spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 179: ปลาในขื่อ
นกนอกหน้าต่างร้องอกมาทำให้ จางเทีย ตื่น ในตอนที่เขาลืมตาขึ้นมา เขาก็เห็นเพดานที่พร่ามัว เขาได้กลิ่นที่คุ้นเคย เขาเข้าใจได้ทันทีว่าเขาอยู่ที่ไหน
เขานอนอยู่ในโรงพยาบาล !
ในตอนที่ จางเทีย อยากลุกขึ้นนั่งแล้วเอามือค้ำ เขาก็เจ็บที่ไหล่ซ้ายและท้องจนทำให้เขากัดฟันแน่นซึ่งเตือนให้เขานึกถึงสลักสองอันที่เขาโดนมาที่โรงเรียน
‘ เหี้ย ! ‘ จางเทีย ด่าออกมา
แผลที่ท้องของเขานั้นไม่ได้เจ็บมาก ในทางกลับกันเขาเจ็บตรงส่วนอกที่ต่อกับไหล่
เขาเปิดผ้าห่มออก จางเทีย ลองมองดูร่างกายของตัวเอง ก่อนหน้านี้เขารู้สึกตื่นเต้นที่ไม่ต้องเป็นมัมมี่อีกต่อไป ไม่คิดเลยว่าเขาจะต้องมาโดนผ้าพันแผลห่อตัวอีกรอบ
‘ รึว่านี่เป็นผลของการโดนเรียกว่ามัมมี่ ? ‘
ข้างนอกแดดนั้นสาดเข้ามาในห้อง เมื่อได้ยินเสียงนกร้องและกลิ่นหอมของดอกไม้ จางเทีย ก็ลุกขึ้นมาจากเตียงแล้วเดินไปที่หน้าต่าง เขาเปิดหน้าต่างขึ้นแล้วมองดูวิวด้านนอกก่อนจะสูดหายใจ
ด้านล่างนั้นมีสวน ฉากตอนนี้มันดีอย่างมาก เขามองจากรูปร่างตึกและสวนแล้วรู้ทันทีว่าเขาอยู่ที่โรงพยาบาลแสงเจิดจรัสในเมืองแบล็คฮ็อต
เขาไม่คิดว่าเขาจะได้มาอยู่โรงบาลที่ดีที่สุดในเมืองได้ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นห้อง ICU ด้วย
จางเทีย ล้อเลียนตัวเอง ‘ การปฏิบัติต่อเจ้าหน้าที่นี่ก็ไม่เลวเหมือนกันแหะ ‘
เมื่อเห็นแสงอาทิตย์ เขาก็ได้เอื้อมมือออกไปสัมผัสกับความอบอุ่นของแดด เขารู้สึกดีใจอย่างมากพร้อมกับหลับตาลง
จนกระทั่งตอนที่เขาได้สัมผัสถึงความอบอุ่นของไอแดด พิษอันน่ากลัวที่อยู่ในตัวเขาก็ได้หายไป
มันเป็นความรู้สึกที่น่ากลัวอย่างมาก ทั้งแข็งทื่อและเย็น เขารู้สึกว่าเลือดและกล้ามเนื้อนั้นโดนแช่แข็งตั้งแต่เท้าจนถึงลิ้นของเขา มันรู้สึกเหมือนว่าร่างกายนั้นไม่ใช่ของเขา ร่างกายของเขาดูเหมือนจะหายไปเปลี่ยนเป็นเถ้าท่านที่กระจายหายและทำให้เขาไม่รู้สึกอะไรอีก
ในตอนนนั้น จางเทีย คิดว่าเขาต้องตายอย่างแน่นอน พิษที่ส่งผลเร็วแบบนี้แน่นอนว่าต้องแข็งแกร่งกว่าสารหนูที่ร้าน ดอนเดอร์ มันใช้เวลาไม่ถึง 5 วินาทีในการทำให้เขาเสียสัมผัสด้านต่างๆโดยการถูกยิงเข้าใส่สองครั้ง
เมื่อคิดถึงความรู้สึกนั้นหัวใจของเขาก็เต้นรัวขึ้นมา
...
หลังจากที่ยืนติดกับหน้าต่างไม่ถึง 2 นาที ประตูก็ได้เปิดออกและพยาบาลก็ได้เข้ามา เหมือนว่าเธอจะมาเพื่อเปลี่ยนผ้าพันแผลให้เขาใหม่
เมื่อเห็น จางเทีย ยืนอยู่ที่หน้าต่าง เธอก็ช็อคและกรี๊ดออกมา
ในตอนที่พยาบาลนั้นกรี๊ด ทหารสี่คนก็ได้วิ่งเข้ามา
“ นายตื่นแล้วเหรอ ? “ – ทหารคนหนึ่งตาแทบถลน
“ ฉันหลับไปนานมากงั้นเหรอ ? วันนี้วันอะไรแล้ว ?” - จางเทีย ถาม
“ วันนี้วันที่ 11 สิงหา นายหลับไปสองวัน ! “
...
