spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 190: งานอันหนักหน่วง
ของข้างในนั้นค่อยๆลดลงไปเรื่อยๆ แต่ละครั้งที่ จางเทีย โผล่ออกมา ของจะหายไปราว 400-500 กก.
ด้วยการที่มีแรงของหมาป่ากว่า 9 ตัว จางเทีย จึงมีความอึดและแรงที่สูงอย่างมาก เขาคอยแบกของในคลังเข้าไปใน Castle of Black Iron โดยไม่มีทางทีจะหมดแรง
สองชั่วโมงต่อมา ของจำนวนมากในคลังได้หายไป จางเทีย นั่งอยู่ในกล่องแล้วเริ่มทำสมาธิโดยการคิดเลขในใจ เขานั่งขัดสมาธิแล้วเริ่มฟื้นฟูพลังวิญญาณของเขา ตอนนี้แม้ว่า จางเทีย จะรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อยแต่เขาก็ยังมีแรงพอที่จะขนต่อ แต่หลังจากที่ขนไป 100-200 ครั้งในเวลาอันสั้น แม้ว่าพลังวิญญาณจะเพิ่มขึ้นมาแต่เขาก็ทนทำแบบนี้ต่อไม่ได้
การทำสมาธินั้นใช้เวลากว่าชั่วโมง ระหว่างตอนนั้นเขาพยายามที่จะคิดภาพลูกคิด 13 แถวขึ้นมาก่อนจะใช้ลูกคิดสองอันนั้นทำการคิดเลขทั้งบวกลบคูณหาร
ตอนแรก จางเทีย พบว่าลูกคิดสองอันนั้นให้ผลลัพธ์เหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น 369x49631 ลูกคิดทั้งสองนั้นจะให้ผลลัพธ์ 181599829 ออกมาในเวลาเดียวกัน แต่หลังจากที่ฝึกมาสักพัก หัวใจของเขาก็ได้เต้นรัวและเขาได้ตัดสินใจว่าจะลองใช้การบวกลบคูณหารกับทั้งสองลูกคิดพร้อมกัน ในตอนที่เขาคิดแบบนั้น เขาอดที่จะลองดูไม่ได้
แต่เขาพบว่ามันยากที่จะทำต่างกันในเวลาเดียวกัน หลังจากที่ลูกคิดทั้งสองนั้นพังหลายครั้ง เขาก็รู้สึกกระอักกระอ่วนที่จะทำต่อไป แต่เมื่อมันไม่ราบรื่น เขารู้สึกว่าเขาคงต้องกลับไปทางเดิมและเริ่มทำการศึกษาการใช้ลูกคิดจริงๆก่อน
ความจริงคือมันถือว่าเป็นเรื่องที่คล้ายกันในเรื่องฝึกพลังวิญญาณและการพัฒนากล้ามเนื้อ --- ยิ่งออกกำลังกายหนัก ยิ่งได้ผลดี หลังจากที่ฝึกใช้ลูกคิดสองอันกว่าชั่วโมง จางเทีย ก็พบว่าพลังวิญญาณเขานั้นฟื้นฟูได้เร็วกว่าเดิมและให้ผลที่ชัดเจนกว่าเดิมด้วย อีกอย่างแล้วจิตใจตอนนี้เขาปลอดโปร่งขึ้นด้วย
มีเหตุผลเดียวเท่านั้น หลังจากที่ค้นพบวิธีนี้แล้ว จางเทีย ก็อารมณ์ดีขึ้นมาทันที ก่อนหน้านี้ตามที่หนังสือได้บอกไว้ หลังจากที่เพิ่มพลังวิญญาณแล้ว การคิดเลขในใจเขาได้มาอยู่ที่จุดคอขวดและไม่สามารถที่จะพัฒนาได้อีก เขาไม่คิดว่าเขาจะใช้วิธีนี้ได้ วิธีนี้คนเขียนหนังสือเองก็อาจจะคิดไม่ถึงก็ได้
‘ ตอนนี้ฉันเป็นคนแรกที่รู้จักวิธีคิดเลขในใจบนโลกนี้ มันน่าจะเป็นเรื่องที่พวกคนรวยๆนั้นน่าจะทำกันรึเปล่า ? ‘ เมื่อคิดแบบนั้น จางเทีย ก็พอใจอย่างมากและลงมือทำอีกรอบ
ในสองชั่วโมงต่อมา ในคลังนั้นสินค้าก็ได้ลดลงไปเรื่อยๆ ในตอนที่ จางเทีย จำไม่ได้ว่าเขาได้เข้าไปใน Castle of Black Iron กี่ครั้ง ตอนนี้คลังก็ได้ว่างเปล่าอีกรอบ
เขากอดไปที่รังผึ้งแล้วจากนั้นเขาก็ได้หายไปจากคลัง....
