หน้าแรก > Castle of Black Iron
Chapter 159: เสื้อผ้าเปลี่ยนคน

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

Chapter 159: เสื้อผ้าเปลี่ยนคน

 

ผู้ชายมักจะอาบน้ำเร็วเสมอ แค่เพียงสิบนาทีต่อมา จางเทีย ก็ได้มายืนอยู่ต่อหน้าชุดเครื่องแบบอันใหม่และรองเท้าที่เงาวับ เมื่อเห็นพวกมันแล้วทุกคนก็ต้องอึ้ง ไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้น แม้แต่ จางเทีย เองก็แทบไม่เชื่อว่าเด็กสุดหล่อเหลาในกระจกนั้นจะเป็นเขา

เด็กในกระจกนั้นทั้งขาวและมีผิวเนียนและยังสง่า ผมสีดำเงางามนั้นบ่งบอกได้ถึงการบำรุงอย่างดี แม้ว่าราชวงศ์อาทิตย์จะไม่ได้สูงรึดูแข็งแก่รง แต่เขาก็ดูสมดุลในทุกด้าน ทุกส่วนของร่างกายนั้นบ่งบอกได้ถึงการขัดเกลามาอย่างดี  แต่แม้ว่าจะมีหน้าตาเด็กแต่บรรยากาศรอบตัวเขานั้นบ่งบอกได้ว่าเขาเป็นผู้ใหญ่เพียงใด

อันที่จริงแล้วตั้งแต่ที่เริ่มการฝึกเอาตัวรอด จางเทีย ไม่ได้ใช้กระจกเลย ดังนั้นแล้วเขาจึงแตกต่างจากเด็กน้อยที่น่าสงสารเมื่อหลายเดือนก่อนหลังจากที่กินผล Leakless Fruits, Iron-body Fruits, Trouble-Reappearance Fruits และ Wild Wolf Seven-Strength Fruits เข้าไปจำนวนมาก

ตอนนี้เขาดูสมส่วนอย่างมาก นอกจากนี้เขายังดูสง่ากว่าเดิมและทั้งหมดนี้มันเหมือนกับเขามีพวกมันมาตั้งแต่เกิด

เอาจริงๆแล้วในตอนที่เขาเห็นตัวเองในกระจกนั้น ความคิดแรกที่แว๊บเข้ามานั้นไม่ใช่ความดีใจแต่เป็นอิจฉา หลังจากที่ตระหนักได้ว่าเขาอิจฉาตัวเอง ใจของเขาก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่เอ่อล้นขึ้นมา

จางเทีย นั้นหันกลับไปมาและหมุนตัวอยู่หน้ากระจกอยู่กว่าสองนาทีก่อนที่จะมั่นใจแล้วว่าชายสุดหล่อในกระจกนั้นที่จริงแล้วเป็นเขาเอง จากนั้นเขายิ้มให้กับตัวเองในกระจกแล้วออกจากห้องน้ำมา

ในตอนที่ จางเทีย เดินออกมานั้นก็ได้ความสนใจจากทหารหลายคนที่ซึ่งกำลังแต่งชุดเครื่องแบบสีแดงของอาณาจักรนอแมนอยู่

ในตอนที่เขาไปยืนอยู่ต่อหน้า เวสซี่, แคลวินและเจ้าหน้าที่ประจำคลังแล้ว ทั้งสามคนที่กำลังสูบบุหรี่ต่างก็ทำตาโตด้วยความตกใจ ในเวลาเดียวกันบุหรี่ของ เวสซี่ ก็ได้ร่วงลงไปที่พื้น ทั้งสามคนไม่คิดเลยว่าเด็กหน้าตาสกปรกก่อนหน้านี้จะกลายเป็นคนหล่อเหลาที่ยืนอยู่ต่อหน้าพวกเขาได้

“ นาย...จางเทีย ? “ - เวสซี่ ถามเพื่อยืนยัน

“ ฉันก็เพิ่งรู้ตัวว่าฉันหล่อมากในชุดกองทัพ ชุดนี้น่ะดูเหมาะกับฉันจริงๆ ! ไม่ต้องอิจฉาหรอก ! “ - จางเทีย พูดกวนๆเหมือนเคย

