หน้าแรก > Castle of Black Iron
Chapter 151: การกลับมาที่เมืองแบล็คฮ็อต

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

Chapter 151: การกลับมาที่เมืองแบล็คฮ็อต

 

ตกเย็นเมืองแบล็คฮ็อตนั้นทั้งเหมือนเดิมและแตกต่างจากแต่ก่อน

 จางเทีย ยืนอยู่ท่ามกลางคนอื่นที่กลับมาจากฝึก พวกเขายืนอยู่ตรงหน้าประตูเมืองที่พวกเขาได้จากไปเมื่อสองเดือนที่แล้ว เขาหลี่ตาลงและมองไปทั่วทั้งเมือง กำแพงเมืองนั้นยังสูงและมั่นคง ส่วนเครื่องป้องกันและอุปกรณ์ต่างๆยังคงดูสง่าดังเดิมทุกอย่างดูเหมือนไม่ได้เปลี่ยนไปแต่ทุกอย่างน่ะได้เปลี่ยนไปแล้ว

ธง 17 ดาวของพันธมิตรได้ถูกแทนที่ด้วยธงของอาณาจักรมังกรแดงที่เป็นตัวแทนของอาณาจักรนอแมน

ธงมังกรแดงโบกสะบัดซึ่งยังทำให้บรรยากาศในเมืองนั้นดูอึมครึมขึ้นมา

มังกรนั้นคือสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ของคนจีน มีคำพูดว่าหลังจากแต่งตั้งจักรพรรดิของอาณาจักรนอแมนขึ้นมาและเดินทางกลับไปยังทิศตะวันออก เขาได้ชูธงนี้ขึ้นแล้วปักลงไปในอาณาจักรนอแมนด้วยมือของตัวเอง ดังนั้นแล้วธงมังกรนี้จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของตระกูลจักรพรรดิรึแม้แต่อาณาจักรนอแมนทั้งหมดด้วย

ที่ทุกคนในสมาคมแบล็คซอนรู้คือจตระกูลจักรพรรดิของอาณาจักรนอแมนนั้นมีความเกี่ยวข้องกับความลึกลับและความทรงพลังของทวีปทางทิศตะวันออกเพราะพวกเขามีสายเลือกทางจีนมาผสมด้วย

เมื่อคิดกลับไปถึงการที่เด็กพวกนี้เอาตัวรอดในการฝึกรวมถึง จางเทีย ด้วยพวกเขาต่างก็กังวลเรื่องสงครามที่จะปะทุขึ้นมา เขาได้เยาะเย้ยตัวเองในใจ ในตอนที่พวกเขาออกจากเมืองไป ใครจะไปคิดว่าเวลาแค่สองเดือนต่อมาที่พวกเขากลับมา พวกเขาจะได้กลายเป็นประชาชนของอาณาจักรนอแมนไปแล้ว

ในเดือนที่ผ่านมาภายใต้การโจมตีอันรวดเร็วของกองทัพของอาณาจักรนอแมนละราชวงศ์อาทิตย์นั้น พันธมิตรซึ่งคงอยู่มากกว่าหนึ่งร้องปีกำลังจะพบจุดจบในเวลาแค่เพียง 5 วัน มันถูกแบ่งแบ่งออกเป็นครึ่งหนึ่งเหมือนเนื้อและตอนนี้ก็โดนอาณาจักรนอแมนและราชวงศ์อาทิตย์กลืนกินเอา

สำหรับเมืองทั้ง 17 ที่ก่อตั้งพันธมิตรขึ้นมานั้น อาณาจักรนอแมนได้ไป  8 เมืองและได้อาณาเขตขนาดใหญ่ทางด้านเหนือ ส่วนราชวงศ์อาทิตย์นั้นได้ 8 เมืองพร้อมกับอาณาเขตทางด้านทิศใต้ นอกจากเมืองคารัวล์แล้ว ทุกเมืองของพันธมิตรนั้นต่างก็โดนจับจองโดยสองขั้วอำนาจ

เมืองทางตอนใต้นั้นรุ่งเรืองกว่าเพราะมีการค้าที่ดีกว่า เมืองอันดามันซึ่งก่อนหน้านี้คือเมืองหลวงของพันธมิตรเองก็เป็นหนึ่งในเมืองทางตอนใต้ ในทางกลับกันเมืองทางเหนืออย่างเมืองแบล็คฮ็อตนั้นเต็มไปด้วยทรัพยาการและความรุ่งเรืองทางอุตสาหกรรม

