spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 157: แกถูกรับเข้ากอง
ก่อนหน้านี่ จางเทีย ได้ฝันว่าจะได้นั่งรถมานาน แต่เขาน่ะไม่คิดว่าครั้งแรกที่เขาได้นั่งรถนั้นกลับเป็นรถของกองทัพเขาเหล็ก
เพราะเป็นหัวหน้าผู้คุมของคุก กัปตันเฉียน จึงมีรถส่วนตัว รถ SUV ที่ชื่อแมวภูเขาที่ผลิตขึ้นมาโดยอาณาจักรนอแมน เทียบกับรถไอน้ำอื่นๆในตลาดแล้วรถคนนี้น่ะดูมีระดับกว่า มีแรงขับเคลื่อนที่ดีกว่า
แม้ว่าจะขับเคลื่อนด้วยระบบไอน้ำแต่รถกองทัพนั้นมักจะปรับแต่งและดีกว่ารถทั่วไป หน่วยพลังงงานไอน้ำนั้นสามารถทำให้รถคันนี้แล่นด้วยความเร็ว 80 กม./ชม.แม้อยู่ในป่า
ก่อนหน้านี้ กัปตันเฉียน นั้นกังวลว่า จางเทีย จะหาโอกาสหนีและนั่นจะทำให้เขาซวยแต่หลังจากที่ขึ้นรถมาแล้ว เขาก็พบว่าความสนใจของ จางเทีย นั้นอยู่ที่รถโดยไม่สนใจเขาเลย
เมื่อเวลาผ่านไปทั้งสองคนก็เริ่มคุ้นกันมากขึ้น กัปตันเฉยีน ถึงกับด่า จางเทีย ว่าทำตัวไร้สาระอยู่หลายครั้งพร้อมกับลดอคติลงไป
‘ เด็กแบบนี้จะเป็นศัตรูและมีแววที่จะเป็นภัยได้ยังไง ? ‘ กัปตันเฉียน เริ่มสงสัยในข้อหาของ จางเทีย ‘ เด็กนี่น่ะดูไม่ได้อคติกับอาณาจักรนอแมนเลย ‘
ดูจากอายุและหน้าตาแล้ว กัปตันเฉียน สับสนว่าทำไมเทพต่อสู้ถึงได้เลือกเด็กนี่
‘ แรงลับเหล็กโลหิต ! มีไม่ถึง 1 ในร้อยของทหารระดับสูงของกองทัพเขาเหล็กที่สร้างมันขึ้นมาได้ ทำไมไอ้ขอทานจากเมืองแบล็คฮ็อตถึงทำมันขึ้นมาได้ ? ‘
กัปตันเฉียน แอบถอนหายใจออกมาเพราะเขาไม่เข้าใจมันจริงๆ
เป็นไปได้มั้ยว่านี่คือความชอบของเทพต่อสู้ ?
กัปตันเฉียน ถึงกับพูดอะไรไม่ออก
...
