หน้าแรก > Castle of Black Iron
Chapter 181: ความสุข

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

Chapter 181: ความสุข

 

จางเทีย ขับรถไปเรื่อยๆจนถึงศูนย์แลกเปลี่ยนที่ซึ่งเขาสามารถซื้อสิ่งของต่างๆได้

เขายังใช้กระเป๋าตังค์ของ สมิหลา ในตอนที่ สมิหลา ล้ามเหลวในการหาเรื่องจางเทีย ที่ปราสาท  จางเทีย ก็พบว่ากระเป๋านี้น่ะทันสมัยและยังใช้ได้สะดวก เขาเลยตัดสินใจที่จะเก็บมันไว้กับตัว  ไม่กลัวเลยว่า สมิหลา จะใช้มันหาเรื่องเขาได้อีก

ข้าวสารสองกระสอบนั้นราคาแค่จำนวนเหรียญเงินที่มีในกระเป๋าครึ่งหนึ่ง ยังมีเงินเหลืออยู่อีกกว่า 20 ทองที่ยังไม่ได้ใช้

จำนวนเงินข้างในนั้นเท่ากับเงินเดือนพ่อเขาสองปี มันไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆสำหรับ จางเทีย ก่อนหน้านี้เขารู้สึกแย่ที่จะใช้มันแต่ในตอนที่เขาคิดถึงเด็กน้อยที่ซึ่งถือป้ายขอเงินมองเขาด้วยตาที่เบิกกว้าง จางเทีย ก็อดที่จะเก็บมันไว้ไม่ได้อีกต่อไป

จางเทีย รู้สึกว่านี่อาจจะเป็นความต้องการของพระเจ้า เขาเคยได้ใช้ ‘ สัญญาเลือด ‘ ของ ย่าเทเรซ่า และยังโรงเรียนผู้พิทักษ์ เขาได้กันไม่ให้ สมิหลา ชนะเขาได้ในศาลและในที่สุดเขาก็ได้ชัยชนะมา ดังนั้นวันนี้แล้วเขาต้องใช้เงินที่ได้มาเพื่อบ้านเด็กกำพร้าของโรงเรียนผู้พิทักษ์

คนทั่วไปส่วนมากในเมืองแล้วจะมีเวลาเพื่อซื้อหาสิ่งของในตอนที่พวกเขาเลิกงานในตอนเย็น นี่คือช่วงเวลาที่ราคาอาหารสูงที่สุดเมื่อเทียบกับแต่ก่อนและผู้คนก็ซื้อของไม่กี่อย่างต่อครั้งแม้การซื้อของบ่อยๆนั้นมีแต่สิ้นเปลืองก็ตาม ดังนั้นหลายร้านในศูนย์การค้าจจึงเปิดอยู่ถึงตอน 4 ทุ่ม

ด้วยความคุ้นเคยของศูนย์แลกเปลี่ยนนี้ จางเทีย จึงรู้เส้นเป็นอย่างดี เขาตรงไปที่ร้านที่เปิดโดยคนจีนทันที

ในตอนที่ จางเทีย ลงจากรถเพื่อมองไปรอบๆ เจ้าของร้านก็ออกมาทักทายเขาที่หน้าประตู  จางเทีย เห็นบุคลิกเจ้าเล่ห์ของเจ้าของร้านที่มักจะมีให้เห็นในร้านคนจีนทุกคนที่ทำธุรกิจกับชาวต่างชาติ

เขามองไปที่สินค้ารอบๆข้างๆเขาแล้วพยักหน้า

“ ให้ผมช่วยอะไรดี ? “

เจ้าของร้านนั้นกระฉับกระเฉงอย่างมากกับการมาของลูกค้าใหม่เพราะรูปลักษณ์ที่เป็นคนจีนของ จางเทีย ด้วยและชื่อเสียงที่ดีของทหารของอาณาจักรนอแมนในตอนที่เข้ามาซื้อสินค้าในเมือง

