spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 166: การดวล
แบกแดด นั้นดูโดดเด่นในบรรดาผู้คนเพราะความสูงของเขา นอกจากชายคนนี้แล้ว จางเทีย ยังเห็น แบร์ลี่, ฮิสต้า, ลิซ และ ดั๊ก นอกจาก ชอร์วิน แล้วทุกคนในองค์กรต่างก็มารวมตัวกันที่นี่กันหมด
มีคนมากกว่า 30 คนเดินวนอยู่รอบบ้านทำเสียงเอะอะโวยวาย นอกจากสมาชิกขององค์กรแล้วก็ยังมีสมาคมพระเจ้าอยู่ด้วย จางเทีย ยังได้เห็น กัปตันเคอร์ลิน และ เซรอม อยู่กับครูอีกสองคนที่ซึ่งเป็นกรรมการ สำหรับคนอื่นๆแล้วแค่คนอยากรู้อยากเห็น
หลังจากเห็นฉากนั้นแล้ว จางเทีย รู้ว่าเรื่องที่เขาได้ลงมือหักคอ ซูแฮร์ ในโรงอาหารในปราสาทนั้นเป็นที่รู้กันไปทั่วแล้ว
ตัดสินจากเวลาที่ผ่านไปตั้งแต่ที่ทุกคนกลับมาจนถึงตอนนี้ การดวลนั้นกำลังจะเริ่มต้น ครอบครัวของ ซูแฮร์ นั้นต้องมีเวลามากพอที่จะได้รับรู้การตายของลูกชายและรู้ภูมิหลังของ จางเทีย และพวกนั้นคงเตรียมตัวอย่างดีเพื่อมาสู้กับเขา
กลุ่มคนจำนวนมากได้เข้าล้อมบ้านเอาไว้ บางคนต้องการที่จะวิ่งเข้าไปด้านในแต่พี่ชายของเขาได้ห้ามพวกนั้นเอาไว้แล้วบอกว่า จางเทีย ไม่ได้อยู่บ้านแต่ก็ยังมีคนไม่เชื่อและพยายามที่จะใช้กำลังเพื่อเข้าไปในบ้านอยู่
มีคนหนึ่งตะโกนใส่ จางหยาง –“ เรียก จางเทีย ออกมา เขาฆ่าน้องชายของฉัน ตอนนี้ตามกฎของอาณาจักรนอแมนแล้วฉันอยากจะท้าดวล อย่าขี้ขลาดเหมือนกระต่ายไปหน่อยเลย ! “
“ ออกมา ออกมา เรียกฆาตกรออกมา ! ถ้า จางเทีย ไม่ออกมา เราจะเข้าไป ! “
มีหลายคนเริ่มโวยวายออกมา
“ จางเทีย น่ะไม่อยู่บ้าน รอเดี๋ยว อย่าใจร้อน.. “- แบร์ลี่ พยายามหาเหตุผลกับผู้คนพวกนี้
กรรมการหลายคนนั้นยืนห่างออกไปเล็กน้อย พวกเขาไม่ได้เลือกฝั่งใดฝั่งหนึ่ง ตามกฎของอาณาจักรนอแมนแล้วบทบาทของพวกเขานั้นทำได้แค่เป็นพยานสำหรับการต่อสู้ที่ยุติธรรมระหว่างครอบครัวของ ซูแฮร์ และ จางเทีย นี่ก็ถือเป็นหน้าที่หนึ่งหลังจากการฝึก
“ จางเทีย ต้องซ่อนตัวอยู่ข้างในแน่ เขาต้องการที่จะหนีจากการดวล ไปจับมันข้างในกันเถอะ ! “ - บางคนเริ่มตะโกนขึ้นกระตุ้นให้ทุกคนฝ่าเข้าไป
“ ใครกล้าเข้ามาพ่อคนนี้จะฆ่าทิ้งซะ ! “ - จางหยาง คำรามออกมาพร้อมกับดึงดาบยาวที่เอวออกมาแล้วชี้ไปยังคนที่อยากจะพุ่งเข้ามาในบ้าน
เมื่อเห็นแบบนั้น หนึ่งในคนที่กระตุ้นคนอื่นก็ไม่ได้ลังเลที่จะชักดาบออกมาด้วย ในเวลาเดียวกันก็ได้มีเสียง ‘ เคร้ง ‘ ดังขึ้นอยู่ทั่วทุกที่ หลายคนนั้นถึงดาบออกมาทำให้กลิ่นเหล็กลอยคละคลุ้ง เมื่อเห็นแบบนั้นพวกคนที่มามุงดูนั้งต่างก็รีบวิ่งหนีไป
“ ใครบอกว่าฉันซ่อน ? “