...
“ ระบบได้ตรวจจับว่าเจ้าของปราสาทสุดหล่อเหลาและวิเศษนั้นได้เอาสิ่งมีชีวิตจำนวนมากมายัง Castle of Black Iron ระบบสัตว์ของ Castle of Black Iron ทำงาน ! “
เมื่อเห็นข้อความนั้นหายไป จางเทีย ก็ได้หัวเราะออกมา
‘ เจ๋ง ฉันสามารถเอาสิ่งมีชีวิตเข้ามาข้างในได้ ! ‘
ครั้งนี้พื้นที่รอบๆต้นไม้ 50 ม. ที่พื้นดินของ Castle of Black Iron นั้นเต็มไปด้วยสิ่งของ เขาไม่สนใจของเหล่านั้นแล้วกอดรังผึ้งแล้ววิ่งไปยังพื้นที่ส่วนหนึ่ง
หลังจากผ่านมากกว่า 2 เดือน ข้าวโพดที่ จางเทีย ได้ปลูกไว้นั้นสูงพอๆกับคนแล้ว อีกอย่างข้างใน Castle of Black Iron นั้นก็มีชีวิตชีวามากขึ้น ต้นไม้หลายต้นที่ จางเทีย ปลูกไว้ก็ขึ้นมาเต็มที่แล้ว
หลังจากที่บรรจงวางรังผึ้งลงไปที่พื้นข้างๆกับสวน จางเทีย ก็ได้นั่งยองๆลงแล้วดึงเอาเหล็กออกมาจากตรงทางเข้ารังผึ้ง เขานั่งยองๆแล้วมองไปดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ในตอนที่ประตูได้เปิดออกก็ได้มีผึ้งบินออกมา หลังจากที่ล็อคมันอยู่นาน พวกสัตว์นี้น่ะเบื่ออย่างมาก ดังนั้นมันจึงรีบบินออกมาทันที
พวกมันวนอยู่รอบๆรังสองรอบ จากนั้นก็ได้บินไปยังไร่ข้าวโพด หลังจากนั้นผึ้งก็บินวนไปรอบๆ แม้แต่ จางเทีย เองก็รู้สึกว่าพวกมันตื่นเต้นกับสภาพแวดล้อมใหม่
ทุกอย่างใน Castle of Black Iron นั้นทำให้พวกมันพอใจอย่างมาก โดยเฉพาะพวกดอกไม้ที่บาน ไม่มีผึ้งตัวไหนจะขอไปมากกว่านี้ได้แล้ว ผลก็คือพวกมันรู้สึกราวกับที่นี่เป็นสวรรค์
มีผึ้งกว่าพันตัวในรั้ง คนขายบอกกับ จางเทีย ครั้งหนึ่งว่าราชินีผึ้งน่ะอยู่ในรังคอยวางไข่ ถ้าสภาพแวดล้อมเหมาะสม ฝูงผึ้งจะเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมาก ถังรังผึ้งที่ จางเทีย ซื้อมาน่ะมีผึ้งกว่า 70,000 ตัว
เมื่อเห็นพวกมันตื่นเต้น จางเทีย เองก็มีความสุขอย่างมาก !