เจ้าของร้านได้พูดจีนออกมา ในยุคนี้คนจีนทุกคนนั้นเป็นหนึ่งเดียว ในสายตาของคนชาติอื่น พวกเขาเป็นคนที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันไม่ค่อยแบ่งแยก ที่ไหนๆก็มักจะมีคนจีนอยู่จำนวนมาก ไม่มีใครกล้าหาเรื่องพวกเขาเลย

จางเทีย ไม่พูดอะไรและได้โยนกระเป๋าตังค์ให้กับเจ้าของร้านที่ซึ่งรับมันสบายๆ

“ ฉันจะใช้เงินทั้งหมดในร้านนาย นายเอาอะไรให้ฉันได้บ้าง ? “ - จางเทีย พูดเป็นภาษาจีนออกมา

เขาลองชั่งน้ำหนักในมือ เจ้าของร้านได้เผยรอยยิ้มออกมา – “ ลดราคาได้ 30% ของของ ถ้าเกิน 20 ทอง เพราะคุณเป็นคนจีน ผมจะให้ส่วนลดอีก 10% รวมทั้งหมดเป็น 40% นอกจากนี้แล้วผมยังช่วยคุณส่งของไปที่บ้านได้เลย เพราะกำไรของธัญพืชนั้นน้อย นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ผมเสนอให้ได้ ! “

“ ดี เอารายชื่อสินค้ามา ฉันอยากดูหน่อย ! “

แน่นอนว่าการซื้อเล็กน้อยนั้นไม่จำเป็นต้องใช้รายชื่อสินค้าแต่สำหรับการแลกเปลี่ยนที่มากกว่า 10 ทองแบบนี้ เจ้าของร้านรีบเอารายชื่อสินค้ามาให้ลูกค้าเลือก รายชื่อนั้นมีทุกอย่างที่ในร้านมีขายและสิ่งที่เจ้าของร้านจะหาให้ลูกค้าได้

จางเทีย มองแล้วเริ่มที่จะสั่งอย่างกับสั่งอาหารในโรงแรม

ข้าว 50 ถุง, ถุงละ 25 กก.

ข้าวโพด 34 ถุง, ถุงละ 30 กก.

แป้ง 50 ถุง , ถุงละ 25 กก.

เนื้อแห้ง 140 กก.

เกลือ 127 กก.

น้ำมันปาล์ม 23 ขวด ขวดละ 5 กก.

แอลกอฮอล์ 17 ขวด , ขวดละ 2 กก.

จางเทีย สั่งของทุกอย่างที่ละอัน ส่วนเจ้าของร้านก็รีบจดลงไปในสมุด หลังจากที่เห็นรายชื่อแล้ว เขารีบคำนวณด้วยลูกคิด หลังจากที่ลด 40% จากราคาทั้งหมดแล้ว เขาได้ผลลัพธ์สุดท้ายคือ 26 ทอง 18 เงินและ 33 ทองแดง เขาได้เปิดกระเป๋าตังค์ จางเทีย ออกมาและนับเงินข้างใน หลังจากที่นับเสร็จ เขาก็ต้องอึ้ง มันมี 26 ทอง 18 เงินและ 33 ทองแดงพอดี

นี่มันเท่ากับราคาทั้งหมดเลย

“ อะไร ? ไม่พอรึไง ? “

“ พอ พอ เงินข้างในน่ะพอดีเป๊ะเลย ไม่ขาดแม้แต่เหรียญเดียว ผมคิดว่าจะลดให้คุณ 33 ทองแดงอยู่แล้ว ! “

เหงื่อเริ่มผุดที่หน้าผากของเจ้าของร้าน

‘ เจ้าหน้าที่คนนี้ใช้เวลาไม่ถึง 30 วินาทีที่จะสั่งของ ราคาของส่วนมากก็แตกต่างกันและไม่ใช่ตัวเลขกลมๆเลยด้วย นอกจากนี้แล้วฉันยังลดให้เขาอีก 40% เขาคำนวณมาก่อนที่จะสั่งงั้นเหรอ ? มันเป็นแบบนั้นได้ยังไง ? ฉันใช้เวลากหลายสิบปีกว่าจะเชี่ยวชาญการคิดเลขได้ นี่เขาคำนวณทั้งหมดแค่นาทีเดียวเองเหรอ  เขารู้ได้ยังไงแค่มองเพียงแว๊บเดียว ‘

