spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 150: การแก้แค้น
จางเทีย เริ่มเถียงกับ มิสกิลิ ...
“ มิสกิลิ ผมไม่ได้จะท้าทายสิทธิของคุณแต่ถ้าคุณอยากเข้ามายุ่งเรื่องระหว่างเราและลงโทษผม คุณจะท้าทายกับสิทธิของอาณาจักรนอแมนและกฎป่าเถื่อนที่ใช้ในการฝึกที่ซึ่งใช้กันมากว่า 600 ปีซึ่งมีผลครอบคลุมไปถึงเมืองด้วย เนื่องจากเมืองแบล็คฮ็อตนั้นได้กลายเป็นอาณาเขตของอาณาจักรนอแมนไปแล้ว แน่นอนว่ากฎของอาณาจักรนอแมนนั้นมีผลต่อที่นี่ด้วยรวมถึงกฎป่าเถื่อนของการฝึกด้วย คุณรู้มั้ยว่าอะไรคือกฎป่าเถื่อน ? คุณจำเป็นต้องให้ผมบอกคุณรึเปล่า... “
ตาของเธอยังคงจ้องไปที่ จางเทีย พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
จางเทีย เองก็มองเธอกลับมา เพราะบางอย่างสายตาของ จางเทีย นั้นมองต่ำลงมาที่อกของเธอ จากนั้นเขาก็ได้กลืนน้ำลายและเลียปากของเขา
เมื่อเห็นว่า จางเทีย มองมาที่หน้าอกของเธอ มิสกิลิ ที่ซึ่งตอนนี้ได้หน้าซีดเพราะความหลุดหงิดก็หน้าแดงขึ้นมา เธอมองไปที่ จางเทีย อีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นเธอก็ได้หันหลังกลับและออกจากโรงอาหารไปโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
เมื่อหันหลังกลับมา มิสกิลิ รู้สึกว่าตอนที่โดน จางเทีย มองมาที่อกทำให้ส่วนร่างของเธอชื้นขึ้นมานิดๆ ของที่อยู่ด้านในนั้นเกือบไหลออกมาและทำให้เธอนั้นหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย...
ภายใต้ของคนที่ดูอยู่ เธอจึงต้องออกจากโรงอาหารมา...
ตอนนั้นเองเด็กทุกคนในโรงอาหารต่างมีความคิดเดียวในหัว ‘ กฎป่าเถื่อน ทำไม มิสกิลิ ถึงต้องเดินออกไปตอนที่ได้ยินคำพูดนี้ ? กฎป่าเถื่อนมันคืออะไรกัน ? ‘
จางเทีย เดินเหยียบหลัง ชาร์ลอน โดยไม่สนว่ามันจะกรีดร้องดังแค่ไหน เขาคว้าเอามือมาแล้วบิดเข้าที่หลังของมัน หลังจากนั้นเขาก็กำนิ้วหนึ่งของมันและพูดขึ้น – “ แก่รู้มั้ยว่าอะไรคือกฎป่าเถื่อน ? “
“ ในนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม แต่การฆ่าเพื่อแก้แค้นระหว่างนักเรียนแล้วยอมให้มีการตายเกิดขึ้น กฎหมายของอาณาจักรนอแมนนั้นจะไม่ตามหาคนรับผิดชอบระหว่างการฝึก แน่นอนสำหรับครอบครัวของคนที่ถูกฆ่า พวกเขามีสิทธิที่จะถามดวลกับคนฆ่าเพื่อแก้แก้นได้ในนามของสมาคมรึญาติ ที่สำคัญกว่านั้นครอบครัวของคนที่ทำการฆ่าน่ะไม่มีสิทธิที่จะโดนท้าดวลได้ นี่น่ะคือการกฎการฝึกของอาณาจักรนอแมน จากกฎนี้แม้ว่าฉันจะฆ่าพวกแกสามคนไป ฉันก็ไม่เจอกับกฎหมายเล่นงานแต่จะทำการสู้กับครอบครัวพวกแกแทน แกอยากลองมั้ยล่ะ ? “
เมื่อพูดแบบนั้น จางเทีย ก็ได้กำผมมันขึ้นมาอีกครั้ง
ชาร์ลอน เริ่มกรีดร้องออกมาอย่างดัง
“ ฉันจะถามพวกแกอีกรอบ แกจะล้างถาดให้ฉันมั้ย ? ถ้าแกไม่ได้ยินอีก ฉันจะหักนิ้วแกทีละนิ้ว
“ ล้างมั้ย ? “
“ ล้าง ฉันจะล้าง ฉันล้าง... “
เขาร้องโหยหวนออกมาพร้อมกับใช้มืออีกข้างตีพื้น
จางเทีย ปล่อย ชาร์ลอน ไปแล้วเดินไปหา ซูแฮร์ เพราะโดนเก้าอี้โยนใส่ทำให้มันร้องโอดโอยอยู่ที่พื้น เมื่อเห็น จางเทีย เดินเข้ามา คนที่มุงอยู่ก็หลีกทางให้
ในตอนที่ทุกคนคดิว่า จางเทีย จะจัดการ ซูแฮร์ แบบเดียวกับที่ใช้กับ ชาร์ลอน พวกเขาก็เห็นเขานั่งยองๆตรงหน้า ซูแฮร์ แล้วจับหน้าอีกฝ่ายขึ้นมา คนหนึ่งด้านบน อีกคนด้านล่าง เมื่อเห็นท่าทางนั้นทุกคนต่างก็หน้าซีดรวมถึงคนในองค์กรด้วย
“ ฉันไปที่ถ้ำที่พวกแกฆ่าหมาป่าตัวเมียและลูกของพวกมัน ฉันยังเจอเศษผ้าของฉันที่ฉันทำหายที่โรงเรียนด้วย ทุกคนบอกว่าแกน่ะคืองูพิษที่อยู่กับ เกรซ ตอนที่ฉันโดนหมาป่าเจ็ดตัวนั่นโจมตีเอา ฉันเกือบตาย เรื่องนี่น่ะแน่นอนว่าต้องมาจากหัวแก อย่างแรกเลยแกขโมยผ้าเช็ดตัวฉันไป อย่างที่สองแกไปเจอรังหมาป่าเข้า ในตอนที่หมาป่าตัวผู้ออกไปหาอาหาร แกก็ลบกลิ่นตัวเองแล้วเข้าไปฆ่าหมาป่าตัวเมียกับลูกในรัง อย่างที่สามแกก็โยนเศษผ้าฉันลงไปเพื่อล่อให้หมาป่าตัวผู้มาหาฉันตอนที่ฉันกลับมาจากเหมืองเพื่อล้างแค้นฉันสินะ ฉันพูดถูกมั้ย ? แต่ฉันก็ยังมีชีวิตอยู่ ตอนนี้ถึงตาแกตายแล้ว... “
เมื่อได้ยินคำพูดของ จางเทีย หน้าของ ซูแฮร์ ก็บิดเบี้ยวขึ้นมา เขาอยากจะเถียงแต่ จางเทีย ไม่ได้ให้โอกาสอธิบาย จากนั้นภายใต้สายตานับพัน เขาก็เพิ่มแรงและหักคอของ ซูแฮร์ เหมือนกับกะหล่ำปีทำให้หัวของอีกฝ่ายนั้นหันกลับมาครึ่งรอบพร้อมกับเสียงกระดูกที่หัก
“ กฎของอาณจักรนอแมนนี่มันสุดยอดจิรงๆเลย ถ้ามีความแค้นก็แค่ไปฆ่าคนอื่น ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรให้มากมาย !”
