spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 169: ข่าวเกี่ยวกับสงครามศักดิ์สิทธิ์
เขามองไปยัง ดอนเดอร์ ด้วยความตื่นเต้น จางเทีย อึ้ง เพราะเขาไม่คิดว่าคำพูดนี้จะมาจากคนใจร้ายแบบนี้ สิ่งที่ทำให้เขาทึ่งคือหนังสือนี้ที่เขาได้มาจากข้างทางจะมีความสำคัญแบบนี้ได้
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ทำให้ จางเทีย สับสน ไม่นานเขาก็รวบรวมสติและตระหนักได้ถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากคำพูดของ ดอนเดอร์
อย่างแรก การบ่มเพาะพลังวิญญาณนั้นพึ่งการมองภาพแต่ก่อนที่ความลับของการคิดเลขในใจจะถูกค้นพบ ดูเหมือนว่าจะมีส่วนที่ยิ่งใหญ่ของวิธีที่ถูกใช้ในการบ่มเพาะพลังวิญญาณขึ้นมาซึ่งซับซ้อนและยากอย่างมากที่จะเชี่ยวชาญได้ มันเป็นเรื่องที่ยุ่งยากอย่างมากสำหรับเด็กๆที่อายุยังไม่ถึง 12 ปีเพราะพวกเขายังไม่มีอารมณ์ที่แน่นอน
อย่างที่สองแล้วสำหรับคนธรรมดาอย่างเจ้าของร้านในเมือง มันไม่ใช่ฐานะของเขาที่จะมาสนใจโอกาสรอดและการพัฒนาของคนจีน การเกิดและตายของคนพวกนั้นน่ะไม่ได้เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเขาเลย
“ หนังสือที่ผมเอาให้มีค่าขนาดนั้นเลยเหรอ ? “ - จางเทีย ถาม
เพราะคำอธิบายของ ดอนเดอร์ ถ้าคนอื่นมาได้ยิน ชายคนนั้นคงอยู่ในรายชื่อคนหายไปซะสองวันเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาจะเอาวิธีนี้ไปอวดคนอื่นได้ยังไง ?
“ เหี้ย แน่นอนว่าฉันทำไม่ได้แต่องค์กรที่หนุนหลังฉันน่ะทำได้ ! “ - ดอนเดอร์ ตอบอย่างใจเย็น
“ องค์กรที่หนุนหลังคุณ ? “
จางเทีย แปลกใจ ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทุกคนน่ะต่างก็มีความลับของตัวเองรวมถึงตัวเขาเองและแม้แต่ ดอนเดอร์ ด้วย
“ แน่นอน ! “ – ดอนเดอร์ ตอบอย่างภาคภูมิใจ มีความรู้สึกสง่าและมีเกียรติออกมาจากตัวเขาที่ จางเทีย ไม่เคยเห็นมาก่อน – “ ฐานะของฉันยังคงกระจอกอย่างมากในองค์กรและฉันเป็นเพียงแค่เป็นหูเป็นตาให้กับองค์กรในเมืองนี้ แกเข้าใจมั้ย ? “