นี่คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ

ตอนแรกเจ้าของร้านคิดว่าทหารคนนี้น่ะคาดเดาไม่ได้ เขาไม่เคยรู้จักทักษะคิดเลขในใจของ จางเทีย นั้นอยู่ในระดับที่แม้แต่ตัว จางเทีย เองก็อธิบายไม่ได้ ในตอนที่ จางเทีย มองรายชื่อสินค้า แค่มองแว๊บเดียว เขาก็รู้ว่ามีของกี่อย่างที่เขาสามารถซื้อได้ด้วยเงินที่มี หลังจากคิดอยู่ 2 วินาที เขาก็ได้รู้ว่าเขาต้องซื้ออะไรเท่าไหร่

“ นายขนมันเลยได้มั้ย ? “

“ โอ้ ได้ตอนนี้เลย ! ของพวกนี้จะเอามาจากคลัง แม้ว่าแอลกอฮอล์จะใช้เวลาในการขนบ้าเพราะมันส่งมาจากที่อื่น...”

“ ดี เร็วหน่อยนะ มีบางคนกำลังรอใช้ของพวกนี้ทำอาหารอยู่ ! “

“ ได้เลย ผมจะรีบจัดการให้ในสิบนาที เข้ามากินน้ำข้างในก่อนสิ ! “

เจ้าของร้านดูทำตัวสบายขึ้นหลังจากที่ขายของได้

10 นาทีต่อมารถขนสินค้าก็ได้ขับที่ด้านทิศตะวันตกของเมือง ตามมาด้วยรถของ จางเทีย  หลังจากนั้นสักแป๊ป พวกเขาก็ได้มาถึงบ้านเด็กกำพร้าที่เขตพลเรือนซึ่งไม่ไกลจากกำแพงด้านทิศตะวันตก

ก็เหมือนกับตอนที่เขามาส่งซุปข้าว ย่าและเด็กๆยืนอยู่ที่ทางเข้าเงยหน้ารอการมาของ จางเทีย เพราะพวกเขารู้ว่าเขาจะเอาอาหารมาให้ในวันนี้แต่ไม่มีใครคิดว่าสิ่งที่ตาม จางเทีย มาน่ะคือรถที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบที่บ้านนี้ต้องการมากที่สุด

รถสินค้า ! ตั้งแต่ที่ย่าสร้างบ้านนี้ขึ้นมา นี่เป็นเงินบริจาคก้อนใหญ่ที่สุดที่บ้านนี้เคยได้รับมา

เมื่อเห็นรถบรรทุก เด็กทุกคนต่างก็ดีใจและหน้าเล็กๆของพวกเขาก็มีรอยยิ้มออกมา บ้านที่เงียบสงัดตอนนี้มีแต่ความดีใจเหมือนกับจะมีงานเทศกาล

แม้ว่า จางเทีย รู้สึกแย่ที่ใช้เงินทั้งหมดไปตั้งแต่แรกแต่ในตอนที่เขาเห็นรอยยิ้มและความหวังในสีหน้าของเด็กและย่า เขาก็รู้สึอบอุ่นและมีความสุขในใจ

‘ ทุกอย่างที่ฉันทำเพื่อบ้านนี้คุ้มแล้ว ‘ จางเทีย พึมพำในใจ เขารู้สึกรวยซึ่งแต่เดิมนี่ก็เป็นเหตุผลที่คนใช้เงินเพื่อซื้อความพอใจและความสุข

ชายใจร้ายที่มีเงินนับไม่ถ้วนน่ะแน่นอนว่าต้องไม่พอใจเท่าเขาแน่ ถ้าเขาเอาแต่เก็บเงินไว้ เขาก็ไม่มีทางารู้สึกพอใจและมีความสุขแบบนี้

การมีเงินมันก็มีความสุขแต่เขาจะมีความสุขยิ่งกว่า,พอใจยิ่งกว่าและดีใจยิ่งกว่าถ้าเขาใช้เงินนั่นเพื่อทำให้คนที่เขารักมีความสุข !