หลังจากปล่อยหัว ซูแฮร์ ที่ตายไปแล้ว จางเทีย ก็เดินเข้าไปหา การ์นเนอร์
เมื่อเห็น จางเทีย ฆ่า ซูแฮร์ แล้ว การ์นเนอร์ ก็อึ้ง ก่อนที่ จางเทีย จะได้เข้ามาใกล้ มันก็ได้ใจสลายแล้วร้องไห้ออกมา
“ อย่าเข้ามานะ ฉันจะบอกแกเอง...ฉันจะบอกทุกอย่าง...ตั้งแต่ที่แกมีเรื่องกับ เกรซ ที่โรงเรียน เขาน่ะหงุดหงิดแก เขาต้องการที่จะเอาคืน ซูแฮร์ กับ เกรซ น่ะอยากฆ่าแก มันเป็นความคิดของ ซูแฮร์ ! มันเป็นความคิดของ ซูแฮร์ ! เพราะ เกรซ อยากฆ่าแก เขาเลยจัดการเรื่องหมาป่า มันไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับฉันเลย ตอนแรกฉันไม่เห็นด้วยเพราะมันเกินไปแต่ เกรซ น่ะขู่ว่าจะหักคอฉัน...ฮือๆๆๆ...แม่ ผมอยากไปหาแม่.. “
เพราะกลัวทำให้ การ์นเนอร์ บอกทุกอย่างออกมา ฉากนี้ทำให้ทุกคนต่างก็เงียบลงไป พวกเขาเริ่มหงุดหงิดหลังจากได้ยินสิ่งที่ การ์นเนอร์ พูดถึงการขโมยผ้าเช็ดตัวของ จางเทีย, เจอรังหมาป่าและจัดฉากเพื่อฆ่า จางเทีย พวกมันคิดแผนที่ร้ายกาจนี้ขึ้นมาเพื่อฆ่าเพื่อนร่วมชั้นของตัวเองแค่เพราะเขาไม่ยอมโดนแกล้งและทำให้พวกนั้นเสียหน้า นี่มันเกินไปกว่าที่ทุกคนคิดเอาไว้
“ ฆ่ามัน ฆ่ามัน ! “ – คนที่ดูอยู่ต่างก็ตะโกนออกมา
เสียงของพวกเขาดังไปทั่วปราสาท เมื่อได้ยินเสียงนั้นเหล่ากรรมการก็ได้เข้ามา 7 รึ 8 คนรวมถึง กัปตันเคอร์ลิน และ เซรอม ด้วย หลังจากที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ครูต่างก็มองมาที่ จางเทีย โดยไม่พูดอะไรอออกมาสักคำ ในตอนที่ กัปตันเคอร์ลิน จะเดินขึ้นมา เขาก็โดน เซรอม ดึงเอาไว้ เซรอม ส่ายหน้าเล็กน้อยในตอนที่มองไปที่ตาของ กัปตันเคอร์ลิน แล้วทั้งคู่ก็ได้หรี่ตามองไปที่ จางเทีย
ตอนนั้นภายใต้เสียงที่บอกให้ฆ่า ทุกคนต่างก็จับจ้องไปที่ จางเทีย
เขามองไปที่ การ์นเนอร์ ที่ซึ่งร้องไห้อยู่และ ชาร์ลอน ที่กลัวจนช็อค จางเทีย ก็ได้ยกมือขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อเห็นท่าทางของเขาคนที่ตะโกนออกมาก็เงียบลงเล็กน้อย
เขาเดินไปยืนต่อหน้า การ์นเนอร์ เมื่อเห็นตัวของอีกฝ่ายที่สั่น จางเทีย ก็ได้เอาเศษกระดาษขึ้นมาแล้วโยนไปใส่มือ การ์นเนอร์ – “ เช็ดน้ำตาก่อน ถ้าแกสัญญากับฉันหนึ่งอย่าง ฉันจะไม่ฆ่าแก ! “
ด้วยน้ำตาที่ไหลอาบลงมา การ์นเนอร์ ได้รับกระดาษไปแล้วรีบเช็ดหน้าทันที – “ อะไร ? “
“ แกสัญญากับฉันได้มั้ยว่านอกจากว่าเป็นเรื่องของแม่แกแล้วแกจะไม่ทำเรื่องแย่ๆ ? แกสัญญาได้มั้ยว่าจะเป็นคนดีนับจากนี้ไป ? แกทำได้มั้ย ? “
“ ได้ ฉันทำได้ ฉันสัญญา...”