จากผลลัพธ์แล้วอาณาจักรนอแมนและราชวงศ์อาทิตย์นั้นเหมือนกับโจรที่มาปล้นมากกว่ามาทำสงครรม ก่อนหน้าที่จะเคลื่อนไหว พวกเขาก็ตัดสินใจแล้วว่าจะแบ่งส่วนใดกัน

เทียบกับตอนที่พวกเขาออกจากเมืองไปแล้วตอนที่เด็กๆกลับมา พวกเขาต่างก็เงียบมากกว่าเดิม โดยส่วนมากนั้นเป็นเพราะพวกเขาเริ่มไม่มั่นใจเกี่ยวกับอนาคตของตังเอง นอกซะจากว่าตัดสินใจที่จะออกจากเมืองไป ทุกคนสาบานว่าต้องจงรักภักดีต่อจักรพรรดิ นี่ทำให้พวกเด็กๆสับสนอย่างมากเนื่องจากพวกเขาเคยชินกับกฎที่นักธุรกิจและโรงงานได้ตั้งให้มา

จางเทีย ไม่ได้ช็อคเหมือนคนอื่นๆเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนี้ บางทีคนอื่นอาจไม่รู้สึกแบบนี้แต่ในตอนที่เขาเห็นธงมังกรแดงนั้นแทนสิทธิของอาณาจักรนอแมน เขาก็ยอมรับกฎใหม่ของเมืองในใจ เนื่องจากมังกรนั้นเป็นตัวแทนของคนจีน ด้วยการมีมังกรเป็นสัญลักษณ์ของชาติแล้วแน่นอนว่าอาณาจักรนอแมนนั้นทำให้ จางเทีย พอใจ

ในอาณาจักรนอแมน จำนวนคนจีนเองก็สูงกว่าที่พันธมิตรและเมืองมี บอกได้เลยว่ามี 1 ใน 20 ของประชากรมากกว่า 200 ล้านคนในอาณาจักร

ตอนนี้ที่อยู่ตรงประตูเมืองนั้นไม่ใช่ทหารของเมืองอีกต่อไปแต่เป็นทหารของอาณาจักรนอแมน ทหารพวกนี้สูงกว่า,แข็งแรงกว่าและดูแข็งแกร่งกว่าเมื่อเทียบงกับพวกก่อนหน้านี้ เกราะของหลายคนยังมีรอยฟันของมีดและดาบด้วย หลังจากที่เปรียบเทียบพวกนี้กับทหารของเมืองแล้ว แม้แต่ จางเทีย เองก็ยอมรับว่าทหารพวกนี้น่ะดูดุดันกว่า

บางทีการอธิบายถึงความต่างระห่างสองกองทัพก็คงเป็นพวกหนึ่งเกิดจากนักธุรกิจและอีกพวกน่ะคือทหารที่แท้จริงของอาณาจักร  ผู้คนนั้นสัมผัสได้ถึงบรรยากาศเคร่งขรึมของพวกนี้เมื่อเทียบถึงความต่างของทั้งสองพวก

เด็กๆนั้นเข้าเมืองได้โดยไม่มีอุปสรรคใดๆแต่ในตอนที่เขาเข้าไป สาวๆหลายคนได้อุทานออกมาเพราะได้เห็นที่แขวนคออยู่ไม่ไกลออกไปจากประตูเมือง  มีศพที่ห้อยอยู่ตามที่แขวนคอเหล่านั้นลอยไปลอยมาอย่างกับตุ๊กตา

เพื่อที่จะยึดเมืองแล้วอาณาจักรนอแมนไม่ได้ฆ่าใครแต่หลังจากที่เข้าควบคุมแล้ว มันก็เริ่มฆ่าผู้คนที่เป็นเหยื่อเพื่อหาโอกาสที่จะเพิ่มอำนาจในสถานการณ์ใหม่แห่งนี้  หลังจากที่กองทัพเข้ามาในเมืองและเข้าดูแลเมืองแล้ว พวกที่ดูแลตอนแรกต่างก็โดนตัดคอรึไม่ก็โดนแขวนคอให้เป็นตัวอย่าง