เพียงแค่ 10 กว่านาที ผู้การและเจ้าหน้าที่จำนวนมากจากแคมป์ก็ได้รับข่าว ทุกคนรีบมาที่โรงบาลและพากันแห่เข้ามาในห้อง
เมื่อเห็น จางเทีย ตื่นแล้ว ทุกคนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ตอนนี้ จางเทีย ได้รู้ชื่อของพิษแล้ว --- น้ำแข็งฟ้า ตอนนั้นเองเขาก็รู้เพิ่มมาว่ามีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นในเมืองระหว่างสองวันนี้
แคมป์เหล็กโลหิตได้ส่งคนไปล้อมป้อมของครอบครัวเกรกอเรี่ยนเอาไว้เพราะการลอบฆ่า พวกเขาต้องการที่จะแก้แค้นให้ซึ่งทำให้ จางเทีย ซึ้งใจอย่างมาก
ผู้จัดการและหัวหน้าทหารของครอบครัวนั้นโดนจับ ผู้จัดการมีหน้าที่ในการตรวจสอบคลัง ส่วนทหารนั้นมีตำแหน่งสูงกว่าพ่อของ เกรซ พ่อของ เกรซ นั้นได้ขโมยหน้าไม้และสลักในคลังไปเพื่อฆ่า จางเทีย แต่ทั้งสองคนนั้นไม่รู้เรื่องด้วย
ดังนั้นสองคนนั้นจึงกลายเป็นแพะรับบาปเพื่อระบายความหงุดหงิดของทหารในแคมป์
โซดอร์ โดนจับพร้อมกับคนอีกสองคน เขาขอให้มีการดวลกับ จางเทีย ที่ซึ่งโดนลอบสังหารที่โรงเรียน ไม่มีใครรู้ว่า โซดอร์ และพ่อของ เกรซ นั้นร่วมมือกันรึเปล่า คนหนึ่งในที่สาธารณะ อีกคนซ่อนตัวอยู่ หลังจากที่พ่อของ เกรซ โจมตี จางเทีย แล้ว โซดอร์ ก็โดนจับทันที ระหว่างการสืบสวน ในที่สุด โซดอร์ ก็ ‘ ยอมรับ ‘ ว่าได้มี ‘สัญญา ‘ กับพ่อของ เกรซ หลังจากได้ยินว่า เกรซ เองก็ไม่ได้กลับมาและพวกเขาก็ได้ร่วมมือกันหาวิธีฆ่า จางเทีย
หลังจากยอมรับแล้ว โซดอร์ ก็ตายในคุกเพราะบาดแผลมากมายและรายระเอียดเกี่ยวกับการลอบสังหาร จางเทีย ก็เผยแพร่ในที่สาธารณะ
หลังจากที่ยอมรับความผิดแล้ว โซดอร์ ได้ช่วยให้ครอบครัวเกกรอเรี่ยนพ้นผิดในข้อหาลอบฆ่า แน่นอนว่าไม่มีใครสนเรื่องคนไม่มีอำนาจว่าจะมีชีวิตอยู่รึตายไปในตอนนั้น
จางเทีย ถอนหายใจออกมา ไม่ว่า โซดอร์ จะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้รึเปล่านั้น มันก็จบลงแล้ว เพราะ โซดอร์ ได้ตายลงไปแล้ว มันไม่จำเป็นที่จะต้องไปหาคนผิดอีก
จางเทีย ไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไรที่โดนยิง แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานว่าเขาเป็นคนฆ่า เกรซ แต่พ่อของ เกรซ นั้นมั่นใจว่าเขาเป็นคนทำ งั้นแล้วเขาจะจัดการมันยังไง ?