เมื่อเห็นโอกาสรอด การ์นเนอร์ ก็แทบหัวเราะออกมาแทนที่การร้องไห้ เขารีบพยักหน้าทันที
“ ดี งั้นมาจบเรื่องนี้กัน ตราบใดที่แกไม่หาเรื่องฉัน ฉันจะไม่หาเรื่องแกนับจากนี้ไป ! “
“ ได้ ได้ ! ฉันสัญญาว่าจะเป็นคนดี ! “
จางเทีย พยักหน้าแล้วลุกขึ้นยืน จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปหา ชาร์ลอน ที่ซึ่งตอนนี้หมดแรงอย่างกับหนอน ถ้ามีรอยแตกที่พื้นมันคงมุดลงไปแล้ว
“ ชาร์ลอน ! “
เมื่อได้ยิน จางเทีย เรียกชื่อมันเป็น นี่ก็เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าเสียงของ จางเทีย นั้นน่ากลัวจนทำให้มันตัวสั่น เกรซ นั้นน่ากลัวแต่ไม่ว่าจะน่ากลัวขนาดไหน ชาร์ลอน ก็ไม่รู้สึกว่าเทียบไม่ได้กับ จางเทีย เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนร่วมชั้นของเขาถึงได้น่ากลัวถึงขนานี้
“ แกจะฆ่าฉันอีกมั้ย ? “
“ ไม่...ไม่ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่กล้าทำแบบนั้นแล้ว... “
ชาร์ลอน เกือบร้องไห้ออกมา มันคือฝันร้ายที่จะไปต่อต้าน จางเทีย เพราะชายคนนี้น่ากลัวยิ่งกว่า เกรซ อีก
จางเทีย มองไปที่ตาของ ชาร์ลอน – “ ฉันไม่อยากฆ่าใครอีกในวันนี้เพราะไม่อยากให้มือฉันเปื้อนเลือดเพื่อนร่วมชั้นของตัวเอง ดังนั้นแกน่ะโชคดี ฉันจะไม่ฆ่าแก ! แกจำได้มั้ยว่าแกแกล้งใครบ้างที่โรงเรียนโดยให้พวกนั้นไปล้างถาดให้แก... “
ชาร์ลอน เงยหน้าขึ้นมาและมองมาที่ จางเทีย เพราะไม่รู้ว่าทำไม จางเทีย ถึงได้ถามเรื่องนี้
“ จากวันนี้จนจบการฝึก แกมีหน้าที่ต้องล้างถาด แกควรที่จะล้างถาดของทุกคนในโรงอาหาร แกจะทำได้มั้ย ? “
“ ทำได้ ฉันทำได้ ..”
หลังจากที่มองไปยัง ซูแฮร์ ที่ตายไป ชาร์ลอน ก็รีบพยักหน้า เทียบกับการคอหักแล้วการล้างถาดนี่น่ะไม่ได้ถือเป็นการลงโทษเลย
เมื่อเหตุการณ์ในโรงอาหารมาถึงจุดจบ จางเทีย ก็พบว่าในตอนที่เขาเดินเข้าไปในปราสาทเขาจะเห็นสายตาชื่นชมมากมาย
เขาได้ฆ่า ซูแฮร์ และได้แก้แค้นให้กับเด็กหลายคน เกรซ นั้นตายแล้วและ จางเทีย ก็เกือบตายมาแล้วด้วย สำหรับ ซูแฮร์ ที่ซึ่งเป็นงูพิษ ทำไมต้องปล่อยให้มันมีชีวิตอยู่ ? ดังนั้นแล้ว ซูแฮร์ จึงต้องตาย
การปล่อย การ์นเนอร์ ไปนั้นเป็นการแสดงความเมตตาของ จางเทีย ในบรรดาลูกน้องสามคนนี้ ชื่อเสียงของ การ์นเนอร์ นั้นไม่ได้เลวเท่าไหร่ เขาแค่เหมือนกลองแต๊กที่คอยอยู่ด้านหลัง ในตอนที่มันร้องหาแม่ จางเทีย ก็สงสารขึ้นมา เขาเลยปล่อย การ์นเนอร์ไปเพราะเขาไม่อยากเป็นนักฆ่าในสายตาของครูและนักเรียนคนอื่น
ในทางกลับกันเขาได้ลงโทษ ชาร์ลอน เพราะไม่อยากฆ่าใครอีกในที่สาธารณะ เหตุผลอื่นคือถ้าเขาปฏิบัติต่อ ชาร์ลอน และ การ์นเนอร์ ต่างกัน มันจะเป็นการขีดเส้นแบ่งระหว่างพวกนั้นและสองคนนั้นจะไม่ได้กลับมาเป็นเพื่อนกัน หลังจากที่ เกรซ และ ซูแฮร์ ตายไปแล้ว ถ้ามีเรื่องเข้าใจผิดระหว่าง ชาร์ลอน และ การ์นเนอร์ เพราะการได้รับการปฏิบัติที่ต่างกันแล้ว ถ้า ชาร์ลอน ไปเลือกที่จะไม่เข้าร่วมกับคนอื่น แน่นอนว่าเขาจะกลายเป็นหมาหัวเน่าและถ้ามันกล้ากัด จางเทีย อีก จางเทีย ก็มีเป็นร้อยๆวิธีที่จะเล่นงานมันจนตาย
เพราะ เกรซ ได้ตายไปแล้วและ ซูแฮร์ มีพี่ชายที่ตอนนี้เป็นนักรบระดับ 4 หลังจากที่การฝึกนี้จบลงและพวกเขาได้กลับไปที่เมือง แน่นอนว่า จางเทีย ต้องเผชิญหน้ากับการดวลที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
นี่น่ะคือเส้นทางที่เขาเลือก ตอนนี้เขาได้ตัดสินใจไปแล้ว เขาต้องเดินไปบนเส้นทางนี้อย่างกล้าหาญ
แม้ว่าทุกอย่างในเมืองจะเปลี่ยนไปแต่ก็ได้มีแจ้งเตือนเข้ามาที่ปราสาทโดยบอกว่าการฝึกจะดำเนินต่อไป...