ในตอนวิกฤตนั้นเองเสียงของ จางเทีย ก็ดังขึ้นมา ทุกคนหันหลังกลับไปเห็นเขาเดินเข้ามาช้าๆ
ผู้คนต่างก็หลีกทางให้ จางเทีย ได้เดินผ่าน
“ แกคือ จางเทีย ? “
เมื่อเห็น จางเทีย คนที่เผชิญหน้ากับพี่ชายเขาก็ได้หันกลับมาแล้วมองมาที่เขาด้วยความหงุดหงิด
ตัดสินจากใบหน้าที่คล้ายคลึง ซูแฮร์ แล้ว จางเทีย เดาว่าคนนี้คือ – “ นายคือพี่ชายของ ซูแฮร์ ? “
“ ใช่ ใช่มั้ยที่ว่านายเป็นคนฆ่า ซูแฮร์ ในการฝึกเอาตัวรอด ? “
“ ใช่ เขาสมควรตายละ ฉันเลยฆ่า ! “ -จางเทีย ยอมรับอย่างใจเย็น
ตอนนั้นเอง ก็ได้มีหนึ่งมาหยุดเขาไว้ เซรอม ได้เดินเข้ามาคั่นระหว่างทั้งสอง
“ มันเป็นสิทธิของนายที่จะเริ่มท้าสู้กับ จางเทีย จางเทีย ปฏิเสธไม่ได้แต่การดวลนั้นจะดำเนินไปด้วยความยยุติธรรม การฆ่าเพื่อที่จะแก้แค้นนั้นห้าม นอกซะจากว่านายอยากเป็นฆาตกรที่ซึ่งเป็นที่ต้องการตัวของอาณาจักรนอแมน “
ในช่วงนั้น จางเทีย ก็ได้เข้าไปทักทายเพื่อนและคนที่รู้จักด้วยรอยยิ้ม รวมถึง กัปตันเคอร์ลิน และกรรมการคนอื่นๆ เขาดูสบายๆทำให้คนที่มองเขาด้วยสายตาหงุดหงิดนั้นต้องกัดฟันแน่น
“ จางเทีย ในการฝึก จากกฎป่าเถื่อนของอาณาจักรนอแมน นายได้ฆ่า ซูแฮร์ ในที่สาธารณะ ดังนั้นนายควรที่จะรับการท้าดวลใดๆจากคอรบครัวในสามรุ่นของ ซูแฮร์ นายปฏิเสธมันไม่ได้ ฉันต้องเตือนนายว่าในการดวลนั้นมันก็เหมือนกับตอนที่นายฆ่า ซูแฮร์ ครอบครัวของ ซูแฮร์ นั้นไม่มีสิทธิจะมารับผิดชอบถ้าพวกเขาฆ่านาย ! “ - เซรอม เตือน จางเทีย อีกครั้งด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ ขอบคุณสำหรับคำเตือน คุณเซรอม ผมรับคำท้าจากครอบครัว ซูแฮร์ ตอนไหนรึที่ไหนก็ได้ ! “ - เขาพูดอย่างใจเย็น สีหน้าเขายังคงไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด ตั้งแต่วันที่เขาได้ฆ่า ซูแฮร์ ลงไป เขาก็รอวันนี้มาโดยตลอด
ความใจเย็นของ จางเทีย นั้นถึงกับทำให้ เซรอม และ กัปตันเคอร์ลิน ที่ซึ่งมองมาที่เขานั้นอึ้งเล็กน้อย นอกจาก จางหยาง แล้วไม่มีใครที่นี่รู้ว่า จางเทีย ได้เจอกับเรื่องราวมากมายตั้งแต่ที่เขากลับมาบ้านเมื่อสองวันก่อน เขาไม่ได้เป็นเด็กชายคนเดิมอีกต่อไปแล้ว
“ ตามกฎการดวล อาวุธระยะไกลอย่างธนู,หอก อาวุธลับและหน้าไม้ รวมถึงสัตว์เลี้ยง,พาหนะ, พิษนั้นห้ามใช้ ผู้ต่อสู้สามารถเอาอาวุธได้มาสุดสองอย่าง ฉันต้องเตือนพวกนายเรื่องนี้ก่อน มันเป็นคำขอของครอบครัว ซูแฮร์ ! “ – กรรมการที่อยู่ใกล้ๆเตือน จางเทีย อีกครั้ง
“ ผมรู้ ! “ - จางเทีย พยักหน้า