ด้วยดาบและเลือดที่ไหลออกมา กองทัพได้สอนทุกคนในเมืองถึงบทเรียนว่าให้อยู่ในกฎของอาณาจักรนอแมน

ถนนในเมืองนั้นดูซบเซาขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย มีคนและพาหนะน้อยลงบนท้องถนน หลายร้านนั้นยังไม่เปิดขาย ทหารที่เดินไปมานั้นมีให้เห็นอยู่ทั่วทุกที่  มีรถถังและพาหนะหุ้มเกราะของอาณาจักรจอดตามแยกต่างๆ

ตรงหน้าประตูและหน้าต่างของแต่ละบ้านนั้นจะมีธงสีแดงปักอยู่สะบัดไปตามลม  เมื่อเห็นแบบนั้นคุณก็คงรู้แล้วว่าพวกชาวบ้านทำมันขึ้นมาเอง  แม้แต่ป้ายซึ่งยากที่จะได้เห็นก็โผล่ขึ้นมาตามท้องถนนซึ่งทำให้เด็กๆต่างก็หน้าแดงขึ้นมา ง เรายินดีต้อนรับกองทัพของอาณาจักรนอแมนเข้ามาในเมือง ‘ , ‘ ยินดีให้กับเมืองแบล็คฮ็อตที่ได้เป็นเมืองระดับสี่ของเบรินวิคภายใต้การดูแลของอาณาจักรนอแมน ‘ , ‘ อาณาจักรนอแมนจงอยู่ไปตลอดกาล ‘ และ ‘ กองทัพเขาเหล็กจงเจริญ ‘

ไม่ต้องบอกเลยว่าพวกบริหารเหมืองต่างๆได้ยอมแพ้ ชาวบ้านก็รู้ทันทีว่าจะทำให้คนดูแลใหม่โปรดปรานได้ยังไง

ตอนนี้เมืองแบล็คฮ็อตนั้นได้กลายเป็นสถานที่แปลกสำหรับทุกคนไปแล้ว

หลังจากที่มาในเมืองแล้วกรรมการได้เลือกเส้นทางที่สะดวกที่สุดเพื่อส่งสาวๆกลับบ้าน สาวๆที่มาจากโรงเรียนสองแห่งต่างก็อยู่บริเวณเดียวกันในสองซอย สำหรับผู้ชายนั้นแม้ว่าจะเหนื่อยหลังจากที่เดินมาทั้งวันและอยากที่จะกลับบ้านตัวเองแต่เพื่อที่จะส่งสาวๆอย่างปลอดภัย พวกเขายอมที่จะเปลี่ยนเส้นทาง

ดูเหมือนว่ากฎในอาณาจักรนั้นจะเคร่งครัด อย่างน้อยก็ไม่มีทหารเลยสักคนที่มาแซวสาวๆแต่ไม่มีใครต้องการคิดเรื่องที่จะเกิดขึ้นเมื่อสาวๆนั้นกลับบ้านคนเดียว

ระหว่างทางนั้นสาวๆมักจะแยกตัวออกจากกลุ่มเมื่อใกล้ถึงบ้านตัวเอง ในเวลาเดียวกันพ่อแม่ของพวกเธอก็ยืนอยู่หน้าประตูรออยู่นานแล้ว รอคอยให้ลูกของพวกเขากลับมา

แม้ว่าจะไม่ได้เห็นกันมาแค่สามเดือนแต่นักเรียนหลายคนต่างก็ร้องไห้ออกมาพร้อมกับพ่อแม่

ตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ จางเทีย ได้แบกกระเป๋าของสามสาวพร้อมกับตัวเองเดินมาเกือบ 60 กม. แม้ว่าเด็กหลายคนจะเหนื่อยเมื่อมาถึงเมืองแต่ จางเทีย นั้นเหมือนจะคึกและรู้สึกไม่ได้เหนื่อยเลยสักนิด

เขานั้นไม่ใช่ผู้ชายคนเดิมที่ได้ออกจากเมืองไปคนนั้นแล้ว

ในตอนที่ อลิซ, เบเวอร์รี่ และ แพนโดร่า ไปถึงบ้านทีละคนๆนั้น จางเทีย ก็เอากระเป๋าให้กับพวกเธอพร้อมกับรีบจำที่อยู่

“ นายต้องมาหาฉันนะ ! “ - อลิซ พูดกับ จางเทีย ในตอนที่ล่ำลา

“ ฉันจะรอนายที่บ้าน ! แม่ฉันต้องชอบนายแน่ๆ ! “ – เบเวอร์รี่ พูดออกมาในตอนที่ลา

“ ฉันเหมือน...จะโตขึ้นนิดหน่อย.. “ – แพนโดร่า พูดกับ จางเทีย ตอนที่ลา

เขาเกือบจะหอนออกมา....