ในเช้าวันต่อมา จางเทีย ได้ออกจากปราสาทอีกครั้ง....
ภายใต้สายตาชื่นชมของเพื่อนในองค์กร แพนโดร่า, อลิซ ได้เข้ามากอดและจูบเขาทีละคนๆ ในที่สุดเขาก็ได้รับรู้รสชาติของลิ้นพวกเธออีกครั้ง
ในตอนที่จูบทั้งสามคนนั้น จางเทีย ได้คิดถึงหน้าอกของ มิสกิลิ และรู้สึกแปลกๆเมื่อเห็นขาของเธอสั่น นี่สินะความรู้สึกของผู้ใหญ่ แตกต่างจากเด็กผู้หญิงอย่างสิ้นเชิง
“ ตอนที่เรากลับไปที่เมือง มาบ้านฉันสิ ฉันจะเลี้ยงเอง ! “ - เบเวอร์รี่ กระซิบที่หู จางเทีย แล้วทำให้ไอ้จ้อนของเขาแข็งขึ้นมาหลังจากที่เธอเลียหูเขา
“ ระวังตัวไว้ดีๆล่ะ ! “ - อลิซ งับหูอีกข้าง
แพนโดร่า บิดเอวทำท่าทีประท้วง เธอผลักมือของ อลิซ ออกแล้วกอด จางเทีย แน่นๆแล้วฝังหน้าเธอลงที่อกเขา – “ฉันจะรอนายกลับมา ! “
ถ้าเขายังอยู่กับสามสาวนี่ จางเทีย กลัวว่าเขาคงทนไม่ไหวแล้วเอาพวกเธอตรงนี้แน่ ดังนั้นแล้วเขาจึงเดินออกจากปราสาทไป...
ตอนนี้ จางเทีย ได้ตัดสินใจว่าจะไม่กลับมาจนกว่าจะขึ้นไปถึงระดับ 4 จากการกิน Wild Wolf Seven-Strength Fruits ได้เพียงพอ
ในห้องบนปราสาท เซรอม และ กัปตันเคอร์ลิน ยืนอยู่ที่หน้าต่างมองไปยัง จางเทีย ที่พึ่งออกไปจากปราสาทอีกครั้ง เขาเพิ่งกลับมาเมื่อวานนี้และตอนนี้กลับออกไปอีกรอบ แค่วันเดียวทุกอย่างดูเหมือนจะเปลี่ยนเมืองแบล็คฮ็อตไปและความประทับใจในตัว จางเทีย เองก็ด้วย
“ เคอร์ลิน ฉันรู้สึกว่า จางเทีย อาจเป็นคนที่นายและฉันคิดไม่ถึงก็เป็นได้ ! “
ชายตาเดียวยังไม่ได้สติจากการที่ จางเทีย จูบสามสาว เมื่อคิดถึงตัวเองที่ไล่ตาม มิสไดน่า เขาถึงกับอิจฉาขึ้นมา เมื่อได้ยิน เซรอม ชม จางเทีย ชายตาเดียวก็ขัดขึ้นมา – “ แล้วไง ? “
“ จากการที่เด็กนี่สวีทกับสาวๆ อนาคตเขาจะเป็นยังไงไม่มีทางรู้ได้เลย... “
เมื่อได้ยินคำพูดของ เซรอม กัปตันเคอร์ลิน ก็ตระหนักได้ว่าเขาไม่สามารถหาข้อแก้ตัวมาแย้งได้อีก....
“ เด็กนั่นวิ่งเร็วชะมัด ... “ - เซรอม พูดขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่ไม่เห็นแผ่นหลังของ จางเทีย