“ งั้นเมื่อนายตกลงแล้ว การดวลก็ได้การรับรอง พวกนายสองคนเซ็นต์ตรงนี้ ตามกฎของอาณาจักรนอแมนแล้ว การดวลจะเริ่มต้นในอีก 7 วันให้หลัง มันจะจัดขึ้นที่โรงเรียนของนาย ระหว่างช่วงเวลานั้นตามกฎแล้วถ้านายหนีจากการดวล นายจะกลายเป็นที่ต้องการของอาณาจักร หลังจากโดนจับแล้ว คนที่หนีจะต้องกลายเป็นทาส ส่วนครอบครัวนั้นจะมีฐานะที่ลดลง “
หลังจากที่พูดจบ ครูก็ได้ดึงประกาศออกมาจากกระเป๋าและให้ จางเทีย และพี่ชายของ ซูแฮร์ เซ็นต์
หลังจากมองอย่างโกรธแค้นไปที่ จางเทีย แล้วพี่ชายของ ซูแฮร์ ก็ได้หยิบดินสอขึ้นมาเซ็นชื่อของเขาโดยไม่ลังเล
ในตอนที่ จางเทีย รับปากกามา พี่ชายของเขาก็รีบเข้ามาและตะโกนดังๆ – “ ฉันจะเข้าร่วมการดวลนี้ในฐานะพี่ ! “
“ ไม่ การดวลนี้จะต้องเป็น จางเทีย เท่านั้น คนอื่นไม่สามารถแทนเขาได้ ! “
กัปตันเคอร์ลิน ส่ายหน้าแล้วเหยียดมือไปห้าม จางหยาง ที่กำลังวิ่งเข้าไป
“ ไอ้หัวโต ... ! “ – สมาชิกขององค์กรเริ่มตะโกนเรียกเขา
จางเทีย แค่ยิ้มให้พวกนั้นที่ซึ่งห่วงเรื่องเขา ก่อนที่เขาจะเซ็นชื่อในเอกสารโดยไม่ลังเล ในตอนที่เขาเซ็นเสร็จ เขาก็รู้ว่าพี่ชายของ ซูแฮร์ นั้นชื่อ โซดอร์
หลังจากที่ จางเทีย เซ็นชื่อแล้ว โซดอร์ ก็ได้หัวเราะออกมา เขามองมาที่ จางเทีย แล้วฟึดฟัดออกมา – “ ไอ้หนู แกเหลือเวลาอีก 7 วัน ไปสวดซะนะ อีกเจ็ดวันฉันจะหักกระดูกแกก่อนจะตัดหัวแกให้แกชดใช้ให้กับ ซูแฮร์ ! “
“ งี่เง่า ! “ –
จางเทีย กรอกตามองโดยไม่สนที่ชายคนนั้นพูด
“ โซดอร์ อยู่ระดับอะไร 4 , 5 รึ 6 ? หม่าหลง ในคุกน่ะยังดูแข็งแกร่งกว่ามันอีก ฉันไม่ต้องกังวลเรื่องการสู้กับมันเลยสักนิด “
หลังจากที่ทำตามเป้าหมายได้สำเร็จ โซดอร์ และพวกก็ได้กลับไป พวกนั้นไม่ต้องกลัวว่า จางเทีย จะหนีอีกต่อไป ถ้า จางเทีย หนีไปตอนนี้ พวกนั้นคงดีใจยิ่งกว่าเดิมเพราะนั่นจะทำให้ จางเทีย และครอบครัวกลายเป็นทาส
ในตอนที่ โซดอร์ และพวกกลับไปแล้ว กัปตันเคอร์ลิน และครูคนอื่นๆที่มาเป็นพยานก็ได้กลับไปเช่นกัน
ในตอนที่ กัปตันเคอร์ลิน กำลังจะกลับ จางเทีย ก็ได้เรียกเขา - “ กัปตันเคอร์ลิน ! “
“ ฉันไม่ใช่กัปตันอีกแล้ว เรียกฉันว่าครูเคอร์ลินแทนแล้วกัน ! “
ชายตาเดียวฝืนยิ้มออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ทหารประจำเมืองนั้นต่างก็หวงแหนชื่อตัวเองอย่างมาก ชายตาเดียวรู้สึกละอายกับการที่ให้คนอื่นเรียกเขาว่ากัปตันต่อ น้ำเสียงที่เขาพูดเมื่อตะกี้ฟังดูขมขื่น
“ ขอบคุณ ! “
จางเทีย ก้มหัวให้ด้วยความจริงใจ ถ้าชายคนนี้ไม่เอาหนังสือทักษะหมัดเหล็กโลหิตให้เขา แม้ว่า จางเทีย จะยังมีชีวิตแต่คงไม่ได้มาอยู่ในจุดนี้
ไอ้โหดเกาหัวแล้วถามกลับ – “ เรื่องอะไร ?”