ในตอนที่เด็กผู้หญิงคนสุดท้ายกลับไปถึงบ้าน เด็กผู้ชายคนที่เหลือต่างก็แยกย้ายไปที่บ้านตัวเอง

หลังจากตกลงกับ แบร์ลี่ และคนอื่นๆในองค์กรแล้วในการประชุมครั้งต่อมา จางเทีย ก็ได้วิ่งกลับมาที่บ้านตัวเอง

เมื่อเห็น จางเทีย วิ่งเร็วขนาดนั้น แบร์ลี่ และคนอื่นต่างก็เกือบตาหลุดออกมาจากเบ้า

“ เหี้ย  นี่เขาเป็นคนอยู่ป่ะเนี้ย ? จางเทีย น่ะเป็นเหมือนสัตว์อสูรเลย ! “ - ฮิสต้า อุทานออกมา

“ ไอ้นั่นน่ะดูแลผู้หญิงตัวเองดี เขาได้แบกกระเป๋าของพวกเธอมาทั้งวัน  กระเป๋าของสาวๆรวมกับของเขาแล้วน้ำหนักมากกว่า 100 กก.และเขาได้แบกของพวกนั้นมาทั้งวันและเขายังคงวิ่งได้อีก นี่ฉันฝันไปรึเปล่าเนี้ย ?”

ลิซ เองก็อึ้งในตอนที่เห็น จางเทีย หายไปที่มุมถนน

จางเทีย น่ะไม่ได้เหนื่อยเลย ในกรณีที่ว่ามันอาจยุ่งยากรึเอาปัญหามาให้ตัวเอง เขาจะไม่วิ่งด้วยความเร็วสูงสุดกลับบ้านไม่ว่าเขาอยากจะทำมันแค่ไหน ดังนั้นแล้วเขาจึงควบคุมความเร็วของเขาให้เท่าๆกับที่เขาวิ่งที่โรงเรียน

หลังจากนั้นเพียง 5-6 นาทีเขาก็ได้ผ่านถนนหลายเส้นและเริ่มมองเห็นบ้านตัวเอง

เมื่อเห็นเงาของพ่อแม่บนถนนรอคอยเขาอยู่ จางเทีย ก็ซึ้งจนเกือบจะร้องไห้ออกมา

ในตอนที่เขาเห็นรอยยิ้มที่ดีใจบนหน้าทั้งคู่ หัวใจที่เข้มแข็งของเขาก็อ่อนยวบ ต้องขอบคุณที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับครอบครัวเขา

“ แม่ พ่อ ผมกลับมาแล้ว ! “ - จางเทีย ทักทายจากไกลๆเหมือนเช่นเคย เพราะพ่อแม่เขามักจะไปหาเพื่อนบ้าน จางเทีย ก็เลยทักทายแบบเดิม

หลังจากที่มาถึงบ้านแล้ว เขาได้เข้าไปหอมแก้มแม่ก่อน จากนั้นเขาก็ไปกอดพ่อแล้วยกพ่อขึ้นหมุนตัวไปมา

“ เร็วเข้า ปล่อยพ่อได้แล้ว “ – พ่อกลัวกับการที่ จางเทีย ทำแบบนี้และได้ดีดหน้าผาก จางเทีย – “ มันจะไม่ดีนะถ้าคนอื่นมาเห็นเข้า ! “

จางเทีย วางพ่อลงที่พื้น – “ พ่อ เป็นไงบ้าง ? พ่อเห็นมั้ยว่าผมน่ะแข็งแกร่งกว่าแต่ก่อน ? “

“ ใช่ ดูเหมือนจะจริง ลูกน่ะแข็งแกร่งขึ้นเยอะ ! “

เมื่อได้ยินคำถามนั้นพ่อของเขาก็ได้เห็นบางอย่างแตกต่างออกไป

“ ผมเหมือนจะสูงขึ้นด้วย ! ดูเสื้อผ้าผมสิ นี่มันเล็กแล้ว ... “

จางเทีย ยืดแขนเสื้อออกมาจนสุด  ในตอนที่ออกจากบ้าน มันยังถึงข้อมือเขา ตอนนี้มันสั้นลงไปอีก นั่นหมายความว่า จางเทีย ได้โตขึ้นมากว่า 3-4 ซม.ระหว่างสามเดือนที่ผ่านมา