หลังจากนั้นเขาก็ได้เปิดเมนูจัดการสิ่งมีชีวิตขึ้นมา เขาเลือกไปยังฝูงผึ้ง จางเทีย ได้เพิ่มค่าออร่าให้พวกมัน 5000 ในทีเดียวและเริ่มที่จะกลายพันธุ์ผึ้งเหล่านี้
เพราะค่าออร่านั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทุกวันอยู่แล้ว จางเทีย เลยอยากเห็นผลลัพธ์ถ้าเขาเพิ่มค่าออร่าให้พวกมันมากพอ มันไม่สำคัญว่าจะได้ผลรึเปล่า เขาแค่ลองดูอีกรอบไปเรื่อยๆ ถ้ามันไม่ได้ผล เขาคงลองอีก 10 ครั้งรึร้อยครั้ง มันก็แค่เปลืองค่าออร่า เขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอะไรกับการใช้พวกมันอยู่แล้วแต่ถ้าเขาทำมันได้ มันจะต้องรู้สึกดีอย่างมากแน่ นี่น่ะเป็นเหตุผลที่พอรับได้
การพัฒนาของผึ้งนั้นเกี่ยวข้องกับวงจรชีวิตของผึ้งงานที่ซึ่งรับหน้าที่หาอาหาร เวลาในรอบแรกของการกลายพันธุ์นั้นอยู่ที่ 56 วัน
หลังจากที่มองไปยังกองของที่ขนเข้ามา จางเทีย ก็ได้ออกจาก Castle of Black Iron เพราะวันนี้มันดึกแล้ว เขาต้องออกไปจากที่นี่ก่อนละค่อยมาจัดการกับของพวกนี้ในวันพรุ่งนี้
...
หลายนาทีต่อมา เขาได้เปิดประตูคลังออกแล้วมองไปรอบๆ เขาพบว่าข้างนอกมันมืดแล้วและไม่มีใครอยู่แถวนั้น เขาเปิดประตูมากกว่าเดิมแล้วรีบวิ่งออกไป หลังจากที่ล็อคมันแล้ว จางเทีย ก็ได้ออกจากที่ตรงนั้นทันที
เขาน่ะพอใจอย่างมากกับความสำเร็จในวันนี้ เขาได้เอาของจำนวนมากเข้าไปใน Castle of Black Iron และรู้ที่อยู่ของ สมิหลา อีกอย่างแล้วเขายังฝึกคิดเลขในใจและได้รับความสำเร็จที่ไม่คาดคิดมา เขายังยืนยันได้ด้วยว่าเขาสามารถเอาผึ้งเข้าไปใน Castle of Black Iron ได้ด้วย
หลังจากงานในวันนี้ มันทำให้ จางเทีย นั้นมั่นใจมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาสามารถวางใจกับคนที่เขารักได้
สองอาทิตย์ต่อมาถ้าเขาไม่คืนกุญแจคลัง เงิน 10 เงินของเขาจะเสียเปล่า จากนั้นในตอนที่คนอื่นเปิดคลังเข้าไป พวกเขาจะพบคลังที่ว่างเปล่า ในพื้นที่เก็บของที่ซึ่งมีรถเข้าออกอยู่ตลอดทุกชั่วโมงนั้น คนที่เห็นคนคิดว่าเขาจากไปพร้อมกับสินค้าและไม่มีเวลามาคืนกุญแจ พวกนั้นคงไม่คิดว่าสินค้าจะหายไปทันทีหลังจากที่เพิ่งเข้าไปในคลัง
คงมีแต่คนโง่ที่จะมานั่งมองคลังของ จางเทีย อยู่ตลอด เขาจะอยู่ที่นี่เพื่อมายืนยันว่าไม่มีอะไรเหลือในคลังงั้นเหรอ ?
แม้ว่าจะมีคนแบบนั้นอยู่จริงแต่ก็ไม่มีใครเชื่อสิ่งที่พวกนั้นบอกหรอก คลังน่ะกินสินค้าได้งั้นเหรอ ? ถ้าพูดถึงหน้าปลอมๆนี่ ใครกันจะหาตัวจริงเขาได้ หลังจาก 15 วันแล้ว จางเทีย ไม่แน่ใจว่าเขาจะยังใส่มันอยู่รึเปล่า ดังนั้นแม้ว่ามันจะดูประมาทที่ทำแบบนี้แต่มันก็ถือว่าเข้าท่าดี
ต่อมาเขาจำเป็นต้องเปิดของพวกนั้นใน Castle of Black Iron และรีบสร้างบ้าน นอกจากนี้แล้วเขาต้องหาโอกาสจัดการไอ้บัดซบ สมิหลา อีกอย่างแล้วคลับต่อสู้ก็กำลังจะเปิด เขาต้องหาเวลาไปเยี่ยมและดูว่า แมรี่ จะมีท่าทียังไงตอนเห็นเขา
เพราะเขาไม่ได้กินอะไรมาทั้งวัน จางเทีย เลยซื้อขนมปังจากร้านข้างทาง เขากินขนมปังใส้เนื้อกับนมที่เขาไม่มีปัญญาซื้อแต่ก่อน คิดถึงหน้าตาที่ตกใจของ แมรี่ ในตอนที่เห็นเขาในคลับ จางเทีย ก็รู้สึกพอใจอย่างมาก
นี่น่ะเป็นของคนแข็งแกร่งยังไงล่ะ !