จางเทีย ถูกพาตัวไปที่แผนก 39 ที่ซึ่งตอนนี้มีธงของกองทัพเขาเหล็กปักเอาไว้อยู่ สองเดือนก่อน ที่นี่น่ะคือหน่วยของทหารประจำเมือง
เขตนี้มีการป้องกันที่แน่นหนา มีรถมากมายที่จอดเรียงรายไว้ด้านนอก นอกจากสัตว์อสูรเหล็กแล้วก็ยังมีสัตว์เขาเหล็กที่ จางเทีย ได้เจอมาเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนด้วย แน่นอนว่ามีทหารส่วนมากที่นี่น่ะคือทหารของอาณาจักรนอแมน
กัปตันเฉียน ไปจอดรถด้านนอกทางเข้าตึกแผนก เขากระโดดลงและทักทายกับร้อยโทอันดับสองที่ซึ่งยืนอยู่ข้างๆตึก หลังจากที่พูดคุยกันสักพัก ผู้การก็ได้มองมาที่ จางเทีย แล้วรีบเดินออกไป ไม่ถึงครึ่งนาทีร้อยโทอันดับสองก็กลับมาพร้อมกับทหารอีกสี่คน หลังจากที่ส่ง จางเทีย ให้กับพวกนั้นแล้ว กัปตันเฉียน ก็ได้จากไป
ไม่นาน จางเทีย ก็โดนทหารสี่คนและร้อยโทอันดับสองนั้นพาตัวไปยังห้องขังที่มีข้อความว่า ห้องสอบสวนในชั้นหนึ่งของตึกข้างๆของแผนก
หลังจากที่ปิดประตูเหล็กของห้องสืบสวนแล้ว ทหารทั้งสี่คนก็ออกไปยืนข้างนอกเหลือ จางเทีย อยู่ในห้องเพียงคนเดียว
ไม่ว่ายังไงก็ตามสภาพแวดล้อมที่นี่ก็ดีกว่าที่เดิมเป็นร้อยเท่า
แสงนั้นผ่านหน้าต่างที่สูงจากพื้นไปสองเมตร เขายืนอยู่ด้านล่างหน้าต่างแล้วหลับตาพร้อมกับเงยหน้าขึ้น ดูเหมือนว่าเขาจะชอบแสงจากพระอาทิตย์นี้มาก
ถ้าทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี คนกว่า 25,000 คนที่นำมาโดย ผู้การลิปนิซ ภายใต้ธงของกองทัพเขาเหล็กจะได้ประจำอยู่ที่เมืองนี้ นั่นคือจุดเริ่มต้นของโลกอันวุ่นวายที่ เซรอม พูดไว้รึเปล่า ?
เมื่อคิดถึงสีหน้าที่กลัวของพ่อแม่ตอนเขาโดนจับตัวมาเมื่อวานแล้ว จางเทีย ก็รู้สึกเจ็บใจขึ้นมาอีกครั้ง
...
ในตอนที่ กัปตันเฉียน ได้กลับไปที่คุก เขาพบว่ามีคนมาหาเขาโดยหนึ่งในนั้นคือไอ้บัดซบจากหน่วยกองทัพด้วย ส่วนคนอื่นๆนั้นมาจากหน่วยสอดแนม ไอ้บัดซบจากหน่วยกองทัพนั้นดูละอาย ส่วนคนที่มาจากหน่วยสอดแนมนั้นดูหงุดหงิด
เมื่อเห็น กัปตันเฉียน ผู้มาใหม่ก็เริ่มทำความเคารพเขา
“ พวกนายมาทำอะไรที่ของฉัน ? “
เพราะเรื่องของ จางเทีย กัปตันเฉียน เลยมีท่าทีไม่ดีเท่าไหร่ เขาเลยถามไปอย่างไร้อารมณ์ณ – “ มีอะไร ? “
“ โทษทีนะที่รบกวน กัปตันเฉียน เมื่อวานนี้หน่วยกองทัพได้ส่งเด็กจีนที่ชื่อ จางเทีย มันอาจจะเป็นการเข้าใจผิด ดังนั้นเราจึงมาพาตัวเขาออกไป ! “
เมื่อพูดแบบนั้นร้อยโทอันดับสองก็ได้เอาเอกสารแสดงสิทธิที่หน่วยกองทัพเซ็นต์มาส่งให้กับ กัปตันเฉียน
“ โทษทีนะ คนนี้น่ะไม่ได้อยู่ในคุกนี้อีกต่อไปแล้ว ! “ - กัปตันเฉียน พูดอย่างไร้อารมณ์ที่จะไปสนใจอีก
“ อะไร ? เขาตายแล้วเหรอ ? “
ทหารหนุ่มของหน่วยสอดแนมเดินขึ้นมาหนึ่งก้าว เขาเกือบทรุดลงกับพื้น การพูดกับคนมีอำนาจกว่าแบบนี้นั้นถือว่าเป็นข้อห้ามในสถานการณ์ปกติแต่ครั้งนี้เมื่อดูไปที่อารมณ์ของทหารคนนี้ที่ซึ่งมีแผลที่ขาแล้ว กัปตันเฉียน ไม่ได้สนและถามด้วยความสงสัย – “ พวกนายรู้จักกันรึไง ? “
ดูเหมือนว่าจะเห็นถึงท่าทีไม่หยาบคาย ซอลเวย์ เริ่มเข้าใจมากขึ้น – “ ท่านครับ เด็กนั่นเคยช่วยชีวิตผมไว้เมื่อหลายวันก่อน เพราะผมน่ะได้รับหน้าที่ในตอนนั้น ผมเลยยังไม่มีโอกาสได้ขอบคุณเขาแต่เมื่อผมไปเยี่ยมบ้านเขาในวันนี้ ผมได้รู้ว่าเขาโดนแจ้งความและจับโยนเข้าคุกไป... “ – ซอลเวย์ อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น
“ เด็กนั่นอยู่ในแผนกรึเปล่า ? “
“ ใช่ เขาอยู่ ! “
...