ด้วยความรู้สึกดีใจที่มี จางเทีย เกือบลืมแผลที่ตัวเองมี  เขาเข้าไปช่วยพนักงานแล้วขนของทั้งหมดลงไปที่บ้าน

แต่หลังจากที่วางข้าวสองถุงไว้ที่ใต้แขนและใช้แรงในการยกมันขึ้นมา แผลที่ท้องและไหล่ก็เริ่มเจ็บขึ้นมา

เขากัดฟันแน่นแล้วยกต่อไป แต่หลังจากที่แบกมาได้หนึ่งรอบ หน้าของ จางเทีย ตอนนี้ก็กล้ำกลืนเต็มทน เหงื่อผุดมาที่หน้าผากของเขา ที่แย่กว่านั้นดูเหมือนว่าแผลจะเริ่มเลือดไหลแล้วดว้ย

เด็กสาวตัวน้อยพร้อมกับกระสอบเกลือในมือวิ่งอย่างดีใจเข้ามาหา จางเทีย แล้วตีเข้าที่ท้องของเขา เธอรีบขอโทษในตอนที่เห็นเขาหน้าซีด

“ ไม่เป็นไร เอาของที่เธอถือไปไว้ข้างในเถอะ ! “ - จางเทีย ฝืนยิ้มออกมาพร้อมกับไล่เด็กสาวก่อนที่จะหอบหายใจ

ย่าเทเรซ่า เดินเข้ามาแล้วมองมาที่หน้าของ จางเทีย

“ ลูกมีแผลงั้นเหรอ ? “

“ ใช่ นิดหน่อย ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก ของพวกนี้น่ะน่าจะช่วยให้บ้านผ่านช่วงนี้ไปได้ ! “ - จางเทีย ยิ้มออกมา

“ ลูกให้แม่ดูแผลหน่อยได้มั้ย ? “ - ย่าถามออกมาอย่างระมัดระวัง

“ ย่าทำแผลเป็นด้วยเหรอ ? “ - จางเทีย พูดตลกออกมา

“ ความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าน่ะมีอยู่ทุกที่ ! ๐”

...

ในตอนที่เด็กกำลังเตรียมมือเย็นครั้งใหญ่ ด้วยการยืนกรานของย่า  จางเทีย ได้ถอดเสื้อออกและนอนลงบนเตียงของย่าในห้องสวดมนต์

ผู้ศรัทธาของโรงเรียนผู้พิทักษ์นั้นมักจะขังตัวเองไว้ในห้องที่ซึ่งแยกตัวเองจากโลกภายนอกเป็นเวลาเจ็ดวัน ระหว่างนั้นพวกเขาจะภาวนา,ทำสมาธิและทำการชะล้างจิตใจและร่างกายของตัวเอง

หลังจากที่แกะผ้าพันแผลออกแล้ว ย่าก็เห็นว่าแผลที่ท้องไหล่ที่ต่อกับแขนซายและอกนั้นเริ่มที่จะมีเลือดไหลออกมา หลังจากที่เช็คแผลดูแล้ว เธอได้บอกให้ จางเทีย นอนอยู่บนเตียงจนกว่าเธอจะกลับมา เธอได้ไปเอาขวดยามาขวดหนึ่ง

ด้วยคำสั่งของย่า จางเทีย จึงปฏิเสธไม่ได้อีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงอยู่ในห้องรอเธอต่อไป

2 นาทีต่อมา เธอได้เดินเข้ามาพร้อมกับกล่องเก่าเล็กๆซึ่งทำมาจากของที่เขาไม่รู้จัก...

ด้านนอกมันมีลายกิ่งไม้สีเงินของโรงเรียนผู้พิทักษ์  เมื่อเห็นกล่องนั่น จางเทีย ก็รู้ทันทีว่าของข้างในนั้นต้องไม่ธรรมดาแน่นอน

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.