“ จำเอาไว้ อย่ายกพ่อขึ้นแบบนี้ที่ถนนอีก ! “  - พ่อบอกด้วยท่าทีเคร่งขรึม

“ ได้ ! แล้วถ้าไม่มีใครอยู่แถวนี้ล่ะ ?”

จางเทีย โดนดีดหน้าผากอีกรอบ

เขาน่ะแตกต่างจากตอนก่อนที่เขาไปฝึกนิดหน่อย หลังจากฝึกได้ 3 เดือนพ่อแม่เขาคิดว่าเขาได้เปลี่ยนไปเพราะการฝึก

ในตอนที่เขาเล่นมุขกับพ่อและแม่ ทั้งคู่ก็ได้ยิ้มออกมาอย่างดีใจ

“เอาล่ะๆ ไม่ต้องเล่นแล้ว ไปๆ กลับบ้านไปกินข้าวเย็นกัน ! “

“ พี่อยู่บ้านมั้ย ? “

“ เขากำลังทำข้าวเย็นอยู่ ได้วันหยุดยาวเลย ไม่รู้ว่าเขาจะโดนเรียกตัวกลับไปทำงานตอนไหน ! “ - พ่อของเขาตอบ

จางเทีย พยักหน้าและคิดในใจ ‘ เพราะกองทัพเขาเหล็กได้เข้ามาในเมือง ทหารประจำเมืองก็ต้องลดอาวุธและโดนสั่งพัก ยังไม่รู้ว่าจะได้ไปทำงานตอนไหน ดูเหมือนว่าการปลดอาวุธของทหารของเมืองนั้นน่าจะเกิดขึ้นแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องซ๊เรียสอะไร มันจะดีกว่าที่จะปลดอาวุธของทหาร อีกอย่างพี่ชายฉันก็รับใช้กองทัพจนเกือบครบแล้ว ตอนนี้พี่สะใภ้ก็ท้องอยู่ เขาน่าจะอยู่เพื่อดูแลเธอ ‘

ในตอนที่เขาเดินเข้าไปในบ้านพร้อมกับพ่อแม่  จางเทีย ก็เห็นธงสองอันขนาดพอๆกับหนังสือติดอยู่ที่ประตูบ้าน หนึ่งอันนั้นเป็นธงมังกรแดงแลอีกอันนั้นเป็นธงกองทัพเขาเหล็ก เทียบกับธงที่เขาเห็นมาตามทางแล้ว  จางเทีย พบว่าสองอันนี่น่ะตกแต่งได้ดีกว่า

“ แม่ แม่ทำธงพวกนี้เหรอ ? “

“ พี่สะใภ้และแม่ทำด้วยกัน เธอน่ะเก่งเรื่องเย็บปักจริงๆ  เราน่ะยังขายมันได้ด้วย ! “ – แม่ตอบ มันทำให้ จางเทีย รู้ว่าแม่เขานั้นพอใจในตัวพี่สะใภ้อย่างมาก  แน่นอนว่าแม่ยายทุกคนต้องพอใจกับผู้หญิงที่เก่งแบบนี้

ในตอนที่  จางเทีย ต้องการที่จะชมแม่ เขาก็เห็นคนหนึ่งที่ไม่น่าจะอยู่ที่นี่ สมิหลา

สมิหลา นั้นดูมั่นใจกว่าแต่ก่อน เขามีทหารกองหนึ่งเดินตามมา

“ นั่นเขา ! “ - สมิหลา ชี้ไปที่ จางเทีย แล้วตะโกนออกมา – “ นั่นแหละศัตรูของอาณาจักรนอแมน คนที่มีแววว่าจะต่อต้านกองทัพเขาเหล็ก ! “

เมื่อได้ยินที่ สมิหลา พูด ทหารนั้นก็ได้มองมาที่ จางเทีย พร้อมกับมือที่จับไว้ที่ดาบ...

สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นทำให้พ่อแม่ของ จางเทีย นั้นต่างก็หน้าซีด !

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.