ตาของ เวสซี่ เป็นประกายขึ้นมาและมันยากที่จะบอกได้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

แคลวิน วิ่งเข้าไปหา จางเทีย และติดกระดุมทุกเม็ดให้ ทั้งเครื่องหมายต่างๆด้วย  จากนั้นเขาก็ได้ช่วยใส่หมวกให้กับ จางเทีย และติดเข็มกลัดไว้ก่อนจะรีบใส่กำไลข้อมือให้ด้วย

ในตอนที่ทำเสร็จ จางเทีย ก็ดูเหมือนคนสุดสง่าที่เดินออกมาจากภาพวาด

แคลวิน หัวเราะออกมาและพูดขึ้น – “ เพื่อน เพราะฉันน่ะเคยทำแบบนี้มาก่อน ฉันรู้สึกได้ว่านี่น่ะจะจบลงด้วยดี ! “

“ ผู้การลิปนิซ น่ะมีสายตาที่ดีจริงๆ ! “ - หลังจากที่มองไปที่ จางเทีย สักพัก  เจ้าหน้าที่ประจำคลังก็ชมออกมาและมองมาที่ เวสซี่  - “ ชายคนนี้เกิดมาเพื่อใส่เครื่องแบบ ! ฉันไม่เคยเห็นใครเหมาะไปกว่านี้แล้ว.. “

ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่นั้นแค่จัดการเรื่องทั่วไปให้ จางเทีย ดังนั้นแล้วจึงทำท่าทีเคร่งขรึมใส่ตลอด  แต่ตอนนี้เขาปฏิบัติกับ จางเทีย ด้วยความเคารพที่มากกว่าเดิม  บางที แคลวิน  นั้นเคยพูดว่ามันอาจจะรู้สึกได้ถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่เมื่อเห็นเด็กน้อยน่าสงสารเปลี่ยนเป็นคนสง่าแบบนี้ได้

“ นายเลือกอาวุธรึยัง ? “ - เจ้าหน้าที่ได้ถาม จางเทีย

“ ยัง ! “

“ งั้นไปที่คลังอาวุธแล้วเลือกอาวุธที่เหมาะกับนายกัน ! “

ไม่นานหลังจากนั้นทั้งสี่คนก็ได้ไปที่คลังอาวุธ

ร้อยโทของอาณาจักรนอแมนสามารถเป็นเจ้าของอาวุธได้สามอย่าง : มีดตามมาตรฐาน, ดาบยาว, และอีกหนึ่งอย่าง  ดาบยาวนั้นคือของในพิธีที่จำเป็นต้องมีเมื่อไปงานต่างๆในฐานะเจ้าหน้าที่กองทัพ

นอกจากอาวุธสองอย่างแล้ว ของอันสุดท้ายนั้นขึ้นอยู่กับกองทัพที่ร้อยโทอยู่และฐานะของเขา อาวุธชิ้นที่สามนั้นคืออาวุธหลักที่ใช้ในการต่อสู้ ยกตัวอย่างเช่นอาวุธสองชิ้นแรกนั้น แม่ทัพของกองหอกจะเป็นเจ้าของหอกเพราะนั่นคืออาวุธหลักของเขาในการต่อสู้  พวกทหารในกองทหารม้าจะเลือกดาบยาวรึไม่ก็หอก  ส่วนทหารและเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบหน้าที่พิเศษอื่นๆนั้นจะเลือกธนูกลรึไม่ก็ธนูธรรมดา

มีดและดาบยาวนั้นมีให้เห็นทั่วไปแต่การเลือกอันสุดท้ายนี้ทำให้ จางเทีย อึ้ง

คลังอาวุธของทีม 39 นั้นมีของมากมายระรานตา นอกจากอาวุธทั่วไปแล้ว ยังมีอาวุธทั้งแบบยาวและสั้นอีกมากมายที่ จางเทีย ไม่เคยเห็นมาก่อน พวกมันทำให้เขาตะลึง

