ้น –“ เอานี่ไปด้วย เมื่อเห็นมัน ทหารพวกนั้นจะตามมาอย่างแน่นอน ถ้าคนแบบนี้ไม่โดนแขวนคอตาย เมืองคงไม่สงบสุขแน่ ! อีกอย่างแล้วชายคนนี้กล้าโจมตีเจ้าหน้าที่ด้วย เขาน่ะได้ก่อคดีร้ายแรงเอาไว้... “
ในตอนที่ แบร์ลี่ รับหนังสือจาก จางเทีย ชายคนนั้นก็แทบบ้า ไม่ว่าเขาจะโง่แค่ไหนเขาก็รู้ว่าเขาต้องตาย สำหรับคนชั้นต่ำในเมืองอย่างเขาแล้ว ถ้าพวกนี้ต้องการฆ่าเขาโดยใช้เครื่องแบบ มันก็ง่ายเหมือนกระทืบแมลงให้ตาย แม้ว่า จางเทีย จะฆ่าเขาตอนนี้ก็คงไม่มีใครจะห้ามได้
สิ่งที่ทำให้ชายคนนี้สับสนคือทำไมเจ้าหน้าที่หนุ่มถึงได้เข้ามาในห้องเขาในตอนที่เขาไม่ได้ทำการคุกคามคนของกัปตันเคอร์ลินเลย นี่ไม่ต้องพูดถึงเจ้าหน้าที่เลยด้วยซ้ำ
เมื่อเห็น แบร์ลี่ กำลังจะออกไป ชายคนนั้นก็กอดขา แบร์ลี่ เอาไว้แล้วร้องออกมาดังๆ – “ แบร์ลี่ ...แบร์ลี่ ... ไว้ชีวิตฉันเถอะ ฉันรู้ว่าฉันผิดแต่ฉันน่ะเป็นพ่อของ ชอร์วิน นายอยากฆ่าพ่อของเพื่อนจริงๆเหรอ ? ฉันน่ะก็แค่คนจนตัวเล็กๆ ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันทำอะไรก็ได้ที่นายต้องการ .. “
เมื่อเห็นชายคนนั้นกอดขา แบร์ลี่ เอาไว้ แม้แต่ จางเทีย เองก็เสียใจกับ ชอร์วิน คนแบบนี้น่ะควรฝังตัวเองให้ตายห่าไปดีกว่า
ตอนนั้นเอง แบร์ลี่ ต้องการจะฆ่ามันจริงๆ เพื่อเขามีคนแบบนี้เป็นพ่อเลี้ยงได้ยังไง มันน่าละอาย ! แบร์ลี่ มองไปที่ จางเทีย ที่ซึ่งถอนหายใจและส่ายหน้า
จางเทีย ทำไอ้ขี้ขลาดนี่ไม่ได้อีกต่อไป เขาจับคอเสื้อมันขึ้นมาและยกมันขึ้นก่อนจะโยนไปที่เตียง
ตาที่ตื่นกลัวมองมายัง จางเทีย ชายคนนั้นหดตัวที่เตียงทันที
“ นายรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร ?”
ชายคนนั้นส่ายหน้า
“ ฉันคือ จางเทีย เจ้าหน้าที่ของแคมป์เหล็กโลหิตทีม 39 ของกองทัพเขาเหล็ก ฉันเป็นเพื่อนกับ ชอร์วิน ฉันได้ยินมาว่าแกอยากฆ่า ชอร์วิน ดังนั้นแล้วฉันเลยมาที่นี่ ฉันอยากเห็นว่าใครกล้าทำแบบนี้กับเพื่อนฉัน ! “
ชายคนนั้นทำท่าเหมือนกับเห็นผี เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่า ชอร์วิน ที่ซึ่งมีแต่โดนเขาตีและด่าที่บ้านจะมีเพื่อนแบบนี้ได้
“ ฉัน ..ฉัน... “
เขามองไปที่ตาอันเย็นชาของ จางเทีย ชายคนนั้นพูดไม่ออกเลยสักคำ
“ แกรู้มั้ยว่าทำไมแกถึงยังมีชีวิตอยู่ได้ ? “
ชายคนนั้นกลืนน้ำลายและส่ายหน้า
“ ฉันให้แกมีชีวิตเพราะ ชอร์วิน แกเข้าใจมั้ย ? ไม่ว่ายังไง ไม่ว่าแกจะเป็นคนเฮงซวยแค่ไหน จะสมควรตายแค่ไหนแต่แกเป็นพ่อเลี้ยงของ ชอร์วิน ดังนั้นฉันจะให้แกมีชีวิตต่อ ถ้าแกเสียสถานะนี้เมื่อไหร่ ฉันคงยากที่จะปล่อยให้แกมีชีวิตต่อ ฉันพูดชัดมั้ย ? “
ชายคนนั้นพยักหน้า
“ แกจะไปแจ้งหน่วยกองทัพกับสิ่งที่ ชอร์วิน ทำมั้ย ? “
ชายคนั้นพยักหน้า ไม่นานเขาก็พบว่ามันไม่ถูกต้อง ดังนั้นแล้วเขาจึงรีบส่ายหน้าแทนทันที
...