...
หลังจากที่กลับไปยังโมเน็ตอเวนิว จางเทีย ก็ได้ใช้เงินสิบทองแดงเพื่อซื้อตั๋วเข้าไปยังบาร์ใต้ดิน
บาร์ใต้ดินในตอนเย็นนั้นคนเยอะกว่ากลางวันเป็น 10 เท่า แค่ในส่วนที่เต้นนั้นก็มีคนกว่าหลายร้อยคนที่กอดจูบกันอยู่ ดนตรีเองก็เสียงดังขึ้น ในทางกลับกันมีไม่กี่คนที่จะมาดื่มเหล้ากันในเวลานี้
ชายหัวล้านหลายคนยืนกอดอกอยู่ที่อุโมงค์ข้างๆกับพื้นที่เต้น ด้วยเงาที่เกิดจากโคมไฟ พวกเขาได้ยืนอยู่นิ่งๆเผยออร่าความโหดเพื่อเตือนคนที่กล้าเข้ามาก่อเรื่องที่นี่
ธุรกิจในบาร์นี้เป็นไปได้ดีอย่างมาก มักจะมีคนเข้าออกอยู่เสมอทั้งมากินและมาเช่าห้อง ราคาของห้องนั้นก็ 1 เงินต่อ 2 ชม. ถ้าอยากอยู่ค้างคืน พวกเขาก็ต้องจ่าย 5 เงิน จางเทีย น่ะสับสนจริงๆที่ ดอนเดอร์ สามารถซื้อไปเป็นห้องส่วนตัวได้เพื่อนอนกับผู้หญิงในบาร์
หลายนาทีต่อมา จางเทีย ก็ได้กลับไปที่ตึกของเขาผ่านทางประตูลับในห้องและถอดหน้ากากออก
เพราะการปลอมตัวนี่ จางเทีย รู้สึกว่าได้เปรียบในการซ่อนตัวตนของเขา เมื่อเห็นตู้เสื้อผ้าและของต่างๆที่เขาใช้เปลี่ยนหน้าตา เขาก็รีบเอาของพวกนั้นไปเก็บไว้ใน Castle of Black Iron ทันที
หลังจากเข้าออกหลายรอบ ในที่สุดเขาก็ขนของในห้องออกไปจนหมด
หลังจากทำงานหนักมาทั้งวัน จางเทีย ก็เริ่มที่จะเหนื่อยทั้งกายและจิตใจ เมื่อเขาออกจากห้องลับแล้ว เขาได้กลับไปที่เขตที่พักและอาบน้ำก่อนจะกลับไปที่เตียง เขาคิดภาพบ้านไว้ในหัวก่อนที่จะไปสร้างในวันพรุ่งนี้...
แต่มักจะมีหลายอย่างที่พวกเขาพลาดไปในชีวิต
เช้าวันต่อมาไม่ใช่นาฬิกาชีวภาพที่ปลุกเขาแต่เป็นออดดังขึ้นมา บางคนน่ะได้ดึงเชือกด้านนอกประตู ออดนี้ยังคงดังอยู่เรื่อยๆซึ่งบอก จางเทีย ว่ามีคนอยากเจอเขา
เขายังสะลึมสะลืออยู่ เขามองไปที่ท้องฟ้าและก็รู้ว่ามันยังไม่หกโมงเช้า ใครกันที่มาทำให้เขาตื่นเช้าขนาดนี้ ? แม้แต่เด็กเองนี่ก็ยังถือว่าเช้าเกินไป
แต่ออดนั้นยังคงดังอยู่เรื่อยๆซึ่งเตือน จางเทีย ว่าคนนั้นมีเรื่องด่วน ดังนั้นเขาจึงรีบใส่เสื้อผ้าแล้วไปที่ประตู จากนั้นเขาก็ได้เปิดประตูออกไป
ในตอนที่เขาเปิด เขาก็เห็น แบร์ลี่ และ ดั๊ก นั้นยืนอยู่ด้านนอกด้วยท่าทีกังวล
“ มีเรื่องเกิดขึ้นที่บ้าน ชอร์วิน ! “
ประโยคแรกนั้นทำให้ จางเทีย ตื่นขึ้นมาทันที