ไม่คาคคิดเลย ในตอนที่เขามองดูอาวูธรอบๆแล้วเขาก็ได้เดินผ่านอาวุธเบาไปโดยไม่ได้มองมันเลยสักนิด เขากลับมองไปที่อาวุธหนักแทน  เมื่อมองเห็น จางเทีย ทำแบบนั้น ทั้งสามคนต่างก็สงสัยว่าเขาจะใช้อาวุธพวกนั้นได้รึเปล่า

ในที่สุดหลังจากที่วนอยู่ครึ่งรอบ จางเทีย ก็เห็นของที่อยู่บนชั้น ตาของเขาเป็นประกายขึ้นมา เขารีบเดินเข้าไปหามันทันที

มันคือชุดหอก ก็คล้ายๆกับของที่เขาเคยใช้ตอนฝึกเอาตัวรอด มันวางไว้ในกระบอกซึ่งยาวกว่าหนึ่งเมตรแต่สิ่งแรกที่ต่างคือหอกพวกนี้ทำมาจากเหล็กทั้งหมด  อย่างที่สองที่ต่างคือหัวของหอกที่เขาใช้ในการฝึกน่ะแหลมอย่างกับเข็มแต่หัวหอกนี่น่ะเป็นสามเหลี่ยมและใหญ่กว่ามาก

จางเทีย ดึงออกมาหนึ่งอันแล้วประมาณน้ำหนักดู เขารู้สึกว่ามันน่าจะหนักอย่างน้อย 13 กก.และยาวกว่าที่เขาเคยใช้มาประมาณ 10 ซม. มันดูเหมาะกันกว่าเยอะ

สำหรับเขาแล้วหอกก่อนหน้านี้น่ะก็แค่เศษฟาง ท่อนไม้เบาๆนั้นไม่ได้เหมาะกับแรงที่เขามีรึทำให้เขาใช้แรงได้สูงสุดอีกต่อไป

ตัวหอกพวกนี้น่ะมีส่วนที่แตกต่างกัน แต่ละส่วนนั้นก็ใช้หลักการไหลของอากาศเข้ามาช่วย  แต่ละส่วนจะมีน้ำหนักแตกต่างกันไป นอกจากนี้แล้วเขายังรู้สึกได้ถึงว่ามันไม่ลื่นมือด้วย

ทุกอย่างที่หอกนี้นั้นดีกว่าหอกอันเก่า หอกนี้น่ะเป็นเหมือนตัวแทนตัวเขา

“ ของพวกนี้ถือเป็นเซ็ตเดียวรึเปล่า ? “ - จางเทีย ชี้ไปที่กระบอกและถามขึ้นมา

ไม่ว่าจะดูที่การออกแบบรึสัมผัส ซองที่ใช้ใส่หอกพวกนี้น่ะก็ดีกว่าที่เขาเคยใช้ในตอนที่ฝึกเอาตัวรอด

“ ใช่ ของพวกนั้นนับเป็นชุดเดียวแต่.. “

“ ฉันเลือกพวกมันไม่ได้เหรอ ? “ - จางเทีย ถามขึ้นมาทันที

“ ไม่ เอาจริงแล้วของพวกนี้ไม่ได้ทำมาเพื่อคนๆเดียวแต่สำหรับกองทหารม้าเขาเหล็ก หลายปีก่อนหน่วยอาวุธได้ผลิตของพวกนี้ขึ้นมาโดยคิดว่าจะใช้มันให้เป็นอาวุธกับทหารม้า พวกเขาต้องการที่จะเห็นพลังของกองทหารม้าในตอนที่ใช้หอกพวกนี้แต่หลังจากที่ลองเอาให้กับทหารดูแล้ว ผลลัพธ์ก็แย่จริงๆ... “