เขาได้แต่โทษตัวเองกับความประมาทเพราะเขาคิดถึงเรื่อง เกรซ นั้นง่ายเกินไป เขาคิดว่าไม่มีใครจะมาหาเรื่องเขาถ้าไม่มีหลักฐานแต่เขาไม่รู้เลยว่าในโลกนี้ บางครั้งบางคนก็ไม่ต้องการหลักฐานเมื่อพวกเขาได้ตัดสินใจเอาไว้แล้ว
‘ พ่อของ เกรซ น่ะคิดว่ามันคงไม่ขาดทุนถ้าเขากับฉันตายทั้งคู่ มันเป็นสิทธิของเขาที่จะทำการแก้แค้นให้ลูกชาย ‘
แม้แต่ตอนนี้ จางเทีย ก็ไม่ได้เกลียดพ่อของ เกรซ เลยสักนิด แม้ว่าอีกฝ่ายจะตายไปแล้วแต่ก็ยังถือว่าเป็นพ่อที่ดีแต่เขาน่ะแค่มีลูกชายเฮงซวยก็เท่านั้น
คนที่ผิดในเรื่องนี้คือ โซดอร์ และครอบครัวเกกรอเรี่ยน พวกเขาน่ะให้สองฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหลังจากที่ก่อเรื่องแล้ว แต่คนหนึ่งคือจระเข้ ส่วนอีกคนน่ะเป็นแค่แพลงตอน เพราะจระเข้กำลังเผชิญกับปัญหา แพลตอนเลยได้กลายเป็นแพะรับบาป
นี่คือกฎของโลก เหมือนกับที่ ดอนเดอร์ พูดไว้ มันมักจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบนโลก ในตอนที่คนรวยมีปัญหา คนจนนั่นแหละที่ต้องรับผล
คนที่ทำทั้งหมดนี่ก็คือ เกรซ จางเทีย ได้แสดงวิธีที่ตรงไปตรงมาในการจัดการกับ เกรซ มีแค่ฝั่งที่เสียเปรียบเท่านั้นที่ต้องการหลักฐานเพื่อกล่อมพวกเขาเองและหาคนสนับสนุน ส่วนพวกที่เหนือกว่าน่ะจริงๆแล้วไม่ต้องการอะไรเลย
แล้วหลักฐานอะไรที่อาณาจักรนอแมนใช้เพื่อยึดเมืองนี้ ? หลักฐานอะไรที่ใช้ว่าสิงโตนั้นกินกระต่าย ? หลักฐานอะไรที่ใช้สำหรับคนที่หาทางแก้แค้น ? หลักฐานอะไรที่ใช้สำหรับคนมีอำนาจในการตัดสินใจว่าชีวิตคนเป็นสิบล้านคนต้องเป็นรึตาย ?
สิ่งที่ จางเทีย ได้คิดขึ้นมา คนที่ไม่มีอำนาจเกือบเขาตายในครั้งนี้
คนที่มีอำนาจจะทำยังไงถ้าตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ? พวกเขาคงกลับมาที่เมืองนี้แน่นอนและหาโอกาสในการฆ่าพ่อของ เกรซ เพื่อกำจัดภัยที่อาจเกิดขึ้นมาต่อตัวพวกเขาเอง
ใสซื่อ ใสซื่อเกินไปแล้ว ! เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ จางเทีย เริ่มมองกว้างกว่าเดิมและจิตใจของเขาก็ได้พัฒนาขึ้นอย่างมาก เขาโตขึ้นอีกนิด
ประโยชน์อื่นของเรื่องนี้คือในที่สุดคนอื่นก็เชื่อว่านี่คืออาการจากการโดนฟ้าผ่า ก่อนหน้านี้พวกเขายังคงสงสัยว่า จางเทีย โดนฟ้าผ่าจริงรึเปล่าแต่ตอนนี้ทุกคนเริ่มเชื่อในตอนที่เห็น จางเทีย รอดจากพิษน้ำแข็งฟ้ามาได้โดยไม่ต้องพึ่งยาแก้พิษ
ถ้าเรื่องนี้เปิดเผยออกไป ทุกคนคงต้องช็อคอย่างมาก ถ้าไม่ใช่เพราะสายฟ้าที่ได้เปลี่ยนโครงสร้างของร่างกายไปและความลึกลับในการพัฒนาของร่างกายเขา เขาจะรอดมาได้ยังไง ?
กลุ่มคนกลุ่มแรกที่แห่เข้ามาเยี่ยม จางเทีย เริ่มพูดถึงเรื่องสายฟ้าตั้งแต่ต้นจนจบ พวกเขาถามหลายคำถามทั้งโดนฟ้าผ่ามาเมื่อไหร่, ที่ไหน, ขนาดของสายฟ้า, สภาพร่างกายในตอนนั้น, ส่วนไหนที่โดนผ่าและคำถามแปลกๆอีกมากมาย ทุกคำถามจริงจังหมดและผู้การเองก็แสดงความสนใจออกมาด้วย
ด้วยการที่เตรียมรับมืออย่างดี จางเทีย ตอบคำถามทั้งหมดได้ดี ถ้าใครอยากยืนยัน พวกเขาก็ไปหาหลักฐานจากฟ้าผ่าข้างๆกับต้นไม้ลองดูก็ได้ นั่นแหละคือสิ่งที่ จางเทีย บอกกับพวกนั้นไป นอกซะจากว่าจะมีใครย้อนเวลากลับไปได้เพื่อทำการตรวจสอบ คงไม่มีใครหาช่องโหว่ของคำโกหกที่เขาพูดไปได้
...