“ คุณจำที่คุณบอกผมในคืนที่ผมอยู่ในปราสาทได้รึเปล่า ? เพราะหลายเหตุผลพวกนั้น ผมเลยได้กลายเป็นคนหนึ่งในร้อยนั้นแล้ว ! “
จางเทีย เชื่อว่าชายตาเดียวเข้าใจว่าเขาพูดถึงอะไร
เมื่อได้ยินคำพูดของ จางเทีย ไอ้โหดก็อึ้งก่อนที่จะเบิกตากว้างมองมายจัง จางเทีย เหมือนกับเห็นผี
ในที่สุดไอ้โหดก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วรวบรวมสติ - “ บางทีนี่อาจเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดที่ฉันทำมา ฉันหวังว่าจะเห็นความสามารถของแกในอีกเจ็ดวัน ! “
หลังจากที่พูดจบเขาก็ได้มองมายัง จางเทีย อีกครั้งก่อนจะกลับไป คนที่มุงดูส่วนมากนั้นก็ได้กลับไปกันเกือบหมดแล้ว
ที่เหลืออยู่มีเพียงเพื่อนในองค์กรที่อยู่นอกบ้าน จางเทีย
ทันทีที่ได้ยินว่า โซดอร์ มาที่นี่เพื่อท้าดวลกับ จางเทีย แบร์ลี่ และคนอื่นๆต่างก็รีบมา ในสองวันก่อนข่าวที่ว่า จางเทีย ได้ฆ่า ซูแฮร์ นั้นกระจายไปอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่แค่ในโรงเรียนแต่ยังที่อื่นด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในบรรดานักเรียนที่ฝึกการเอาตัวรอดในเมืองนี้
เพื่อนในองค์กรต่างก็รอดูว่าเรื่องมันจะพัฒนาเป็นแบบไหน ก่อนหน้านี้พวกเขาว่าจะมารวมตัวกันในวันพรุ่งนี้แต่ไม่คิดเลยว่า โซดอร์ นั้นจะตัดสินใจตามหาตัว จางเทีย ในวันนี้ เพราะเพื่อนพวกเขากำลังซวย พวกเขาจึงรีบมาที่นี่เพื่อให้กำลังใจเพื่อน
เมื่อรู้ว่า จางเทีย มีบางอย่างจะอธิบายกับครอบครัว แบร์ลี่ และคนอื่นๆต่างก็กลับไปหลังจากที่เตือนให้ จางเทีย ระวังตัว
แต่ก่อนที่ แบร์ลี่ จะได้กลับ จางเทีย ก็ดึงเขามาใกล้ๆและกระซิบบางอย่าง เมื่อได้ยิน แบร์ลี่ แทบตาถลนออกจากเบ้า
จางเทีย ได้บอกเขาสองอย่าง อย่างแรกคือเขาอยู่ในระดับ 4 แล้วและสามารถสร้างแรงลับของเหล็กโลหิตได้ อย่างที่สองคือเขาเป็นร้อยโทขั้นสองของทีม 39 ในกองทัพเขาเหล็ก
...
แม้ว่าจะออกจากบ้านครอบครัวจางมาเป็นร้อยเมตรแต่ แบร์ลี่ ก็ยังคงรู้สึกมึนๆที่หัว ในเวลาเดียวกันขาเขาก็อ่อนแอรง ในตอนที่ ฮิสต้า และ แบกแดด นันกำลังคุยเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอีก 7 วัน มีเพียงแค่ ลิซ เท่านั้นที่เห็นว่า แบร์ลี่ ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
ระหว่างทาง ลิซ ได้ถามขึ้นมา – “ แบร์ลี่ ไอ้หัวโตบอกอะไรนาย นายดูไม่ดีเลย “
เขารู้สึกตัวแล้วส่ายหน้าก่อนจะมองไปรอบๆและตระหนักได้ว่าพวกเขาอยู่ไกลจากบ้าน จางเทีย แล้ว
“ มันไม่สะดวกที่จะคุยตอนนี้ ไอ้หัวโตบอกฉันสองอย่าง เขาต้องการให้ฉันบอกพวกนายว่าไม่ต้องกังวลเรื่องการดวลของเขา ! “
“ อะไรนะ ? “
ทุกคนต่างก็สงสัยแล้วมองไปที่ แบร์ลี่
แบร์ลี่ กวักมือเรียกทั้งสี่คน หลังจากนั้นเขาก็บอกสิ่งที่ จางเทีย ได้บอกเขามาซึ่งทำให้ทุกคนต่างก็อึ้ง..