ผู้การลิปนิซ เห็นว่าเรื่องนี้มันน่าสนใจ เด็กที่เกิดมาในที่ห่างไกลอย่างเมืองแบล็คฮ็อตสามารถทำให้เทพต่อสู้สนใจขึ้นมาได้และกลายเป็นคนที่สนิทกับคนของเขา เรื่องนี้มันตลก ในตอนที่เขากลับไปที่นอดินเบิร์ค แน่นอนว่าเขาจะเล่าเรื่องนี้กับพวก หญิงชั้นสูงของนอดินเบิร์คต้องสนุกแน่ๆถ้าได้ฟังเรื่องน่าสนใจที่เต็มไปด้วยตำนานที่เกิดขึ้นในเมืองที่ห่างไกลแบบนี้ เมื่อคิดแบบนั้น ผู้การลิปนิซ ก็ได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้และพูดขึ้น - “ งั้นไปดูกัน ! “
หลายนาทีต่อมาเขาก็เจอกับ จางเทีย
ในสายตาของ จางเทีย แล้วชายวัย 50 ปีพุ่งโต,ผมเทาและมีหนวดนี้ได้สวมเครื่องแบบกองทัพแปลกๆ
กัปตันลิปนิซ นั้นถาม จางเทีย เพียงแค่คำถามเดียว – “ บอกฉันทีว่านายปลุกจุดชีพทั้งสามได้ยังไงและนายสร้างแรงลับของเหล็กโลหิตในสองเดือนได้ยังไง ? “
คำถามนี้ตรงอย่างมาก ในตอนที่ จางเทีย โดนหมาป่าไล่และกระโดดลงไปในหลุม เขาเป็นแค่นักรบระดับ 1 ไม่มีใครรู้ว่าเขาปลุกจุดชีพจรขึ้นมาได้ ดังนั้นแล้วความจริงคือ จางเทีย น่ะได้ปลุกจุดชีพจร 3 จุดได้และพัฒนาขึ้น 3 ระดับในเวลาแค่ 1 เดือน
เมื่อรู้ว่าเขาจะต้องเจอคำถามนี้ในไม่ช้า จางเทีย ได้เตรียมคำตอบมานานแล้ว
“ ในตอนที่ผมฝึกโดยการอยู่คนเดียว ผมได้ปลุกจุดชีพจรที่สองขึ้นมาได้แล้ว ในวันที่ห้าตั้งแต่ที่เริ่มเป็นผู้โดดเดียว ฝนมันได้ตกอย่างแรง ในตอนที่ผมหลบฝนอยู่นั้นผมก็โดนสายฟ้าผ่าเข้า หลังจากที่ตืนขึ้นมาผมก็พบว่าผมสามารถปลุกจุดชีพจรได้เร็วยิ่งกว่าเก่า พร้อมกับมีความแข็งแกร่งที่มากกว่าเดิมด้วย นอกจากนี้แล้วผมยังพัฒนาหมัดเหล็กโลหิตได้เร็วยิ่งกว่าเดิมมาก ! “
คำตอบของ จางเทีย ทำให้ ผู้การลิปนิซ นั้นพอใจอย่างมาก ในสายตาของเขาแล้วคำอธิบายของ จางเทีย นั้นเกี่ยวข้องกับการปรับเปลี่ยนของร่างกายและความสามารถแปลกหลังจากที่โดนสายฟ้าผ่าเข้า
นี่น่ะมันไม่ได้หายาก ในทางการแพทย์แล้ว พวกคนที่มีความสามารถแปลกๆหลังจากที่โดนฟ้าผ่าเข้านั้นถูกเรียกว่า * อาการถูกฟ้าผ่า!