ในที่สุด จางเทีย ก็เข้าใจว่า ดอนเดอร์ นั้นเป็นสายลับให้กับองค์กรรับผิดชอบรวบรวมข้อมูลในเมือง
“ องค์กรคุณเทียบกับอาณาจักรนอแมนแล้วเป็นยังไง ?” - จางเทีย ถามด้วยความสงสัย
“ แกเห็นโคมไฟที่ห้อยตรงกำแพงนั่นมั้ย ? “
จางเทีย พยักหน้า
“ ถ้าอาณาจักรนอแมนมีโคมไฟพวกนี้ องค์กรของฉันก็จะมีพระอาทิตย์ ! “ – ดอนเดอร์ พูดด้วยท่าทีเคร่งขรึม
จางเทีย ช็อคอีกครั้ง
“ ไม่ต้องสงสัยหรอก ถ้าเราเจอกันอีก แกจะรู้ว่าฉันไม่ได้หลอกแก ! เพราะการคิดเลขในใจนี้ ฉันจะได้มีส่วนร่วมที่ยิ่งใหญ่กับองค์กร ผลก็คือองค์กรจะดึงชั้นกลับไปที่ทวีปทางทิศตะวันออก ภารกิจของฉันในเมืองนี้เสร็จสิ้นไปแล้วและในที่สุดฉันก็มีโอกาสที่จะได้กลับบ้านสักที ! “
“ ไม่ว่าองค์กรคุณอยู่ในสมาคมแบล็คซอนหรอกเหรอ ? “
ดอนเดอร์ แสยะยิ้มออกมา – “ สมาคมแบล็คซอนเป็นการแสดงออกของพวกอิสราเอล ในบรรดาคนจีนมันถูกเรียกว่าคาบสมุทรไหว่รึทวีปย่อยไหว่ มันเป็นพื้นที่เล็กบนทวีปคุนแอง พื้นที่ที่ไม่เจริญซึ่งห่างจากแกนโลก แกรู้มั้ยอะไรคือพื้นที่ไม่เจริญสำหรับคนจีน ? แกน่าจะเข้าใจว่ามังกรที่ยิ่งใหญ่นั้นจะไม่มาเล่นน้ำในบ่อเล็กๆ สำหรับฉันที่ซึ่งฝันเพียงแค่ไม่อดตาย ฉันโดนสั่งให้มาที่นี่เพื่อแค่ดูสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ! “
จางเทีย มองไปยัง ดอนเดอร์ เขารู้สึกอึดอัดกับสิ่งที่ได้พูดถึงเรื่องที่ยังไม่เจริญ
“ เพราะคนจีนอย่างแกที่ซึ่งได้ถูกย้ายมายังที่ยังไม่เจริญ ในตอนที่แกมีชีวิตอยู่ ถ้าแกไม่ไปยังตะเวณทางทิศตะวันตกที่ซึ่งเป็นที่รวบรวมคนจีนไว้มากที่สุด, ถ้าแกไม่ไปหาพื้นที่ที่เป็นรากฐานของสายเลือดแก่เพื่อที่จะได้รู้ถึงความยิ่งใหญ่และมีเกียรติของคนจีนที่แกไม่เคยรู้สึกมาก่อน แกคงจะใช้ชีวิตแบบไร้ค่า ! “
สิ่งที่ ดอนเดอร์ พูดนั้นทำให้ จางเทีย รู้กสึกว่าอยากรู้ เขาได้ถามขึ้นมา – “ คุณจะออกจากที่นี่เพื่อไปยังทวีปทิศตะวันออกเหรอ ?”