ในตอนที่ จางเทีย แบร์ลี่ และ ดั๊ก เดินออกมาจากห้องเล็กๆ พวกเขาก็เห็นแม่กอดลูกเอาไว้มองมาที่พวกเขา การอยู่ในชนชั้นล่างแบบนี้มาหลายปีทำให้เธอนั้นดูแก่เกินจริง มีรอยแผลและรอยฝ่ามือที่หน้าของเธอด้วย
เมื่อมองไปที่เรื่องวุ่นวายในบ้านและประตูไม้ที่พังเพราะเขาแล้ว จางเทีย ก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับหยิบเงิน 5 ทองออกมาจากกระเป๋าแล้วแอบเอาใส่มือแม่ของ ชอร์วิน
...
ในตอนที่ทั้งสามคนกลับไป แม่ของ ชอร์วิน นั้นได้บอกพวกเขาด้วยน้ำตา – “ ถ้าพวกเธอเห็น อชร์วิน บอกเขาว่าไม่ต้องกังวลเรื่องฉัน ฉันน่ะทิ้งบ้านนี้ไม่ได้ ฉันขอโทษ ที่ให้บ้านที่อบอุ่นกับเขาไม่ได้ ในหลายปีที่ผ่านมาเขาได้จ่ายเงินให้กับบ้านนี้และได้แต่ความขมขื่น บอกเขาว่าอย่ากลับมาอีกเลย เขาโตแล้วและมีสิทธิที่จะไล่ตามความฝันของตัวเอง... “
“ เรายังไม่เจอ ชอร์วิน เลย ! “ – แบร์ลี่ เกาหัว
“ ฉันรู้ว่าเขาอยู่ไหน แบร์ลี่ ในตอนที่นายเจอเขา เอานี่ให้เขาด้วย นี่น่ะเป็นสิ่งที่พ่อจริงๆของเขาทิ้งไว้ให้ เขาจะเข้าใจมันเอง ! “
เมื่อพูดจบแม่ก็ได้ฉีกเสื้อด้านในตัวเองออกมาแล้วดึงเอาแหวนที่มีชื่อครอบครัว ชอร์วิน สลักเอาไว้ แหวนนี่ไม่ได้ดูหรูหราเลย
...
จนกระทั่งตอนบ่าย แบร์ลี่, ดั๊ก, จางเทีย, ลิซ, ฮฺสต้า และแบกแดด ค่อยหา ชอร์วิน เจอ
เขาไม่ได้อยู่สลัมแต่มาอยู่ที่เขตนอกเมือง เขานั่งอยู่ตรงหน้าหลุมศพของพ่อทั้งคืน เมื่อเห็นเพื่อนมาถึง ชอร์วิน ได้เงยหน้าขึ้นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบออกมาและฝืนยิ้ม
ทุกคนรู้สึกว่า ชอร์วิน นั้นเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาเมื่อคืนนี้ !
ความเจ็บปวดนั้นทำให้คนเราเติบโตขึ้นมา !
...