ผู้การลิปนิซ นั้นรู้สึกว่าคำตอบของ จางเทีย ทำให้เรื่องที่เขาจะเล่านั้นน่าสนใจยิ่งขึ้น แม้ว่าจะมีคนน้อยที่สามารถสร้างแรงลับจากเหล็กโลหิตขึ้นมาได้แต่ในบรรดาทีม 39 แล้วมันก็ยังมีประมาณ 200 คนที่สามารถสร้างแรงนี่ขึ้นมาได้ ดังนั้นแล้วมันจึงไม่ใช่ข้อยกเว้นสำหรับแรงลับที่ จางเทีย สร้างขึ้นมา
นักรบระดับ 4 แม้ว่าจะผ่านประสบการณ์แปลกๆมาและสามารถสร้างแรงลับของเหล็กโลหิตขึ้นมาได้ แต่ก็คงไม่อาจดึงดูดความสนใจของ ผู้การลิปนิซ ได้ ดังนั้นผู้การจึงไม่ได้ชอบเขามากเท่าไหรเพราะที่เขาสามารถสร้างแรงลับได้ในอายุเท่านี้แต่ในบรรดากองทัพทั้งหมดของอาณาจักรนอแมน ไม่มีแม่ทัพคนไหนที่จะปฏิเสธที่จะมีทหารที่ดูเหมือนจะเป็นที่โปรดปรานของเทพต่อสู้ในกองทัพของพวกเขา
“ ไอ้หนูผู้โชคดี ฉันขอประกาศว่านายได้รับเข้ากองทัพเขาเหล็กของอาณาจักรนอแมน ตามกฎของอาณาจักรนอแมนแล้วนายได้เป็นสมาชิกของทีม 39 ในกองทัพอาณาจักรนอแมน พวกหมาที่โชดดีที่ได้รับความเอ็นดูจากเทพต่อสู้จะเริ่มได้รับตำแหน่งจากร้อยโทอันดับสอง ดังนั้นแล้วตอนนี้แกคือคนที่เด็กที่สุดที่เป็นร้อยโทอันดับสองในทีม 39...”
ผู้การลิปนิซ รู้สึกว่าเขาคิดได้ดีซึ่งการเล่าเรื่องนี้ในนอดิเบิร์คคงจะน่าสนใจกว่าเดิม นอกจากนี้แล้วมันก็ทำให้เขาดูยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีกในสายตาของหญิงชนชั้นสูงและกันไม่ให้คนอื่นหาข้อผิดพลาดของเขาได้
หลังจากที่คุยกับ จางเทีย แล้วเขาก็หันหน้ากลับไปสั่งการลูกน้อง – “ นาย พาเขาไปเข้าพิธีให้เสร็จในตอนบ่าย ส่งเขาไปที่แคมป์เขาเหล็กและหาคนเก่งๆมาสอนเขา อย่าให้เด็กนี่ตายตั้งแต่การสู้ครั้งแรก ! “
เมื่อพูดจบผู้การก็ไม่ได้สนใจท่าทีอึ้งของ จางเทีย และหันหน้าหนีตั้งใจที่จะกลับแต่ในตอนที่เขาไปถึงประตู ดูเหมือนว่าเขาคิดบางอย่างออกและหันกลับมาถาม – “ เออ ไอ้หนู แกชื่ออะไร ? “
“ จางเทีย... “
ผู้การลิปนิซ พึมพำชื่อเขาอยู่สองรบ ดูเหมือนว่าตั้งใจที่จะจำมันให้ได้
ผู้การเดินออกไปไกแต่ จางเทีย ยังคงอึ้งอยู่ ร้อยโทอันดับสอง เขาได้กลายเป็นร้อยโทอันดับสองของอาณาจักรนอแมน....
แค่กๆ...
เมื่อได้ยินเสียงไอของลูกน้องของผู้การ จางเทีย ก็ได้สติ