“ ใช่ คืนนี้ฉันจะออกจากเมืองไปยังคารัวล์โดยรถไฟ ตอนฉันไปถึงคารัวล์ จะมีคนไปรับฉันที่นั่น ฉันจะขึ้นเครื่องบิน ระหว่างนั้นฉันจะเปลี่ยนสถานีไปเรื่อยๆแล้วใช้พาหนะอื่นไปเรื่อยๆ ถ้าฉันไม่ติดอยู่ที่ไหนล่ะก็ ฉันจะไปถึงที่หมายในอีกเดือนครึ่ง “
สีหน้าของ จางเทีย ดูสลดลงเล็กน้อย - “ ผมจะได้เจอคุณอีกมั้ย ? “
เพราะ ดอนเดอร์ นั้นแทบจะเป็นเหมือนครูเขา เมื่อรู้ว่าชายคนนี้จะจากไปในไม่ช้า จางเทีย ก็รู้สึกว่าผูกพันกับชายคนนี้ ในเสี้ยววินาทีทุกความทรงจำที่เขามีก็โผล่ขึ้นมาในหัว เขาเริ่มที่จะร้องไห้ออกมา
“ นี่คือสิ่งสำคัญที่ฉันอยากคุยกับแกในวันนี้ ! “ – ดอนเดอร์ ทำท่าทีเคร่งขรึม – “ แกควรจำไว้ว่าสิ่งที่ฉันบอกแกในวันนี้น่ะไม่ว่ายังไงแกต้องออกจากเมืองไปพร้อมกับครอบครัวแกในอีกสองปี ยิ่งเร็วยิ่งดี แกต้องไปหาพวกคนจีนในด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของคาบสมุทรไหว่ก่อน หลังจากนั้นแกก็ควรหาโอกาสในการย้ายไปที่ทวีปทิศตะวันออก ทั้งโลกนี้จะเข้าสู่ความวุ่นวายที่ยิ่งใหญ่ สิ่งมีชีวิตเป็นรอยล้ายไม่นานจะโดนเผาเป็นเถ้าถ่าน คาบสมุทรไหว่นั้นไม่ใช่พื้นที่ที่อยู่ได้นาน สำหรับแกและครอบครัวแล้ว แกต้องออกไปให้เร็วที่สุด ! “
“ ทำไม ? “ – หัวใจ จางเทีย เริ่มเต้นรัว
“ เพราะสงครามศักดิ์สิทธิ์ระหว่างมนุษย์และปิศาจกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ! “ – ดอนเดอร์ พูดอย่างกระอักกระอ่วน
“ สงครามศักดิ์สิทธิ์ ? “ - จางเทีย อึ้ง ไม่นานเขาก็เข้าใจสิ่งที่ ดอนเดอร์ พูดถึงและหน้าเขาก็เริ่มบิดเบี้ยวขึ้นมา
สงครามศักดิ์สิทธิ์ ? ประโยคนี้สามารถทำให้ทุกคนอึ้งได้
ดูจากประวัติศาสตร์และความรู้ที่ จางเทีย เรียนรู้มาเกี่ยวกับสงครามศักดิ์สิทธิ์ มีเพียงคำเดียวที่สามารถใช้อธิบายสงครามศักดิ์สิทธิ์สองครั้งก่อนได้ : พินาศ !
ปิศาจที่น่ากลัวแห่ทะลักกันออกมาจากพื้นดินซึ่งได้เข้ารุกรานเมืองและชาติต่างๆ ทุกที่ที่ปิศาจไปนั้นจะกลายเป็นภูเขาศพและทะเลเลือด ไม่มีสักคนที่รอดไปได้
สงครามครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อ 600 ปีก่อน ตอนนั้นมนุษย์ซึ่งเพิ่งฟื้นตัวกันได้เล็กน้อยเกือบที่จะสูญพันธุ์ ที่โรงเรียนในตอนที่ให้แนะนำสงครามครั้งแรก ครูมักจะพูดไม่กี่อย่าง มนุษย์ได้ตายไป 2.7 หมื่นล้านคนและ 600 กว่าชาติได้โดนทำลายด้วยน้ำมือปิศาจ