“ เป็นไปได้ยังไง ? ฉันรู้สึกว่ามันดีแท้ๆ ! “

“ ทหารม้าน่ะรู้สึกว่าของพวกนี้น่ะหนักเกินไป ถ้าพวกเขาใช้มัน มันจะทำให้พวกเขาช้าลงและยังทำให้ความอึดของสัตว์นั้นน้อยลงไปด้วยซึ่งส่งผลกับความเร็วของทั้งกองทัพ  อีกอย่างแล้วถ้าหอกพวกนี้ได้แสดงพลังที่แท้จริงของมันออกมาแล้ว พวกมันต้องถูกโยนด้วยแรงมหาศาลแต่มันก็ไปได้ไม่ไกลนัก บอกเลยว่าหอกนี่น่ะจำเป็นต้องมีแรงมหาศาลที่จะใช้มัน ถ้าในกองทหารม้ามีคนทำแบบนั้นได้แล้ว พวกเขาคงเป็นต่อสู้ที่อันตรายที่สุดสำหรับศัตรู อีกอย่างแล้วมันยากยิ่งกว่าเดิมที่จะโยนหอกให้แม่นยำเหมือนกับยิงธนูจากธนูธรรมดารึธนูกล “ถ้าจำเป็นต้องโยนอาวุธออกไปแบบนั้น ทหารม้าเลือกที่จะใช้ง่ามแทน ดังนั้นแล้วหลายวันต่อมา กองทัพก็ไม่ได้ตีค่าหอกนี้ไว้สูง แผนที่จะให้มันกับกองทหารม้าก็ถูกเลื่อนไป นี่น่ะคือของเหลือจากหลายปีก่อน ! “ - เจ้าหน้าที่ได้อธิบายเรื่องต่างๆให้ จางเทีย ฟัง

“ ดี งั้นฉันเอา ! “

เขาพูดจบ จางเทีย ก็หยิบซองขึ้นมา เขาไม่รู้ว่าการเคลื่อนที่ง่ายๆของเขานั้นแทบจะทำให้คนตาหลุดจากเบ้า

มันมีหอกทั้งหมด 9 อันในซอง แต่ละอันนั้นหนัก 12.6 กก. บวกกับน้ำหนักของซองที่ทำมาจากอลูมิเนียม,เหล็กและหนังแล้วมันหนักรวมกันถึง 120 กก. หลายคนคงยากที่จะยกมันได้แม้ว่าใช้ทั้งสองมือ แต่เด็กนี่กลับใช้มือเดียวยกขึ้นมาได้สบายๆ นี่เขามีแรงขนาดไหนกัน

จางเทีย ไม่รู้ตัวเลยว่าหลังจากที่กิน Wild Wolf Seven-Strength Fruits ไป 9 ผล เขาได้แรงของหมาป่าเก้าตัวมา นั่นหมายความว่าน้ำหนักทั้งหมดของอุปกรณ์พวกนี้ก็จะถูกแชร์ไปยังหมาป่าทั้งเก้าตัว โดยแต่ละตัวแบกน้ำหนักไว้ 10 กว่ากิโล และสำหรับหมาป่าแล้ว นี่มันถือว่าหนัก ? 

อีกอย่าง จางเทีย น่ะเป็นนักรบระดับ 4  แม้ว่าซองมันจะรู้สึกหนักนิดๆแต่มันก็ไม่ได้ยากที่เขาจะถือมันขึ้นมา

หลังจากที่มองหน้ากันแล้ว ทั้ง เวสซี่ และ  เจ้าหน้าที่ประจำคลังก็ทึ่ง

คนที่ ผู้การลิปนิซ พาเข้ามา ร้อยโทที่อายุน้อยที่สุดในทีมและยังเป็นส่วนหนึ่งของแคมป์เหล็กโลหิต, มีแรงมหาศาล, หน้าตาดี เมื่อเอาทุกอย่างมารวมกันแล้ว จางเทีย น่ะทำให้เจ้าหน้าที่ประจำคลังตระหนักได้ว่าเด็กตรงหน้าเขานั้นอาจจะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในอนาคตและคุ้มค่าที่จะเสี่ยงด้วย

“ ข้อห้ามนะ หอกพวกนี้ก็เหมือนกับธนูและมันพังได้ง่าย ดังนั้นแล้วพวกมันจึงไม่ใช่อาวุธหลัก ฉันมีบางอย่างจะเสนอถ้านายชอบนะ... “ – เจ้าหน้าที่คลังเหมือนจะเตือน – “ นายเหมือนจะมีแรงเยอะ บางทีนายน่าจะลองอาวุธพิเศษระดับร้อยโทที่คนอื่นไม่สามารถใช้มันได้ ...”

ความสงสัยของ จางเทีย เพิ่มขึ้นมาทันทีส่วนบนของฟอร์ม

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.