“ นายพักสักหน่อยแล้วกัน หมอบอกว่านายต้องใช้เวลาอีกเดือนกว่าจะฟื้นตัว ฉันให้วันหยุดนายหนึ่งเดือน ระหว่างนั้นนายไม่ต้องกลับไปที่แคมป์ นายค่อยกลับไปตอนที่หายดีแล้ว ! “ - ผู้การลิปนิซ บอกมาตรงๆ
เขากำลังอารมณ์ดีในไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากที่แก้ปัญหาเรื่องนี้ได้ เขาถึงกับหัวเราะออกมากับตัวเองในตอนที่เขาคิดถึงความจริงใจที่เกกรอเรี่ยนให้มา เพราะเรื่องนี้ผู้การเลยพบว่า จางเทีย น่ะเป็นเหมือนนางฟ้าของเขาและเขาก็เริ่มที่จะสนใจเด็กนี่มากกว่าเดิม เด็กนี่น่ะไม่ใช่แค่เอาโชคมาให้เขาในนอดินเบิร์คแต่ยังเมืองนี้ด้วย
ผู้การเริ่มรู้สึกว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ฉลาดที่รับ จางเทีย เข้ามาในทีม
เมื่อเห็น จางเทีย ตื่นขึ้น ในที่สุดผู้การก็ได้สั่งให้ทหารที่เฝ้านั้นกลับ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ของทีม 39 กลับไปแล้ว พวกคนที่รออยู่ด้านนอกห้องก็เริ่มเข้ามา
ทุกคนต่างก็รออยู่นอกห้องเพื่อฟังข่าวของ จางเทีย
จางเทีย เห็นว่า ลิซ, ดั๊ก , พี่, เบเวอร์รี่, และวู๊ด ล้วนแต่มีสีหน้าหมดแรง ดูเหมือนว่าพวกนี้ไม่ได้นอนเลยในสองวันที่ผ่านมาโดยเฉพาะพี่ชายของเขา แม้ว่าจะทำเป็นมีชีวิตชีวาแต่การหมดแรงของพี่นั้นก็เห็นได้ชัดในสายตาของ จางเทีย
หลังจากที่เห็นตาแดงๆของ จางหยาง จางเทีย ก็ได้ถามขึ้นมาก่อน – “ พ่อกับแม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับผมรึเปล่า ? “
จางเทีย นั้นกังวลเรื่องพ่อแม่มากที่สุด ถ้าทั้งคู่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น
“ ตอนแรกฉันไม่กล้าบอก ฉันแค่บอกว่านายปล่อยให้ชายคนนั้นมีชีวิตรอด นายกลับไปที่แคมป์ เพราะคนจำนวนมากที่โรงเรียน มันเลยเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นแต่นายไม่เสียผมเลยสักเส้น หลังจากนั้นตอนฉันเห็นว่านายมีโอกาสที่จะฟื้น ฉันเลยไม่ได้บอกพ่อกับแม่ ดังนั้นทั้งคู่เลยยังไม่รู้เรื่อง แม้ว่าพ่อจะได้ยินเรื่องซุบซิบมาและถามเกี่ยวกับนายเมื่อคืนก็เถอะ แม่เองก็เริ่มสงสัย ฉันไม่ได้บอก ถ้านายรู้สึกดีขึ้น นายค่อยกลับบ้านไปปลอบทั้งคู่ แม้ว่านายจะเข้าไปข้างในไม่ได้แต่นายแค่ทักทายอยู่นอกบ้านก็ได้ ! “
เมื่อได้ยินว่าพี่ได้โกหกพ่อกับแม่ในสองวันที่ผ่านมา จางเทีย ก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เพราะมีหลายคนที่เห็นการลอบสังหารเขาและไม่นานหลังจากที่โรงเรียนเกิดเรื่องวุ่นขึ้นมา มันต้องมีข่าวลือออกไปแน่ มันกระจายไปอย่างรวดเร็วและเพราะเกกรอเรี่ยนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทำให้เรื่องมันบานปลายกันไปใหญ่
เพราะพี่เขาตั้งใจที่จะปิดบังมัน จางเทีย เลยไม่ได้ทำให้พ่อแม่กังวล นี่คือว่าเป็นโชคดีที่สุดในเรื่องนี้แล้ว
...