สงครามครั้งแรกกินเวลากว่า 70 ปี กินเวลากว่า 3 ชั่วอายุคน หลังจากสงครามนี้แล้วจำนวนมนุษย์ที่เหลืออยู่นั้นมีเพียง 1 หมื่นล้านซึ่งบ่งบอกได้ว่ามนุษย์ 2 ใน 3 ได้ตายไปในสงครามครั้งนี้
สงครามครั้งที่สองเกิดขึ้นเมื่อ 300 ปีก่อนซึ่งถูกเรียกว่าสงครามร้อยปี มันกินเวลากว่า 110 ปี จำนวนผู้เสียชีวิตในสงครามครั้งนี้คือ 4.8 หมื่นล้านคน ชาติกว่าพันชาติถูกปิศาจทำลาย เทียบกับสงครามครั้งแรกแล้ว สงครามครั้งที่สองนั้นดูแย่ยิ่งกว่าเพราะมีมนุษย์หลายเผ่าพันธุ์ที่โดนกำจัดให้หายไปจากโลก ครอบครัวมากมายต่างก็ต้องแยกจากกัน
สงครามแต่ละครั้งระหว่างคนและปิศาจนั้นคือภัยพิบัติของมนุษย์
ในตอนที่ครูพูดถึงเรื่องสงครามสองครั้งนี้ เขาถึงกับสำลัก เทียบกับสงครามชนิดอื่นๆแล้ว ในสงครามศักดิ์สิทธิ์ระหว่างสองเผ่าพันธุ์ ผู้คนต้องช่วยเหลือกันเอง สำหรับปิศาจแล้วมนุษย์น่ะคืออาหารอันโอชะ
มีภาพที่ถูกบันทึกสงครามที่บ่งบอกได้ว่าพวกปิศาจนั้นยังคงมีชีวิตอยู่
จางเทีย เคยเห็นภาพนั้นครั้งหนึ่งที่ครูเอามาให้ดู ฉากอันโหดร้ายนั้นทำให้ จางเทีย และเด็กคนอื่นๆถึงกับพูดอะไรไม่ออก พวกเขาไม่อยากกินข้าวเที่ยงกันเลยด้วยซ้ำ....
สงครามนี้คือฝันร้ายสำหรับทุกคนที่กินเวลามากว่า 100 ปี !
จากสงครามสองครั้งก่อนหน้านี้ สงครามครั้งที่สามน่าจะโหดร้ายกว่าเก่า มันต้องกินเวลาไปมากกว่าเดิมและต้องมีหลายพื้นที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ผลก็คือคนมากกว่าเดิมจะตายในสงครามครั้งที่สามอันยาวนานนี้
“ ไปทางทิศตะวันตก สมาคมจีนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ซึ่งเป็นความหวังของมนุษย์อยู่ตรงนั้น แม้ว่ามนุษย์ทุกคนในทวีปคุนแองจะตายในสงครามนี้แต่ทวีปตะวันออกน่ะจะยังคงทำให้คนรอดไปได้อยู่ ! “ - ดอนเดอร์ พูดขึ้น
บทสนทนาก่อนหน้านี้กับ ดอนเดอร์ ทำให้ จางเทีย เข้าใจเรื่องรางต่างๆได้มากมาย เขาเข้าใจว่าทำไมจึงมีหลายอย่างเกิดขึ้นในเมืองในสองเดือนที่ผ่านมา ทำไมพันธมิตรถึงได้โดนทำลายในเวลาแค่เดือนเดียว ทำไมราคาของสินค้าต่างๆในตลาดถึงเพิ่มขึ้น ทำไม เซรอม บอกว่าความวุ่นวายของโลกได้มาถึงแล้ว