...
ในตอนที่ จางเทีย กลับมาบ้าน เขาก็เห็นแม่เขามีสีหน้ากังวล เขาไม่ลังเลที่จะไปคุกเข่าตรงหน้าในตอนที่เขาเข้าไปในบ้าน
“ แม่ ผมขอโทษ ผมทำแม่กังวลอีกแล้ว.... “
ก่อนหน้านี้เพราะ โซดอร์ และพวกนั้นได้ตะโกนอยู่นอกเบ้านโดยเรียกให้ จางเทีย มาดวล แม่ของเขาได้ยินทุกอย่างรวมถึงเรื่องที่ จางเทีย ได้ฆ่า ซูแฮร์ ในการฝึก แม่จับไปที่หน้า จางเทีย และมองเขา แม่ของเขาร้องไห้ออกมาทันที
แม้ว่าเขาจะอธิบายชีวิตในการฝึกว่ามันง่ายและน่าสนใจแต่ไม่มีใครรู้ว่ามันขมขื่นและอันตรายแค่ไหนกับสิ่งที่เขาเจอมา สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้นั้นโผล่ขึ้นมาจากคำโกหกที่หวังดีของ จางเทีย มันได้เผยถึงปัญหาที่เขาเคยนผ่านมาในการฝึก
“ บอกแม่มาว่าลูกลำบากและเจอกับอันตรายแค่ไหนในการฝึก เกือบจะตายด้วยรึเปล่า ! แม่รู้ว่าลูกเป็นคนยังไง ถ้าไม่ถึงจุดหนึ่ง ลูกคงไม่ฆ่าใคร ! “
จางเทีย พยักหน้าและน้ำตาก็เริ่มไหลอาบมาที่แก้ม – “ พวกนั้นไม่ต้องการให้ผมรอด ผมไม่ต้องการที่จะโดนกลั่นแกล้งอีกรึไม่อยากเห็นแม่ร้องไห้ในตอนที่เห็นเถ้ากระดูกผม ดังนั้นผมเลยฆ่าเขาซะ แม่จะยกโทษให้ผมมั้ย ? “
“ ความผิดผมเอง ผมปกป้องน้องไม่ได้ ปล่อยให้คนอื่นมารังแก .. “ - น้ำตาของ จางหยาง ไหลอาบลงมาและเขาก็ได้คุกเข่าต่อหน้าแม่ – “ แม่ โทษผมเถอะ ! “
“ แม่ไม่โทษใครหรอก จางเทีย ดีมาก.. “- แม่จับหน้าลูกชายทั้งสอง แม่เริ่มร้องไห้ออกมาจนยากที่จะพูดออกมาได้ – “ จำไว้ นับจากวันนี้ ไม่ว่าใครต้องการจะฆ่าพี่น้องของลูก แม้ว่าจะเป็นจักรพรรดิก็ให้ฆ่าพวกเสีย ! พ่อและแม่น่ะพอใจกับลูกสองคนมาก ตราบใดที่ลูกสองคนรอด พ่อกับแม่รู้สึกว่าเราไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตพี่น้องลูก พ่อกับแม่คงไม่อยากมีชีวิตอยู่เหมือนกัน ดังนั้นแล้วถ้าลูกคิดว่ามันเป็นอันตรายต่อชีวิตก็ไม่ต้องสนพ่อกับแม่ แค่ดูแลกันแล้วใช้ชีวิตให้ดีๆ นี่แหละคือสิ่งที่เราอยากเห็นมาที่สุด จำไว้ว่าลูกน่ะมาจากครอบครัวจางและเราเป็นคนจีน เราคนจีนน่ะคือเผ่าที่มีเกียรติมากที่สุดและได้รับการจุติใหม่ของลัทธิเต๋า ในฐานะครอบครัวที่ใหญ่แล้ว จางนั้นถือว่าเป็นชื่อที่มีเกียรติ เราครอบครัวจางนั้นเลือกที่จะสู้จนตายแทนที่จะมาคุกเข่าเพื่อขอชีวิต ในท้องฟ้าใต้พื้นดิน ไม่มีใครในโลกนี้สามารถรังแกครอบครัวจางได้ ... “