ไม่ว่ายังไงก็ตามเพราะเวลาที่เขาเหลืออยู่มากมาย ตอนแรกเขาได้คุยกับ ลิซ กับ วู๊ด ก่อน จากนั้นเขาก็ให้พวกนั้นกลับไปพักผ่อน เขายังขอให้พวกนั้นบอกสมาชิกคนอื่นในองค์กรว่าเขาไม่เป็นไร หลังจากนั้นเขาก็มองมายัง อลิซ ที่ซึ่งคอยดูเขาและไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำตั้งแต่เข้ามาในห้อง
เมื่อเห็นแบบนั้นคนอื่นก็เดินออกไปจากห้อง เมื่อเห็นตาแดงๆของเธอและตาที่บวมเปล่ง จางเทีย ก็ได้ยิ้มออกมาและเบ่งกล้ามโชว์ว่ามันยังขยับได้สบายๆ
ตาของ อลิซ น้ำตาไหลออกมาทันที เธอเดินเข้าไปหาและกอดเขาไว้กว่าสองนาที เธอเช็ดน้ำตาที่อกของ จางเทีย โดยไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำ
จางเทีย รู้สึกกลัวเรื่องนี้และรีบเช็ดน้ำตาให้เธอ – “ ฉันขอโทษที่ทำให้เธอกลัวในวันนั้น ฉันรู้ว่ามันไม่ดีที่ฆ่าคนต่อหน้าเธอ มันแค่นองเลือดนิดๆ... “
เมื่อเห็นว่าคนของเธอนั้นยังคงกังวลว่าจะทำให้เธอกลัว อลิซ ก็ได้ส่ายหน้า น้ำตาเริ่มไหลอาบมาที่แก้มมากขึ้น
“ เธอร้องไห้ทำไม ? “- จางเทีย เจ็บใจกับความเศร้าของเธอและเริ่มจูบน้ำตาของเธอออก – “ เธอคงนอนไม่หลับสินะสองวันมานี้ ! “
“ พวกเขาบอกว่าตอนนั้นนายรู้ตัว ถ้านายเลือกที่จะหลบสลักนั่น พวกมันก็จะไม่โดนนายแต่เพราะเรายืนอยู่ตรงหน้านาย นายเลยตัดสินใจที่จะปกป้องเราโดยการผลักเราออกแล้วเอาชีวิตตัวเองไปแทน นายน่ะใช้ร่างกายของตัวเองรับสลักนั่นเอาไว้ใช่มั้ย ? “ - อลิซ จับไปที่หน้า จางเทีย ตาของเธอนั้นเหมือนกับแสดงความรักที่จริงใจต่อเขา –
“ ทำไมนายถึงโง่แบบนี้ ? “
จางเทีย หัวเราะ เขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี มันเป็นแค่สัญชาตญาณ เขาไม่ได้คิดมากขนาดนั้น เขาแค่รู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องสำหรับสามสาวที่ต้องมาเจอกับอันตรายในตอนที่เขายังยืนอยู่ได้แบบมีชีวิตในตอนนั้น และยิ่งตอนนี้เขารู้ว่าสลักนั่นอาบพิษน้ำแข็งฟ้าไฟเขายิ่งต้องทำแบบนั้น
จางเทีย เริ่มรู้สึกจริงๆว่าสิ่งที่เขาได้ทำไปนั้นเป็นตัวเลือกที่ถูก ต้องขอบคุณที่สลักสองอันนั้นโดนเขา
“ เอาจริงๆแล้วฉันแค่รู้สึกดีใจมาก ของคุณที่สลักสองอันนั้นยิงโดนฉัน !ถ้ามันโดนเธอ ฉันคงไม่รู้ว่าจะเผชิญกับมันยังไง ฉันคิดไม่ออกเลยว่าฉันจะทำอะไรถ้าเธอนอนอยู่ตรงนั้นและไม่ตื่นขึ้นมาอีกเพราะฉัน ฉันอาจจะบ้าเลยก็ได้ .. “
ตอนนี้พวกเขาไม่ได้พูดอะไรกันอีก อลิซ ขยับปากเข้าไปใกล้และเริ่มจูบกับ จางเทีย วันนี้เธอต้องการที่จะกลืนกินเขาทั้งเป็นด้วย