มันเป็นเพราะคนมีอำนาจซึ่งมีสิทธิที่จะขีดเขียนประวัติศาสตร์ของสมาคมแบล็คซอนกำลังเตรียมการรับมือสงครามศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังจะมาถึง ก่อนที่สงครามนั้นจะมาถึง จักรพรรดิและผู้มีอำนาจต่างๆนั้นไม่ต่างอะไรกับกระรอกที่ซึ่งพยายามที่จะกักตุนเพื่อช่วยตัวเองในฤดูหนาว
อีกนานเท่าไหร่สงครามครั้งที่สามจะปะทุขึ้นมา ? ตามที่ ดอนเดอร์ คาดเอาไว้ อย่างน้อยก็ 5-20 ปีก่อนที่มันจะปะทุขึ้นมาแต่ด้วยเวลาอันสั้นนี้พวกมีอำนาจก็เริ่มเตรียมการโดยคำนึงถึงชีวิตของมนุษย์
ดอนเดอร์ ได้บอกกับ จางเทีย ว่าหลายชาติและครอบครัวบนทวีปนั้นได้เตรียมการรับมือสงครามครั้งที่สามมากกว่าร้อยปีแต่ไม่ว่าจะเตรียมตัวได้ดีเพียงใด เมื่อสงครามปะทุขึ้นมา การเตรียมตัวทุกอย่างก็ไม่เพียงพอ
ก่อนที่ปิศาจจะมาถึง ไม่มีใครู้ว่าป้องปราการเหล็กที่พวกเขาสร้างขึ้นมานั้นอ่อนแอเหมือนกับเศษกระดาษซึ่งโดนปิศาจฉีกเอาได้ง่ายๆ ไม่มีใครกล้าพูดอย่างมั่นใจว่าวัตถุดิบที่พวกเขาเตรียมไว้นั้นสามารถช่วยพกวเขาให้ผ่านพ้นไปจนจบสงครามได้
ก่อนที่จะออกไป ดอนเดอร์ ได้ให้ของกับ จางเทีย ดังนี้ : โฉนดของตึกนี้, กุญแจของตึก, สมบัติของบ้าน, เงิน 400 ทอง,และการ์ดแปลกๆที่มีรูอยู่ ไอ้อ้วนได้บอกกับ จางเทีย ว่าถ้าเขาไปถึงทวีปตะวันออกแล้ว แน่นอนว่า จางเทีย จะใช้การ์ดใบนี้ตามหาไอ้อ้วนได้
นอกจากของพวกนี้แล้ว ดอนเดอร์ ยังทิ้งหนังสือ ‘ การแต่งตัวข้ามเพศ ‘ ให้กับ จางเทีย ด้วย ทุกอย่างในชั้นใต้ดินนี้มีไว้เพื่อ การแต่งตัวข้ามเพศ ‘ รวมถึงของตกแต่ง,วัสดุและเสื้อผ้า ยังมีอุโมงค์ลับซึ่งนำไปสู่บาร์ใต้ดินด้วย
บาร์ใต้ดินนั้นกลม คนมากมายไปที่นั่น ไม่มีใครเห็นเขาแม้ว่าเขาจะออกจากห้องลับไปที่นั่นก็ตาม
เพราะสงครามครั้งที่สามนั้นจะปะทุขึ้นมาในไม่ช้า ดอนเดอร์ หวังว่า จางเทีย จะเตรียมตัวอย่างดีและมีเงินมากพอที่จะพาครอบครัวไปยังทวีปตะวันออกได้โดยใช้สิ่งที่เขาให้ไป
นี่น่ะมีไว้เพื่อการหนีของ จางเทีย เงินพวกนี้จะทำให้เด็กจนๆอย่าง จางเทีย พอจะหนีออกไปได้
ดอนเดอร์ ไม่สนถึงความร่ำรวยเลยสักนิด เขาบอกว่านี่เป็นแค่เงินเล็กน้อยซึ่งเป็นค่าตอบแทนสำหรับหนังสือที่ จางเทีย ให้มา องค์กรที่เขาทำงานให้นั้นจะให้รางวัลกับเขาเยอะกว่านี้หลายเท่า ดังนั้น ดอนเดอร์ จึงบอก จางเทีย ว่าเงินแค่นี้ไม่ได้มีค่าอะไรเพื่อไม่ให้เขารู้สึกอึดอัดที่จะรับมัน