ทั้งวัน จางเทีย และเพื่อนได้อยู่ด้วยกัน หลังจากที่กินข้าวเย็นกัน พวกเขาก็ดื่มกินกันตลอด พวกเขากินกันจนเมาก่อนที่จะกลับไป
หลังจากที่ใส่แหวนของพ่อจิรงๆแล้ว ชอร์วิน ได้บอกว่าเขาจะไม่กลับไปที่บ้าน เขาจะทำงานเพื่อเอาตัวเองให้รอด ในตอนที่เขาทำเงินได้มากพอ เขาจะไปพาแม่เขาออกจากที่นั่น
ของที่เพื่อนเสนอให้ ชอร์วิน ล้วนแต่ปฏิเสธ เขาบอว่าเขาได้รับการช่วยมามากพอแล้ว เขากลัวว่าพวกเขาจะไม่ใช่เพื่อนกันอีก ชอร์วิน ได้ร้องไห้ออกมา ทุกคนต่างก็เงียบและเริ่มดื่มกันอีกรอบ
อาวุธที่ถูกขนกลับมาจากการฝึกนั้นถูกขายไปโดย แบร์ลี่ ทั้งหมดขายได้ไม่ถึง 8 ทอง เดือนสุดท้ายราคาอาวุธในเมืองได้ตกลง พวกเขาไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้เพราะสงครามนั้นกำลังจะมาถึง
นอกจาก จางเทีย ที่ซึ่งรู้เหตุผล หนึ่งในสัญญาณสำหรับโลกที่วุ่นวายนั้นก็คืออาวุธนั้นเริ่มถูกลง ส่วนราคาของอย่างคริสตัลรึอาหารนั้นจะโดดขึ้นอย่างมาก ดังนั้นแล้วราคาของอาวุธเองก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ
จางเทีย บอกพวกนั้นว่าเขาอาจออกจากเมืองไปในไม่ช้าและต้องไปสู้ในคารัวล์
เมื่อได้ยินเหตุการณ์ครั้งใหญ่นี้ ทุกคนต่างก็เงียบ พวกเขาดื่มและคุยเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงเรียน มิสไดน่า, บ้านต้นไม้,สายฟ้าที่ผ่า จางเทีย และสิ่งอื่นๆที่ต้องทำถ้าพวกเขาต้องตาย
ในตอนที่พูดถึง มิสไดน่า จางเทีย ก็บอกพวกนั้นว่าเขาเป็นเพียงคนเดียวในหมู่พวกนั้นที่ไม่เคยช่วยตัวเองโดยใช้ มิสไดน่า ไม่มีใครเชื่อเลยสักนิด !
เด็กต่างก็พากันหัวและและเล่นกันก่อนจะพากันร้องไห้ออกมา
ในตอนที่พวกเขาพากันรู้สึกดี เครื่องแบบของ จางเทีย ก็ทำให้คนอื่นนั้นถอดออกรวมถึงกางเกงด้วย เพื่อนเขาต่างก็ถอดเสื้อผ้าตัวเองและลองใส่เครื่องแบบกันดูว่าจะดูดีแค่ไหน
ในที่สุดด ฮิสต้า ก็โดดขึ้นไปบนโต๊ะในชุดเครื่องแบบและเริ่มทำท่าสาวแตกจนทำให้ทุกคนแทบอ้วก
...
ไม่รู้เลยว่าเขากำลังได้ประโยชน์จากต้นไม้เล็กๆ ในตอนที่เขาแยกจากเพื่อน จางเทีย ยังคงซึมๆอยู่แต่ไม่กี่นาทีต่อมาเขาก็รู้สึกว่าแอลกอฮอล์พวกนี้หมดฤทธิ์ไปแล้ว ตอนนี้เขารู้สึกสดชื่นขึ้นมา
ครั้งนี้เมืองสว่างไสวไปด้วยแสงจากตะเกียงตามทาง
หลังจากสลัดเรื่องต่างๆแล้ว จางเทีย คิดออกทันทีว่า อลิซ นั้นต้องการและกังวลอะไร เรื่องของ ชอร์วิน ได้แสดงให้เขาเห็นว่าครอบครัวที่แย่นั้นเป็นยังไง น้ำตาและความเศร้าของ อลิซ นั้นได้โผล่ขึ้นมาในหัวของเขาอีกรอบ
ก่อนที่เขาจะรวบรวมสติได้ เขาก็พบว่าตัวเองยืนอยู่หน้าบ้าน อลิซ
ที่บ้านยังคงมีไฟเปิดไว้อยู่ จางเทีย ได้ยินเสียง อลิซ คุยกับแม่ของเธอ
เขายืนอยู่ตรงนั้นเกือบชั่วโมง จางเทีย จำได้ทุกตอนตั้งแต่ที่เจอกับเธอ
ในตอนที่ อลิซ นั้นไม่ได้รังเกียจเขา พวกเขาสามารถอยู่กับคนอื่นได้โดยไม่ต้องคิดอะไรมาก แต่เมื่อเธอเริ่มต้องการสนใจเขาจริงๆ เธอก็เลือกที่จะจากไป
สนใจรึไม่นั้นมันแตกต่างกันอย่างนั้นมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
บางครั้งชีวิตมันก็เฮงซวย !
หลายครั้ง จางเทีย คิดจะไปเคาะประตูบ้าน อลิซ แต่เขาก็ยั้งใจเอาไว้ เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรและเขาจะทำแบบไหน เขาไม่อยากทำให้เธอเจ็บเหมือนที่ อลิซ นั้นบอกว่าจะขออยู่คนเดียวเพื่อไม่ให้ทำให้เขาเจ็บ...
อลิซ นี่ช่างเป็นเด็กดีจริงๆ !
สุดท้ายแล้ว จางเทีย ก็เลือกที่จะหันหลังกลับแล้วจากไป !
...
ระหว่างทางที่กลับเขาพบว่าเมืองคืนนี้ดูเงียบกว่าแต่ก่อน ชัดแล้วว่ามีทหารมากกว่าแต่ก่อนที่เดินตรวจตราไปมา ในตอนที่เขาไปใกล้สถานี ก็ได้มีรถกองทัพและรถโรงพยาบาลขับออกมาไปยังแต่ละทิศทางของเมือง
ตอนแรกเขาสับสนแต่เมื่อผ่านโรงพยายบาลไป เขาก็พบว่ารถกองทัพและโรงพยาบาลหลายคันจอดอยู่ที่ทางเข้า พร้อมกับมีทหารที่ได้รับบาดเจ็บนั้นถูกแบกออกมา
จางเทีย เดินเข้าไปใกล้อีก
“ หยุด .. “
เมื่อเห็น จางเทีย เข้ามาใกล้ ทหารก็ได้หยุดเขาไว้ จนกระทั่งเห็นชุดที่ จางเทีย ใส่ พวกนั้นก็รีบทำความเคารพเขา
จ่าขั้นแรกกับทีมเล็กๆได้แยกตัวมาที่นี่เพื่อรักษาความปลอดภัย
“ จ่าขั้นแรก ทหารบาดเจ็บพวกนี้มาจากไหนกัน ? “
“ พวกเขามาจากคารัวล์ กลุ่มแนวหน้านั้นกำลังเผชิญห้ากับกองทัพขนแสง จำนวนคนที่ได้รับบาดเจ็บเริ่มเพิ่มขึ้น โรงพยาบาลที่นั่นรับคนได้ไม่พอ เราต้องส่งคนที่บาดเจ็บหนักมาที่นี่ก่อนโดยใช้รถไฟเพื่อให้ได้รับการรักษา.. “
...
เมื่อได้ยินข่าวล่าสุด ใจของ จางเทีย ก็เต้นเร็วขึ้นมาเล็กน้อย ดูเหมือนว่าสถานการณ์ในคารัวล์นั้นจะพัฒนาไปเร็วกว่าที่คิดเอาไว้ อาณาจักรนอแมนและราชวงศ์อาทิตย์ปะทะกับบ่อยที่คารัวล์ซึ่งหมายความว่าแคมป์ของเขาต้องออกจากเมืองมุ่งหน้าไปที่คารัวล์ให้เร็วที่สุด
เพราะ จางเทีย น่ะไม่ใช่คนคลั่งสงคราม นี่จึงไม่ใช่ข่าวดีสำหรับเขา เรื่องที่พัฒนาขึ้นมานี้น่ะได้เพิ่มความตระหนักของเขาขึ้นมาอย่างมาก
ด้วยอารมณ์ที่หนักอึ้ง จางเทีย ได้กลับไปที่ตึกของเขา มีรถม้าที่จอดด้านอก รถม้านั้นเป็นพาหนะที่คนในโลกนี้ชื่นชอบกันมากที่สุด เทียบกับรถไอน้ำแล้ว บางครั้งรถม้าดูจะสะดวกกว่า อีกอย่างแล้วมันเห็นได้ทั่วไปในเมืองด้วย ดังนั้น จางเทีย เลยไม่ได้สังเกตอะไรมากมาย
แต่ในตอนที่ จางเทีย หยิบเอากุญแจออกมาและเตรียมที่จะเปิดประตู สาวสี่คน แองเจล, ชาราโปว่า, ซูซานและ ฟิโอน่า ที่ซึ่งเขาเจอในโรงบาลก็ได้ลงมาจากรถ
สี่คนนั้นดูสวยอย่างมากในวันนี้ ทั้งสี่คนใส่หมวกไว้แต่ จางเทีย ก็พอบอกได้ว่าผมและหน้าตาของพวกเธอนั้นเป็นยังไง
ในตอนที่ทั้งสี่คนลงจากรถมา เขาได้หันหลังกลับมาดู คนขับนั้นมอง จางเทีย ด้วยท่าทีชื่นชม
“ มาหาฉันงั้นเหรอ ? “ - จางเทีย ถามหลังจากที่เห็นสี่สาวยืนอยู่ต่อหน้าเขา ราวกับรอเขาอยู่นาน
“ เรารอนายมาสองชั่วโมงแล้ว ในฐานะสุภาพบุรุษ นายไม่คิดจะเชิญเราเข้าไปหน่อยเหรอ ? “ – แองเจล ที่ซึ่งผมบลอด์ พูดขึ้นมา
จางเทีย ฝืนยิ้มออกมาแล้วเกาหัวและเข้าไปในตึกพร้อมกับสาวๆทั้งสี่คน