หลังจากที่ออกจากตึกนั้นแล้ว จางเทีย ได้เดินไปบนโมเน็ตอเวนิวอยู่นาน เขารู้สึกสับสนและยังรวบรวมสติไม่ได้หลังจากสิ่งที่เขาได้ยินมาในวันนี้ เขาไม่ได้สติจนถึงตอนที่เขาจะกลับถึงบ้านและได้ยินกระดิ่งบนจักรยานของเด็กที่ปั่นผ่านเขาไป
เมื่อเห็นรอยยิ้มใสซื่อและสนุกของเด็กน้อยและได้ยินเสียงกระดิ่ง จางเทีย ก็เหมือนจะพังกำแพงที่อยู่ตรงหน้าเขาและในที่สุดเขาก็สามารถมองเห็นโลกที่แท้จริงได้อีกครั้ง
สงครามไม่น่าจะเกี่ยวข้องอะไรกับคนอย่างเขา ไม่ว่ายังไงในตอนที่เขารู้สึกว่ามีบางอย่างแย่ๆเกิดขึ้น เขาจะหนีไปพร้อมกับครอบครัว เงินที่มีนั้นมากพอที่เขาจะพาคนรักและเพื่อนในองค์กรไปด้วยได้
จางเทีย ยิ้มออกมาในตอนที่เขาคิดถึงเงินที่ ดอนเดอร์ ให้เอาไว้และรู้สึกดีอย่างมาก
‘ ฉันรวยแล้ว ! ด้วยการเป็นเจ้าของตึกนั่น ฉันจะได้เงินต่อเดือน ฮิสต้า คงคิดไม่ออกแน่ว่าฉันทำให้ฝันเขาเป็นจริง ฮาฮา ! ‘
อยู่ๆทั้งเมืองก็เหมือนจะสดใสขึ้นมา !
เขาฮัมเพลงไปเรื่อยๆในตอนที่กลับบ้าน ในตอนที่เขาเข้าไปในบ้านเขาก็เห็นแขกสามคน อลิซ, เบเวอร์รี่ และ แพนโดร่า พวกเธอสวยอย่างกับตุ๊กตา พวกเธอนั่งคุยกับแม่เขา เมื่อเห็น จางเทีย เข้ามาและปากที่ค้างของเขา ทั้งสามสาวก็ได้ยิ้มออกมา
แม่มองมาที่เขาด้วยท่าทีสับสนทางอารมณ์ – “ ลูกชายงี่เง่าของฉันบอกแล้วว่าเขาน่ะได้แฟนสามคนในการฝึก ฉันไม่เชื่อเลยจนกระทั่งสามสาวนี้มาหาเขาในวันนี้ “
ด้วยลูกชายแบบนี้แล้ว แม่เขารู้สึกดีใจและกังวล เธอไม่พอใจแม้ว่าจะดูตื่นเต้นก็ตาม จางเทีย น่ะไม่ได้หล่อรึน่าชื่นชมเลย แล้วเขาจะเอาสาวๆกลับมาจากการฝึกได้ยังไง ?
“ กูกู นี่โตขึ้นจริงๆเลย ! “
แม่ของเขาทั้งพอใจและสลดในใจ...
จางเทีย ไม่รู้ข่าวที่ว่าเขาจะทำการดวลกับ โซดอร์ ในอีกสองวันนั้นเป็นที่รู้กันไปในหลายโรงเรียนแล้ว น้อยคนนักที่รู้ว่าเขาได้เป็นร้อยโทขั้นสองของอาณาจักรนอแมน มันรู้แค่ในวงแคบๆ ในสายตาของหลายคน โชว์ระหว่างเด็กที่เพิ่งจบกับนักรบระดับ 4 นั้นน่าสนใจจริงๆ
แต่ จางเทีย ไม่ได้คิดเรื่องนั้นในหัว สำหรับเขาแล้วการเริ่มต้นชีวิตในแคมป์เหล็กโลหิตน่ะคือเรื่องที่สำคัญที่สุดในอนาคต....
จนกระทั่ง ดอนเดอร์ ได้จากไปทำให้ จางเทีย ตระหนักได้ว่าเขาลืมถามเรื่องความสามารถในการโยนหอกที่แม่นยำของเขา เพราะข่าวสงครามนั้นมันสำคัญเกินไปที่จะคิดเรื่องอื่น